“ทูลเสด็จเสวยอาหารกับฮ่องเต้เถอะนะเพคะ หลายเดือนมานี้ ฮองเฮาไม่ได้ร่วมโต๊ะเสวยกับฮ่องเต้เลยสักครั้ง” รัชทายาทยกชาขึ้นดื่มช้า ๆ ก่อนฮองเฮาจะหันไปยังเฟยหยางแล้วเอ่ยขึ้น
“เ้าทำปลาต้มสมุนไพรเป็หรือไม่” เสี่ยวเอินในร่างของเฟยหยางรู้เป็อย่างดีว่าปลาต้มสมุนไพรเป็อาหารโปรดของฮองเฮา ก่อนนางจะน้อมกายลงแล้วตอบรับด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“ทำเป็เพคะ”
“อย่าพูดปลด หากเ้าทำไม่เป็ก็เพียงแค่ทูลฮองเฮาไปตรง ๆ ปลาต้มสมุนไพรใช่ว่าผู้ใดจะทำได้ง่าย ๆ อีกอย่างมิใช่อาหารของชาวบ้านธรรมดาสามัญ” ถังเยี่ยนเห็นเป็จังหวะจึงต่อว่า ก่อนฮองเฮาจะยกมือขึ้น
“เอาล่ะ ๆ อย่าได้ต่อว่ากันเลย ถังเยี่ยนเ้าไปสอนเฟยหยางให้ทำปลาต้มสมุนไพร ค่ำนี้ข้าจะไปเสวยอาหารกับฮ่องเต้” คำตอบของฮองเฮาทำให้รัชทายาทยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ เป็สัญญาณว่าฮองเฮาเริ่มใจอ่อนกับฮ่องเต้แล้ว
“เพคะฮองเฮา” ถังเยี่ยนน้อมรับด้วยกิริยาอ่อนหวานเช่นเดิม ก่อนเฟยหยางจะสังเกตเห็นสายตาบางอย่างของถังเยี่ยนที่ทอดมองไปยังรัชทายาท พลันเก็บความสงสัยไว้ พร้อมสองเท้าเดินตามถังเยี่ยนเข้ามาในครัว
“ต้มปลาสมุนไพรเป็อาหารของชาววัง รสชาติอาหารต้องไม่เข้มข้นเกินไป ไม่เช่นนั้นจะไม่ถูกปากฮองเฮา เพราะฮองเฮาทรงโปรดต้มปลาสมุนไพรอย่างมาก” ถังเยี่ยนพูดพลางหยิบปลาในไหออกมา แล้วทุบมันอย่างไม่ปรานี ก่อนเฟยหยางจะยืนมองดูอย่างเงียบ ๆ
“เ้ารู้หรือไม่ว่าต้มปลาสมุนไพรเป็อาหารที่ข้าเกลียดที่สุด” หญิงสาวที่ยืนมองการกระทำของอดีตเพื่อนรัก ค่อย ๆ เอ่ยถาม แล้วมองปลาที่ดิ้นไปมาบนเขียงด้วยสายตาแน่นิ่ง
“เหตุใดจึงเกลียดเ้าคะ ในเมื่อเป็อาหารที่ฮองเฮาทรงโปรด” คำถามของเฟยหยางทำให้สายตาของถังเยี่ยนเปลี่ยนไป นางค่อย ๆ หันมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“นั่นก็เพราะว่า ฮองเฮาไม่ทรงโปรดฝีมือผู้ใด นอกจากฝีมือของพระสนมเสี่ยวเอิน” เฟยหยางในตอนนี้ค่อย ๆ เดินเข้ามาแล้วหยิบปลาที่ดิ้นพล่านอยู่ จับใส่ถังน้ำเพื่อล้างทำความสะอาด
“หัวใจสำคัญของปลาต้มสมุนไพรต้องไม่คาว รสชาติจึงจะอร่อย ไม่ใช่ว่าผู้ใดจะทำก็ได้” เฟยหยางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนถังเยี่ยนจะผลักร่างนางออก แล้วจับจ้องมาด้วยสายตาแข็งกร้าว
“เ้าหมายความว่าฝีมือข้า สู่พระสนมเสี่ยวเอินไม่ได้รึ”
“หาได้เป็เช่นนั้น แต่ปลาที่ถูกฆ่าตายต้องรีบล้างน้ำโดยเร็วหาไม่แล้ว จะทำให้น้ำที่ต้มออกมาคาว ข้าก็แค่แนะนำเ้าค่ะ มิบังอาจสั่งสอนคุณหนูสกุลหลี่ผู้สูงศักดิ์” ก่อนถังเยี่ยนจะยกยิ้มมุมปาก
“อย่าคิดว่าเ้าเป็นางกำนัลที่ฮองเฮาทรงโปรด แล้วจะพูดจาทับถมข้าเช่นไรก็ได้ เพราะถึงยังไง ฐานะของข้าก็สูงกว่าเ้า”
“เ้าค่ะ” เฟยหยางน้อมกายลงไม่ตอบโต้ ก่อนจะนึกบางอย่างได้จึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ข้าได้ยินใครต่อใครพูดกันว่าคุณหนูถังเยี่ยน กับพระสนมเสี่ยวเอินเป็เพื่อนรักกัน แต่เหตุใดเมื่อตอนที่พระสนมเสี่ยวเอินถูกปะา คุณหนูถังเยี่ยนจึงไม่คิดช่วยนาง” ถังเยี่ยนยิ้มเล็กน้อยแล้วหันมายังเฟยหยาง
“ผู้ใดบอกว่าข้าไม่ช่วยนาง ข้าเองก็ขอร้องให้ท่านพ่อ ไม่ปะาด้วยการแขวนคอ แต่ให้ปะาด้วยการดื่มยาพิษแล้วไง นับว่านั่นคือความเมตตาของข้าที่มีให้นางแล้ว ผู้ใดมันพูดว่าข้าไม่ช่วยสหายของข้า” นางตอบพลางหันไปรื้อสมุนไพร ทว่ารื้ออยู่สองสามครั้งไม่พบสมุนไพรที่้า ก่อนเฟยหยางจะเดินเข้ามาเปิดตะกร้าเพียงครั้งเดียวก็หยิบเอาสมุนไพรทั้งหมดออกมาอย่างหน้าตาเฉย
“เ้ารู้ได้อย่างไรว่าสมุนไพรอยู่ตรงนั้น” ถังเยี่ยนเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“ข้าเดาเ้าค่ะ” นางตอบด้วยท่าทางราบเรียบ ก่อนเสี้ยวหนึ่งของแววตาทำให้ถังเยี่ยน รับรู้ว่าเฟยหยางมีบางอย่างคล้ายกับเสี่ยวเอินเป็อย่างมาก นางรีบละสายตาจากอีกฝ่าย แล้วหันมายังสมุนไพร ก่อนจะค่อย ๆ สอนเฟยหยางทำปลาต้มสมุนไพรต่อ
หลายอย่างในขั้นตอนที่ถังเยี่ยนบอกนั้น ทำให้เฟยหยางรับรู้ว่า นาง้าให้ปลาต้มสมุนไพรจานนี้ออกมารสชาติย่ำแย่ มีส่วนผสมหลายอย่างที่ไม่ควรใส่ แต่ถังเยี่ยนแนะนำให้ใส่ลงในหม้อต้มซึ่งจะทำให้รสชาติเฝื่อนได้
“นี่เป็สูตรปลาต้มสมุนไพรของคุณหนูถังเยี่ยนรึเ้าคะ” เฟยหยางเอ่ยถามอย่างรู้ทัน ก่อนอีกฝ่ายจะพยักหน้า
“ใช่” นางตอบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะหันมายังเฟยหยางแล้วพูดขึ้น
“ที่เหลือเ้าก็ใส่ส่วนผสมทั้งหมดที่วางอยู่ลงอย่างละเท่า ๆ กัน เสร็จแล้วก็นำใส่ถ้วยเตรียมยกขึ้นไปยังท้องพระโรง” ถังเยี่ยนพูดจบก็เดินจากไป ปล่อยให้เฟยหยางยืนมองหม้อต้มปลาสมุนไพรที่เดือดปุด ๆ
“แท้จริงแล้ว นิสัยเ้าเป็เช่นนี้เหรอ หึ!ข้าควรรู้ให้เร็วกว่านี้ จะได้ไม่ต้องหลวมตัวไว้ใจ จนตัวข้าต้องตาย” เสี่ยวเอินในร่างของเฟยหยางหวนนึกถึงวันเกิดเหตุ อยู่ ๆ ถังเยี่ยนก็วิ่งเข้ามาหาที่ตำหนักแล้วบอกว่ามีชายคนหนึ่งมาขอพบที่หน้าประตูวัง ด้วยกลัวว่าชายคนดังกล่าวจะเป็น้องชายที่พลัดพรากกันั้แ่เด็ก เสี่ยวเอินจึงหยิบพู่กันแล้วเขียนบางอย่างลงกระดาษ
