การเกิดใหม่ของนางสาวธรรมดา

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    "นิด! ตื่นสิลูก อย่าทำแบบนี้กับแม่ นิดจ๋า นิด!!"

    "พี่ว่ารีบหารถพานิดไปโรงพยาบาลดีกว่า"

    เสียงอึกทึกวุ่นวายและเสียงร้องไห้ค่อย ๆ แว่วเข้ามาในหูและเริ่มทวีความดังเข้ามาเรื่อย ๆ เงียบหน่อยได้ไหม เธอคิดอย่างหงุดหงิด คนพวกนี้ยังไงนะ ไม่เกรงใจกันบ้าง อนงค์กานต์กำลังเดินล่องลอยในความฝัน ไปตามทางสีรุ้งสดใส มีกลิ่นหอมสดชื่นปะทะที่จมูกเป็๲ระยะ ชวนให้สนใจใคร่รู้ว่ามีอะไรอยู่เบื้องหน้า "ใกล้แล้ว อีกนิด" เธอเอ่ยขึ้นอย่างยินดีเมื่อเห็นประตูสีขาวเปล่งประกายระยิบระยับอยู่เบื้องหน้า

    ฉับพลันเมื่อกำลังเอื้อมมือไปที่ประตู เสียงร้องเรียกและเสียงร้องไห้วุ่นวายก็ปะทะเข้ามาในหู และจู่ ๆ ประตูบานนั้นก็หายวับไปกับตา

    "เสียดาย อีกนิดเดียวเอง" เสียงพึมพำออกมาจากปากของร่างเด็กหญิงที่อายุไม่น่าจะเกินสิบสามปีคนหนึ่ง ซึ่งกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง

    "พี่! นงได้ยินเสียงลูก!" อนงค์พูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น "นิด ตื่นแล้วใช่ไหมลูก"

    "ได้ยินจริงใช่ไหม" กานต์เดินกลับไปที่เตียงและละล่ำละลักถามด้วยความดีใจ พลางลูบใบหน้าเด็กหญิงบนเตียงอย่างอ่อนโยน "นิด ตื่นแล้วใช่ไหม พูดกับพ่อหน่อยลูก"

    "นงได้ยินจริง ๆ แม้เสียงจะเบามาก แต่เป็๞เสียงพูดของลูกแน่ ๆ" อนงค์ตอบอย่างมั่นใจ

    "เงียบๆ สิ ประตูหายไปแล้วเห็นไหม" อนงค์กานต์พึมพำเสียงขุ่น

    สองสามีภรรยาหันมายิ้มให้กันด้วยความดีใจ ก่อนที่อนงค์จะก้มลงลูบศีรษะและเรียกเด็กหญิงด้วยเสียงนุ่มนวล "นิด ตื่นแล้วลืมตาหน่อยลูก หนูนอนไปนานสองวันแล้วนะ ตื่นมาให้แม่ดูหน่อยว่าหนูไม่ได้เป็๞อะไร"

    คนบ้าอะไรจะนอนตั้งสองวัน เธอคิดอย่างโมโห ก่อนจะค่อย ๆ ฝืนลืมตา แสงจ้ากระทบเข้ามาจนต้องกะพริบถี่ ๆ หลายครั้ง เพื่อปรับดวงตาให้คุ้นชิน

    ภาพที่กระทบตรงหน้าจากที่พร่ามัวก็ค่อย ๆ ชัดขึ้น เป็๞ภาพของชายหญิงอายุกว่าสามสิบปีคู่หนึ่ง กำลังมองและยิ้มให้เธออย่างดีใจ ดวงตาของผู้หญิงคนนั้นยังแดงก่ำเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก เป็๞ชายหญิงที่เธอเคยรู้จักเป็๞อย่างดี เป็๞คนที่เธอรักมากที่สุด พ่อกานต์และแม่อนงค์ที่จากเธอไปแล้วเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน

    อนงค์กานต์จ้องสองใบหน้านั้นอย่างตะลึงงัน ความรู้สึกคิดถึง หวนหา ตีตื้นขึ้นมาในใจ ประกายน้ำค่อย ๆ เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตา

    "พ่อ แม่ รอนิดอยู่จริง ๆ ใช่ไหม" เธอพูดเสียงสะอื้นและลุกขึ้นนั่งพร้อมโผเข้าซุกที่กลางอกของผู้เป็๞แม่

    "นิด! เป็๲อะไรไปลูก?" อนงค์เอ่ยถามเสียงตระหนก พร้อมกับกอดลูกสาวเข้าแนบอกและลูบหลังปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน

    "เจ็บหรือไม่สบายตรงไหนรึเปล่าลูก" อนงค์กานต์หันมาด้านข้างเมื่อได้ยินเสียงที่เอ่ยถามขึ้นมาอย่างวิตกของพ่อ เธอจึงยิ้มทั้งน้ำตาก่อนคลายอ้อมกอดจากแม่และโผเข้ากอดผู้เป็๞พ่อ "นิดก็คิดถึงพ่อที่สุดเหมือนกัน นิดรักพ่อกับแม่ที่สุดนะ" เธอเอ่ยเสียเครือ

    "พ่อกับแม่ก็รักนิดที่สุด" กานต์พูดเสียงอ่อนโยนพร้อมยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวอย่างเบามือพลางลอบสบตากับภรรยาอย่างไม่สบายใจ

    "ขอโทษนะที่ให้พ่อแม่รอตั้งสามสิบกว่าปี"

    "ต่อไปนี้พ่อแม่ไปไหน นิดก็จะตามไปด้วยตลอดนะ" อนงค์กานต์ยังพูดต่อไปโดยไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าของพ่อและแม่ที่เริ่มย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ

    "นิด พูดอะไรกันลูก อย่าทำให้แม่กลัวสิ สามสิบปีอะไรกัน ลูกเพิ่งอายุ 12 ปีเองนะ" อนงค์พูดเสียงสั่น ความรู้สึกไม่สบายใจตีขึ้นมาไม่หยุด

    อนงค์กานต์ผละออกจากอ้อมอกของบิดาและยืดตัวนั่งตรงก่อนหันไปยิ้มกับนางอนงค์

    "ก็…"

    ยังไม่ทันได้พูด เธอก็หยุดชะงักเมื่อสายตาไปตกกระทบกับกระจกที่แขวนอยู่ข้างผนังห้อง เธอนั่งจ้องเงาสะท้อนในกระจกอย่างตกตะลึง เงาในกระจกได้สะท้อนภาพของคนสามคน ฝั่งซ้ายและขวาเป็๲ภาพเงาสะท้อนของพ่อและแม่ ส่วนตรงกลาง เป็๲ภาพสะท้อนของเด็กหญิงรูปร่างผอมคนหนึ่ง อายุไม่ถึงสิบสามปี ผิวเหลืองนวล ผมสั้นระดับหู รูปหน้าเรียบพอดูได้ แต่จะเด่นที่ดวงตากลมโตและลักยิ้มสองข้างแก้ม ใบหน้าแบบนี้เป็๲ใบหน้าที่เธอคุ้นตามาทั้งชีวิต เป็๲ใบหน้าของเธอเอง


นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้