ข้าคือ...จุดจบของเื่ราว!
ตอนที่ 1 เถ้าธุลีในแม่น้ำหวงผู่
ความตาย... มีรสชาติเหมือนน้ำในแม่น้ำหวงผู่ยามราตรี
มันเย็นเยียบ เฉยชา และหนักอึ้งจนบดขยี้ทุกเศษเสี้ยวของสติสัมปชัญญะ ‘หมายเลขสี่สิบเจ็ด’ ััได้ถึงแรงดันของน้ำที่อัดแน่นรอบกาย ปอดของเขากรีดร้องหาอากาศ แต่สิ่งที่ทะลักเข้ามามีเพียงความมืดมิดอันเป็นิรันดร์
ภาพสุดท้ายที่ฉายซ้ำในม่านตาคือแสงไฟนีออนพร่างพราวของตึกไข่มุกตะวันออกที่ห่างออกไปทุกขณะ เสียงปืนนัดสุดท้ายยังคงก้องอยู่ในหู มันไม่ใช่เสียงแห่งความพ่ายแพ้ แต่เป็เสียงส่งตัวเขา...สู่อิสรภาพ
อิสรภาพที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต
ร่างของเด็กหนุ่มนักฆ่าที่ถูกสร้างขึ้นในห้องทดลองลับใต้เซี่ยงไฮ้จมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งที่มืดมิดที่สุด แสงริบหรี่สุดท้ายดับวูบลง พร้อมกับลมหายใจเฮือกสุดท้าย...
...และแล้ว เขาก็สำลัก!
“แค่ก! แค่กๆๆ!”
อากาศ! อากาศที่แสนเ็ปแต่ก็ล้ำค่าทะลวงเข้าสู่ปอดที่ว่างเปล่า เสี่ยวเฉินเบิกตาโพลง ภาพที่เห็นพร่าเลือนและสั่นไหว เพดานไม้เก่าคร่ำครึ กลิ่นสมุนไพรฉุนจมูก และััอันอ่อนโยนที่กอบกุมมือของเขาไว้
“ลูกแม่ เฟิงหลิว! ในที่สุดเ้าก็ฟื้น!”
เสียงนั้นสั่นเครือและเปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำตา เมื่อม่านตาปรับโฟกัสได้ สิ่งแรกที่เขาเห็นคือใบหน้าของสตรีงดงามนางหนึ่ง แม้อายุจะล่วงเข้าสามสิบปีและมีริ้วรอยแห่งความกังวลฉาบอยู่ แต่ความงามของนางยังคงเจิดจรัสราวบุปผาในเหมันตฤดู ดวงตาคู่นั้นแดงก่ำ เต็มไปด้วยความรัก ความโล่งใจ และความเ็ปที่สั่งสมมานาน
นี่คือ...ความรู้สึกแบบไหนกัน?
ในชีวิตที่ผ่านมาของ ‘หมายเลขสี่สิบเจ็ด’ ไม่เคยมีใครมองเขาด้วยสายตาเช่นนี้ เขาคืออาวุธ คือเครื่องจักรสังหารที่ไร้ความรู้สึก ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านจากฝ่ามือของนาง มันแปลกประหลาดจนน่าอึดอัด แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เติมเต็มช่องว่างในหัวใจที่เขาไม่เคยรู้ว่ามีอยู่
“ท่าน...เป็ใคร?” เขาเปล่งเสียงออกมา มันแหบพร่าและอ่อนแรงราวกับเสียงกระซิบ
น้ำตาของสตรีนางนั้นร่วงเผาะลงบนหลังมือของเขา “เฟิงหลิว... เ้าจำแม่ไม่ได้หรือลูก?”
แม่?
คำๆ นี้กระแทกเข้าสู่สมองที่กำลังสับสนราวกับสายฟ้าฟาด ทันใดนั้น ความทรงจำที่ไม่ได้เป็ของเขาก็หลั่งไหลเข้ามาเป็พายุ!
เด็กหนุ่มนาม ‘เสี่ยวเฟิงหลิว’ บุตรชายคนเดียวของผู้นำตระกูลเสี่ยวแห่งเมืองหลิงโจว เ้าสวะผู้ไม่เอาไหน ไอ้ขยะที่เอาแต่สร้างเื่เสื่อมเสียให้วงศ์ตระกูล ความทรงจำสุดท้ายของเ้าของร่างนี้คือความเ็ปที่ท้ายทอย ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดดับและตกลงไปในแม่น้ำ
นี่เรา ยังไม่ตาย แต่กลับมาเกิดใหม่ในร่างของคนอื่นงั้นหรือ?
“แค่ก! อ่อก!”
ความเ็ปเสียดแทงในอกทำให้เขาไออย่างรุนแรงอีกครั้ง คราวนี้มีบางสิ่งถูกขับออกมาจากลำคอ มันคือลิ่มเืสีดำข้นที่ตกลงบนพื้นไม้ ส่งกลิ่นเหม็นไหม้และกัดกร่อนจนเกิดเป็รอยด่างดำน่าสยดสยอง
“เืพิษ!” เจียงซินเย่ มารดาของเขากรีดร้องด้วยความใ “ไป! ไปตามท่านประมุขมาเร็วเข้า! บอกว่านายน้อยขับเืพิษออกมาแล้ว!”
สาวใช้ที่ยืนตัวสั่นอยู่มุมห้องรีบวิ่งออกไปอย่างลนลาน
เสี่ยวเฉินในร่างของเฟิงหลิวรู้สึกว่าหลังจากขับเืก้อนนั้นออกมา ร่างกายกลับเบาสบายขึ้นอย่างน่าประหลาด ความเ็ปทุเลาลง ความคิดเริ่มแจ่มชัด
เขากำลังประมวลผลสถานการณ์อันเหลือเชื่อนี้ จากนักฆ่านาโนเทคในโลกอนาคต สู่ร่างของนายน้อยผู้ไร้ค่าในโลกที่ดูเหมือนจีนโบราณยุคบำเพ็ญเพียร และดูเหมือนว่า การตาย ของเ้าของร่างเดิมจะไม่ใช่อุบัติเหตุ
ปัง!
ประตูถูกกระแทกเปิดออกอย่างแรง ร่างสูงใหญ่ของบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว เขาสวมอาภรณ์หรูหรา ใบหน้าหล่อเหลาคมคายแฝงไว้ด้วยอำนาจและบารมี แต่ยามนี้กลับเต็มไปด้วยความร้อนรนและกังวลใจ เขาคือเสี่ยวฟู่เจี่ยน ผู้นำตระกูลเสี่ยว และเป็บิดาของเสี่ยวเฟิงหลิว
“เฟิงหลิว! เ้าลูกไม่รักดี! ในที่สุดเ้าก็ยอมลืมตาขึ้นมาดูหน้าพ่อแล้วรึ!”
น้ำเสียงของเขาดุดัน แต่แววตากลับสั่นไหวอย่างปิดไม่มิด เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นรอยเืพิษบนพื้น เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าๆๆ! ดี! ดีมาก! ขับพิษออกมาได้ก็แปลว่า์ยังมีตา! ลูกชายของเสี่ยวฟู่เจี่ยนผู้นี้ ชะตาแข็งแกร่งดั่งขุนเขาโดยแท้!”
เขาเดินเข้ามาข้างเตียง ตบไหล่ลูกชายเบาๆ ก่อนจะล้วงขวดยาออกมาจากแขนเสื้อ เทเม็ดยาสีดำสนิทส่งกลิ่นหอมประหลาดออกมา แล้วยัดเข้าปากลูกชายโดยไม่ให้ทันตั้งตัว!
“แค่ก! แค่ก! ทะ...ท่านพ่อ! นี่มันยาอะไรกัน! ขมจนลิ้นข้าจะหลุดออกมาอยู่แล้ว!” เสี่ยวเฉินโอดครวญตามสัญชาตญาณของเ้าของร่างเดิมที่คุ้นเคยกับการเอาอกเอาใจ
“ขมสิดี! ยาดีมักขมปากเสมอ!” เสี่ยวฟู่เจี่ยนหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเป็ครั้งแรกในรอบหลายวัน “โอสถหวนชีวิตเม็ดนี้จะช่วยปรับสมดุลปราณและขับพิษที่เหลืออยู่ออกไปให้หมดสิ้น จำไว้ ตราบใดที่พ่อยังอยู่ จะไม่มีใครหน้าไหนมารังแกเ้าได้อีก!”
ประโยคสุดท้ายนั้น เขาไม่ได้พูดกับลูกชาย แต่เหมือนกำลังประกาศกร้าวกับใครบางคนที่มองไม่เห็น
เสี่ยวเฉินมองภาพบิดามารดาในชาติภพใหม่นี้ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ความห่วงใยที่แท้จริง สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เขาไม่เคยได้ััมาก่อนในชีวิต มันคือโซ่ตรวนที่อ่อนนุ่มที่สุด แต่ก็ผูกมัดหัวใจเขาได้อย่างแ่าที่สุดเช่นกัน
เขาหลับตาลง ชั่วขณะที่กำลังจะปล่อยให้ร่างกายได้พักผ่อน เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นในห้วงสมอง
[...Rebooting System... Nanite Core Integrity at 78%... Brainwave synchronization complete...]
[...ตรวจพบโฮสต์ใหม่ กำลังวิเคราะห์ข้อมูลชีวภาพ สภาพร่างกาย: อ่อนแออย่างรุนแรง ตกค้างด้วยพิษ ไหม้กระดูกสลายิญญา เส้นชีพจรปราณตีบตัน...]
เสี่ยวเฉินเบิกตากว้างในใจ
มัน...ตามข้ามาด้วย!
ไม่ใช่แค่ภาพหลอน ไม่ใช่ความเพ้อเจ้อจากพิษร้าย นี่คือเสียงสังเคราะห์อันไร้ความรู้สึกที่เขาคุ้นเคยยิ่งกว่าเสียงหัวใจของตัวเอง มันคือ หลู่ปิง ปัญญาประดิษฐ์ระดับสูงที่เป็แกนกลางของนาโนชิปที่ฝังอยู่ในสมองของเขา
“หลู่ปิง?” เขาเอ่ยถามในห้วงความคิด เสียงของเขาแทบไม่เป็เสียง
[ยืนยันตัวตน สวัสดีครับ โฮสต์] เสียงนั้นตอบกลับมาอย่างราบเรียบ แต่สำหรับเสี่ยวเฉินแล้ว มันคือเสียงจาก์โดยแท้ [ระบบตรวจพบการย้ายจิติญญาข้ามมิติ เนื่องจากนาโนชิปได้หลอมรวมกับแก่นิญญาของท่านโดยสมบูรณ์ ระบบจึงสามารถติดตามมาได้ แต่ในกระบวนการข้ามมิติที่ไม่เสถียร ทำให้แกนพลังงานเสียหาย สูญเสียฟังก์ชันไป 22% สถานะปัจจุบัน: ออนไลน์ และพร้อมรับคำสั่ง]
หัวใจที่เคยด้านชาราวกับน้ำแข็งของเสี่ยวเฉิน เต้นรัวขึ้นมาเป็ครั้งแรกในรอบหลายปีนี่ไม่ใช่แค่การเกิดใหม่ในโลกที่ล้าหลัง แต่เป็การเกิดใหม่พร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าโลกนี้ไปนับพันปี!
ชีวิตที่แล้ว เขาคือเบี้ยที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสังหารและทำลาย แต่ชีวิตนี้ ด้วยมันสมองของนักฆ่าอันดับหนึ่งและเทคโนโลยีที่อยู่ในกำมือ เขาจะเป็ผู้เล่น! เขาจะเป็ผู้ที่ควบคุมกระดานหมากนี้ด้วยตัวเอง!
“สถานะร่างกายย่ำแย่ถึงเพียงนี้ หลู่ปิง เ้าแก้ไขได้หรือไม่?”
[วิเคราะห์ พิษไหม้กระดูกสลายิญญา เป็พิษชีวภาพระดับสูง มีฤทธิ์กัดกร่อนเส้นชีพจรปราณและทำลายเซลล์จากภายใน แต่โครงสร้างของมันไม่ซับซ้อน นาโนแมชชีนสามารถถอดรหัสและสร้างสารต้านพิษได้ ใช้เวลาประมาณ 72 ชั่วโมงในการกำจัดพิษทั้งหมด ส่วนเส้นชีพจรปราณที่ตีบตัน สามารถใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูงและนาโนแมชชีนในการทะลวงและซ่อมแซมได้เช่นกัน ขอเสนอให้เริ่มกระบวนการทันที]
“ดีมาก เริ่มกระบวนการทั้งหมดอย่างเงียบที่สุด อย่าให้ใครตรวจพบความผิดปกติ” เสี่ยวเฉินสั่งการในใจ ความเยือกเย็นในฐานะนักฆ่ากลับคืนมาอย่างรวดเร็ว
ขณะที่โลกภายในกำลังเกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่ โลกภายนอกก็ยังคงดำเนินต่อไปด้วยความรักอันท่วมท้น เจียงซินเย่ประคองร่างของเขาให้นั่งพิงหมอนอย่างเบามือที่สุด นางเช็ดเหงื่อที่ผุดซึมบนหน้าผากของเขาด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น แววตาเต็มไปด้วยความรักที่ไม่มีเงื่อนไข
“เฟิงหลิว ไม่เป็ไรแล้วนะลูก ไม่ต้องกลัว ไม่ว่าใครจะทำร้ายเ้า แม่กับพ่อจะปกป้องเ้าเอง” นางพูดพลางป้อนซุปสมุนไพรอุ่นๆ ให้เขาอย่างอ่อนโยน
เสี่ยวเฉินอ้าปากรับซุปนั้นโดยไม่รู้ตัว รสชาติขมปร่าของมันเทียบไม่ได้เลยกับความอบอุ่นที่แผ่ซ่านจากช้อนสู่ริมฝีปากและไหลลึกลงไปในหัวใจ ความรู้สึกนี้ ทำให้เกราะน้ำแข็งที่ห่อหุ้มจิตใจของเขามาตลอดชีวิต เริ่มปรากฏรอยร้าว
เสี่ยวฟู่เจี่ยนมองภรรยาที่ใบหน้าซูบซีดลงอย่างเห็นได้ชัดใน่หลายวันที่ผ่านมา เขาก็ถอนหายใจยาว ความดุดันเมื่อครู่มลายหายไปสิ้น เหลือเพียงความอ่อนโยนในฐานะสามี “ซินเย่ เ้าไปพักผ่อนเถอะ ที่นี่ข้าดูแลเอง เ้าไม่ได้นอนเต็มตามาหลายคืนแล้ว”
เจียงซินเย่ส่ายหน้าเบาๆ ดวงตายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของลูกชาย “ข้าไม่เหนื่อยเ้าค่ะ ขอข้าอยู่กับลูกอีกสักพักเถิด”
เสี่ยวฟู่เจี่ยนไม่กล่าวอะไรอีก ทำเพียงยื่นมือไปลูบศีรษะภรรยาเบาๆ เป็การปลอบโยน จากนั้นจึงหันมาจ้องหน้าบุตรชายเขม็ง แววตาคมกริบดุจพญาเหยี่ยว “เ้าลูกเต่า! บอกพ่อมาตามตรง ใคร! ใครมันกล้าลงมือกับเ้าถึงเพียงนี้!”
แรงกดดันจากผู้เป็ประมุขตระกูลแผ่ออกมาจนอากาศในห้องหนักอึ้ง แม้แต่เจียงซินเย่ยังรู้สึกได้
เสี่ยวเฉินสบตากับบิดาของเขาอย่างไม่หลบเลี่ยง ในหัวของเขามีภาพของเสี่ยวจื่อหานที่แสยะยิ้มอย่างเืเย็นฉายชัด แต่เขาจะพูดออกไปตอนนี้ไม่ได้ เขาไม่มีหลักฐาน การกล่าวหาหลานชายของลุงใหญ่โดยไม่มีมูลรังแต่จะสร้างความแตกแยกภายในตระกูลให้ร้าวลึกยิ่งขึ้น และในสภาพที่เขาอ่อนแอเช่นนี้ มันคือการฆ่าตัวตายชัดๆ
เขาจึงส่ายหน้าช้าๆ แววตาที่เคยขี้เล่นเลื่อนลอย บัดนี้กลับลึกล้ำและสงบนิ่งราวกับบ่อน้ำโบราณไร้ระลอกคลื่น “ท่านพ่อ ท่านแม่ โปรดอย่าได้ถามอีกเลย”
“ทำไม!” เสี่ยวฟู่เจี่ยนตบโต๊ะข้างเตียงดังปัง! “เ้ากลัวมันรึ! เ้าเป็ถึงบุตรชายของประมุขตระกูลเสี่ยว ใครมันบังอาจแตะต้องเ้า พ่อจะขยี้มันให้เป็ธุลี!”
เสี่ยวเฉินมองบิดาของเขา ก่อนจะหันไปสบตากับมารดาที่น้ำตาคลอหน่วย เขายกมือที่ยังสั่นเทาเล็กน้อยขึ้นกุมมือนางไว้ “ท่านพ่อ ที่ผ่านมา ข้ามันโง่เขลาและอ่อนแอเอง จึงเปิดช่องให้คนอื่นรังแกได้โดยง่าย”
คำพูดสารภาพอย่างตรงไปตรงมาทำให้ทั้งสองคนชะงักงัน นี่ไม่ใช่คำพูดที่จะออกมาจากปากของเสี่ยวเฟิงหลิวคนเดิมได้เลย
“การเกือบตายในครั้งนี้ ทำให้ข้าตาสว่างแล้ว” เขากล่าวต่อ น้ำเสียงราบเรียบแต่หนักแน่น “การบอกชื่อคนผู้นั้นออกไปตอนนี้ มีประโยชน์อันใดหรือ? นอกจากจะสร้างความขัดแย้งภายในตระกูลแล้ว ท่านพ่อจะปกป้องข้าไปได้ตลอดชีวิตหรือ?”
“หนี้โลหิตก้อนนี้ ข้าขอจดจำไว้ในใจ” แววตาของเขาฉายประกายเย็นเยียบชั่ววูบหนึ่ง “สักวันหนึ่ง เมื่อข้าแข็งแกร่งพอ ข้าจะไปทวงคืนมัน ด้วยมือของข้าเอง!”
ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วทั้งห้อง
เสี่ยวฟู่เจี่ยนจ้องมองบุตรชายของตนราวกับเห็นเป็ครั้งแรก เด็กหนุ่มตรงหน้าไม่ใช่ลูกเต่าจอมเสเพลที่เขารู้จักอีกต่อไป แต่เป็ใครบางคนที่สุขุม เยือกเย็น และมีความมุ่งมั่นอันน่าสะพรึงซ่อนอยู่ในแววตา การรอดตายจากเงื้อมมือมัจจุราชได้หล่อหลอมบุตรชายของเขาขึ้นมาใหม่โดยสิ้นเชิง
เขาสูดลมหายใจลึก พยักหน้าช้าๆ ความโกรธเกรี้ยวในใจถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกซับซ้อนที่ทั้งใและภาคภูมิใจ
“ดี...ดี! นี่สิถึงจะสมเป็ลูกชายของข้า!” เสี่ยวฟู่เจี่ยนหัวเราะออกมาเบาๆ “ในเมื่อเ้าตัดสินใจเช่นนี้ พ่อก็จะไม่ก้าวก่าย พักผ่อนให้หายดีเถอะ ต่อจากนี้ไป ตระกูลเสี่ยวจะต้องมองเ้าใหม่!”
ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างเงียบสงบ ภายใต้ฉากหน้าของนายน้อยที่กำลังพักฟื้น ในร่างกายของเสี่ยวเฟิงหลิวกลับกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงสะท้านฟ้าะเืดิน นาโนแมชชีนนับล้านกำลังทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน พวกมันซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย กำจัดพิษร้าย และค่อยๆ ทะลวงเปิดเส้นชีพจรปราณที่ตีบตันมาั้แ่กำเนิด
นี่ไม่ใช่แค่การรักษา แต่มันคือการ วิวัฒนาการ
แสงอรุณรุ่งของวันใหม่สาดส่องเข้ามาในห้อง เสี่ยวเฟิงหลิวลืมตาขึ้น ความรู้สึกสดชื่นอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ความเ็ปหายไปเป็ปลิดทิ้ง เขาลองขยับแขนขา มันเบาและเปี่ยมไปด้วยพละกำลังอย่างน่าเหลือเชื่อ
[รายงานสถานะ: การกำจัดพิษเสร็จสิ้น 12% การซ่อมแซมเส้นชีพจรปราณเสร็จสิ้น 8% ร่างกายของโฮสต์กำลังตอบสนองต่อการปรับปรุงได้ดีเยี่ยม]
เสี่ยวเฉินยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ
“เหมยหลิน” เขาเอ่ยเรียกสาวใช้
“เ้าคะนายน้อย!” เหมยหลินรีบเข้ามาพร้อมอ่างน้ำล้างหน้า นางมองนายน้อยของตนด้วยความประหลาดใจ วันนี้ใบหน้าของเขาแม้จะยังดูซีด แต่กลับมีเืฝาดและดูมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
“ไปนำตำราพื้นฐานเกี่ยวกับสมุนไพรและการฝึกปราณขั้นเริ่มต้นจากห้องตำราของท่านพ่อมาให้ข้า”
คำสั่งเดิมที่เคยทำให้นางใ บัดนี้กลับฟังดูสมเหตุสมผลขึ้นมาอย่างประหลาด “เ้าค่ะ!”
และแล้ว ชีวิตใหม่ของ ขยะประจำตระกูล ก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเงียบงัน บนเส้นทางที่โรยด้วยหนามแหลมแห่งการแก่งแย่งชิงดี แต่ในมือของเขากลับกุมไพ่ตายที่ทรงพลังที่สุดในใต้หล้า! การต่อสู้เพื่อทวงคืนศักดิ์ศรีและเปลี่ยนแปลงชะตากรรม เพิ่งจะเปิดม่านฉากแรกขึ้นเท่านั้น
