ทุกคนตะลึงมากโดยเฉพาะเซินซวน นางคิดไม่ถึงเลยว่าเกาหยางจะใช้วิธีการต่ำช้าน่ารังเกียจขนาดนี้มาเบี่ยงเบนความสนใจของหมีเปลวเพลิงเหล็ก
ก่อนหน้านี้เกาหยางยังพูดจาคุยโวอยู่เลยว่าฆ่าอสูรระดับเก้าได้เหมือนกับิอวี่ แต่ในความเป็จริงแล้วเขาสู้หมีเปลวเพลิงเหล็กไม่ได้เลย แล้วยังตั้งใจล่อหมีเปลวเพลิงเหล็กให้วิ่งไปทางิอวี่อีกเพื่อที่ตัวเขานั้นจะได้รอด
ตอนนี้เซินซวนอารมณ์ไม่ดีมาก เพราะนางรู้ว่านางไม่สามารถขวางหมีเปลวเพลิงเหล็กเอาไว้ได้ อาจจะทำให้ิอวี่ที่นางชื่นชมถูกเ้าหมีเปลวเพลิงเหล็กโจมตีจนาเ็สาหัส หรือไม่ก็ตายเลยก็ได้!
เซินซวนเป็ผู้หญิงที่มีจิตใจละเอียดอ่อนมาก นางมีลางสังหรณ์และการอ่านสถานการณ์ได้เด็ดขาดและแม่นยำสูง นางรู้ว่าหมีเปลวเพลิงเหล็กไม่ว่าจะเป็กำลังหรือว่าการป้องกันล้วนแต่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก
ทักษะกระบี่ของิอวี่ร้ายกาจไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว แต่ว่า ต่อให้เขาเจอจุดอ่อนของเ้าหมีเปลวเพลิงเหล็ก แล้วจะทะลวงการป้องกันของเ้าหมีเปลวเพลิงเหล็กได้อย่างไรกัน?
หากให้เกาหยางสู้กับิอวี่ เซินซวนเชื่อว่าคนที่ชนะต้องเป็ิอวี่อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะประลองฝีมือกัน ความจริงตรงหน้าในตอนนี้ก็คือ การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเกาหยางยังไม่สามารถทลายการป้องกันของเ้าหมีเปลวเพลิงเหล็กไปได้ เพลงกระบี่ที่ร้ายกาจของิอวี่ก็คงไม่สามารถทลายการป้องกันของเ้าหมีเปลวเพลิงเหล็กไปได้เช่นกัน
เมื่อเป็เช่นนี้ ิอวี่ก็จะต้องพ่ายแพ้ลงแน่!
ในขณะที่เซินซวนกำลังคิดวิเคราะห์ เ้าหมีเปลวเพลิงเหล็กก็เข้าใกล้ิอวี่แล้ว
“หือ?”
เดิมิอวี่กำลังวิ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วอยู่ แต่เมื่อเขาััได้ถึงลมปราณสองสายที่กำลังวิ่งมาอย่างรวดเร็วก็หันหน้าไปมอง เขาจ้องมองไปก็พบว่าเกาหยางกำลังยิ้มร้ายและวิ่งมาทางเขา ส่วนด้านหลังถัดไปนั้นก็มีหมีเปลวเพลิงเหล็กกำลังวิ่งคำรามเสียงวิ่งตามมาอยู่
ทำให้ิอวี่เข้าใจในทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น สายตาที่มองไปที่เกาหยางก็เ็าลง
หลังจากที่เกาหยางวิ่งมาถึงข้างตัวของิอวี่เขากลับวิ่งเลยผ่านไป ทำให้ิอวี่อยู่ตรงกลางระหว่างเกาหยางกับหมีเปลวเพลิงเหล็ก หากหมีเปลวเพลิงเหล็กคิดอยากจะตามเกาหยางไปก็จะต้องเอาชนะิอวี่ให้ได้ก่อน
หมีเปลวเพลิงเหล็กเห็นิอวี่ขวางทางก็โกรธมาก มันซัดอุ้งเท้าออกไปอย่างรุนแรง อุ้งเท้าของมันมีพลังเทียบเท่าราชสีห์เจ็ดพันตัว อากาศถูกมันซัดจนะเิออกหมด
พริบตาเดียว ทำให้เกาหยางกระเด็นห่างออกไป เขารู้ว่าอันตรายของเขานั้นคลี่คลายลงแล้ว ตอนนี้เขาไม่มีอันตรายใดๆ อีกแล้ว
ใน่เวลาคับขัน ิอวี่ท่าทางดุดันมาก พลังเทียบเท่าราชสีห์เจ็ดพันตัวที่ะเิออกมานั้น ส่งหมัดที่เหมือนลูกะุั์ที่พุ่งะเิออกปะทะเข้ากับอุ้งเท้าของหมีเปลวเพลิงเหล็กเต็มๆ !
“ตู้ม!”
ระลอกคลื่นขนาดใหญ่ทำให้พื้นในบริเวณที่สองคนนั้นปะทะกันแตกละเอียด ลมปราณที่บ้าคลั่งทำให้กิ่งก้านใบของต้นไม้หักโค่นและกระเด็นไปไกลมาก!
แต่ิอวี่กลับยังอยู่ในท่าปะทะเหมือนเดิมกับหมีเปลวเพลิงเหล็ก ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
สิ่งที่เกิดขึ้นทุกคนเห็นเหมือนกันหมด บรรยากาศบริเวณนั้นเงียบกริบในทันที จนกระทั่งผ่านไปไม่กี่อึดใจก็มีเสียงที่ทำให้คนรู้สึกหวั่นใจ!
ส่วนเกาหยางเองก็ยืนนิ่งตะลึงมองิอวี่อยู่ที่เดิม
เมื่อครู่เขาใช้พลังทั้งหมดที่มีฟันกระบี่ออกไปยังกระเด็นถอยหลังมาตั้งสิบเก้ากว่าจะยืนให้นิ่งได้ แต่ิอวี่ใช้แค่มือเปล่ารับมืออุ้งเท้าของหมีเปลวเพลิงเหล็กก็ยังสามารถยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับไปไหนเลย!
หรือก็หมายความว่า ชายหนุ่มคนนี้มีพลังไม่ต่างอะไรกับหมีเปลวเพลิงเหล็กเลย ... !
เซินซวนที่อยู่ห่างออกไปเดิมยังคิดอยากจะหนีไป แต่พอได้ยินหลายคนสูดหายใจเข้าลึกๆ กันเฮือกใหญ่นางเลยหันหน้ากลับไปมอง นางบังเอิญหันมาเห็นภาพที่ิอวี่ยืนยื้อพลังกับหมีเปลวเพลิงเหล็กอยู่พอดี
สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้เซินซวนตะลึงมาก
นางคิดว่าิอวี่ก็แค่มีเพลงกระบี่ที่ยอดเยี่ยมอย่างเดียว แต่ไม่คิดถึงเลยว่าเขาจะมีกำลังแข็งแกร่งมากขนาดนี้? ทำให้แววตาของเซินซวนนั้นทั้งดีใจและคาดหวัง ...
เขาเป็ผู้ชายที่ดูมีคุณค่าอย่างมาก!
ไม่แน่ว่า ิอวี่อาจจะสู้กับเ้าหมีเปลวเพลิงเหล็กจนเสมอก็ได้ ถึงเวลานั้นนางกับคนอื่นค่อยเข้าไปช่วยแล้วเอาชนะหมีเปลวเพลิงเหล็กลงได้!
เมื่อการโจมตีของหมีเปลวเพลิงเหล็กถูกขัดขวาง มันก็ส่งเสียงคำรามเกรี้ยวกราดออกมา จากนั้น เปลวเพลิงบนตัวของมันก็ลุกโชนขึ้นมาอย่างรุนแรง แผ่รังสีความร้อนออกไปทั่วบริเวณ มันตะปบอุ้งเท้าทั้งสองข้างของมันออกไปใส่ิอวี่ในทันที
ท่ามกลางการโจมตีที่บ้าคลั่งและรุนแรงนี้ คนทั่วไปไม่เพียงต้องรับแรงกำลังของหมีเปลวเพลิงเหล็กเท่านั้น แต่ยังต้องต้านทานพลังความร้อนที่แผ่ออกมาจากตัวของมันด้วย
แต่ความร้อนระดับนี้ทำอะไริอวี่ไม่ได้เลย เคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูงห้ากระบวนท่าแรกล้วนแต่เป็หยางขั้นสูง ร่างกายของิอวี่ก็ถือได้ว่าเป็หยางขั้นสูง เขาจึงไม่กลัวความร้อนสูงในระดับนี้อยู่แล้ว
อีกอย่าง ระดับของิอวี่ในตอนนี้ แค่กำลังอย่างเดียวก็เทียบเท่าราชสีห์หกพันแปดร้อยตัวแล้ว ต่อให้หมีเปลวเพลิงเหล็กจะบ้าคลั่งมากแค่ไหนแต่จะสู้แรงกำลังของเขาไหวหรือ?
ิอวี่พลิกฝ่ามือ กระบี่หวงฉวนปรากฏขึ้นในมือของเขาอีกครั้ง
ิอวี่ตวัดกระบี่หวงฉวนในมือปะทะกับอุ้งเท้าของหมีเปลวเพลิงเหล็กอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดเสียงปะทะที่ดังสนั่นจนคนที่ได้ยินเนื้อตัวแทบเต้นตาม
อยู่ต่อหน้าหมีเปลวเพลิงเหล็กแล้วิอวี่ตัวเล็กมาก แต่ร่างกายเล็กแบบนี้ดูเหมือนจะมีกำลังแฝงภายในที่มหาศาลมาก ต่อให้หมีเปลวเพลิงเหล็กจะมีพลังบ้าคลั่งมากแค่ไหนเขาก็สามารถต้านทานได้อย่างสบาย
“ผลาญโลหิต!”
เืในกายของิอวี่เดือดพล่าน มันทำให้เืของเขาะเิพลังที่เพิ่มขึ้นออกมา พลังของเขาตอนนี้เทียบเท่ากับราชสีห์แปดพันตัว เขาฟันกระบี่ออกไปเล่นงานจนหมีเปลวเพลิงเหล็กต้องล่าถอยไป
ิอวี่ไม่ปล่อยให้หมีเปลวเพลิงเหล็กได้พักหายใจ เขาเริ่มการโจมตีต่อในทันที!
ลมปราณแห่งความตายหนึ่งพันห้าร้อยสายของกระบี่ที่ทับซ้อนกันถูกฟันออกไปอย่างน่ากลัว ทำให้กระบี่ในแต่ละท่วงท่าของิอวี่ปล่อยพลังออกไปอย่างหนาแน่น บีบจนหมีเปลวเพลิงเหล็กต้องล่าถอยไปอย่างต่อเนื่อง!
หากิอวี่ไม่ได้ฝึกกระบี่มรณะสังหารจนสำเร็จแล้ว ต่อให้เขามีพลังเหนือกว่าหมีเปลวเพลิงเหล็กก็ยากที่จะทำลายการป้องกันของมันได้
แต่หลังจากที่ฝึกกระบี่มรณะสังหารแล้ว กระบี่ของิอวี่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านคุณภาพ
ก่อนหน้านี้ิอวี่ฝึกฟันกระบี่วันละสามหมื่นครั้ง เขาคุ้นเคยและรู้จักการใช้กระบี่หวงฉวนมากแล้ว ตอนนี้เขายังใช้ผลาญโลหิตอีกจึงทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้น กระบี่หวงฉวนในมือของิอวี่ก็ราวกับมีชีวิต มันเคลื่อนไหวราวกับัที่แหวกว่าย ลมปราณกระบี่ลอยฟุ้งกระจายตัวไปทั่ว แต่ละท่วงท่าที่ออกไปล้วนแต่เป็กระบี่มรณะสังหาร ทำให้หมีเปลวเพลิงเหล็กถูกบีบจนต้องล่าถอยไปอย่างต่อเนื่อง!
ไม่ว่าจะเป็ด้านหน้าหรือด้านหลังของบริเวณหน้าอก ไม่ว่าจะเป็หัวหรือว่าแขนขาของมันล้วนแต่แข็งแกร่งเพราะมีเกล็ดเปลวเพลิงป้องกัน แต่เมื่ออยู่ภายใต้คมกระบี่มรณะสังหารกลับโดนฟันจนหลุดหล่นพื้นไป
หมีเปลวเพลิงเหล็กโกรธมากจริงๆ แล้ว มันอ้าปากอย่างกระหายเืแล้วรวบรวมพลังงานธาตุไฟของมันเอาไว้ในปาก จากนั้นจึงคำรามเสียงและพ่นเอาเปลวเพลิงออกมาจากปากเพื่อล้อมิอวี่เอาไว้
“ฟัน!”
ลมปราณแห่งความตายหนึ่งพันห้าร้อยสายรวบรวมอยู่บนกระบี่ แสงสีเขียวบนตัวกระบี่ยาวสามฟุตในมือของิอวี่รวมตัวอยู่ที่ลมปราณแห่งความตายหนึ่งพันห้าร้อยสายของกระบี่มรณะสังหารทั้งหมด และฟันเปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามาขาดออกเป็สองท่อน!
ิอวี่ใช้ท่าเท้าแตะเมฆา เขาพุ่งตัวออกไปราวกับลูกะุ พริบตาเดียวก็พุ่งถึงตรงหน้าของหมีเปลวเพลิงเหล็ก และซัดฝ่ามือซ้ายของเขาไปที่เกล็ดที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าบนหน้าท้องของมัน
“ปลิดิญญา ชุ่ยอวี้”
ลมปราณจากชีพจรสี่สิบแปดสายพุ่งมาที่ฝ่ามือซ้ายของิอวี่ พลังงานสีขาวพุ่งออกไป เกิดเสียงราวกับสายฟ้าฟาดดังขึ้น หมีเปลวเพลิงเหล็กตัวสั่น แล้วที่หน้าท้องของมันก็ะเิจนกลายเป็รูเื!
“อ๊าก ... ”
หมีเปลวเพลิงเหล็กส่งเสียงคำรามสุดท้ายออกมา จากนั้นร่างของมันก็ล้มลงกับพื้น ด้วยน้ำหนักของร่างกายของมันทำให้เกิดฝุ่นตลบขึ้น มันค่อยๆ หลับตาลง จากนั้นพลังชีวิตก็หายไป!
ทุกคนยืนอึ้งอยู่กับที่ สายตาอันงดงามของเซินซวนเต็มไปด้วยความชื่นชมและนับถืออย่างปิดไม่อยู่เลย!
ผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งกว่าที่นางคาดเอาไว้มาก!
“คุณชาย ขอบคุณท่านมากที่ยื่นมือเข้าช่วย ข้ามีนามว่าเซินซวน ไม่ทราบคุณชายมีนามว่าอะไร?”
เซินซวนเดินมาหาิอวี่ในทันที นางสวมชุดสีเหลือง รูปร่างสมส่วน อวบอิ่ม ผิวพรรณขาวเนียนผ่อง บนตัวของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ใบหน้างดงาม และรอยยิ้มของนางก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกหวั่นไหว
ั้แ่ิอวี่แสดงความสามารถของเขาออกมา ท่าทางของเซินซวนที่มีต่อิอวี่ก็เปลี่ยนไปร้อยแปดสิบองศาเลย
เมื่อครู่เซินซวนยังคิดว่าจะฉวยโอกาสจัดการกับหมีเปลวเพลิงเหล็กอยู่เลย แต่ใครจะคิดว่าิอวี่จะสามารถอาศัยกำลังเพียงคนเดียวก็สังหารหมีเปลวเพลิงเหล็กลงได้ ท่าทางการเล่นงานหมีเปลวเพลิงเหล็กที่องอาจของิอวี่ยังอยู่ในหัวของนางอยู่เลย
เมื่อมองมาที่ิอวี่ เซินซวนเหมือนได้เจอสมบัติอันล้ำค่า สายตาของนางเป็ประกายแวววาว
ทุกคนรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก เทพธิดาในใจของพวกเขาตอนนี้กลับใช้สายตาชื่นชมิอวี่เหมือนที่พวกเขาชื่นชมนาง ราวกับว่าิอวี่คือเทพบุตรของเซินซวน
แล้วอยู่ต่อหน้าิอวี่ พวกเขาเป็อะไรล่ะ ... พูดได้เลยว่า ฐานะชาติตระกูลของิอวี่อยู่คนละชั้นกับพวกเขาเลย พวกเขาสู้ไม่ได้เลย!
เพียงแต่ิอวี่กลับไม่ได้หวั่นไหวไปกับการชื่นชมของเซินซวนเลย
ในสายตาของพวกมีพร์พวกนั้นเห็นเซินซวนเป็เทพธิดา แต่ในสายตาของเขาก็แค่ผู้หญิงธรรมดา แค่ความเฉยเมยนี้ก็ทำให้คนประหลาดใจมากแล้ว
“ิอวี่” ิอวี่ตอบอย่างเรียบเฉย
“ ... อ้อ เมื่อครู่ต้องขอบคุณคุณชายมากจริงๆ ไม่ทราบคุณชาย ... ” เซินซวนยิ้มหวาน คิดอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ิอวี่ไม่อยากฟัง เขายกมือเพื่อให้นางหยุดพูด
เซินซวนมองไปที่ิอวี่ด้วยความน้อยใจ แต่นางก็ยอมหยุด ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ิอวี่เดิมก็แข็งแกร่งกว่าเซินซวน ในความคิดของเซินซวนแล้วเขามีสิทธิที่จะเอาชนะใจนางได้ เมื่อบอกให้นางหยุดพูดนางก็เลยยอมเชื่อฟัง ิอวี่ไม่ให้นางพูด นางก็จะไม่พูด
ิอวี่ไม่ได้สนใจเซินซวนเลย แต่กลับเดินไปอีกทางหนึ่ง
ซึ่งเป็ทางที่เกาหยางยืนอยู่!
เห็นิอวี่เดินมา เกาหยางก็รีบเดินเข้ามาหา เขายิ้มแล้วพูดว่า “สวัสดี น้องชาย ก่อนหน้านี้ขอบใจเ้ามากเลยนะ หากไม่ได้เ้า เราคงโชคร้ายมากกว่าดีแน่ เหอะๆ”
“เ้าพูดถูก” ิอวี่พูดว่า “แต่ว่าหากความสามารถของข้าไม่มากพอ คนที่จะโชคร้ายก็จะเป็ข้า”
“น้องชาย เ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร ... ”
“เพียะ!”
พูดจบ ิอวี่ก็ตบไปที่หน้าของเกาหยางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว!
“นี่คือความหมายของข้า” ิอวี่มองไปที่เกาหยาง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เ็า