หนิงเจียวเริ่มควบคุมสติตนเองไม่ได้ อารมณ์แห่งความปรารถนาเริ่มจู่โจมนางอย่างหยุดยั้งเอาไว้ไม่อยู่ มือขาวราวหยกงามค่อย ๆ ยื่นไปัักับแผงอกที่แน่นบึกบึนของคนร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะค่อย ๆ ลูบไล้จนต่ำลง ต่ำลง
อุ๊ย!!! อุ๊ย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
มันช่าง? มันช่าง ใหญ่เสียเหลือเกิน ใหญ่เสียจนมือน้อย ๆ ของนางยังกำได้ไม่รอบ
สวีจิ้งเทียนหรี่ตามองมือขาวเนียนของหนิงเจียวที่กำลังลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่ที่หว่างขาของเขาด้วยรอยยิ้มเ้าเล่ห์ เขาผละออกจากริมฝีปากของหนิงเจียว ก่อนจะผลักนางให้ล้มลงไปนอนบนเตียง
สวีจิ้งเทียนปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาออกจนหมด ก่อนจะเดินตรงมาที่หนิงเจียว แท่งัผงาดที่ถูกปลุกขึ้นมา กำลังชี้โด่เด่มาที่ใบหน้าของหนิงเจียว
เอื๊อก!!!
หนิงเจียวลอบกลืนน้ำลาย แต่ยังคงไม่ไว้วางใจ นี่เขากำลังคิดจะหลอกให้นางเกิดความ้า แล้วก็หันไปช่วยตนเองที่หน้ากระจกต่อใช่หรือไม่?
สวีจิ้งเทียนมองหนิงเจียวด้วยแววตาราวกับหมาป่าเ้าเล่ห์ที่จ้องมองแกะน้อยผู้ตกเป็เหยื่อ
"วันนี้เ้าค่อนข้างควบคุมอารมณ์ต่อหน้าบ่าวไพร่ได้ดี คืนนี้ข้าจะให้รางวัลเ้า ให้เ้าเล่นกับมันได้ทั้งคืน"
หนิงเจียวยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย แต่ในใจของนางกำลังเต้นระรัวเร็ว
"อย่าได้คิดว่าข้ามีใจให้เ้าเชียว ข้าแค่ให้รางวัลเพราะความสมเพชก็เท่านั้น"
หนิงเจียวลอบเบ้ปากอยู่ในใจรอบที่หนึ่งร้อยเก้าสิบเก้า
หึ!!! มาคอยดูว่าใครจะน่าสมเพชมากกว่ากัน
"ท่านแน่ใจนะเ้าคะ ว่าคืนนี้จะให้ข้าเล่นกับัผงาดได้ทั้งคืน"
"แน่นอนข้าพูดคำไหนคำนั้น หากเ้าเล่นกับมันแล้วทำให้ข้ารู้สึกไม่ชอบใจ เ้าก็จะได้ดูแต่ไม่มีวาสนาได้จับมันเหมือนเดิม"
หึ!!! เลี่ยมทองคำหรือไงคะพ่อคุ้ณณ!!!
"เอาเลยสิ!!! ชักช้าข้าเปลี่ยนใจไม่รู้ด้วยนะ โอ๊ะ!!!"
หนิงเจียวดึงแขนสวีจิ้งเทียนเข้าหาตัว ก่อนจะผลักเขาให้นอนราบลงบนเตียง ดวงตางามสอดส่องจนพบเข้ากับเชือกสองเส้น นางจึงเดินไปหยิบมันมาด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก ก่อนจะเริ่มมัดแขนทั้งสองข้างของเขาผูกติดกับหัวเตียงเอาไว้
สวีจิ้งเทียนก็ไม่รู้ว่าถูกปีศาจตนใดเข้าสิง เขานอนมองนางผูกแขนเขาติดกับเตียงด้วยแววตาเ้าเล่ห์
เชือกแค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอกหนิงเจียวเอ๋ย!!!
"เ้าก็ดูเป็สตรีเรียบร้อย เหตุใดจึงชอบเล่นรุนแรงเช่นนี้เล่า"
"ต้องผูกไว้เพื่อป้องกันท่านดิ้นทุรนทุรายแล้วร่วงหล่นลงมาจากเตียงเ้าค่ะ"
"ปากดีไปเถิด หากทำให้ข้ารำคาญ ทำเื่ไร้สาระหวังปลิดชีพข้า ข้าจะฆ่าเ้าทิ้งเสีย"
หนิงเจียวค่อย ๆ นั่งลงที่ข้างกายสวีจิ้งเทียน มือเรียวงามลูบไล้ที่ใบหน้าของเขาอย่างหลงใหล นางไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าสวีจิ้งเทียนเป็ผู้ชายในอุดมคติของนาง
มือน้อยลูบไล้ลงมาที่แผ่นอกกว้างล่ำสัน ก่อนจะค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงไป ใช้ริมฝีปากบางขบเม้มบริเวณใบหูของเขาอย่างเอาแต่ใจ ก่อนจะกระซิบแ่เบาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
"พร้อมหรือยังเ้าคะ?"
เสียงอันหวานละมุนที่เชิญชวนของหนิงเจียว ทำให้สวีจิ้งเทียนเผลอพยักหน้าคล้อยตามอย่างว่าง่าย
หนิงเจียวจูบไล้ลงมาบริเวณซอกคอของสวีจิ้งเทียน แล้วจึงลุกขึ้นไปนั่งทับบนกายของเขา นางโน้มใบหน้าลงไปและใช้ริมฝีปากครอบลงไปเลียเม็ดทับทิมสีชมพูที่อยู่ตรงแผงอกของเขาอย่างนุ่มนวลและขบเม้มมันอย่างพึงพอใจ ก่อนจะค่อย ๆ จูบโลมเลียลงมาเรื่อย ๆ จนถึงท้องน้อยของเขา
"โอว์!!! อ่าห์!!!"
สวีจิ้งเทียนไม่เคยัักับความเสียวซ่านเช่นนี้มาก่อน ทำให้ขนลุกชูชันกระสันเป็อย่างยิ่ง
หนิงเจียวมองแท่งัผงาดด้วยหัวใจที่สั่นระรัว นางใช้สองมือลูบไล้มันไปมา ก่อนจะค่อย ๆ รูดขึ้นและลง ราวกับมันคือของเล่นชิ้นโปรดของนาง หลังจากนั้นก็ใช้ลิ้นร้อนโลมเลียที่บริเวณหัวัของเขา ดูดเม้มตรงหัวของมันเบา ๆ ด้วยความสำราญใจ
"อ่าห์!!! หนิงเจียว โอ่ว์!!! ข้าเสียวเหลือเกิน"
หนิงเจียวนึกยิ้มเยาะในใจ นี่เพิ่งจะเริ่มต้นก็ครวญครางราวกับถูกเชือดเสียแล้ว คืนนี้แหละท่านจะได้พบกับเครื่องจักรสังหารั!!!
นางครอบปากลงไปอีกครั้ง ก่อนจะขยับศีรษะขึ้นลงเป็จังหวะที่ช้า ๆ เนิบนาบ มือเรียวงามก็รูดแท่งัขึ้นลงไปพร้อมกัน จากที่รูดขึ้นลงอย่างช้า ๆ ก็เริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้น เร็วขึ้น
"โอว์ อ่าห์ เสียว!!! ข้าเสียวเหลือเกิน ซี้ดดด!!!"
หนิงเจียวขยับหัวขึ้นลงด้วยความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม มือข้างหนึ่งก็ยื่นไปบดขยี้และเขี่ยเม็ดทับทิมที่แผงอกของเขาเพื่อเพิ่มอารมณ์ ส่วนมืออีกข้างก็จับแท่งัรูดขึ้นลง
สวีจิ้งเทียนมือเท้าบิดเกร็ง ก่อนจะเด้งเอวสวนขึ้นมา ทำให้แท่งัผงาดดุนดันเข้าลึกไปในลำคอของนาง แต่หนิงเจียวก็ไม่ยอมอ่อนข้อ นางยิ่งขยับศีรษะขึ้นลงเร็วแรงมากขึ้น
"อื้ออออ!!! หนิง อ่าห์!!! เจียว ข้าเสียวมาก ๆ!!!"
หนิงเจียวถอนริมฝีปากออกจากแท่งัผงาดเพื่อพักหายใจ นางลากลิ้นเลียลงไปที่ไข่ัสองลูกด้านล่าง และครอบปากดูดเ้าไข่ัสองลูกนั้นอยากหยอกล้อ
"โอว์!!! ข้าเสียวเหลือเกิน ซี้ดดด!!!"
สวีจิ้งเทียนดิ้นพล่าน บิดกายไปมาจนผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่ไปหมด
หนิงเจียวเลื่อนใบหน้าขึ้นมา ใช้ริมฝีปากครอบลงไปที่แท่งัผงาดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะขยับศีรษะขึ้นลงอย่างรัวเร็ว จนสวีจิ้งเทียนร่างกายกระตุก มือเท้าเกร็งด้วยความเสียวซ่าน นางดูดที่หัวัค้างเอาไว้เพื่อให้แน่ใจว่าพิษของมันใกล้จะออกมาให้นางได้ลองชิมแล้ว
น้ำหวานสีขาวขุ่นไหลล้นทะลักออกมานอกริมฝีปากของหนิงเจียว นางกลืนมันลงคออย่างไม่รังเกียจ ก่อนจะลุกขึ้นมานั่ง ใช้มือน้อย ๆ ปาดน้ำหวานสีขาวขุ่นของสวีจิ้งเทียนที่เลอะขอบปากมาดูดกินอย่างหน้าตาเฉย
สวีจิ้งเทียนเหนื่อยหอบหมดแรงเป็อย่างยิ่ง เขาไม่เคยเสียวกระสันจนสุดยอดเช่นนี้มาก่อนเลย หนิงเจียวมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปแก้ปมเชือกที่มัดเขาเอาไว้ ปล่อยให้เขาหลุดจากพันธนาการแห่งความเสียวซ่านในครั้งนี้
"เ้าช่างเก่งกาจยิ่งนัก!!!"
"ขอบคุณที่ชมเ้าค่ะ ต่ออีกรอบมั้ยเ้าคะ"
"ข้าขอพักสักครู่"
"จะพักทำไมเ้าคะ? ของแบบนี้ต้องทำต่อเนื่องนะเ้าคะ"
"หึ!!! ข้าไม่แปลกใจเท่าใดเลย สตรีเช่นเ้าที่แสร้งทำเป็ไร้เดียงสา แต่เวลาอยู่บนเตียงก็ใจกล้าไม่น้อย แท้จริงแล้วเ้าอาจจะเคยผ่านมือชายอื่นมาก็ได้ใครจะไปรู้!!!"
เพียะ!!!
หนิงเจียวฟาดฝ่ามือลงไปที่ใบหน้าของเขาอย่างเต็มแรง สวีจิ้งเทียนมองหนิงเจียวด้วยสายตาเย็นเยียบ
"อย่ามาดูถูกข้า"
"ข้าก็ไม่ได้ดูผิดไปนี่?"
"คราวหลังไม่ต้องมาให้ข้าทำเื่อย่างว่าเช่นนี้กับท่านอีก คิดแล้วขยะแขยง!!!"
"ทำไม!!! ข้าเป็สามีของเ้า!!! ข้าจะให้เ้าทำสิ่งใดเ้าก็ไม่มีสิทธิ์มาปฏิเสธข้า!!!"
"เจ็บนะเ้าคะ!!!"
หนิงเจียวจ้องสวีจิ้งเทียนอย่างไม่ละสายตา เขาจับนางเขย่าจนนางรู้สึกเวียนหัวไปหมดแล้ว
"เจ็บหรือ? ตอนที่ัผงาดของข้ากระแทกเข้าไปในลำคอของเ้า ไม่เห็นเ้าจะบ่นว่าเจ็บ!!!"
"ก็ตอนนั้นข้ากำลังสนุกนี่เ้าคะ แล้วยิ่งเห็นท่านครวญคราง อ่าห์ โอว์ ซี้ดดด ข้าเสียวมาก!!! ข้าก็เลยคล้อยตามเ้าค่ะ"
หนิงเจียวพูดออกไปทั้งที่สีหน้าไม่เปลี่ยน แต่ทว่าคนที่ใบหน้าแดงซ่านกลับกลายเป็สวีจิ้งเทียน
"ข้าก็แค่ร่วมแสดงละครไปกับเ้าก็เท่านั้น"
"แสดงเก่งมากเ้าค่ะ ครางเสมือนจริง!!!"
"หนิงเจียว!!!"
"ใส่เสื้อผ้าเถิดเ้าค่ะ เกิดบ่าวไพร่มาเห็นจะนินทาเอาได้"
"ใครจะกล้าเข้ามา ดึกดื่นเช่นนี้ มีแต่เ้านั่นแหละ ที่จ้องมันไม่วางตา!!!"
หนิงเจียวคร้านที่จะโต้เถียงกับเขาแล้ว คนโรคจิต เถียงข้าง ๆ คู ๆ นางเถียงเขาไปก็ไม่มีวันชนะ
"เ้าจะไปไหน?"
"อาบน้ำเ้าค่ะ พิษัของท่านมันเลอะตัวข้าหมดแล้ว อีกอย่างนะเ้าคะ ท่านกินเนื้อให้น้อยลง กินผลไม้เช่นสับปะรดให้มากหน่อย มันจะได้ไม่คาว เพิ่มความหวานอีกด้วยเ้าค่ะ"
สวีจิ้งเทียนขมวดคิ้วด้วยสายตาไม่เข้าใจ หนิงเจียวไม่อยากจะสนใจเขาอีกนางจึงเดินไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์
รู้สึกเจ็บคอจัง คนเลว!!! กระแทกสวนเข้ามาได้จนมิดด้าม!!!
รุ่งเช้าที่แสงอาทิตย์สาดส่อง วันนี้เป็วันพักผ่อนของสวีจิ้งเทียน หลังจากเขาลุกไปฝึกวิทยายุทธ์ที่สวนยามเช้าแล้ว ก็กลับมารับสำรับเช้าที่หนิงเจียวจัดเตรียมเอาไว้ให้
"ฮูหยินน้อยเ้าคะ เมื่อคืนได้ยินเสียงประหลาดหรือไม่เ้าคะ?"
"หืม เสียงอะไรรึ?"
หนิงเจียวหันไปถามไป๋เฉียน ที่กำลังจัดสำรับให้นาง
"ก็เมื่อคืนน่ะสิเ้าคะ บ่าวได้ยินเสียงร้องเ้าค่ะ"
"ร้องยังไง?"
"โอววว โอววว เสียงเหมือนมาจากโรงฆ่าสัตว์ใกล้ ๆ นี่เ้าค่ะ แต่่นี้ก็ไม่มีใครเขาฆ่าสัตว์กันนะเ้าคะ"
"เ้าคงหูฝาดแล้ว"
"ไม่ฝาดเ้าค่ะ มีเสียง ซี้ดดด!!! อ่าห์ เหมือนเสียงวัวถูกเชือดเ้าค่ะ"
"แค่กแค่ก!!!"
สวีจิ้งเทียนสำลักข้าวจนไอออกมา หนิงเจียวรีบเดินเข้าไปตบหลังเขาทันที เขาหันไปมองไป๋เฉียนด้วยสายตาอำมหิต
"วัวบ้านเ้าสิร้องอุบาทว์เช่นนั้น!!! ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!!!"
หนิงเจียวรู้สึกขบขันไม่น้อย อยากจะหัวเราะให้ดังลั่นจวน แต่ติดตรงที่หน้าตึงไม่สามารถขยับได้ ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก
"เพราะเ้า!!! ที่ทำให้ข้าโดนคนรับใช้ล้อเลียน"
"จะโทษนางก็ไม่ได้นะเ้าคะ ท่านเองที่ไม่ลดเสียงลง ร้องอย่างกับจะเป็จะตาย"
"อย่ามาวิจารณ์ข้าเสีย ๆ หาย ๆ"
"เ้าค่ะ รีบกินเถิดเ้าค่ะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นหมดซะก่อน"
หนิงเจียวใช้ตะเกียบคีบอาหารให้สวีจิ้งเทียนอย่างใส่ใจ
"โอ๊ะ ขออภัยเ้าค่ะ ข้ากำลังจะมาคำนับฮูหยินน้อยยามเช้า ไม่คิดว่าท่านพี่จิ้งเทียนจะอยู่ด้วย"
หนิงเจียวหันไปมองอนุเฉียวเล็กน้อย ด้านสวีจิ้งเทียน เขาคีบอาหารใส่ปากอย่างตั้งใจ ไม่ปรายตามองอนุเฉียวแม้แต่น้อย
"มากินข้าวด้วยกันสิอนุเฉียว"
"เ้าค่ะ..."
"หยุดอยู่ตรงนั้น!!!"
สวีจิ้งเทียนเงยหน้าไปมองอนุเฉียวด้วยสายตาเ็า ก่อนจะหันไปมองหนิงเจียวด้วยสายตาตำหนิเช่นกัน
"นางเป็เพียงอนุ ไม่มีสิทธิ์มาเสนอหน้าชูคอร่วมโต๊ะที่นี่ กฎระเบียบข้อนี้ฮูหยินน้อยสวีไม่ทราบหรือ?"
"เอ่อ..."
ใครมันจะไปรู้เล่า!!! ก็ที่จวนตระกูลหนิงของข้า แม่ใหญ่ก็ใจกว้างเช่นนี้
"เ้ามาคำนับนางยามเช้าไม่ใช่หรือ? เสร็จแล้วก็ออกไป ไม่มีคำสั่งให้เรียกหา อย่าเสนอหน้าเข้ามาที่นี่อีก"
"เ้าค่ะ"
อนุเฉียวรีบหันหลังเดินออกไปด้วยความไม่พอใจ นางลอบกำมือแน่นด้วยความโมโห
"อีกไม่กี่วันจะถึงงานแต่งงานของสวีหลงเยียน น้องชายร่วมมารดาของข้า เขาจะแต่งงานกับบุตรสาวของท่านเสนาบดีกรมยุติธรรมจวนตระกูลหลิว นามว่าหลิวหวานหว่าน วันนี้ข้าจะพาเ้าไปดูเครื่องประดับที่ต้องใช้ เตรียมตัวด้วย"
"จริงหรือเ้าคะ?"
"อืม แต่งกายให้ดูดี ไม่ใช่แต่งตัวทุเรศเช่นนี้"
หนิงเจียวเบ้ปากในใจ ทุเรศตรงไหนกัน นี่เป็ชุดผ้าแพรอย่างดีเชียวนะ ดีกว่าสินสอดที่เขาส่งไปให้นางเสียด้วยซ้ำ
สวีจิ้งเทียนพาหนิงเจียวขึ้นรถม้ามุ่งหน้ามาที่ตลาดใหญ่กลางเมืองหลวง หนิงเจียวรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย นางมองซ้ายมองขวาราวกับเด็กน้อยที่เพิ่งได้ออกมาเที่ยวเล่นนอกบ้าน
สวีจิ้งเทียนพานางเดินเข้าร้านขายเครื่องประดับ หนิงเจียวมองดูไปรอบ ๆ ก่อนจะไปถูกใจปิ่นหยกลายดอกเหมย ที่มีต่างหูและกำไลหยกแถมมาด้วย
"เครื่องประดับในกล่องนี้เท่าไหร่เ้าคะ?"
"ชุดนี้เพิ่งนำเข้ามาใหม่ขอรับ ฮูหยินช่างตาถึงไม่น้อย ราคาหกพันตำลึงขอรับ"
โอวว!!! แพงแต่สวย ไม่เป็ไร เงินติดตัวสินเดิมที่แม่ใหญ่และแม่รองให้นางมา มากมายหลายแสนตำลึง จ่ายออกไปสักหกพันตำลึง ขนหน้าแข้งนางคงไม่ร่วง
"เอาชุดนี้เ้าค่ะ ไป๋เฉียนเอาตั๋วเงินมาให้ข้า"
"เ้าค่ะ"
ในขณะที่หนิงเจียวกำลังจะยื่นตั๋วเงินให้เถ้าแก่ภายในร้าน สวีจิ้งเทียนก็ยื่นตั๋วเงินของเขาออกไปก่อนนางเสียแล้ว
"ห่อให้ด้วย"
"ขอรับคุณชาย"
หนิงเจียวหันไปมองสวีจิ้งเทียนทันที เขาปรายตามองนาง ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูนาง
"อย่าอวดรวยไปหน่อยเลย ข้าพาเ้าออกมาข้าก็ต้องเป็คนจ่าย"
"ไหนท่านบอกว่าห้ามใช้เงินสิ้นเปลืองไม่ใช่หรือเ้าคะ?"
หนิงเจียวพูดเสียงเบาตอบโต้กับเขาอย่างไม่ลดละ
"ภรรยาคนเดียว ข้าจะเลี้ยงไม่ได้ก็ให้มันรู้ไปสิ!!! หุบปาก!!! ไปร้านอื่นต่อ ้าอะไรก็สั่ง เดี๋ยวข้าจ่ายเอง!!!"
"ท่านจ่ายให้?"
"อือ"
"แบบนี้ค่อยหายเจ็บคอหน่อยเ้าค่ะเมื่อคืน..."
"หุบปาก!!! จะเดินไปเองหรือจะให้ข้าโยนเ้าออกไป!!!"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้