เมื่อเฟิ่งเฉี่ยนพูดว่าจะลองฝ่าด่านเสาดอกเหมย โจวเซี่ยนเต็มไปด้วยความดูแคลน อาศัยนางจะฝ่าค่ายกลธนูของเสาดอกเหมย? ช่างไม่ประมาณตนโดยแท้!
หลังจากนางแสดงอาวุธป้องกันตัว เขาถึงกับแค่นเสียงฮึขึ้นจมูก ปักใจเชื่อแน่นอนแล้วว่านางรนหาที่ตาย มีคนรีบไปหาที่ตาย เหตุใดเขาต้องห้ามด้วย
คนน้อยลงหนึ่งคน การแย่งชิงย่อมลดลงไปด้วย!
อีกทั้งในสายตาของเขาแล้ว นางไม่นับเป็คู่ต่อสู้ของเขาด้วยซ้ำ!
ทว่า วินาทีที่นางเหยียบขึ้นไปบนเสาดอกเหมย บุคลิกของนางเปลี่ยนไปทันที!
คล้ายกระบี่โบราณพันปีเล่มหนึ่งที่ถูกดึงออกจากฝักครั้งแรกเพื่อกะเทาะฝุ่นเขรอะที่เกาะมาเป็เวลานับพันปี!
ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร ปิดบังอย่างไรก็ปิดบังไม่อยู่!
ต่อมา นางเคลื่อนไหวแล้ว
ก้าวแรกที่นางเดินนั้นสุดแสนจะธรรมดา ก้าวไปทางมุมบนขวาหนึ่งก้าว จากนั้น สิ่งประหลาดมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น...
วินาทีถัดมา ร่างของนางพลันปรากฏขึ้นบนมุมซ้ายบนของเสาดอกเหมย!
สีหน้าไม่แยแสของโจวเซี่ยนในคราแรก ทั้งแค่นเสียงขึ้นจมูก กระทั่งสุดท้ายสงสัยและตกตะลึง มาถึงปากอ้าตาค้าง!
กระดูกสันหลังของเขาเหยียดตรง มือทั้งคู่ที่กำเป็หมัดแน่นสั่นเทิ้ม เขาค่อยๆ กลั้นลมหายใจ กระทั่งเกือบจะหมดลมหายใจ!
“นี่...นี่เป็ไปได้อย่างไร?”
นี่ไม่ได้เป็เพียงเสียงในใจของเขาเท่านั้น แต่เป็เสียงร้องในใจของท่านหญิงชิงเสียเช่นกัน!
นี่...นี่จะเป็ไปได้อย่างไร?
นางมิใช่คนที่ไม่เอาถ่านที่สุดของสกุลเฟิ่งหรือ?
นางมิใช่ฮองเฮาที่หน้าอกใหญ่ไร้สมองเท่านั้นหรือ?
นางเปลี่ยนตัวเองให้ร้ายกาจเช่นนี้ั้แ่เมื่อใด?
หนึ่งในห้าส่วน หนึ่งในสี่ส่วน หนึ่งในสามส่วน...
อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว นางเดินฝ่าด่านเสาดอกเหมยไปหนึ่งในสามส่วนแล้ว เสมอกับที่โจวเซี่ยนทำได้ แต่นางยังคงเดินหน้าต่อไปอีก...
โจวเซี่ยนถึงกับหน้าเขียวคล้ำทันที ท่านหญิงชิงเสียทำได้ดีกว่าเขานั้นช่างเถิด อย่างไรก็เป็บุตรีแม่ทัพ ฝึกยุทธ์มาั้แ่เล็ก แต่สตรีนางนี้เป็สตรีที่โผล่มาจากที่ใดก็ไม่รู้ ในมือยังถือกระทะและจวักรูปร่างประหลาด ถึงกับทำได้ดีกว่าเขาเช่นกัน!
หรือที่เขาทำได้มันง่ายดาย ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ดีกว่าเขาหรือ? เขาเริ่มสงสัยตนเอง
ดวงตาทั้งคู่ของท่านาุโเฉินเบิกกว้าง “นี่เป็ไปได้อย่างไร นางถึงกับทำลายสถิติของโจวเซี่ยน?”
ท่านาุโเหลียนพูดด้วยน้ำเสียงสุขุม “สถิติของโจวเซี่ยนได้ถูกท่านหญิงชิงเสียทำลายไปั้แ่เมื่อก่อนหน้านี้แล้ว”
ท่านาุโเฉินมีสีหน้าแข็งค้าง
ท่านาุโกู่มีสีหน้ายินดีปรีดา เขาถูมือทั้งสองข้าง “เ้าเด็กคนนี้ไม่เหมือนคนอื่นจริงๆ! ท่องตำราเก่งกาจ ฝ่าด่านก็เก่งกาจ! ข้ารู้อยู่แล้วว่าลำพังค่ายกลธนูของเสาดอกเหมยทำอะไรนางไม่ได้”
ท่านาุโเฉินกลอกตาขาว ตาเฒ่าหน้าไม่อาย ไฉนเมื่อสักครู่ไม่พูดเช่นนี้เล่า!
ในลูกแก้วคริสตัล การบุกฝ่าด่านยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ
หนึ่งในสามส่วน หนึ่งในสองส่วน สองในสามส่วน...
ชั่วพริบตา เฟิ่งเฉี่ยนฝ่าด่านเสาดอกเหมยไปได้สองในสามส่วนแล้ว นี่เป็สถิติที่ท่านหญิงชิงเสียทำไว้เมื่อก่อนหน้านี้!
หากมิใช่เป็เพราะโจวเซี่ยนลอบโจมตีนาง ไม่แน่ว่านางอาจจะฝ่าด่านสำเร็จไปแล้วก็ได้ ท่านหญิงชิงเสียกำหมัดแน่นปาดเหงื่อแทนนาง
แม้ขณะนั้นนางจะถูกผู้อื่นลอบโจมตีจึงต้องถอยร่นกลับมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่พูดจริงๆ แล้วหากนางสามารถฝ่าด่านต่อไปในใจนางเองก็ไม่มั่นใจนักว่าจะฝ่าด่านไปได้ เพราะยิ่งใกล้จุดหมายค่ายกลธนูยิ่งรุนแรงขึ้น หากไม่มีพละกำลังและความว่องไวที่เพียงพอย่อมไม่อาจฝ่าด่านออกไปได้!
นางจะทำสำเร็จหรือไม่?
ท่านหญิงชิงเสียอดที่จะกังวลใจแทนนางไม่ได้
ย่างก้าวของเฟิ่งเฉี่ยนพลันเปลี่ยนไปในตอนนี้เอง นางไม่เพียงแต่ไม่ได้เร่งความเร็วมากขึ้น แต่กลับผ่อนให้ช้าลง
ท่านหญิงชิงเสียสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ นางเสียสติไปแล้วใช่หรือไม่ เวลานี้ไม่เร่งความเร็ว แต่กลับช้าลงเพื่ออะไร?
ต่อมาเมื่อนางเห็นกระทะและจวักในมือของเฟิ่งเฉี่ยนสลับกันไปมาเพื่อต้านรับธนูอย่างทันท่วงที ราวกับนางจับทางอะไรบางอย่างได้ ดวงตาที่มองเฟิ่งเฉี่ยนทอประกายวาบ
ไม่เสียแรงที่นางเป็อัจฉริยะ!
นางถึงกับจับจังหวะของค่ายกลธนูได้ในระยะเวลาอันสั้น!
ค่ายกลธนูนี้เหมือนเด็กน้อยนิสัยดื้อรั้นคนหนึ่ง พยศอย่างที่สุด ชอบที่จะเป็ปฏิปักษ์กับเ้า!
เ้าช้าข้าเร็ว เ้าเร็วข้าช้า!
เรือนจินเฟิง ท่านาุโเหลียนอ้าปากกว้าง ดวงตาเบิกโต “นาง...นางถึงกับทำลายสถิติที่ท่านหญิงชิงเสียทำไว้เมื่อสักครู่แล้ว!”
สีหน้าของท่านาุโเฉินไม่ได้ดีกว่ากันสักเท่าใดนัก “นางคงไม่ได้ฝ่าด่านสำเร็จจริงๆ หรอกนะ?”
ท่านาุโกู่พูดต่อทันที “นั่นแน่นอนอยู่แล้ว! นางฝ่าด่านไม่สำเร็จ หรือจะให้ศิษย์รักของเ้าฝ่าด่านสำเร็จหรือ? ข้าบอกแต่แรกแล้วว่านางเป็อัจฉริยะคนหนึ่ง!”
ท่านาุโเฉินโมโหฟึดฟัด “คำพูดนี้พูดเร็วเกินไปหรือไม่ ในเมื่อยังไม่แน่เลยว่าจะฝ่าด่านได้สำเร็จ!”
ท่านาุโกู่มองเข้าไปในลูกแก้วคริสตัล เฟิ่งเฉี่ยนพลันเปลี่ยนย่างก้าวผ่อนให้ช้าลง เขาถึงกับตกตะลึง “เ้าเด็กคนนี้กำลังทำอะไรอยู่? เล่นกับไฟหรือ?”
รองอาจารย์ใหญ่กลับส่ายหน้าพร้อมกับลูบคางสองชั้นอวบอิ่มนั้น เขาพูดยิ้มๆ “นางมิได้กำลังเล่นกับไฟ ในทางตรงข้ามนางฉลาดเฉลียวมาก นางค้นพบเคล็ดลับที่จะฝ่าด่านออกไปได้แล้ว!”
“เคล็ดลับในการฝ่าด่าน?” ท่านาุโกู่นั้นอยู่ในหอตำรามาเป็เวลานานปีจึงไม่ค่อยกระจ่างแจ้งเกี่ยวกับด่านต่างๆ ในหอดอกเหมย ทว่าท่านาุโเฉิน ท่านาุโเหลียนและท่านาุโฉินทั้งสามท่านกลับคุ้นเคยดี
สาเหตุที่ค่ายกลธนูของเสาดอกเหมยยากที่จะฝ่าด่านเป็เพราะกลไกของพวกมันล้วนถูกออกแบบให้สวนทางกัน คนธรรมดามักจะฝ่าด่านตามหลักการปกติและทฤษฎีทั่วไป เมื่อค่ายกลธนูช้าลงก็จะไม่ลนลาน หากค่ายกลธนูรวดเร็วก็จะพยายามอย่างยิ่งที่จะพุ่งไปข้างหน้า แต่การทำเช่นนี้มีแต่จะทำให้ตกลงไปในกับดักของกลไก!
เ้าบุกเข้ามายิ่งเร็ว พายุธนูก็จะยิ่งถี่และเร็ว เ้าบุกเข้ามาช้าลง พายุธนูก็จะถูกปล่อยออกมาช้าลงด้วย
เหมือนเช่นตอนนี้ เฟิ่งเฉี่ยนผ่อนฝีเท้าให้ช้าลง การยิงพายุธนูก็จะช้าลงไปพร้อมกันด้วย
ท่านาุโเหลียนถอนใจยาวเหยียด “บางทีท่านาุโกู่อาจพูดถูก นางเป็อัจฉริยะคนหนึ่งจริงๆ!”
อีกด้านหนึ่งของลูกแก้วคริสตัล เฟิ่งเฉี่ยนฝ่าด่านไปอย่างมั่นคง แต่ละก้าวล้วนมีการไตร่ตรองวางแผนอย่างดี คนทั้งหมดล้วนกลั้นลมหายใจ เห็นกับตาว่านางก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวกระทั่งสุดทางของเสาดอกเหมย
ภายในหอดอกเหมยเงียบสงัด!
ได้ยินเพียงเสียงพายุธนูที่ส่งเสียงฟิ่วๆ และเสียงธนูร่วงลงสู่พื้น...
ฟิ่ว! ฟิ่ว!
ฉึ่ก! ฉึ่ก!
หลังจากนั้นเนิ่นนาน ทุกคนจึงทยอยกันได้สติกลับคืนมา
ผ่านแล้ว นางผ่านด่านแล้ว
พวกเขาสามคน คนหนึ่งเป็ศิษย์ที่โดดเด่นของสำนักศึกษา อีกคนหนึ่งเป็บุตรสาวจากครอบครัวแม่ทัพ มีเพียงนางคนเดียวที่ไม่รู้ที่มาที่ไป แต่กลับเป็คนแรกที่ฝ่าด่านสำเร็จ ช่างเป็เื่มหัศจรรย์!
แปะ!
ขวดยาสมานแผลในมือของโจวเซี่ยนร่วงลงบนพื้น
พรู่ววว!
ท่านหญิงชิงเสียพรูลมหายใจโล่งอกยาวๆ เฮือกหนึ่ง
ผ่านแล้ว นางผ่านด่านแล้วในที่สุด!
นางหัวเราะเบาๆ ไม่รู้เพราะเหตุใดนางเห็นเฟิ่งเฉี่ยนผ่านด่านแล้วกลับรู้สึกดีใจกว่าตัวเองผ่านด่านเสียอีก
ราวกับนางได้ลืมไปแล้วว่า ตอนนี้พวกนางเป็คู่ต่อสู้กัน ดอกเหมยสีทองมีเพียงดอกเดียว สุดท้ายแล้วผู้ที่สามารถรั้งอยู่ในสำนักศึกษาเป็อาจารย์ต่อไปมีได้เพียงคนเดียว!
เรือนจินเฟิง ท่านาุโทั้งหลายต่างมองหน้ากันไปมา
ผ่านแล้ว นางผ่านด่านแล้วจริงๆ!
ศิษย์สองคนที่พวกเขาต่างเห็นว่าเป็หน่วยก้านที่ดีล้วนไม่ผ่านด่าน กลับเป็นางที่เป็แขกไม่ได้รับเชิญผ่านด่านสำเร็จเป็คนแรก นี่มันช่างเย้ยหยันกันเกินไปแล้ว!
เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของคนอื่นๆ แล้ว ท่านาุโกู่หัวเราะจนตายิบหยี “ข้านับถือสายตาของข้าจริงๆ ไฉนจึงมีสายตาแหลมคมเช่นนี้?”
ท่านาุโเฉินกลอกตาขาวใส่ทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้