ทันใดนั้นรากของปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์ก็หดตัวกลับมารวมกันทั้งหมดก่อนจะเคลื่อนไหวปิดล้อมตัวเองเป็ชั้นๆ ราวกับเป็รังแล้วห่อหุ้มตัวเองจนดูเหมือน ‘บ๊ะจ่าง’ ก็ไม่ปานดูคล้ายกับลูกทรงกลมขนาดใหญ่กลายเป็คนอ้วนที่ท้องโตมากจนอธิบายไม่ถูก
ในเวลาอันสั้นปรากฏของเหลวสีแดงถูกส่งผ่านกลับขึ้นไปทางรากทีละน้อยๆหลังจากนั้นพลังชีวิตของปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์ก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นน่าสนใจตรงที่เืเนื้อที่ก่อนหน้านี้ได้ดูดกลืนเอาไว้นั้นเอาไปเก็บไว้ในรากที่อยู่ใต้ดินในเวลานี้นั้นสามารถนำกลับมาใช้เป็พลังชีวิตสำรองได้ด้วย
ทักษะการดูดกลืนช่างมาได้เหมาะเจาะกับเวลาเสียจริง
ทองคำราตรีและคนอื่นๆเมื่อพบการเปลี่ยนแปลงขึ้นในเวลานี้ ก็สายเกินไปที่จะหยุดการโจมตีแล้วคงทำได้แค่ปล่อยเลยตามเลยโดยโจมตีตามเดิม ิญญาดาบ คลื่นพลังสีเื คมดาบสายฟ้าร้องคำราม และกำปั้นก็ต่างโจมตีเข้าใส่ปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์ในเวลาเดียวกันเกิดเสียงดังะเืเลื่อนลั่นจนน่าใ พื้นดินสั่นไหวเป็ระลอกปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์เกิดอาการสั่นไหวอย่างรุนแรงเถาวัลย์ฉีกขาดออกจากกันเป็ชิ้นๆ จนดูเหมือนกับเศษผ้าที่ขาดวิ่น
สุดท้ายแล้วดูเหมือนกับว่ามันจะยังคงมีชีวิตอยู่ดูท่าว่าที่บางคนตั้งความหวังเอาไว้ คงจะไม่เป็ไปตามที่หวังเสียแล้ว
แม้ว่าปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์ยังไม่ถูกจัดการแต่สภาพก็ไม่ค่อยดีนัก ร่างกายของมันเต็มไปด้วยาแ เถาวัลย์ส่วนใหญ่ก็หายไปจนเกือบหมดแล้วแต่ดูเหมือนว่าเืนั้นยังไม่ลดลงแต่ตรงกันข้ามกลับเพิ่มขึ้นไปอีก ค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นๆ อย่างช้าๆ จนในที่สุดก็กลับมาอยู่ในระดับ 80,000 หน่วยก่อนจะชะลออัตราการเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆซึ่งในเวลานี้ต่างก็ไม่มีใครรู้ว่ายังมีเืและเนื้อกักเก็บไว้อีกมากแค่ไหน
“โดนโจมตีไปขนาดนี้แล้วยังไม่ตายอีกหรืออย่างนั้นมาเจอกันใหม่อีกรอบ” นกในฤดูใบไม้ผลิข่มความตื่นตระหนกเอาไว้ปราศจากซึ่งความหวาดกลัว ความ้าที่จะต่อสู้ก่อตัวขึ้นมาอย่างเต็มเปี่ยมฮ่า... ฮ่า... เสียงหัวเราะดังขึ้น ขณะที่ร่างกายเริ่มเคลื่อนไหวปรากฏแสงสว่างวาบสีขาวขึ้นบนค้อน ก่อนจะเรียกใช้ ‘งูสายฟ้าเริงระบำ’ อีกครั้ง
ั้แ่ในตอนนั้นจนกระทั่งถึงตอนนี้บรรยากาศรอบตัวของปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์ที่ปล่อยออกมานั้นทั้งกดดันและผันผวนอย่างบ้าคลั่ง เหมือนสิงโตที่กำลังหลับอยู่แล้วถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอย่างกะทันหันความแข็งแกร่งมหาศาลที่ส่งออกมาในชั่วพริบตาทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นรู้สึกเหมือนถูกลอบโจมตีต้นหญ้าที่อยู่ในรัศมี 100 เมตร ก็เหี่ยวเฉาลงเหตุการณ์ในตอนนี้ทำให้ในใจของทุกคนถึงกับสั่นกลัวไม่หยุด
ยอดเขาไท่ซานไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดออกมาก่อนจะถอนสายฟ้ากลับ ในขณะที่กำลังขยับร่างกายของเขาอยู่นั้นเสียงอันดังก็กระจายออกมาให้ได้ยิน
ตูมม...
เถาวัลย์หลายร้อยเส้นพุ่งทะลุออกมาจากพื้นดินและโจมตีใส่ผู้เล่นจำนวนมากราวกับสายฟ้าแลบเถาวัลย์ในเวลานี้ดูไม่ต่างจากงูอนาคอนด้า ในขณะที่เถาวัลย์สะบัดฟาดไปมาอย่างแรงทุกสิ่งที่อยู่ด้านหน้าก็ถูกบดทับจนกลายเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยฝุ่นทรายปลิวฟุ้งไปทั่ว ก้อนหินกระจัดกระจายไปในอากาศก่อให้เกิดแรงกดดันที่น่าทึ่ง
ซึ่งความรู้สึกในตอนนี้นั้นราวกับเจอน้ำป่าไหลหลากก็ไม่ปานมันรวดเร็วจนคนทั่วไปไม่มีเวลาที่จะหนีได้ทัน ในเวลานี้มีแต่เสียงกรีดร้องะโก้องอย่างน่าสลดผู้เล่นนับสิบคนถูกบดขยี้ตายในทันทีกลายเป็เศษเนื้อแหลกเหลวไปกับพื้นไม่รู้ว่ารากขนาดเล็กในดินเริ่มชอนไชขึ้นมาเมื่อไรก่อนจะเริ่มต้นดูดกลืนเืเนื้อของผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นดูไปคล้ายกับหนอนดินสีเื คลานยั้วเยี้ยไปมา ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกชาไปทั้งตัว
โครม...
ผู้เล่นที่ขี่แรดสวมเกราะนั้นหลบไม่พ้นหลังจากถูกเถาวัลย์ฟาดใส่ ทั้งคนและสัตว์ต่างก็ถูกกวาดพุ่งกระเด็นออกไปไกลกว่าสิบเมตรและตกอยู่ในสภาวะมึนงงชั่วขณะ กลุ่มพระอาทิตย์ตกดินมีผู้เล่น 4 คนที่ถูกบดขยี้จนกลายเป็พายเนื้อมีเพียงเมจธาตุดินเท่านั้นที่โชคดีสามารถป้องกันเอาไว้ได้แต่ทว่าพลังชีวิตเกือบหมดลง ก่อนจะกลืนยาเพิ่มพลังกันอย่างรวดเร็วส่วนกิลด์ราตรียิ่งใหญ่นั้นแย่กว่า เหลืออยู่เพียงแค่หกคนเท่านั้นกิลด์์นั้นดีกว่า หลังจากที่ใช้ ‘งูสายฟ้าเริงระบำ’ ก็ส่งผลขึ้นมาเล็กน้อยแต่พวกเขาก็ถูกสังหารไปสองคน เหลือเพียงแค่สามคนเท่านั้นส่วนยอดเขาไท่ซานนั้นดีที่สุด เนื่องจากเขาเคลื่อนไหวได้รวดเร็วจึงรีบหนีออกจากระยะโจมตีของเถาวัลย์ได้ทัน แต่ก็ยังโดนเถาวัลย์กระแทกใส่เนื่องจากปฏิกิริยาตอบสนองได้ไวจึงนำดาบหนามากันไว้ได้ทันแต่ก็ยังถูกเถาวัลย์กระแทกออกไปไกลถึง 20 เมตรเท้าทั้งสองข้างจมลึกลงในดินแต่ก็ไถลออกไปเป็ทางยาว
ดูเหมือนว่าเถาวัลย์ใหญ่ั์จะไม่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องหลังจากโจมตีไปหนึ่งครั้ง ก็เริ่มหดกลับลงไปอยู่ใต้ดินดังเดิม ซึ่งยังเป็โชคดีไม่อย่างนั้นแล้วคงไม่มีผู้เล่นคนใดมีชีวิตรอดกลับไปเป็แน่แต่ถึงอย่างนั้นสถานการณ์ของผู้เล่นในเวลานี้ก็ไม่สู้ดีนัก ปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์นั้นมีเถาวัลย์หลากหลายขนาดมากเกินไปทั้งสั้นยาวทั้งเล็กและใหญ่เต็มไปหมด ถึงจะตัดออกไปเยอะแล้ว แต่ก็ยังเหลืออีกเป็จำนวนไม่น้อยไม่ต่างจากคลื่นที่ซัดเข้ามาลูกแล้วลูกเล่าทั้งกราดเกรี้ยวและทรงพลังอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“พวกเราจะทำอย่างไรกันดี?” เมื่อมองดูเถาวัลย์ที่มีอยู่อย่างมืดฟ้ามัวดินเมจของกิลด์ราตรียิ่งใหญ่ก็มีสีหน้าซีดเผือดเวลาแห่งการถอนตัวนั้นก็ได้ผ่านไปแล้วเสียด้วย
“อดทนไว้สัก5 วินาที” ทองคำราตรีกัดฟันแน่นก่อนจะนำม้วนคัมภีร์เวทออกมาขว้างใส่ปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์เต็มแรงปากขยับร่ายเวท ด้วยการปรากฏขึ้นของม้วนคัมภีร์เวทคลื่นความรุนแรงของเวทได้แผ่ขยายออกมา่เวลาถัดมามีลำแสงสีดำขนาดใหญ่พุ่งกระทบเข้าใส่ลำต้นราวกับแสงจันทร์ซึมผ่านเข้าผิวดิน นุ่มนวลและอ่อนโยนไม่ต่างจากมือของคนรักบริเวณที่ถูกแสงสีดำส่องผ่านก็พลันอันตรธานหายไปอย่างไร้สุ้มเสียงปรากฏเป็โพรงขนาดใหญ่เจาะทะลุลำต้นเผยให้เห็นแสงสว่างส่องทะลุผ่านจากทางด้านหน้าไปสู่ด้านหลังซึ่งมีขนาดเดียวกับลำแสง ก่อนจะสร้างความเสียหายขึ้น 30,000 หน่วยลอยขึ้นมา
“แสงแห่งการกัดกร่อน”
เวทมนตร์ธาตุมืดที่ชั่วร้าย
ใน่เวลาคับขันทุกคนต่างรู้สึกสิ้นหวังนกในฤดูใบไม้ผลิได้ตอบโต้กลับการโจมตีที่รุนแรงที่สุดนั้นด้วย “พายุสายฟ้า”โดยที่มีแสงส่องประกายระยิบระยับสีขาวเจิดจ้าขึ้นที่ค้อนเนื่องจากประกายแสงสว่างจ้ามากเกินไปทำให้ผู้เล่นที่จ้องมองไม่ทันระวังจึงถูกแสงแยงตาจนทำให้น้ำตาไหลอาบแก้มพลังอันน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายไปทั่ว ต่อมาก็มีบอลสายฟ้าขนาดเท่ากำปั้นถูกยิงออกไปบอลสายฟ้านั้นประกอบไปด้วยเสียงฟ้าร้องฟ้าคำราม บนพื้นผิวเต็มไปด้วยริ้วของสายฟ้าฉินโจ้วหรี่ตาจ้องมองแสงนั้น ในใจก็พลันเต้นรัว นี่ต้องเป็รูปแบบที่พัฒนาขึ้นของ‘พายุสายฟ้า’ อย่างแน่นอนอีกอย่างเวลานี้ก็ไม่ใช่เวลาที่เขาควรจะมานึกถึงเื่นี้ด้วยก่อนที่บอลสายฟ้าจะพุ่งเข้าใส่ลำต้นของปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์
ในฐานะที่เป็มอนสเตอร์ระดับบอสปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์นั้นมีประสาทััดีกว่ามอนสเตอร์ระดับทั่วไปทันทีที่รู้สึกได้ถึงการคุกคามก็รีบตอบสนองในทันใดโดยรวบรวมเถาวัลย์ขึ้นมาปกคลุมป้องกันร่างเอาไว้ทำเป็รูปร่างคล้ายกับบ๊ะจ่างอีกครั้ง เพื่อปกป้องตัวเอง เพียงแต่ “พายุสายฟ้า”ครานี้ดูจะไม่ธรรมดาเหมือนก่อน
ตูมม...
พลันเกิดเสียงดังะเืเลื่อนลั่นจนน่าใถึงกับทำให้หูของทุกคนดับไปชั่วครู่ ไม่มีใครได้ยินเสียงอะไรเลยฉินโจ้วรู้สึกว่าพื้นดินเกิดการสั่นะเือย่างรุนแรง จนทำให้หลี่เฟยเกือบจะหล่นโชคดีที่เขาฝึกวิชาตัวเบาสำเร็จมาบ้างแล้ว ทำให้ร่างกายทรงตัวได้มั่นคงเมื่อมองไปทางปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์อีกครั้งมันดูไม่ต่างจากพืชไร่ที่เพิ่งจะโดนพายุฝนพัดกระหน่ำใส่อย่างหนักหน่วงกิ่งก้านและลำต้นนั้นแหลกสลายหายไปถึงหนึ่งในสี่ส่วน ทำให้ดูผอมเพรียวขึ้นเล็กน้อยเปลือกนอกเป็สีดำสนิท และมีกลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง มีเถาวัลย์ร่วงหล่นกระจัดกระจายไปทั่วซึ่งส่วนใหญ่ถูกเผาไหม้เกรียมจนกลายเป็เถ้าถ่าน
แค่การโจมตีอย่างรุนแรงเพียงครั้งเดียววิชาเวทสายฟ้าเป็เวทระดับกลางที่มีความรุนแรงมากกว่าธาตุอื่นซึ่งในเวลานี้ดูเหมือนว่าปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์กำลังเหยียบย่างเข้าสู่ประตูแห่งความตายแล้ว
“หมัดหินผา”
ในขณะที่ทุกคนกำลังขบคิดอยู่เมจธาตุดินเป็คนแรกที่มีการตอบสนอง เมื่อสบโอกาสจึงเริ่มโจมตีด้วยทักษะเวทซึ่งจู่ๆ ก็มีกำปั้นขนาดใหญ่ั์ปรากฏขึ้นกลางอากาศ หนักแน่นราวกับขุนเขาพุ่งผ่านไปด้วยเสียงหวีดแหลม
"ตายซะ"
"ไอ้บ้าเอ๊ย..."
ทองคำราตรีและนกในฤดูใบไม้ผลิเมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็รู้สึกโมโหขึ้นในเวลาเดียวกัน แต่เนื่องจากไม่ได้อยู่ในทิศทางเดียวกันจึงไม่สามารถหยุดยั้งได้ พวกเขาจึงต้องเลือกแผนสำรอง โดยรีบพาตัวเองพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วและปลดปล่อยการโจมตีอีกครั้งโดยหวังว่าจะแย่งชิงสิทธิ์ในการสังหารปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์แต่ทว่าในใจของพวกเขานั้นรู้ดีว่าความหวังนั้นช่างเลือนรางเหลือเกินทองคำราตรีนั้นอยู่ห่างไกลเกินไป ส่วนนกในฤดูใบไม้ผลิเองนั้นก็เพิ่งจะใช้ทักษะ‘พายุสายฟ้า’ ปลดปล่อยพลังเวทออกไปสุดท้ายก็ดูเหมือนว่าจะสายไปสำหรับการแย่งชิงเพื่อขึ้นนำ ในขณะที่ ‘หมัดหินผา’กำลังจะโจมตีเข้าใส่ปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์
คมดาบส่องประกายสว่างมากขึ้นเหมือนรุ้งกินน้ำวิ่งผ่านดวงตะวัน ส่องประกายวาบนั่นคือยอดเขาไท่ซานที่กำลังพุ่งออกมา คมดาบในเวลานี้รวดเร็วเหมือนฟ้าผ่าเวลานี้ถ้าใครมาถึงก่อนก็สมควรได้ไปเมื่อเทียบกับเมจธาตุดินแล้วดูเหมือนว่าจะรวดเร็วกว่าหนึ่งส่วนก่อนจะฟันไปที่ร่างของปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์อย่างรุนแรงหนักหน่วงทำให้เกิดรอยแตกเป็ช่องโหว่ขนาดใหญ่จนน่าใ ภายใต้การโจมตีดังกล่าวปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์เกิดอาการสั่นไหวอย่างรุนแรง ราวกับเป็ลมบ้าหมูเถาวัลย์ที่เหลืออยู่เริ่มโจมตีใส่ทุกทิศทาง ซึ่งดูแล้วรุนแรงยิ่งนักแต่ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่มาก็เป็ผู้มากประสบการณ์แล้วทั้งนั้นเมื่อมองดูก็รู้ว่าเป็การดิ้นรนเฮือกสุดท้ายก่อนที่จะตาย
เมจธาตุดินถึงกับถอนหายใจยาวออกมายังพอมีหวังอยู่ ความกังวลที่มีอยู่ในดวงตาก็เปลี่ยนเป็ความรู้สึกยินดีเป็ไปตามที่คาดไว้ปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์นั้นสามารถทนต่อการโจมตีของยอดเขาไท่ซานได้ไม่อย่างนั้นแล้วทำไมถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา ดูเหมือนว่ายอดเขาไท่ซานจะทำไม่สำเร็จโอกาสของเขาได้มาถึงแล้ว “หมัดหินผา” พุ่งออกไปเป็สายตามหลังคมดาบแสงก่อนจะกระแทกใส่อย่างรุนแรงเข้าที่ลำต้น ปังง...ผู้คนต่างเห็นกำปั้นพุ่งกระทบเข้ากับผิวของลำต้นอย่างจังก่อนจะสังเกตเห็นว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้นเลย ผ่านไปชั่วขณะจึงเห็นปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์เริ่มมีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงเหมือนถูกผลักเอียงไปเป็มุมราว 45 องศากับพื้นดิน สีหน้าบนต้นไม้ดูเหมือนร่ำร้องด้วยความเ็ปถึงแม้ว่าจะไม่มีเสียงออกมาให้ได้ยินก็ตาม แต่ท่าทางที่แสดงความเ็ปนั้นก็ส่งผ่านมาให้ทุกคนได้รับรู้สมกับที่เป็ต้นไม้ปีศาจอย่างแท้จริง
แม้ว่าในใจจะเ็ปแต่อย่างน้อยก็ยังคงมีชีวิตรอด
เมจธาตุดินเองก็มองอย่างไม่เชื่อสายตาว่าปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์กำลังจะตายลมหายใจนั้นยังมั่นคงและยังคงยืนหยัดอยู่ได้ ก่อนจะถอนหายใจด้วยเสียงอันดังรู้ได้เลยว่าเขาได้พลาด่เวลาที่ดีที่สุดไปเสียแล้ว
มันสายไปหน่อยที่จะแสดงอาการโกรธออกมาในเวลานี้แต่สุดท้ายก็กลับเปลี่ยนเป็ความน่ายินดีไปแทนนกในฤดูใบไม้ผลิและทองคำราตรีจึงเริ่มโจมตีอย่างต่อเนื่องใส่ลำต้นของปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์ก่อนที่มันจะปล่อยเถาวัลย์ลงดินไปเป็จำนวนมาก ปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์สั่นเทิ้มไม่หยุดต้นไม้ต้นนี้อยู่มาั้แ่วัยรุ่นจนได้เป็ใหญ่ไม่รู้ว่าเก็บรวบรวมสะสมพลังชีวิตไว้มากมายขนาดไหนจนถึงตอนนี้เวลานี้ดูราวกับว่าเป็หญ้าอ่อนที่กำลังโดนพายุโหมกระหน่ำเถาวัลย์ที่อยู่ใต้ดินกำลังส่งผ่านเืขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพื่อต่อชีวิตให้อยู่รอดด้วยทุกอย่างที่มีอย่างเต็มที่
หลังจากการโจมตีได้ผ่านไปพลังชีวิตของปีศาจต้นอู๋ถงก็เหลืออยู่น้อยนิดราวกับเส้นไหมแต่อย่างน้อยความพยายามก็ยังไม่สูญเปล่า มันยังคงมีชีวิตรอดอยู่ถึงแม้ว่าจะยังอยู่ใน่วิกฤติก็ตามที
สีหน้าของทองคำราตรีและนกในฤดูใบไม้ผลิต่างก็ดูเ็าไม่อยากเชื่อเลยว่า ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะโจมตีร่วมกันแล้วแต่ปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์นั้นก็ยังคงมีชีวิตรอดอยู่ สองวินาทีผ่านไปก็ยังไม่มีการโจมตีใดๆ เกิดขึ้น ในใจของทั้งสองยังคงรู้สึกถึงความท้อแท้
“กิลด์์ขอแรงหน่อย”
ผู้เล่นที่ขี่แรดสวมเกราะยิ้มออกมาเสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจถึงแม้จะบอกว่ามาถึงเร็วก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีเสมอไปเขานั้นเป็คนโจมตีโดยสร้างความเสียหายได้มากที่สุดตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะมีโอกาสแล้ว ก็เลยไม่ได้คิดเอาไว้ในเื่ที่จะได้หรือจะเสียอะไรแล้วแต่์ก็แล้วกัน ์นั้นให้ความยุติธรรมกับทุกคนเท่าเทียมกันเสมอความดีใจที่ถูกเก็บไว้ในใจ ทำให้เขาปลดปล่อยพลังโจมตีที่รุนแรงที่สุดออกมาดาบเืได้เปลี่ยนเป็ลูกธนูขนาดใหญ่ ถูกยิงออกมาจากมือในเวลานี้เมื่อเคลื่อนมาถึงร่างปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์ ทุกๆระยะทางการเคลื่อนที่ไปด้านหน้า สีเืนั้นก็จะเข้มขึ้นพลังของอากาศโดยรอบก็สูงขึ้นด้วยลูกธนูดูเหมือนว่าความหนาจะเพิ่มขึ้นถ้าเืไหลออกมามากขึ้นเมื่อแสงสีแดงสวยสดงดงามเปล่งประกายระยิบระยับก็ดูสุกสกาวยิ่งกว่าพระอาทิตย์เสียอีก ซึ่งวิธีการโจมตีนี้ทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นรู้สึกหนักใจเป็อย่างมาก
ถ้าปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์ยังอยู่ในสภาพปกติก็คงต้องออกแรงสู้ด้วยกันต่อแต่ว่าในเวลานี้ไม่มีใครคิดว่าปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์นั้นจะยังคงมีชีวิตรอดและเมื่อทุกคนคาดว่าผู้เล่นที่ขี่แรดสวมเกราะอาจจะเป็ผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเวลานี้จุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
มีเงาดำถูกยิงออกมาคล้ายกับกระแสไฟฟ้าจากที่ห่างไกลโดยที่ไม่รู้ว่าเป็เงาแบบไหน ซึ่งไม่มีใครจินตนาการออกถึงแม้ว่าความเร็วของผู้เล่นนั้นจะเร็วมาก และยังรวดเร็วยิ่งกว่าสายฟ้าเสียอีกจนไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าได้ทัน
ปลายดาบสีทองส่องประกายวาบก่อนจะพุ่งออกไปในพริบตาเมื่อมองไปที่ปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์ก็ปรากฏมีแสงสีเทาพวยพุ่งออกมานั่นคือแสงแห่งความตาย เมื่อแสงสว่างวาบขึ้นมา ลูกศรเืก็แทงทะลุเข้าใส่ลำต้นซึ่งมันสายเกินไปเสียแล้ว
ทันใดนั้นก็ปรากฏรูปร่างคล้ายกับภูตผีถอยกลับอย่างรวดเร็วทันทีที่ััการเคลื่อนไหวลื่นไหลราวกับเมฆคล้อยวารีไหลรินเมื่อหยิบไอเทมที่ดรอปอยู่บนพื้นได้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าะโขึ้นไปบนต้นไม้เมื่อไรก่อนจะหยุดอยู่บนนั้นชั่วครู่ จากนั้นร่างก็ค่อยๆ ลอยลงมาและวิ่งตรงไปยังที่ห่างไกล ทิ้งไว้เพียงเงาร่างคงอยู่ในอากาศเพียงครู่เดียวก็มาหยุดอยู่ข้างหลี่เฟยอย่างรวดเร็วหลายคนจึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาเป็ใครกัน ก่อนจะพบว่าเป็ฉินโจ้วนั่นเอง
"ไอ้เลวเอ๊ย..."
เขาไม่สามารถทนดูสิ่งที่กำลังจะอยู่ในมือแล้วแต่กลับถูกคนอื่นคว้าเอาไปได้ภายในใจของผู้เล่นที่ขี่แรดสวมเกราะนั้นรู้สึกโกรธเกรี้ยวมากจนอดไม่ได้ที่จะสบถออกมาก่อนจะนำดาบเืกลับคืนมา และพุ่งตรงไปหาฉินโจ้วทันทีเขาเต็มไปด้วยรังสีแห่งความโกรธแค้นที่พวยพุ่งออกมาผู้เล่นที่ขี่แรดสวมเกราะจ้องมองฉินโจ้วด้วยสายตาที่้าแก้แค้นราวกับว่าฉินโจ้วนั้นไปฆ่าล้างครอบครัวและฉกตัวภรรยาของเขาไป
ฉินโจ้วไม่ได้แสดงอาการใดๆในขณะที่แบกหลี่เฟยไว้ในความเป็จริงนั้นเป็การใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายทำให้ยืนหยัดอยู่ได้ใบหน้าของเขาซีดเผือด ถึงแม้ว่า ‘ย่ำหิมะไร้รอย’ นั้นจะทรงพลังมากแต่ระดับเลเวลของเขายังไม่เพียงพอ การใช้งานมากเกินที่จะรับไหวทำให้ร่างกายได้รับผลกระทบ ซึ่งตอนนี้ร่างกายของฉินโจ้วนั้นอ่อนแอเป็อย่างมากแต่ทว่าเขาเองก็ไม่ได้สนใจ เพราะว่าทุกสิ่งที่ทำไปนั้นล้วนคุ้มค่า
ค่าประสบการณ์ของปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์นั้นไม่ได้มากมายเท่าไรนักถึงแม้ว่าจะได้โจมตีปิดฉากในครั้งสุดท้ายก็ตามทีแต่ค่าประสบการณ์ที่ได้ก็ทำให้ฉินโจ้วได้เลื่อนระดับและฉินโจ้วได้เพิ่มหลี่เฟยให้เป็เพื่อนร่วมทีมก่อนที่จะจู่โจมเมื่อทั้งหลี่เฟยและฉินโจ้วอยู่ในปาร์ตี้เดียวกัน ก็ทำให้ได้รับค่าประสบการณ์มากมายเช่นกันซึ่งเหลือไม่ถึงเส้นไหมก็จะเพิ่มระดับได้แล้ว ลดเวลาไปได้อย่างน้อยเกือบสองวัน
ถึงแม้ในเวลานี้ฉินโจ้วนั้นจะอ่อนแอมากแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องเกรงกลัวผู้ใดเขาอัญเชิญอัศวินปฐีออกมาทันทีโดยไม่ต้องกล่าวอะไร ไม่ต้องคำนึงถึงว่าพวกนั้นมันจะเป็แรดเกราะเหล็กหรือไม่ต่อให้มีแรดเกราะเหล็กสามหรือห้าตัวมาพร้อมกันเขาก็มั่นใจว่าจะสามารถจัดการกับพวกมันได้ทั้งหมด
พวกเขาเห็นเพียงเงาสีขาวขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้าพื้นดินที่รับแรงกระแทกจนแตกกระจายออก ลองจินตนาการถึงน้ำหนักว่าจะมากขนาดไหนยังไม่ทันเห็นว่ามันคือสิ่งใด เงาสีขาวก็พุ่งกระแทกกับแรดสวมเกราะอย่างรุนแรงทั้งคู่ก็เป็สัตว์ขนาดั์ ราวกับดาวอังคารพุ่งชนโลกซึ่งการพุ่งเข้าชนนั้นทำให้เกิดการสั่นะเืราวกับแผ่นดินไหว
แคร๊ง...
พลันเกิดเสียงดังะเืเลื่อนลั่นจนน่าใแรงกระแทกส่งผลให้เกิดคลื่นกระแทกกระจายออกไปทั่วบริเวณ เมื่อคลื่นกระแทกผ่านไปทั้งพื้นดินและหญ้าต่างถูกกระชากทิ้งกระเด็น ฝุ่นตลบฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณศูนย์กลางแรงกระแทกทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ลึกประมาณสองเมตร
แรดสวมเกราะถูกดันให้ถอยออกไปถึงสามเมตรบริเวณหัวโดนกระแทกจนมึนงงไปชั่วขณะ ส่วนอัศวินปฐีก็ไม่ได้ดีสักเท่าไรถูกแรงกระแทกออกไปไกลถึงสองเมตร แต่ทว่าดูจากระยะทางแล้ว ถือว่าเราได้เปรียบในรอบแรกอัศวินปฐีเป็ฝ่ายชนะ ทั้งคู่ก็ไม่ต่างจากเหล็กกล้ากับเหล็กการที่มีิัที่หยาบแข็งและกล้ามเนื้อที่ล่ำมากการต่อสู้ดังกล่าวจึงไม่ทำให้เกิดอาการาเ็มากมายนักแต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าพวกมันยังสบายดีอยู่แต่เ้าของแรดสวมเกราะนั้นดูเหมือนกำลังจะยุ่งแล้ว
ได้ยินแต่เสียงกรีดร้องของผู้เล่นเวลาที่บินออกมานั้นเร็วกว่าตอนขามาเสียอีกเขาตกลงมาที่พื้นจากความสูงมากกว่าสิบเมตร กระดูกทั่วทั้งร่างมีเสียงกร๊อบดังลั่นเวลานี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากระดูกหักหรือไม่แต่เขาก็รู้สึกเ็ปและมึนงงไปชั่วขณะ ทว่าพลังชีวิตของเขาคนนี้ก็ไม่ใช่ธรรมดาอัดแน่นไปด้วยความแข็งแกร่ง ก่อนจะกัดฟันลุกขึ้นยืนทันทีในขณะที่กำลังระบุทิศทางอยู่นั้นซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าในเวลานั้นฝูงผึ้งเพชฌฆาตปรากฏอยู่บนท้องฟ้าแล้วยิ่งไปกว่านั้นผึ้งเพชฌฆาตกำลังมุ่งตรงมาหาเขาอีกด้วย ผึ้งเพชฌฆาตนั้นรวดเร็วมากเพียงครู่เดียวเขาก็ถูกรุมล้อมไว้แล้ว
หลังจากนั้นเพียงแค่สามวินาทีก็ได้ยินเสียงร้องะโออกมา ซึ่งทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นถึงกับขนพองสยองเกล้าในขณะที่เขาถือดาบเืควงไปมาสะเปะสะปะอย่างไร้ทิศทางโดยเสียงกรีดร้องนั้นดังต่อเนื่องอยู่ไม่นานนักจู่ๆ ก็หยุดลงร่างแข็งทื่อของเขาก็ล้มลงไปกองกับพื้นไม่ต่างจากท่อนไม้ทั้งตัวมีแต่รอยปูดบวมจนเกือบจะกลายเป็ทรงกลม รูปร่างที่ปรากฏดูไม่ออกว่าเป็ใครหน้าอกหยุดเคลื่อนไหวดูเหมือนจะหยุดหายใจมาสักพักแล้ว เป็เื่ที่น่าเศร้าที่เขาดรอปดาบเืออกมา ถึงแม้ว่าฉินโจ้ว นั้นจะมีชื่อสีแดงก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะดรอปอุปกรณ์ที่มีค่าแบบนี้ออกมาได้ ช่างปาฏิหาริย์เสียจริงแต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นในความคิดของทุกคนก็คือค่าสถานะประจำตัวของชายคนนี้คงจะอยู่ในระดับสุดยอด
เมื่อเ้าของตายแรดเกราะเหล็กก็หายไป
เมจธาตุดินเดิมทีวางแผนว่าจะเข้าใกล้ฉินโจ้วแต่เนื่องจากเขามาช้า เพิ่งจะมาได้ครึ่งทาง ก็พบว่าการต่อสู้ได้จบลงแล้วดังนั้นเขาเองก็ฉลาดพอที่จะหยุดเดิน ก่อนจะมองดูฉินโจ้วก้มหยิบดาบเืขึ้นมาคงมีแต่ ‘นกในฤดูใบไม้ผลิ’ ที่ยังคงเดินต่อ เมื่อเขาเดินมาถึงฉินโจ้วคนของเขาทั้งหมดก็ถูกสังหารไปจนหมดสิ้น แต่ถึงอย่างนั้นต่อให้เหลือเขาเพียงแค่คนเดียวท่าทีของเขายังคงเหมือนเดิม ยังคงหยิ่งผยองอย่างไม่มีใครเทียบ
"เด็กน้อยฟังนะ... ฉันไม่สนหรอกนะว่านายเป็ใคร และฉันเองก็ไม่ได้อยากรู้ด้วยไม่สำคัญว่านายจะมีแบ็คยิ่งใหญ่มาจากไหน ฉันจะบอกนายไว้อย่างหนึ่งใครที่ต่อต้านกิลด์์จบไม่สวยเลยสักคนถึงอย่างนั้นฉันเองก็ไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผล นายทำงาน นายก็ต้องได้รับอะไรตอบแทนบ้างถึงแม้ว่านายจะมาฉกของที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของฉันก็ตามทีซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกโกรธมาก แต่ทว่าถ้านายยังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อล่ะก็ส่งของที่อยู่ในลังนั่นมาซะ ของที่ดรอปออกมาจากปีศาจต้นอู๋ถงกลายพันธุ์นั้นนายสามารถเก็บมันไว้ได้ชิ้นหนึ่ง ส่วนที่เหลือจงส่งมันมาฉันไม่ได้อยากจะข่มขู่นายหรอก แต่นี่เป็วิธีเดียวที่ระดับเลเวล ของนายไม่ต้องลดลงเพื่อที่นายและเพื่อนของนายจะได้ไม่ต้องไปััชีวิตที่สงบสุขของหมู่บ้านโนวิสอีกครั้งนึกถึงระดับเลเวลของหญิงสาวคนนี้บ้าง ฉันคิดว่านายน่าจะฉลาดที่จะเลือกนะ นายเห็นด้วยกับฉันไหม?”
“ถ้าผมตอบว่าไม่ล่ะ”ฉินโจ้วยิ้มอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำขู่ของอีกฝ่ายเลย
“ทำไมคนหนุ่มสาวสมัยนี้ถึงได้พูดอะไรไม่ค่อยจะฟังกันบ้างเลยนะไม่รู้หรืออย่างไรว่าที่ทำอยู่นี่ก็เพื่อตัวนายทั้งนั้น ที่สำคัญฉันน่ะ...“ผู้เล่นใบไม้ผลิได้แต่ทอดถอนใจออกมาด้วยท่าทีที่ไม่ยอมแพ้นั้นทำให้เขาเต็มไปด้วยความโกรธในขณะที่ทุกคนคิดว่าเขากำลังจะพูดอะไรออกมา เขากลับยกค้อนของเขาขึ้นรังสีเริ่มส่องประกายแสงระยิบระยับออกมา
‘งูสายฟ้าเริงระบำ’
‘เขย่าิญญา’
‘เขย่าิญญา’
กระแสลมสีเทาอ่อนจางสายหนึ่งพุ่งเข้าใส่‘นกในฤดูใบไม้ผลิ’ ได้ก่อนที่เขาจะปล่อย ‘งูสายฟ้าเริงระบำ’ ออกมานกในฤดูใบไม้ผลิถึงกับนิ่งค้างไปชั่วขณะ และไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ออกมาฉินโจ้วจึงหยิบมีดสั้นที่ไม่ได้จำกัดอาชีพขึ้นมา ก่อนจะตวัดวาดไปที่คอของ‘นกในฤดูใบไม้ผลิ’
เพียงแค่ตวัดมือเืก็กระเซ็นออกมาเป็สาย
“ถ้าสัตว์เลี้ยงของฉันยังอยู่มีหรือที่นายจะสามารถจัดการฉันได้”ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย เป็คำพูดสุดท้ายก่อนที่นกในฤดูใบไม้ผลิจะตายจากนั้นก็กลายเป็แสงสีขาวกลับไปเกิดใหม่ และมีอุปกรณ์จำนวนหนึ่งหล่นออกมา
ฉินโจ้วเหลือบตาไปมองอย่างคาดหวังแต่กลับรู้สึกท้อใจเล็กน้อยว่าทำไมค้อนมันไม่ดรอปนะทันใดนั้นเองดวงตาก็ส่องประกายวาบขึ้นมาก่อนจะรีบคว้าหมับของบางอย่างขึ้นมาไว้ในมืออย่างรวดเร็วดูเหมือนจะเป็ตุ๊กตาหุ่นเชิดตัวหนึ่ง มีอวัยวะบนใบหน้าครบถ้วนลักษณะยืดหยุ่นได้คล้ายกับมีชีวิต
ตุ๊กตาแทนตัว: เวลาใช้ให้หักทำลายใน่เวลาฉุกเฉินสามารถรับการโจมตีที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตแทนได้
ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังไม่มีตุ๊กตาแทนตัววางขายในตลาดสำหรับสิ่งนี้ฉินโจ้วเพียงแค่ได้ยินมาเท่านั้น แต่ยังไม่เคยเห็นตัวจริงมาก่อนเลยรู้เพียงแต่ว่ามีราคาค่อนข้างสูงมาก และหาซื้อไม่ได้ในตลาด เป็ของที่มีค่ามากสมบัตินี่มันเป็สุดยอดสมบัติอย่างไม่ต้องสงสัยต่อไปสิ่งนี้มูลค่าจะพุ่งเร็วกว่านี้เมื่อนำไปเทียบกับทองคำถ้าข่าวลือนี้แพร่กระจายออกไปช่องว่างที่เอาไว้เก็บยาน้ำเพิ่มพลังทั้งหลายคงจะดีกว่าถ้าเอาไว้ใส่ตุ๊กตาแทนตัว
ช่างน่าเห็นใจ‘นกในฤดูใบไม้ผลิ’ ยิ่งนัก ในมือของตุ๊กตาแทนตัวนั้นว่างเปล่าน่าเสียดายที่ร่างกายหยุดนิ่งค้าง ทำให้ไม่สามารถเรียกใช้งานตุ๊กตาแทนตัวได้ผลสุดท้ายสมบัติก็ได้สูญสลายหายไป ฉินโจ้วเองก็รู้สึกหวาดกลัวไปชั่วขณะแต่โชคดีที่ ‘เขย่าิญญา’ สามารถใช้ได้กับทั้งภูตผีและิญญา ถ้าเป็เวทชนิดอื่นหรือถ้าหากไม่ได้คิดคำนวณอย่างถี่ถ้วน ผลอาจจะกลายเป็ล้มคว่ำไม่เป็ท่าก็เป็ได้
เมามายซบตักสาวงามนายล้างคอรอฉันไว้ได้เลย เื่ระหว่างเรายังไม่จบเพียงแค่นี้แน่ทองคำราตรีพูดจบก็ดีดนิ้วเรียกใช้ม้วนคัมภีร์เวทกลับเมืองก่อนจะนำคนของเขากลับไปด้วย
ฉินโจ้วหัวเราะเยาะแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
นายเจ๋งดีนี่นาผมชื่อ ‘นกราตรี’ ถ้ามีโอกาสคงได้พบกันใหม่ผู้ใช้เวทธาตุดินเดินตรงเข้ามาหากำหมัดประสานมือแสดงความเคารพให้กับฉินโจ้วและเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ฉินโจ้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาทันใดนั้นเมื่อหันหลังกลับไปมอง ก็พบว่ายอดเขาไท่ซานนั้นไม่รู้ว่าจากไปั้แ่เมื่อไร
เข้าใจแจ่มแจ้งไม่แสร้งทำ ต้องลงมือเด็ดขาด กล้าตัดสินใจไม่แปลกใจเลยถึงได้กลายเป็ผู้เชี่ยวชาญได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้