ร่องนุ่มอุ่นส่งแรงกระตุกตอดนิ้วสาวถี่ยิบ มาพร้อมกับปากอวบอิ่มที่ส่งเสียงกรีดร้องครวญครางไม่ได้ศัพท์จนดังกึกก้องลั่นห้องทำงาน โดยที่มีน้ำหวานเหนียวใสต่างทยอยพวยพุ่งออกมาไม่หยุดจนเปรอะเปื้อนเต็มอุ้งมือเป็ดั่งสัญญาณว่าเ้าของร่องสวาทได้เดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางที่้าแล้ว
“แฮ่กๆๆ เฮือก ~~”
ลมหายใจถูกปล่อยออกมาพร้อมกับร่างที่ค่อย ๆ คลายอาการกระตุกเกร็ง และถึงแม้ว่าตัวฉันเองจะเคยดูหนังผู้ใหญ่มาบ้างก็ตาม แต่ครั้งนี้เป็ครั้งแรกที่ได้จัดการมอบความสุขให้กับตัวเอง นั่นจึงทำให้ฉันเองยังอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมถึงใจกล้าที่จะเอานิ้วแทรกแหวกกายเข้าไปหาความสำราญในถ้ำหรรษาอย่างไม่เคยทำมาก่อนแบบนี้
“นี่เราทำอะไรลงไปเนี่ย...ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ยัยมนตราเอ๊ย...!!”
ริมฝีปากอวบอิ่มพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ทั้งที่ตายังหลับพริ้มอยู่ เพราะนับั้แ่ได้ปลดปล่อยสารแห่งความสุขออกไปแล้ว สติที่เหมือนจะหายไปก็ได้กลับคืนมาจนทำให้ฉันสำเหนียกได้ว่าไอ้สิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปเมื่อครู่นี้ถือเป็ความผิดอย่างไม่น่าให้อภัย เพราะถึงแม้ว่ากฎของบริษัทจะไม่ได้มีระบุไว้ว่าห้ามทำเื่แบบนี้ แต่ด้วยจิตใต้สำนึกแล้วเราก็ควรจะคิดเองได้ว่าสิ่งนี้มันไม่สมควรทำ...!!
แต่ถึงกระนั้นด้วยพฤติกรรมที่เกินเลยอย่างไม่อาจหักห้ามใจเอาไว้ได้ นอกจากความรู้สึกสำนึกผิดที่เกิดขึ้นแล้วนั้น ข้างในก็กลับบังเกิดความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งขึ้นมาอย่างไม่น่าให้อภัย...เพราะมันดันเป็ความรู้สึก้าที่มากขึ้น อีกทั้งร่างกายกลับดันชอบที่ตัวเองได้รับการปลดปล่อยออกมาแบบนั้น...ซึ่งมันช่างอันตรายเหลือเกินเพราะฉันได้สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีก...
ร่างบางยังคงเอนตัวทิ้งร่างพิงเก้าอี้ประจำตำแหน่งเลขาด้วยท่าทางอ่อยอิง เพราะยังรู้สึกอิ่มเอมกับความสุขที่ตัวเองเพิ่งได้ค้นพบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าแค่การเข้ามาสูดกลิ่นและัักับสิ่งของของผู้ชายที่ฉันแอบมีใจให้มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ร่างกายของฉันได้ผ่อนคลายพร้อมที่จะสู้กลับงานในวันใหม่ แต่ทว่า...หลังจากได้รู้วิธีการปลดปล่อยสารแห่งความสุขออกไปเมื่อครู่นี้แล้วกลับมีความรู้สึกบางอย่างปะทุขึ้นมาแทน
นั่นก็เพราะว่าด้วยเรือนร่างที่เพิ่งผ่านความเร่าร้อนเป็ครั้งแรกเมื่อครู่กลับเป็เหมือนเชื้อเพลิงที่ถูกจุดติดแล้วซึ่งประกายไฟปรารถนาที่มาพร้อมกับเสียงร้องดังกึกก้องอยู่ภายในใจว่า...การช่วยเหลือตัวเองเมื่อสักครู่นี้ มันยังไม่พอสำหรับความ้าของเ้าของร่องอุ่นเลยแม้แต่น้อย...!!
ความคิดที่สวนทางกับสิ่งที่ตั้งมั่นเอาไว้เกิดขึ้นในขณะที่เปลือกตายังคงปิดเพื่อพักผ่อน พร้อมกันกับที่ร่างบางกำลังทิ้งกายพักหอบหายใจอยู่บนเก้าอี้ทำงานขนาดใหญ่อยู่นั้น...
...สิ่งที่ฉันไม่ทันได้คาดฝันก็พลันเกิดขึ้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว และด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เองที่เป็เสมือนชนวนให้ฉันต้องมาชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป...ดั่งคำที่เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่า...เวรกรรมมันมักจะตามมาเร็วเสมอจริง ๆ ...
“โดนของจริงดีกว่าไหมครับ...แค่นิ้ว...มันคงไม่อาจจะสนองความ้าของคุณมนต์ได้”
สิ้นเสียงทุ้มมีเสน่ห์ที่ฉันคุ้นเคยเพราะได้ยินอยู่ทุกวัน ทำให้ดวงตาที่หลับพริ้มอยู่นั้นถึงกับเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความใ
(O_O)
“…ท่านประธาน!!!!...”
(กรี๊ดดดดด~~ เ้าพ่อเ้าแม่ช่วยลูกช้างด้วย คุณวาคิมตัวเป็ ๆ มายืนอยู่ตรงหน้าฉันั้แ่เมื่อไรเนี่ย แล้วเวลานี้มันใช่เวลาที่เขาจะมาปรากฏตัวซะที่ไหน...) (O///O) ใบหน้าสาวแดงแปร๊ดขึ้นมาด้วยความอับอาย ก่อนที่ตัวเองจะรีบกุลีกุจอจัดท่านั่งให้อยู่ในท่าปกติ พร้อมกับเอากระโปรงที่ร่นขึ้นมาอยู่ที่เอวให้กลับลงไปอยู่ตามเดิม
“อะ อะ เอ่อ...เออ” ฉันก้มหน้างุดพูดจาอึดอัดออกมาไม่เป็คำเพราะด้วยไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี
“ว่าไงครับ อยากลองโดนของจริงดูไหมล่ะ หืมมมมม~~” คนตัวโตเอ่ยถามย้ำพร้อมกับโน้มตัวเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น จนฉันออกอาการลนลานทำอะไรไม่ถูก
“มะ...ไม่เป็ไรค่ะ ขะ...ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันที่ไม่รู้จะทำตัวยังไง ได้แต่พูดตะกุกตะกัก ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นยืนเพื่อเดินหนีเขาออกไป
แต่ในขณะที่ร่างบางยังไม่ทันได้ก้าวเท้าพ้นออกไปจากคนตัวโต ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง วงแขนแกร่งก็ได้ยกอ้ากว้างขึ้นเพื่อกักขังไม่ให้ร่างนุ่มนิ่มที่กำลังตื่นตระหนกออกไปไหนได้ และนั่นจึงทำให้หญิงสาวได้แต่ติดอยู่ในกรงขังของอ้อมแขนที่ตอนนี้กำลังเท้ายันกับกำแพงอยู่
“ทะ...ท่านประธานค่ะ มะ...มนต์ขอทางด้วยค่ะ” ฉันก้มหน้างุดเอ่ยปากอ้ำอึ้งบอกคนตรงหน้าออกไปโดยที่ตัวเองไม่กล้าเงยหน้ามองเขาแม้แต่น้อย
ช่างต่างกับคนตัวโตที่ตอนนี้ดูเขาเหมือนจะพอใจกับท่าทีอันตื่นตระหนกของเหยื่อในกรงเล็บของตัวเองเสียมากกว่า จนถึงขนาดที่เผลอแสยะยิ้มร้ายยกขึ้นมุมปาก พร้อมกับใช้สายตาคมกริบค่อย ๆ ลากไล้มองไปตามกรอบหน้าเนียนใสที่เขาเองก็ไม่เคยได้พินิจพิจารณาใกล้ ๆ แบบนี้มาก่อน จนตัวเองยังอดแปลกใจไม่ได้ว่าภายใต้ใบหน้าเฉิ่มเชยดูไร้ความรู้สึกอยู่เสมอของคนร่างบางยามที่ทำงานกับเขากลับซ่อนความงามไร้ที่ติเอาไว้ได้เสียมิดชิดจนทำให้เสืออย่างเขาพลาดเหยื่ออันโอชะใกล้ตัวแบบนี้ไปได้อยู่นานหลายปี
และในขณะที่ทั้งสองร่างกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่แสนกระอักกระอ่วนใจอยู่นั้นจู่ ๆ ร่างบางก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่างจนต้องเงยหน้ามองคนตรงหน้าว่าทำไมเขาถึงนิ่งเงียบไป และในจังหวะที่ดวงตาสบเข้ากับใบหน้าคมก็พบว่าเขากำลังทอดสายตามองไปยังอะไรบางอย่างที่อยู่บนพื้นเบื้องล่างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหายอย่างไม่ปิดบัง
ฉับพลันที่สายตาของฉันทอดมองตามสายตาของคนตัวโตไปนั้นก็ได้สบเข้ากับปลายทางที่สายตาคมจับจ้องมอง ก่อนที่ดวงตากลมสวยจะถึงกับเบิกกว้าง เหงื่อกาฬก็ต่างทยอยผุดออกมาเต็มฝ่ามือและกรอบหน้าสวยทันที เพราะภาพตรงหน้าที่เห็นนั่นก็คือภาพที่เขากำลังมองลงไปยังพื้นก่อนจะก้มลงไปคว้าชิ้นส่วนของอะไรบางอย่างที่มันเคยใช้ปกปิดร่างกายของฉันเอาไว้อยู่ก่อนหน้านี้ พร้อมกับยกมันขึ้นมาควงอยู่ในมืออย่างคนกำชัย
(ฉิบ...หายแล้วไอ้มนต์!! ลืมเื่นี้ไปได้ยังไงวะ) (O//_//O) ฉันถึงกับเบิกตากว้างสบถกับตัวเองในใจทันทีที่เห็นการกระทำของเขา
“ผมจะถามคุณอีกครั้งนะมนต์ว่าสนใจจะลองของจริงไหม” คนตัวโตแสยะยิ้มร้ายถามย้ำด้วยสายตาเ้าเล่ห์อย่างคนที่กำลังถือไพ่เหนือกว่า แต่ทว่า...ฉันที่ทำตัวไม่ถูกได้แต่เอ่ยปากปฏิเสธออก
“ไม่...ไม่เป็ไร ไม่เป็ไรค่ะ แล้วก็ขะ...ขอของของมนต์คืนด้วยค่ะ” ฉันยังคงก้มหน้างุดตอบพร้อมกับมือที่กำชายกระโปรงแน่น โดยที่ดวงหน้าสวยได้แต่ร้อนผ่าวแดงฉานอย่างไม่อาจปกปิดได้
“ทำไมล่ะ...ก็เมื่อครู่นี้คุณยัง...ครา...ง”
และในขณะเขากำลังจะพูดในสิ่งที่ฉันไม่อาจปล่อยให้เขาพูดมันออกมาได้นั้น...
“ไม่เป็ไรจริง ๆ ค่ะ และได้โปรดคืนของของมนต์ด้วยเถอะนะคะ” ฉันโพล่งออกไปเสียงดังลั่น แต่ดวงหน้านั้นก็ยังไม่กล้าเงยขึ้นไปมองคนตัวโตที่ยืนคร่อมร่างฉันอยู่ดี
“...หึ...ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตไม่คืนสิ่งนี้ให้นะครับ” คนเ้าเล่ห์พูดด้วยน้ำเสียงกรุ้มกริ่มพร้อมกับหยุดควงแพนตี้ตัวจิ๋วในมือ ก่อนจะยื่นมายังตรงหน้าของฉันหมายอยากให้ฉันได้เห็นเต็มตาว่าตัวประกันที่อยู่ในมือเขาสำคัญต่อฉันมากแค่ไหนหากฉันปฏิเสธเขาออกไป
สิ้นข้อเสนอของคนตัวโตที่หยิบยื่นมาให้ ฉันถึงกับเม้มปากแน่นเผลอเงยหน้ามองเขาไปอย่างลืมตัว ใบหน้าคมเข้มที่แสดงสีหน้ามาดร้ายอย่างที่ฉันเองก็ไม่เคยเห็นเขาทำมาก่อนมันทำให้ฉันถึงกับรู้สึกวูบโหวงในใจด้วยคิดว่าตอนนี้หายนะได้คืบคลานมาใกล้ปลายจมูกก็ไม่ปาน
“ไม่...!! อย่าเอาไปเลยนะคะ คะ...คืนมนต์มาเถอะค่ะท่านประธาน” ฉันร้องลั่นออกมาทันที พร้อมกับเด้งตัวที่แนบกับกำแพงจนแทบจะสิงเข้าไปในนั้นอยู่แล้วเพื่อจะคว้ากางเกงชั้นในของตัวเองให้กลับคืนมา
แต่ด้วยความสูงของเขาที่มากกว่าฉันเกือบ 20 ซม. ทั้งที่ฉันเองก็มีความสูงไม่น้อยเลยถ้านับตามมาตรฐานความสูงของผู้หญิง นั่นจึงทำให้ฉันได้แต่ะโเอื้อมมือไขว่คว้ากางเกงในตัวเองอยู่แบบนั้น โดยที่คว้าได้เพียงแค่อากาศเท่านั้น
“ท่านประธานค่ะ ได้โปรดขอของของมนต์คืนด้วยนะคะ” ฉันที่จนปัญญาที่จะแย่งของออกจากมือเขาได้แต่เอ่ยปากขอร้องเขาดี ๆ อีกที
“ก็ถ้าอยากได้คืน มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนไงครับ” คนตัวโตพูดด้วยน้ำเสียงเ้าเล่ห์อีกทั้งแววตายังมีเลศนัยจนฉันอดไม่ได้ที่จะเสียวสันหลังวาบ
“ละ...แลกเปลี่ยน ถ้าอย่างนั้นท่านประธานบอกมนต์มาได้เลยนะคะ ถ้ามนต์ทำให้ได้มนต์ยินดีทำให้ทุกอย่างค่ะ” ฉันเงยหน้าสบดวงตาคมเข้มด้วยความรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อยอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยปากบอกออกไปด้วยความใสซื่อ
โดยที่หารู้ไม่ว่าไอ้ความใสซื่อที่เอื้อนเอ่ยออกไปนั้นมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองให้ถลำลึกจนเ็ปแทบขาดใจ...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้