เผ่าพันธุ์ต่างแดนโบราณ
ตามบันทึกโบราณพวกเขาเป็เผ่าพันธุ์ทรงพลังที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันในยุคโบราณแตกต่างจากเผ่าพันธุ์มนุษย์
แน่นอนว่า ‘เผ่าพันธุ์ต่างแดนโบราณ’ เป็ชื่อที่ผู้คนรุ่นหลังตั้งให้ในยุคนั้นพวกเขาเรียกตัวเองว่าเผ่าพันธุ์เทพ
และเผ่าพันธุ์เทพเป็เพียงชื่อรวมอันที่จริงมีมากกว่าหนึ่งเผ่าแต่ละเผ่ามีพลังยิ่งใหญ่สั่นะเืฟ้าดิน
ส่วนว่าเผ่าพันธุ์ต่างแดนโบราณนี้เป็ของเผ่าพันธุ์เทพใด เย่ชิงหยุนไม่รู้
ท้ายที่สุดนี่เป็เื่ราวของยุคโบราณและบันทึกในตำราโบราณก็ไม่ได้ครอบคลุมมากนัก
ยิ่งไปกว่านั้นเขาเพียงพลิกดูผ่านๆในตอนนั้นจำได้เพียงคำว่า ‘เผ่าพันธุ์ต่างแดนโบราณ’ และไม่มากไปกว่านั้น
เย่ชิงหยุนยังเข้าใจว่าทำไมสำนักหลิงซวี่เล็กๆจึงมีพลังปราณธรรมชาติของฟ้าดินอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้
น่าจะเป็เพราะเผ่าพันธุ์ต่างแดนโบราณนี้เขาผนึกตัวเองไว้ที่นี่เป็เวลานับไม่ถ้วนปี
พลังอันยิ่งใหญ่ที่ไหลออกจากร่างของเขารวมถึงพลังที่ปลดปล่อยจากผลึกิญญานั้นช่วยบำรุงพลังปราณฟ้าดินรอบๆอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเวลาผ่านไปมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นและมันก่อกำเนิดจิตสำนึกจึงให้กำเนิดพลังปราณ
หลังจากถูกสำนักหลิงซวี่ค้นพบด้วยการปรับแต่งเล็กน้อยมันกลายเป็ค่ายกลอันไร้เทียมทานจากก่อนหน้านี้
“เผ่าพันธุ์ต่างแดนโบราณหรือดูเหมือนว่าหลังจากเวลานับถ้วนปีเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเ้าได้ลืมเลือนเกียรของเผ่าพันธุ์เทพของข้าในอดีตไปนานแล้วเ้ากล้าตั้งชื่อเราว่า ‘เผ่าพันธุ์ต่างแดน’ เสียด้วยซ้ำ”
ในขณะนี้สิ่งมีชีวิตต่างแดนภายในผลึกิญญาชื่อฉือเหรินปลดปล่อยจิตศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสะพรึงกลัว
“ในเมื่อเป็เช่นนั้นข้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์นึกถึงพลังเทพอันสูงสุดของเผ่าพันธุ์เทพของข้าเมื่อครั้งครองผืนดิน”
“และเ้าในฐานะผู้ปลุกข้าจากการหลับใหลข้าจะมอบโอกาสให้เ้ารับใช้ข้า”
“จงจำไว้ว่าข้าคือฉือเหริน ผู้นำกองทัพที่เก้าภายใต้แม่ทัพเทพที่สามหนึ่งในสิบแม่ทัพเทพผู้ยิ่งใหญ่ภายใต้ผู้นำเผ่าพันธุ์เทพเพลิง!”
“ยอมจำนน หรือตาย!”
เห็นได้ชัดว่าการโจมตีกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวของเย่ชิงหยุนได้ปลุกเผ่าพันธุ์ต่างแดนโบราณนี้จากการหลับไหล
กล่าวอีกนัยหนึ่งสำนักหลิงซวี่ที่ตั้งรกรากที่นี่มาหลายปีไม่สามารถปลุกสิ่งมีชีวิตต่างแดนนี้ได้เลย
ตูม!
วินาทีต่อมาจากภายในผลึกิญญาพลังปราณอันน่าสะพรึงกลัวที่เหนือกว่าขอบเขตนักบุญและเข้าใกล้กึ่งจักรพรรดิอย่างไม่มีที่สิ้นสุดลงมาด้วยเสียงคำรามกดดันเย่ชิงหยุนด้วยพลังอันมหาศาล
เมื่อรู้สึกถึงพลังกดดันที่ทำให้หายใจไม่ออกนี้เย่ชิงหยุนถึงกับพูดไม่ออก
์! โชคของข้าช่างเลวร้ายเกินไปข้าแทบจะไม่เคยออกจากบ้านเลย
ครั้งแรกที่ออกไปข้าติดอยู่ในพื้นที่แปลกประหลาดนั้นถูกขังอยู่นับร้อยปีและเกือบตาย
หลังจากได้รับการช่วยเหลือในที่สุดนี่คือครั้งที่สองที่ข้าออกมาเพียงเพื่อจัดการเื่เล็กน้อย
ผลคือข้าพบกับเผ่าพันธุ์ต่างแดนโบราณที่ทรงพลัง
เย่ชิงหยุนไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว ์ เ้ากำลังเล่นตลกกับข้าหรือ
หากเ้า้าให้ข้าตายก็ทำมันตรงๆอย่าอ้อมค้อม!
ไม่มีทางเลือกอื่นการยอมจำนนเป็ไปไม่ได้และข้าไม่อยากตาย
ดังนั้นจึงเหลือเพียงทางเดียว
เย่ชิงหยุนสูดลมหายใจลึกวางมือทั้งสองไว้ข้างหน้าปากและสีหน้าของเขาจริงจังยิ่งกว่าที่เคย
เมื่อเห็นเช่นนี้ฉือเหรินสิ่งมีชีวิตต่างแดนในผลึกิญญารู้ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์นี้ไม่้ายอมจำนนและไม่อยากตาย
ดังนั้นเขาน่าจะกำลังเตรียมวิชาสุดยอดที่น่าสะพรึงกลัว และพลังปราณอันไร้ขอบเขตของเขาแม้แต่หยุดชะงักเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าเขาไม่สนใจเผ่าพันธุ์มนุษย์นี้แต่เขาต้องยอมรับว่าคู่ต่อสู้มีพลังอยู่บ้างหากเขามีวิธีท้าทาย์จริงๆและทำลายผลึกิญญามันจะเป็เื่เลวร้าย
นั่นจะทำให้ความพยายามของเขาสูญเปล่า
ทว่าในลมหายใจต่อมา
เพียงเสียงของเย่ชิงหยุนเท่านั้นที่ทะลวงเมฆดังก้องไปนับแสนลี้
“ท่านประมุขตระกูล ช่วยข้าด้วย!”
ห๊ะ?
ฉือเหรินที่กำลังระวังตัวอยู่บ้างถึงกับตะลึงงัน
จากนั้นเขาตอบสนองทันทีกลายเป็โกรธจัดข้ากำลังป้องกันวิชาลับของเ้าแต่เ้ากลับแค่ร้องเรียกขอความช่วยเหลือ
ตัวตลกคือข้า!
ไม่ต้องสงสัยฉือเหรินะเิโทสะ
“เผ่าพันธุ์มนุษย์! เ้ากล้าหลอกข้า! ข้าจะส่งเ้าและประมุขตระกูลที่เ้าเรียกนั้นขึ้น์!”
ทว่าขณะที่คำพูดนี้ดังออกมาและก่อนที่ฉือเหรินในผลึกิญญาจะลงมือเสียงเบาๆก็ดังก้องระหว่างฟ้าดิน
“เ้าแน่ใจหรือ”
แม้คำพูดนั้นจะเบาแต่พลังอันยิ่งใหญ่ที่อยู่ในนั้นทำให้ฉือเหรินรู้สึกราวกับได้พบกับพลังที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิต
ต่อหน้าพลังนี้เขารู้สึกทันทีว่าผู้นำเผ่าพันธุ์เทพเพลิงที่เขาเคารพบูชามาโดยตลอดนั้นเป็เพียงขยะในบรรดาขยะไม่คู่ควรแม้แต่จะถือรองเท้าให้!
จากนั้นโดยไม่ลังเล
ปัง!
ภายในผลึกิญญาฉือเหรินคุกเข่าลงทันทีถูมือด้วยท่าทางประจบประแจง
“ท่านได้ยินผิดข้าพูดเมื่อกี้ว่าข้าจะคุกเข่าต้อนรับท่าน”
์!
เย่ชิงหยุนถึงกับตะลึงงันการเปลี่ยนท่าทีนี้การเปลี่ยนสีหน้านี้ความสามารถในการยอมจำนนและยืดหยุ่นเขาจะไม่มีวันเรียนรู้ได้ในสิบชาติ
ทว่าเขายังคงชอบท่าทีหยิ่งผยองและสำคัญตนจากก่อนหน้านี้กลับไปเป็แบบนั้นได้หรือไม่
ในขณะนี้
เหนือเก้า์ความว่างเปล่าแตกออกก่อตัวเป็วงแหวนแห่งแสง
และอีกด้านของวงแหวนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซูเซวียนที่อยู่ห่างไกลในตระกูลซูนอนพิงเก้าอี้
เขาดูผ่อนคลายและค่อนข้างพึงพอใจ
เมื่อเห็นเช่นนี้เย่ชิงหยุนโค้งคำนับด้วยความเคารพทันที “ประมุขตระกูล”
พร้อมกันนั้นเขาตื่นตะลึงในใจสมกับเป็ผู้ยิ่งใหญ่ระดับจักรพรรดิแม้อยู่ห่างนับพันลี้เขาก็สามารถเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างมิติได้อย่างง่ายดายราวกับสนทนาแบบตัวต่อตัว
“อืม เ้าทำได้ดีครั้งนี้”
ซูเซวียนชมเขาด้วยวาจาแต่ในใจพึมพำเด็กหนุ่มเย่ชิงหยุนนี้จะเป็การกลับชาติมาเกิดของคนโชคร้ายหรืออย่างไร
โชคของเขาช่างเลวร้ายเกินไปสองครั้งที่ออกไปข้างนอกเขาเจออันตรายที่คนอื่นอาจไม่เจอในชั่วชีวิตมันน่าทึ่งจริงๆ
จากนั้น
เขามองไปยังสิ่งมีชีวิตต่างแดนชิเหรินที่คุกเข่าอยู่ในผลึกิญญา
ฝ่ายหลังดูเหมือนััได้ถึงสายตาของซูเซวียนและสั่นสะท้านทันทีไม่กล้าขยับที่ผิวหน้าแต่ในใจคำรามด้วยความหวาดกลัวสุดขีด
์!
นี่คือเผ่าพันธุ์มนุษย์จริงๆ!
มีผู้ยิ่งใหญ่ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ในเผ่าพันธุ์มนุษย์!
เย่ชิงหยุนและคนอื่นๆไม่เคยเห็นจักรพรรดิที่ยังมีชีวิตอยู่ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีแิเมื่อเห็นซูเซวียนปราบอาวุธจักรพรรดิด้วยมือเดียวพวกเขาคิดว่าเขาเป็จักรพรรดิโดยสัญชาตญาณ
แต่ฉือเหรินเคยเห็นจักรพรรดิจริงๆและมากกว่าหนึ่งคนดังนั้นเขาจึงเข้าใจชัดเจนว่าจักรพรรดิมีพลังปราณและพลังต่อสู้แบบใด
ชายหนุ่มที่อยู่อีกด้านของพื้นที้นั้นในความรู้สึกของฉือเหริน มันยิ่งกว่าจักรพรรดิเสียอีก!
จะเป็ผู้ยิ่งใหญ่ที่เหนือกว่าจักรพรรดิหรือไม่
ฉือเหรินไม่กล้าคาดเดาต่อไปเพราะเขากลัวว่าจะหวาดกลัวจนตาย
เมื่อคิดถึงเื่นี้ฉือเหรินเงยหน้าขึ้นโดยสัญชาตญาณกำลังจะขอความเมตตาจากผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ต่อไป
อย่าถูกหลอกด้วยคำพูดโอ้อวดก่อนหน้านี้ของเขาในความเป็จริงเขารักชีวิตของตัวเองมากมิฉะนั้นเขาจะไม่เลือกผนึกตัวเองในผลึกิญญาและมีชีวิตมาจนถึงตอนนี้
ทว่าขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นเขาพบว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนไปแล้ว
จิตใจของเขากระตุกวูบจากนั้นเขาก็เห็นเหนือศีรษะ
ดวงตาคู่หนึ่งกว้างใหญ่และลึกล้ำราวดวงอาทิตย์และจันทรามองลงมาจ้องเขาอย่างเงียบๆ
ตอนนั้นเองที่ฉือเหรินตระหนักว่าเขาไม่อยู่ในสถานที่ใต้ดินนั้นอีกต่อไปแต่อยู่ในฝ่ามือของผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้นี้!
เมื่อใด?!
จิตใจของฉือเหรินตื่นตะลึงอย่างยิ่งการเคลื่อนย้ายเขามาสู่ฝ่ามืออย่างเงียบเชียบและจากระยะห่างนับพันลี้
มันช่างไม่เคยได้ยินมาก่อน!