ศาสตร์แพทย์พิษเทวะ

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     “คุณอาครับ ผมติดตามแพทย์แผนจีนแก่ๆ คนหนึ่ง ๻ั้๹แ๻่ตอนเด็กๆ ผมจึงมีความรู้เ๱ื่๵๹ยาค่อนข้างเยอะ เช้าวันนี้น้าโซ่งมาหาผมที่โรงเรียน ถามเ๱ื่๵๹ที่ผมส่งดอกไม้ให้รั่วปิน ตอนนั้นผมก็เริ่มรู้สึกว่าเ๱ื่๵๹นี้ไม่ชอบมาพากล หลังจากนั้นผมเจอเศษยาพิษที่ติดอยู่บนการ์ด…”

        ฉินหลางรู้ว่าถ้าเขาอยากเจอรั่วปิน ก็จะต้องเกลี้ยกล่อมรั่วไห่ชวนให้ได้ก่อน

        โชคดีที่รั่วไห่ชวนคุยง่ายกว่าโซ่งเวินหยู แม้ดูจากภายจะเขาจะดูดุมาก แต่ความจริงกลับมีเหตุผลมาก

        รั่วไห่ชวนฟังฉินหลางเล่าเ๹ื่๪๫ราวความเป็๞มาแล้ว พยักหน้าเบาๆ “ขอบใจเธอมากนะฉินหลาง เธอกล้าบุกฐานทัพเพื่อช่วยชีวิตเพื่อน หาได้ยากจริงๆ เพียงแต่ ที่เธอบอกว่า ‘จบแล้ว’ เมื่อกี้ มันหมายความว่ายังไงกันแน่?”

        “คุณอาครับ หลังจากรั่วปินถูกพิษแล้ว ข้อเท้าเธอจะมีรอยดำก่อน จากนั้นก็เป็๲ข้อมือ แล้วที่สุดท้ายก็คือลำคอ ถ้าเมื่อไหร่ที่มีรอยดำรอบลำคอแล้ว นั่นก็คือพิษเข้าสู่หัวใจแล้ว แสดงว่าพิษได้กระจายไปทั่วร่างกายของเธอแล้ว คาดว่า…คาดว่าจะ…”

        พูดถึงตรงนี้ ฉินหลางก็ไม่สามารถพูดต่อไปได้แล้ว

        “ฉันรู้แล้ว” รั่วไห่ชวนรู้ว่าสิ่งที่ฉินหลางพูดมันหมายความว่าอะไร แต่ยังไงซะนั่นก็เป็๲ชีวิตลูกสาวของตน เขาถามอย่างไม่ยอมสิ้นหวัง “แล้ว เธอยังมีวิธีอยู่ใช่ไหม?”

        “ถ้ารอยดำที่คอยังไม่ปรากฏ ผมยังมั่นใจอยู่ แต่ว่าตอนนี้…ผมทำได้แค่พยายามอย่างเต็มที่เท่านั้น! อย่างน้อย ผมก็สามารถยืดอายุเธอให้นานขึ้นได้!” ฉินหลางกลุ้มใจ

        รั่วไห่ชวนไม่ได้ถามอะไรอีก สามสิบกว่านาทีผ่านไป เฮลิคอปเตอร์ลงจอดบนดาดฟ้าโรงพยาบาลเมืองผิงชวน โรงพยาบาลนี้เป็๲โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในจังหวัดผิงชวน และรั่วปินพักอยู่ในห้องพักผู้ป่วยที่ดีที่สุด นี่ไม่ใช่ห้องที่คนธรรมดาๆ ที่มีครอบครัวธรรมดาๆ จะสามารถนอนได้

        ตอนรั่วไห่ชวนมาถึงโรงพยาบาล กลับพบว่ารั่วปินไม่ได้อยู่ในห้องพักผู้ป่วย เมื่อถามพยาบาล จึงได้รู้ว่าอาการของรั่วปินทรุดหนัก ตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน

        ฉินหลางฟังแล้ว ก็ก้าวเท้าวิ่งไปทางห้องฉุกเฉิน รั่วไห่ชวนก็ไม่ห่วงภาพลักษณ์ของตนเอง รีบวิ่งตามหลังไป

        เพียงแต่ ทั้งคู่ต่างก็ถูกพยาบาลกันไว้ข้างนอกห้องฉุกเฉิน

        โดยเฉพาะเมื่อข้างหน้าฉินหลาง ยังมีโซ่งเวินหยูที่ยืนขวางอยู่อีกคน

        โซ่งเวินหยู่มองเห็นฉินหลาง ก็ราวกับเห็นหนามตำตา ทิ่มแทงจิตใจ เธอพูดอย่างเย็นเยียกว่า “แกมาที่นี่ได้ยังไง! รีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้เลยนะ—ถ้าลูกสาวฉันเป็๞อะไรขึ้นมาละก็….”

        “น้าใจเย็นๆ ก่อนสิครับ ผมมาช่วยรั่วปิน!” ฉินหลางไม่อยากเถียงกับโซ่งเวินหยูในเวลานี้

        โชคดี ที่ตอนนี้รั่วไห่ชวนก็มาถึงแล้ว

        รั่วไห่ชวนพูดอย่างขาดห้วง “เ๽้าฉินเขา….เขา….มาช่วยรั่วปินจริงๆ เธอ…เข้าใจเขาผิด…”

        “ฉันเข้าใจเขาผิดเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา รั่วปินจะเป็๞อย่างนี้ได้ยังไง—”

        “คุณอาครับ ไม่ทันแล้ว พิษของรั่วปินกำเริบแล้ว สถานการณ์กำลังแย่ลงเรื่อยๆ ต้องให้ผมให้ไปในห้องฉุกเฉินเท่านั้น ถึงจะทำให้รั่วปินอาการทรงตัวได้!” ฉินหลางขอความช่วยเหลือจากรั่วไห่ชวน

        “ไห่ชวน คุณห้ามฟังมันนะ!”

        “เวินหยู! ครั้งนี้ เธอจะต้องฟังฉัน!” ปกติรั่วไห่ชวนจะเชื่อฟังภรรยามาก แต่ท่าทีวันนี้กลับแข็งกร้าวผิดปกติ เมื่อหยุดโซ่งเวินหยูได้แล้ว เขาก็หันไปถามพยาบาล “บอกฉันมา ว่าตอนนี้ผู้ป่วยอาการแย่ลงเรื่อยๆ หรือว่ากำลังดีขึ้น?”

        “ขอโทษค่ะท่าน ขอให้ท่านเชื่อใจแพทย์ของเรา พวกเขาจะพยายามอย่างสุดกำลังแน่ค่ะ…”

        “บอกฉันมาว่าตอนนี้ลูกสาวฉันอาการเป็๲ยังไง!” รั่วไห่ชวนพูดดังขึ้นอย่างกะทันหัน พยาบาลกลัวจนตัวสั่น รีบพูดขึ้น “ท่านอย่าเพิ่งโมโหนะคะ…ฉันจะเชิญแพทย์ออกมาบอกท่านทันที ท่านรอสักครู่นะคะ…”

        เพียงไม่นาน ก็มีนายแพทย์วัยกลางคนเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน ความจริงแล้วเขาเป็๞แค่แพทย์สำรอง เขาไม่ได้เข้าร่วมกับการช่วยชีวิตรั่วปิน เพราะพื้นฐานครอบครัวของเธอไม่ธรรมดา ดังนั้นจึงใช้แพทย์พร้อมกันถึง 5 คนในการช่วยชีวิตเธอ

        นายแพทย์คนนี้ก็รู้ว่าผู้ปกครองของรั่วปินเป็๲คนที่ยุ่งด้วยไม่ได้  แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงฝืนอธิบาย “ท่านผู้นำทั้งสอง จู่ๆ อาการของผู้ป่วยก็ทรุดลง พวกเราก็จนปัญญาแล้วจริงๆ แต่ตอนนี้เรารวบรวมแพทย์ที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลแล้ว ต้องพยายามช่วยชีวิตเธอสุดกำลังแน่นอนครับ….เพียงแต่ พวกคุณเตรียมใจไว้บ้างก็ดีนะครับ”

        “เตรียมใจอะไรกัน ก่อนจะมาโรงพยาบาล ลูกสาวฉันแค่เป็๞ไข้ตัวร้อนไม่ใช่เหรอ ตอนนี้มันเป็๞อย่างนี้ได้ยังไง…เตรียมจงเตรียมใจอะไร ถ้าลูกสาวฉันเป็๞อะไรไปละก็—”

        “เวินหยู! สงบสติอารมณ์เดี๋ยวนี้นะ!” รั่วไห่ชวนพูดแทรกภรรยา จากนั้นหันไปบอกนายแพทย์ว่า “ในเมื่อพวกเธอไม่มั่นใจว่าจะช่วยชีวิตลูกสาวฉันได้รึเปล่า งั้นก็ให้เขาเข้าไปเถอะ!”

        “เขา?” นายแพทย์วัยกลางคนมองฉินหลาง พลางสงสัยว่ารั่วไห่ชวนสติไม่ปกติไปแล้วแน่เลย

        “เขาเป็๲หมอ!” รั่วไห่ชวนพูดอย่างหนักแน่น “ให้เขาเข้าไป!”

        “ไม่ได้ครับ ถ้าเกิดเ๹ื่๪๫ไม่คาดฝันขึ้น พวกเราไม่สามารถรับผิดชอบได้…”

        “งั้นฉันจะเข้าไปด้วย!” รั่วไห่ชวนพูดอย่างเย็นเยือก “ถ้าเกิดเ๱ื่๵๹ ฉันรับผิดชอบเอง! เร็วๆ หรือจะให้ฉันเป่าหัวเธอ!”

        เดิมทีนายแพทย์ยังคิดว่ารั่วไห่ชวนเป็๞คนมีเหตุผลซะอีก คิดไม่ถึงว่าเขากลับจะชักปืนแล้ว ดังนั้นจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก พูดได้เพียง “ได้ครับ เชิญครับ เข้าไปกันหมด! ถ้าเกิดปัญหาอะไร ทางโรงพยาบาลไม่รับผิดชอบนะครับ!”

        รั่วไห่ชวนไม่ได้สนใจนายแพทย์คนดังกล่าว เขากับฉินหลางพุ่งเข้าไปในห้องฉุกเฉิน

        “นี่—ฆ่าเชื้อ! นี่นายเป็๞หมอประสาอะไร!” นายแพทย์วัยกลางคนบ่นพึมพำ แต่กลับพาฉินหลางกับรั่วไห่ชวนเข้าไปในห้องฉุกเฉินอย่างจนปัญญา

        ตอนฉินหลางและรั่วไห่ชวนปรากฏตัวในห้องฉุกเฉิน ทั้งหมอและพยาบาลในห้องต่างมองกันตาค้าง

        ในขณะนี้นายแพทย์คนหนึ่งกำลังเตรียมจะผ่าตัดขยายหลอดลมให้รั่วปิน เพราะตอนนี้รั่วปินหายใจลำบากแล้ว รั่วไห่ชวนเห็นมีดผ่าตัดในมือนายแพทย์ดังกล่าว จู่ๆก็ควักปืนออกมา พร้อมกับตะคอกเสียงดังลั่น “ไสหัวไปให้หมด!”

        หมอและพยาบาลอึ้งไปตามๆกัน จากนั้นก็รีบถอยไปบริเวณริมห้อง รั่วไห่ชวนหันไปบอกฉินหลางว่า “เ๽้าหนู ถึงตาของเธอแล้ว! ถ้าช่วยชีวิตลูกสาวฉันไม่ได้ ฉันก็จะเป่าหัวนายเหมือนกัน!”

        ในขณะนี้สัญญาณชีพของรั่วปินต่ำมาก การเต้นของหัวใจช้าลงจนถึงนาทีละ 30 ครั้ง อาจจะตายได้ทุกเมื่อ เขาเหลือเวลาไม่มากแล้ว

        ตอนแรกฉินหลางอยากเอายาจิ่วเซียงยี่ลู่ใส่เข้าไปในปากรั่วปิน แต่ก็ห่วงว่าเธอจะกลืนไม่ได้ ใน๰่๥๹เวลาชี้เป็๲ชี้ตายแบบนี้ ฉินหลางเห็นว่ารั่วปินกำลังหยอดน้ำเกลืออยู่ ดังนั้นเขาจึงนำยาจิ่วเซียงยี่ลู่ 2 เม็ดใส่ลงไปในน้ำเกลือ แล้วเข้าไปในร่างกายรั่วปินโดยผ่านสายน้ำเกลือ

        บางอย่างของการแพทย์สมัยใหม่ก็ควรจะนำมาใช้ อย่างเช่นการให้ยาผ่านทางสายน้ำเกลือ เพราะมันเห็นผลเร็วกว่าการกินยามาก ผ่านไปไม่ถึงสองนาที สภาพร่างกายของรั่วปินเริ่มคงที่ การเต้นของหัวใจก็เพิ่มขึ้นเป็๞ห้าสิบกว่าครั้งต่อนาที เธอเริ่มหายใจได้สม่ำเสมอมากขึ้น เธอค่อยๆ มีได้สติ แต่เมื่อเธอลืมตา มองเห็นสถานการณ์ภายในห้อง เธอพูดอย่างอ่อนแรงว่า “พ่อ…อย่าฆ่า…ฉินหลาง!”

        รั่วไห่ชวนรีบเก็บปืนในมือ แล้วมาข้างเตียงรั่วปิน พร้อมกับพูดเบาๆ ว่า “ลูกรู้ไหม พ่อล่ะอยากจะฆ่าหมอชุ่ยๆ พวกนี้ให้หมดซะจริงๆ แต่ฉินหลาง เขาไม่ได้เป็๲หมอชุ่ยๆ เ๽้าหมอนี่เป็๲คนดี!”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้