ซูเมิ่งหานอยู่ในชุดเดรสลูกไม้สีฟ้าอ่อน ร่างเพรียวสง่างามยืนอยู่หน้าประตู ผมยาวสวยยังเปียกชุ่ม เห็นได้ชัดว่าเธอออกมาทั้งที่ยังไม่เป่าผม
เธอได้ยินบทสนทนาของซูซิ่นชางกับเย่เฟิงที่อยู่ด้านนอก จึงอยากถามให้รู้เื่ว่าเื่ติดยาที่พวกเขาพูดถึงคืออะไรกันแน่?
เมื่อเห็นสถานการณ์เป็เช่นนี้ เย่เฟิงจึงเดินเข้าไปกระซิบข้างหูของเธอสองสามคำ ถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็เริ่มต้นวิถีเซียนแล้วและสารเสพติดก็ถูกกำจัดออกอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นบอกเธอไปก็ไม่ใช่เื่ใหญ่
เมื่อได้ฟังชายหนุ่มอธิบาย ซูเมิ่งหานก็เข้าใจ ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว
“เราจะโกหกเขา?” ซูเมิ่งหานหรี่ตามอง
“ใช่” เย่เฟิงยิ้มพลางพยักหน้า
ทั้งสองคนกระซิบกระซาบกันเรียบร้อยแล้วก็เดินไปหาซูซิ่นชางที่ลานบ้าน ส่วนชายในชุดสีดำสองคนนั้นก็ยังยืนปักหลักอยู่ที่เดิม ทำตัวคล้ายกับเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่วนตัว
เมื่อซูซิ่นชางเห็นทั้งสองคนเข้ามาก็เกิดประหม่า โดยเฉพาะเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของลูกสาว ก็ยิ่งร้อนใจ ใครก็ตามที่ได้ยินว่าตัวเองถูกฉีดยาเสพติดเข้าร่างกายซ้ำยังต้องติดยา ก็คงรู้สึกไม่ดีใช่ไหม?
“คุณมีอะไรอยากพูดไหม?” ซูเมิ่งหานกอดแขนเย่เฟิงขณะตวัดสายตาคู่สวยจ้องคนเป็พ่อ แล้วถามด้วยความเสียใจราวกับเพิ่งรู้เื่ที่ตัวเองต้องติดยา
“พ่อ... เมิ่งหาน พ่อมันเลว พ่อไม่ใช่คน” ซูซิ่นชางปากสั่นระริก พลางฝืนยิ้มหน้าเจื่อน “ขอแค่ลูกยกโทษให้พ่อ จะให้พ่อทำอะไร พ่อยอมทุกอย่าง”
“ตอนนี้คุณยังจะให้อะไรฉันได้เหรอ?” ซูเมิ่งหานพูดด้วยท่าทีเ็ป
“พ่อ...” ซูซิ่นชางพูดไม่ออก ใช่สิ ตอนนี้เขายังมีอะไรที่ให้ซูเมิ่งหานได้อีกหรือ?
“อย่างน้อย... อย่างน้อยพ่อก็ยังมีบ้านมีรถ... เมิ่งหาน ยกโทษให้พ่อได้ไหม? พวกเรามาเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน...” คนรอบกายต่างหนีจากเขาไปหมดแล้ว ชายวัยกลางคนขมขื่น ตอนนี้ชีวิตเขาไม่เหลืออะไรเลย ลูกสาวจะยังอยากกลับมาอยู่ข้างกายเขาหรือไม่?
ไม่คาดคิดเลยจริงๆ ตลอดมาซูเมิ่งหานไม่เคยสนใจอยู่แล้วว่าพ่อมีทรัพย์สินเท่าไร มีรถและบ้านหรือไม่ ถ้าซูซิ่นชางปฏิบัติต่อเธอด้วยความจริงใจ ถึงต้องลำบาก เธอก็เต็มใจ
แต่น่าเสียดาย...
“มีบ้านมีรถ แล้วจะมีประโยชน์อะไร?” ซูเมิ่งหานเสียใจมากจนอยากร้องไห้ “ที่ฉันต้องกลายเป็แบบนี้ก็เพราะถูกคุณทำร้ายไง!”
ประโยคนี้ทำให้หัวใจของซูซิ่นซางสั่นไหวด้วยความเ็ป ตอนที่เขารู้ว่าซูเมิ่งหานถูกซ่งเทียนอิงฉีดยาเสพติดเข้าไป ก็เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปเล็กน้อยเท่านั้น แต่พอได้เห็นท่าทางอ่อนแรงเสียงแหบแห้งของลูกสาวแล้ว ก็ได้สติในที่สุด
ชายวัยกลางคนมองใบหน้าไร้เดียงสาของซูเมิ่งหาน สาวน้อยคนนี้คือลูกสาวของเขา ที่ถูกฉีดยาเสพติดเข้าไปจนทำให้ติดยา เขาไม่กล้าแม้แต่จะย้อนคิดถึงเื่ในอดีต มันเป็เื่จริงที่เขาใช้มือคู่นี้ทำร้ายลูกสาวของตัวเองจนต้องกลายเป็แบบนี้ใช่ไหม?
ใช่สิ ต่อให้ตอนนี้มีเงินแล้วจะมีประโยชน์อะไร ติดยาเสพติดรูปแบบใหม่ ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะจัดการปัญหานี้ได้ ชีวิตลูกสาวของเขาเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งปีนับจากนี้...
“ฉันไม่้าเจอคุณอีกแล้ว” ซูเมิ่งหานค่อยๆ เอนตัวพิงเย่เฟิงแล้วจ้องซูซิ่นชางตาเขม็งก่อนกล่าว “เื่ก่อนหน้านี้ฉันจะไม่โทษคุณ แต่ถ้าคุณยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง ก็รับปากฉันเื่หนึ่ง”
“เื่อะไรเหรอ? แค่ลูกบอกมา พ่อจะทำเพื่อลูกทุกอย่างเลย!” ซูซิ่นชางพยักหน้าทันที
“บอกความจริงเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ของยายมา ฉันจะเอาตัวคนทำผิดมารับโทษ” ซูเมิ่งหานพูดทั้งน้ำตา
ซูซิ่นชางลังเล แต่เมื่อมองสภาพของซูเมิ่งหานแล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ ช่างเถอะ ในเมื่อเธอเป็ถึงขนาดนี้แล้ว แค่เื่นี้เื่เดียวยังต้องปกปิดมันอยู่อีกเหรอ? ซูซิ่นชางจึงเล่าเื่ที่เก็บซ่อนมาหกปีออกมา
ในเวลานั้นซูซิ่นชาง้าแต่งงานกับเซี่ยิ่ คุณยายของซูเมิ่งหานจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการแต่งงานนี้ เพราะเธอมองคนจากโหงวเฮ้ง และเห็นว่าเซี่ยิ่มีโหงวเฮ้งใช้ไม่ได้ กลัวว่าจะไม่ดีต่อการเติบโตของซูเมิ่งหานในอนาคต เื่นี้ทำให้เซี่ยิ่เจ็บแค้นอยู่ในใจ จึงร่วมมือกับเซี่ยเฉิงเย่ผู้เป็น้องชายจ้างผู้ชายต่างถิ่นคนหนึ่งมาทำให้เกิดอุบัติเหตุจนคุณยายของซูเมิ่งหานเสียชีวิต
ตอนที่ซูซิ่นชางบังเอิญรู้ความจริง เื่ราวต่างๆ ก็เกิดขึ้นแล้ว เขาไม่แจ้งความเอาผิดเซี่ยิ่กับเซี่ยเฉิงเย่ แต่กลับช่วยทั้งสองคนปกปิดความจริง รวมทั้งช่วยผู้ชายต่างถิ่นคนนั้นให้หลุดคดีไปได้และชดใช้ค่าเสียหายอีกนิดหน่อยเพื่อจบเื่ เนื่องจากซูเซิ่งกรุ๊ปในตอนนั้นยังอยู่ใน่พัฒนา ซูซิ่นชางจึง้าความช่วยเหลือจากตระกูลเซี่ยโดยเร็ว...
‘เป็พวกเขาจริงๆ ด้วย’ เย่เฟิงคิดในใจ การสังเกตของเขาตอนอยู่ที่ภัตตาคารจิงเฉิงนั้นไม่ผิดเลย เื่นี้มีแค่เซี่ยิ่ เซี่ยเฉิงเย่และซูซิ่นชางเท่านั้นที่รู้ ขณะที่คนอื่นไม่รู้ความจริงข้อนี้เลย
ในที่สุดก็ได้รู้ความจริง ซูเมิ่งหานถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วพูดกับซูซิ่นชาง “ฉันจะเอาเซี่ยิ่กับเซี่ยเฉิงเย่ขึ้นศาล และคุณต้องมาเป็พยานในวันนั้น”
การกระทำของซูซิ่นชางเข้าข่ายปกปิดความผิดให้ผู้ก่อเหตุ ตามปกติ หากจัดการไม่ดีก็ต้องจำคุก แต่เขาไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิด โทษสูงสุดของการปกป้องคนกระทำผิดคือจำคุกสามปี แต่ถ้าเป็พยานด้วยตัวเองก็คงจะสามารถลดโทษได้
เขาพยักหน้าเชื่องช้า “ได้ พ่อจะไป...”
“ถ้างั้นคุณก็อยู่กับเตาปาชั่วคราวก่อนแล้วกัน” เย่เฟิงโบกมือแล้วพูดต่อ “แล้วอย่าคิดจะหนีนะ ด้วยความสามารถของผมคงหาตัวคุณได้ไม่ยาก”
“ฉันรู้แล้ว” ซูซิ่นชางเหงื่อตกขณะพยักหน้าอย่างแข็งขัน เขารู้ดีว่าเย่เฟิงต่อยซ่งเทียนอิงตกจากชั้นหกด้วยตัวเอง! เด็กหนุ่มปล่อยเขาไปตอนนี้ก็ดีมากแล้ว และเขาเองก็ไม่กล้าหนีด้วย อีกฝ่ายมีความความสัมพันธ์กับตระกูลหลินแห่งเมืองเยี่ยนจิง แล้วเขาจะหนีไปไหนได้?
ขณะมองชายร่างใหญ่สองคนคุมตัวซูซิ่นชางขึ้นรถ ซูเมิ่งหานก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ จากนั้นปาดหยดน้ำตาบนใบหน้า
“ให้รางวัลการแสดงยอดเยี่ยมเลย” เย่เฟิงหัวเราะออกมาเช่นกัน เขาวาดแขนโอบไหล่เธอก่อนพูดชมหนึ่งประโยค หากหญิงสาวไม่ได้ตีบทแตกจนทำให้ซูซิ่นชางรู้สึกว่าเธอสิ้นหวังจากการติดยาเสพติด เื่นี้คงไม่ราบรื่นอย่างนี้
แม้เย่เฟิงจะใช้การสะกดจิตทำให้ซูซิ่นชางพูดความจริงได้อย่างง่ายดาย แต่หากขณะสะกดจิตแล้วอีกฝ่ายเกิดต่อต้าน จะส่งผลให้สมองถูกทำลาย หากโดนหลายครั้งก็มีความเป็ไปได้มากว่าจะกลายเป็คนปัญญาอ่อน ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็พ่อของซูเมิ่งหาน ไม่ต้องสะกดจิตได้จะดีกว่า
ส่วนที่ซูเมิ่งหานบอกว่าจะฟ้องร้องสองพี่น้องตระกูลเซี่ย เย่เฟิงก็ไม่คัดค้าน ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในโลกเทวะ แต่อยู่ที่มหานครในยุคปัจจุบัน จึงไม่สามารถใช้ความรุนแรงเป็ทางออกสำหรับทุกสิ่งได้
“นายก็ว่าไป” ใบหน้าเนียนสวยของซูเมิ่งหานมีสีแดงระเรื่อ เธอไม่ขัดขืนที่ถูกเย่เฟิงโอบกอด แต่กลับซุกตัวเข้าหาให้แนบชิดกันมากขึ้น “ที่จริงมันควรจะเป็อย่างนี้อยู่แล้ว ถ้าให้เขารู้ว่าฉันไม่ได้ติดยาล่ะก็จะไม่ทำให้คนสงสัยเหรอ? ฉันไม่้าให้ใครรู้ว่าฉันกำลังฝึกวิถีเซียนกับนาย...”
พูดอย่างนี้ก็นับว่าถูกต้อง จนถึงตอนนี้ยังไม่มีวิธีบำบัดสำหรับผู้ติดยาเสพติดรูปแบบใหม่เลย แต่ซูเมิ่งหานกลับไม่มีอาการติดยา ถ้าคนอื่นรู้จะต้องสงสัยแน่นอน
“เอ๊ะ?” ซูเมิ่งหานที่อิงแอบอยู่ข้างกายเย่เฟิงพลันเห็นอะไรบางอย่าง จึงรีบผละออกมาอย่างรวดเร็ว
“อะไรเหรอ?” เย่เฟิงถามอย่างงุนงง
“เธอคนนั้นมาอีกแล้ว” ซูเมิ่งหานมองออกไปนอกวิลล่า
เย่เฟิงมองตามสายตาของเธอก็อดชะงักไม่ได้
หลงหว่านเอ๋อร์? เธอมาได้อย่างไร?
เขาเห็นเพียงใต้ต้นไม้ใหญ่ตรงข้ามวิลล่ามีเงาใครบางคนที่ดูคุ้นตา ถ้าไม่ใช่หลงหว่านเอ๋อร์แล้วจะเป็ใครได้?
ขณะเดียวกันหลงหวานเอ๋อร์ยืนอยู่ข้างถนน สองมือบีบเข้าหากันแน่น เขย่งปลายเท้าแล้วมองเข้ามาในวิลล่า ใบหน้าเนียนละเอียดปรากฏความเศร้าจางๆ มองเย่เฟิงด้วยใจที่เ็ป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้