ปากทางเข้าเมืองจูเซียน
ขณะนี้มีชายสองคนยืนอยู่ หนึ่งสวมชุดดำสีน่ายำเกรง อีกหนึ่งสวมชุดขาวท่าทางคล้ายสุภาพชน ในมือถือพัดสีขาวอันหนึ่ง ดูคล้ายคนหมกมุ่นในความสะอาด มันมองน้ำขังสกปรกใต้เท้าด้วยสีหน้าขยะแขยง
“นี่น่ะหรือเมืองจูเซียน?” บุรุษชุดขาวคลี่พัดสีขาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงคล้ายดูถูก
บุรุษชุดดำมองดูกระเรียนมงกุฎแดงที่อยู่บนฟ้า เอ่ยด้วยท่าทียำเกรงสุดเปรียบ “ขอรับท่านเซียน ที่นี่ก็คือเมืองจูเซียน ท่านประมุขให้ข้าไปรายงานต่อพรรคอีกาทองคำ ข้าเห็นท่านประมุขจับองค์หญิงโยวเยว่ด้วยตาของตัวเอง ตอนนี้นางกำลังถูกขังอยู่ในตระกูลเนี่ย หากไม่ใช่เพราะว่าท่านคุมอสูรเซียนนำข้าบึ่งกลับมาละก็ พวกเราก็คงจะไม่มาถึงเร็วขนาดนี้หรอกขอรับ พวกเรากลับมาก่อนล่วงหน้าแบบนี้ ท่านประมุขจะต้องใส่รองเท้ากลับข้างมาต้อนรับพวกเราเป็แน่[1] ท่านเซียน ข้าให้คนไปแจ้งดีไหมขอรับ?”
“ไม่จำเป็ ข้าอยากจะเจอองค์หญิงโยวเยว่ให้เร็วที่สุด นำข้าไปเลย!” บุรุษชุดขาวสะบัดพัดพลางออกคำสั่งเสียงห้วน
“ทราบ!” บุรุษชุดดำตอบรับอย่างกริ่งเกรง
ทั้งสองย่างเท้าเข้าสู่เมืองจูเซียน
โถงหลักตระกูลเนี่ย
ประมุขจากเมืองจูเซียนต่างก็มารวมตัวกันที่ห้องโถงของตระกูลเนี่ยอีกครั้ง
“ประมุขเนี่ย ข้าได้ยินว่าเซียนแซ่จางท่านนั้นหายตัวไป? เื่นี้จริงหรือไม่?” ประมุขคนหนึ่งถามขึ้นอย่างร้อนรน
เนี่ยเทียนป้าในเวลานี้ยังมีเืติดอยู่ตรงมุมปากอยู่เลย เห็นได้ชัดว่าตอนที่ได้รับข่าว มันเพิ่งกระอักเืออกมา ยังไม่ทันจะได้เช็ดเื ประมุขทุกคนที่ได้ยินข่าวก็แห่กันมาซะแล้ว
“ประมุขเนี่ย ข้าได้ยินว่าตอนที่เซียนแซ่จางคนนั้นกำลังเดินชมเมืองอยู่ๆ ก็หายตัวเข้าไปในอาคารหลังเล็ก จากนั้นก็ลอดอุโมงค์ นะ...หนีไป? มันเป็ตัวปลอม ท่านหลงเชื่อมันไปได้ยังไง?”
“ตัวปลอม? เป็ตัวปลอมอีกแล้ว? ประมุขเนี่ย ท่านจงใจใช่หรือไม่ จงใจหลอกเอาเงินไปจากพวกเรา? รีบเอาศิลาิญญาของตระกูลข้าคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“ข้าด้วย ประมุขเนี่ย รีบคืนเงินมาได้แล้ว นั่นคือรากฐานของตระกูลข้าเชียวนะ!”
.........
“ประมุขเนี่ย ท่านเป็คนทำองค์หญิงโยวเยว่หลุดมือไป จะให้พวกเราชดใช้แทนท่านไม่ได้!”
…...
...
ประมุขทุกคนต่างก็ตื่นกลัวจนสติหลุด ร่างสัญญาที่เขียนต่อหน้า ‘เซียนแซ่จาง’ ก่อนหน้านี้เป็แค่ลมผายหนึ่ง! ตำแหน่งว่าที่ศิษย์พรรคอีกาทองคำผายลมอันใด ปลอมเปลือก ทั้งหมดล้วนปลอมเปลือกทั้งนั้น
ตอนนี้ไม่เพียงแต่ชาวบ้านชาวเมืองที่มาทวงถามหนี้ที่เกิดจากแผนการลงทุนเอากับเนี่ยเทียนป้า
แต่ประมุขทุกคนที่เพิ่งจะให้เนี่ยเทียนป้ากู้ยืมเงินไปจนหมดตัวเองก็ไม่อาจเรียกเงินพวกนั้นกลับคืนมาได้แล้วเช่นกัน ประมุขทุกคนจึงแจ้นมาบีบให้เนี่ยเทียนป้าชำระหนี้กันอย่างเอาเป็เอาตาย
“ทุกท่าน เป็คนแซ่เนี่ยคนนี้เองที่หูตามืดบอด ข้านึกไม่ถึงจริงๆ ว่าเ้าหวังเค่อนั่นจะชั่วร้ายอำมหิตได้ถึงเพียงนี้ มันจับเนี่ยเฟิงที่กำลังไปแจ้งข่าวต่อพรรคอีกาทองคำ ใช้ของแทนตัวของเนี่ยเฟิงปลอมเป็ศิษย์พรรคอีกาทองคำมาหลอกพวกเราเป็ครั้งที่สอง! ข้ากับเ้าหวังเค่อนั่นไม่อาจอยู่ร่วมฟ้าเดียวกันอีกต่อไป! พรวด!” สิ้นเสียงเนี่ยเทียนป้ามันก็ต้องกระอักเืออกมาอีกคำ
“หวังเค่อหลอกเ้า? เ้าก็เลยมาหลอกพวกเราต่อ?”
“ประมุขเนี่ย เ้าตาบอดหรืออย่างไร? หวังเค่อใช้เซียนแซ่จางมาหลอกเ้าไปแล้วรอบหนึ่ง พอมันใช้เซียนแซ่จางมาหลอกเ้าเป็รอบที่สองเ้าก็ยังเสียรู้อีกจนได้? เ้าตาบอดใช่หรือไม่? เซียนแซ่จาง เซียนแซ่จาง เ้าเชื่อลงไปได้ยังไง?”
“ประมุขเนี่ย สองครั้งนะ สองครั้ง เ้าถูกเซียนแซ่จางปั่นหัวซึ่งหน้ามาสองครั้ง แต่ครั้งนี้เ้ากลับทำพวกเราติดร่างแหไปด้วย ไม่ได้การแล้ว เงินก้อนนี้ เ้าจะต้องคืนพวกเรามาให้ได้!”
“ถูกแล้ว ประมุขเนี่ย เ้าถูกหลอกมันก็เื่ของเ้า แต่สัญญาลายลักษณ์อักษรต่างก็อยู่ที่นี่แล้ว เ้าติดเงินพวกเรา เพราะงั้นก็ต้องใช้คืนมา!”
...
“ประมุขเนี่ยไอ้คนไร้หัวใจ คืนเงินที่พวกเราแลกมาด้วยเืเนื้อและหยาดเหงื่อมาให้หมด!”
...
...
เหล่าผู้นำตระกูลเปล่งเสียงคำรามกันอย่างเกรี้ยวกราด
เนี่ยเทียนป้าในเวลานั้นกำลังนึกเสียใจอย่างเหลือคณา ก็นั่นน่ะซี! ทำไมตนเองถึงได้โง่เง่าเบาปัญญาได้ปานนี้ ทำไมถึงได้หลงเชื่อเซียนแซ่จาง? ผู้อื่นมาหลอกถึงสองครั้งสองครา แถมยังใช้คำเรียกหาว่าเซียนแซ่จางเหมือนเดิมทั้งสองรอบ แต่ทำไมตนถึงได้หลวมตัวเชื่อถือเหมือนกับโดนผีบังตามาอย่างนั้น? ทำไมกัน ทำไมมม!
ตามตรรกะของคนปกติทั่วไป หวังเค่อที่ชิงตัวองค์หญิงไปแล้วรอบหนึ่งก็น่าจะไม่มาหาเื่เสี่ยงอันตรายอีกเป็รอบที่สอง นั่นจึงจะนับว่าถูกต้อง แต่เนี่ยเทียนป้าไหนเลยจะคิดว่าหวังเค่อขวัญกล้าเทียมฟ้าชนิดกล้าส่งคนมาหลอกตัวเองซ้ำสอง? ทำไมมันถึงกล้าได้ขนาดนั้น? ไหนจะใช้ชื่อ ‘เซียนแซ่จาง’ เหมือนเดิมอีก? หวังเค่อผู้นี้คือมือฉมังด้านการต้มตุ๋นโดยแท้ ไม่งั้นแล้วมีหรือจะโเี้หลักแหลมได้ถึงขนาดนี้?
แต่ก็เป็เพราะว่ามันใช้ชื่อ ‘เซียนแซ่จาง’ อีกนั่นแหละ ตนเองถึงได้ลบความเป็ไปได้ที่ว่าหวังเค่อจะส่งคนมาหลอกมันทิ้งไป! แต่ในความเป็จริงน่ะหรือ เ้าเซียนแซ่จางบัดซบนี่แหละที่เป็นักต้มตุ๋นที่หวังเค่อส่งมา
หวังเค่อ! ไอ้สันขวาน มันหลอกเอาทั้งตัวองค์หญิง ทั้งหลอกเอามุกหยาดวารี มุกคลายธุลีอันเป็สมบัติประจำตระกูลตน ทั้งหลอกเอาสินทรัพย์ตนไปจนหมด ซ้ำยังหลอกให้ตนใช้หนี้คนทั้งเมืองจูเซียนแทนมันอีก
“หวังเค่อ หวังเค่อ พรูด!” เนี่ยเทียนป้ากระอักเืสดออกมาอีกคำหนึ่ง
“ประมุขเนี่ย ถึงท่านจะกระอักเืไปก็ไม่มีประโยชน์ รีบคืนเงินพวกเรามาจะดีกว่า คืนมา คืนมาให้หมด!” ประมุขทุกคนไม่มีใครยอมรามือกันง่ายๆ
ตระกูลเนี่ยของเ้าคือตระกูลผู้ฝึกฌานลำดับหนึ่งของเมืองจูเซียน แต่ลองได้พวกเราผนึกกำลังกันขึ้นมา เ้าเองก็ใช่ว่าจะเป็คู่ต่อสู้ของเราได้เสมอไป ทุกคนร้อนใจที่จะได้เงินคืน ขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะชักอาวุธออกมาประหัตปะาเนี่ยเทียนป้าด้วยเช่นกัน
ในชั่วขณะนั้น แสงเงาจากคมดาบคมกระบี่ในห้องราวกับจะสื่อว่าหากพูดจาไม่ลงรอยกันขึ้นมาแม้แต่คำเดียวพวกมันก็พร้อมที่จะลงมือทันที
“ทุกท่าน พวกท่านตั้งใจจะบีบคั้นข้าให้ตายเลยหรือยังไง!” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยอย่างขมขื่น
ศิลาิญญาแสนห้าหมื่นชั่ง ข้าจะไปเอาเงินจากไหนมาคืนพวกเ้าได้!
“คืนเงินมา!” ประมุขทุกคนคำรามประสานเสียง
ประหนึ่งว่าาอาจปะทุขึ้นมาภายในห้องได้ทุกเมื่อ ดาบกระบี่ชี้ใส่กัน รังสีสังหารแผ่กวาดไปทั่วทิศ
ตอนนั้นเองที่มีเสียงหนึ่งดังมาจากนอกห้อง
“รายงานท่านประมุข เนี่ยจิงหยุนกลับมาจากพรรคอีกาทองคำแล้วขอรับ ทั้งยังนำศิษย์พรรคอีกาทองคำมาด้วยคนหนึ่ง ตอนนี้พวกมันรออยู่นอกประตูใหญ่ เนี่ยจิงหยุนให้ข้ามารายงานท่านประมุขก่อน ขอเชิญท่านประมุขออกมาต้อนรับแขกด้วย!” เสียงของศิษย์ตระกูลเนี่ยดังเข้ามาจากภายนอก
“ศิษย์จากพรรคอีกาทองคำอีกแล้ว?” ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างก็หน้าแข็งค้าง
“ศิษย์พรรคอีกาทองคำ?” เนี่ยเทียนป้ามองออกไปด้านนอก
“ขอรับ เนี่ยจิงหยุนบอกว่าศิษย์พรรคอีกาทองคำผู้นี้มีฐานะสูงส่งภายในพรรค กระทั่งว่าอาจเป็ผู้ที่ออกประกาศนำจับองค์หญิงโยวเยว่เลยก็ได้ ชื่อของมันคือจางเสินซวี เซียนแซ่จาง! ขอเชิญท่านประมุขขอรับ!” เสียงตอบรับดังมาจากด้านนอก
“เซียนแซ่จาง เซียนแซ่จางที่อาจเป็คนออกประกาศนำจับขององค์หญิงโยวเยว่? เซียนแซ่จางคนที่สาม?” เนี่ยเทียนป้าเบิ่งตามองออกไปนอกห้อง
ประมุขทุกคนภายในห้องล้วนตะลึงงันกันไปพักหนึ่ง นี่มันสถานการณ์แบบไหนกัน? นักต้มตุ๋นมาอีกแล้วรึ?
“เซียนแซ่จาง? เซียนแซ่จางอีกแล้ว? หวังเค่อ เ้าจะทำเกินไปแล้ว คิดว่าข้าเนี่ยเทียนป้าคือคนที่จะถูกเ้าเหยียบหัวรังแกอย่างไรก็ได้งั้นรึ? พอมีครั้งแรกก็เลยมีครั้งที่สองครั้งที่สามตามมา? เ้าคิดว่าข้าโง่รึยังไง?” เนี่ยเทียนป้าแผดเสียง
ครั้นแล้วเนี่ยเทียนป้าก็คว้าดาบยาวมาด้วยเล่มหนึ่ง ย่างสามขุมออกไปจากห้อง เนี่ยเทียนป้ามีความอัดอั้นท่วมฟ้า้าจะระบายออกไป ในเมื่อตัวการมาหาถึงที่ งั้นตนก็จะให้มันรับรู้ถึงราคาที่ต้องจ่ายเมื่อกล้ามาแหยมกับเนี่ยเทียนป้าผู้นี้
เนี่ยเทียนป้าพรวดพราดออกไปจากห้อง ประมุขทุกคนไม่มีใครเข้าไปห้าม พวกมันมองหน้ากันก่อนจะตามเนี่ยเทียนป้าออกไปด้วยความสงสัยใคร่รู้ อย่างไรเสียศิลาิญญาแสนห้าหมื่นชั่งของพวกมันก็หายไปอย่างมีเงื่อนงำ จำต้องทวงคืนกลับมาให้ได้อยู่ดีมิใช่รึ
คนกลุ่มหนึ่งมุ่งหน้าไปยังประตูใหญ่ของตระกูลเนี่ยอย่างเกรี้ยวกราด
อีกด้านหนึ่ง เนี่ยจิงหยุนในชุดดำก็กำลังนำทางจางเสินซวีในชุดขาวมาที่ประตูใหญ่ของตระกูลเนี่ยอย่างพินอบพิเทา
“ท่านเซียน ข้าได้ให้คนไปรายงานแล้ว อีกเดี๋ยวท่านประมุขก็จะออกมาต้อนรับท่านในอีกไม่ช้าขอรับ!” เนี่ยจิงหยุนเอ่ยอย่างนอบน้อม
“อืม!” จางเสินซวีพยักหน้าอย่างพึงพอใจขณะสังเกตสังการไปรอบๆ
ศิษย์ตระกูลเนี่ยส่วนใหญ่ต่างก็ออกไปตามหากหวังเค่อกันหมด ภายในตระกูลจึงเหลือข้ารับใช้อยู่ประปราย พอเห็นเนี่ยจิงหยุนนำคุณชายชุดขาวเข้ามาที่จวนก็พากันเงียบเสียงลง
แม้พวกมันจะรู้ว่าหลายวันมานี้เกิดเื่วุ่นวายใหญ่โตขึ้นที่จวน แต่เพราะฐานะต่ำต้อยเกินไป สิ่งที่รู้จึงไม่ลึกซึ้งมากพอ ดังนั้นจึงไม่กล้ากล่าวมากความ มิสู้รอให้ท่านประมุขออกมาเองยังจะดีกว่า คนชั้นปลายแถวอย่างพวกมันจะพูดพล่ามไม่ระวังปากได้ยังไง
ตอนนั้นเองเสียงฝีเท้าก็ดังมาแต่ไกล
“ท่านประมุขมาถึงแล้ว!” เนี่ยจิงหยุนตาลุกวาว
แต่ภาพที่ปรากฏกลับเป็ว่าเนี่ยเทียนป้าถือดาบยาวเล่มหนึ่งมุ่งตรงมาด้วยท่วงท่าสภาวะอันถาโถม พ่วงท้ายด้วยคนกลุ่มใหญ่อาวุธครบมือ ยิ่งขับเน้นให้เนี่ยเทียนป้าดูองอาจอหังการเป็เท่าตัว เพียงแต่เนี่ยจิงหยุนไม่อาจเข้าใจ คนพวกนั้นไม่ใช่ประมุขตระกูลใหญ่ของเมืองจูเซียนหรอกหรือ? ทำไมพวกมันถึงมาที่ตระกูลเนี่ยของพวกเราได้?
“พวกเ้าคนไหนคือเซียนแซ่จาง?” เนี่ยเทียนป้าถามอย่างมะนาวไม่มีน้ำ
เนี่ยจิงหยุนตะลึงงัน ท่านประมุขเป็อะไรไปแล้ว? ทำไมน้ำเสียงถึงได้แข็งกระด้างขนาดนี้?
ขณะที่เนี่ยจิงหยุนกำลังจะอธิบาย หัวคิ้วของจางเสินซวีที่อยู่ด้านข้างก็เริ่มขมวดเข้าหากัน “ข้าคือจางเสินซวีจากพรรคอีกาทองคำ เ้าน่ะหรือประมุขตระกูลหวัง?”
“จางเสินซวี? เซียนแซ่จาง? ฮะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้หนู เ้าคิดว่าข้าเนี่ยเทียนป้าหูเบาเชื่อคนง่ายอย่างนั้นรึ วันนี้ข้าจะไม่เอาชีวิตเ้า แต่ข้าจะตัดแขนขาทั้งสี่ข้างของเ้าออกมาแขวนไว้บนเชิงเทินเมืองจูเซียน ผึ่งแดดตากลมสิบวันสิบคืน ไอ้หนู ลิ้มรสดาบของข้าหน่อยเป็ไร!” เนี่ยเทียนป้ากู่ร้อง
“ท่านประมุข! อย่า!” เนี่ยจิงหยุนอุทานเสียงหลง
ท่านประมุขเสียสติไปแล้วหรือ? มันคิดจะเอาชีวิตศิษย์พรรคอีกาทองคำเนี่ยนะ? นี่ นี่ท่านตั้งใจจะลากตระกูลเนี่ยลงเหวรึยังไงกัน?
แต่น่าเสียดายที่เสียงะโของเนี่ยจิงหยุนมาช้าไปนิดเดียว ภายใต้คมดาบของเนี่ยเทียนป้า ปราณดาบที่ทรงพลังสุดแสนสายหนึ่งก็พุ่งผ่านอากาศ ตัดทะลุความว่างเปล่า ต้นบอนไซภายในสวนลู่เอนไปตามกระแสลมแรงที่ก่อตัวขึ้น คมดาบนี้พุ่งตรงไปที่แขนของจางเสินซวี เจตนาจะทำให้จางเสินซวีต้องพิการ
ประกายแววตาของจางเสินซวีเปลี่ยนเป็เย็นเยียบ พัดกระดาษขาวหุบลง มือขวาเหยียดออกไปข้างหน้า
“ตูม!”
เกิดเสียงดังสนั่น ฝุ่นควันฟุ้งตลบไปทั่วทิศทาง แต่กลับมองเห็นจางเสินซวีใช้ดรรชนีคู่หยุดปราณดาบของเนี่ยเทียนป้าเอาไว้
“อะ อะไร?” สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
เนี่ยเทียนป้าใจสั่นสะท้าน สามารถใช้นิ้วประกบรับปราณดาบของตนเองได้ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องเป็ผู้ที่อยู่ในขอบเขตดวงธาตุทองคำ! หากหวังเค่อมีลิ่วล้อที่อยู่ในขอบเขตนั้น แล้วมันจะมาหาเลี้ยงปากท้องอยู่ที่เมืองจูเซียนทำซากอะไร? อย่า อย่าบอกนะว่าคนผู้นี้ไม่ใช่คนที่หวังเค่อส่งตัวมา?
“ฮึ่ม!” จางเสินซวีแค่นเสียงเย็นแล้วดีดนิ้วคราหนึ่ง
“ตูม!”
ปราณดาบของเนี่ยเทียนป้าะเิออกกะทันหัน แม้แต่ดาบยาวในมือเองยังแตกกระจายตามไปด้วย เนี่ยเทียนป้าปลิวลิ่วไปชนกำแพงที่ตั้งอยู่ไกลลิบจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
“อั่ก!”
“พรวด!”
เนี่ยเทียนป้ากระอักเืสดออกมาคำโตก่อนจะถูกกองอิฐกลบฝังอยู่ด้านใต้
สีหน้าของประมุขทุกคนแปรเปลี่ยนไป ความตื่นกลัวเข้ามาแทนที่ เนี่ยเทียนป้าก็คือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองจูเซียน แต่มันกลับเอาชนะอีกฝ่ายที่ใช้เพียงแค่สองนิ้วไม่ได้? คน คนผู้นี้คือเซียนจากพรรคอีกาทองคำตัวจริง?
“ท่านประมุข ทะ ทำไมท่านถึงได้กล้าทำตัวเสียมารยาทต่อท่านเซียนเช่นนี้!” เนี่ยจิงหยุนหวาดกลัวสุดจะกล่าว
“เซียนแซ่จางโปรดละเว้นด้วย นี่จะต้อง จะต้องมีเื่บางอย่างเกิดขึ้นแน่ ท่านประมุขของเราให้ความเคารพต่อพรรคอีกาทองคำเป็ที่สุด!” เนี่ยจิงหยุนเร่งคุกเข่าขอขมา
จางเสินซวีเอ่ยเสียงเย็น “ข้าไม่สนความผิดของพวกเ้า ข้าแค่้าพบหน้าองค์หญิงโยวเยว่เดี๋ยวนี้ ไม่งั้นหากข้าเปิดฉากนองเืขึ้นมาก็อย่ามาโทษข้าแล้วกัน!”
ภายในถ้ำนอกเมืองจูเซียน
“องค์หญิงโยวเยว่! จางเจิ้งเต้าบอกว่าขอเพียงข้าช่วยส่งตัวท่านไปยังพรรคเทพหมาป่า์ได้ ข้าก็จะได้กราบเข้าเป็ศิษย์ของพรรคเทพหมาป่า์ถูกหรือไม่? เป็เช่นนั้นใช่ไหม?” หวังเค่อมองดูองค์หญิงโยวเยว่ด้วยแววตาคาดหวัง
“ข้าไม่รู้หรอก ราชวงศ์ของเสด็จแม่พินาศแล้ว ตอนนี้ข้าก็เป็แค่สุนัขเร่ร่อนตัวหนึ่ง ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าพรรคเทพหมาป่า์จะเห็นแก่หน้าข้าหรือไม่! แต่เท่าที่ดูจากการที่ข้าถูกพรรคอีกาทองคำออกรางวัลนำจับโดยที่พรรคเทพหมาป่า์ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แล้ว น่ากลัวว่าจะ น่ากลัวว่าจะ...!” องค์หญิงโยวเยว่ยิ้มเศร้า
น้ำเสียงของนางอัดแน่นไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกแง่ลบ ชัดเจนว่าไม่กล้ารับประกันให้หวังเค่อ
หวังเค่อที่มีเส้นดำพาดผ่านเต็มใบหน้าหันมามองจางเจิ้งเต้าพร้อมกับล้วงเอาพัดที่จางเจิ้งเต้าจำนำไว้ออกมา พัดสีดำปลอดอันนี้ หากหวังเค่ออยู่ที่จวนตระกูลเนี่ยในเวลานี้ละก็ มันจะต้องค้นพบว่าลักษณะลวดลายของพัดสีดำในมือมันถึงกับตรงกันกับพัดสีขาวของจางเสินซวีทุกระเบียดนิ้ว จะต่างก็แค่สีเท่านั้น หวังเค่อพลิกฝ่ามือตั้งท่าจะทำลายพัดอันนี้ให้แหลกคามือ
“อย่านะ นั่นคือของรักของหวงของข้า หวังเค่อ เ้าห้ามทำลายมันเด็ดขาด! ข้าไม่ได้หลอกเ้าจริงๆ!” จางเจิ้งเต้ารีบะโออกมาจนลิ้นแทบพันกัน
[1] อุปมาหมายถึง รีบร้อนออกมาต้อนรับแขกจนใส่รองเท้ากลับข้าง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้