หางตาของชุยเฟิงสั่นอย่างแรง เขาหันไปดูพวกศิษย์น้องที่อยู่ด้านหลังก็พบว่ามีสายตาที่ย่ำแย่มากกำลังมองมาที่เขาอยู่ มันทำให้สีหน้าของเขาซีดไปทันที และรู้สึกทรมานใจอย่างมาก!
นั่นสิ! ถ้ารู้ว่าจะเป็อย่างนี้แต่แรก ขอโทษไปก็จบแล้ว คงไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้หรอก
แต่ตอนนี้ชุยเฟิงไม่มีทางเลือกแล้ว เพราะเขาไม่ได้รับเงื่อนไขของิอวี่ ตอนนี้ถึงอย่างไริอวี่ก็จะเล่นงานเขาอยู่ดี!
ตอนนี้ชุยเฟิงรู้สึกขายหน้าอย่างมาก หากถูกิอวี่เล่นงานเขาอาจจะาเ็สาหัส ถึงเวลานั้นเขาคงไม่เหลือหน้าอะไรอีกแล้ว
“ใช่ มันเป็ความผิดของข้า ... ข้าขอร้องท่านล่ะ ปล่อยข้าไปเถอะนะ ข้าสำนึกผิดแล้วจริงๆ ... ทุกอย่างมันเป็ความผิดของข้าเอง”
เพื่อไม่ให้ตัวเองขายหน้าไปมากกว่านี้ ชุยเฟิงเลือกที่จะคุกเข่าอ้อนวอน แต่เขาไม่ได้ตอบคำถามิอวี่โดยตรง เขาไม่มีเวลาไปคิดถึงเื่ “ศักดิ์ศรี” อีกแล้ว เพราะเขาไม่กล้าคิด เขาไม่กล้าคิดว่าถ้าคิดแล้วมันจะมีผลอะไร
พูดกันตามตรงเลยก็คือ เขาไม่กล้าเผชิญหน้านั่นเอง
“เ้าผิดที่ตรงไหน?” ิอวี่ถาม
“ข้า ... ข้าผิดที่มีตาแต่ไร้แวว ท่านเป็ยอดฝีมือชั้นสูง ข้าไม่มีสิทธิไปยุ่งเื่ของท่าน แล้วยังสั่งให้คนลงไม้ลงมือกับท่านที่นี่ด้วย ตอนนี้นึกย้อนกลับไปแล้ว ... ข้าเสียใจมากจริงๆ ... ทุกอย่างนี้ล้วนแต่เป็ความผิดของข้า!” น้ำเสียงของชุยเฟิงเหมือนจะสะอื้น พอพูดจบน้ำตาของเขาก็ไหลออกมา
แต่ิอวี่ไม่หลงกล ‘เขาไม่รู้ปัญหาที่แท้จริงเลยด้วยซ้ำไป’ จึงพูดออกไปว่า “ไม่ เ้าไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหนกันแน่ เ้าผิดที่การแสดงท่าทีของเ้า”
“เื่ที่ผ่านมา ข้าี้เีจะไปหาความกับเ้า แต่ว่าในฐานะที่เ้าเป็ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์น้องของเ้าหลายคนก็อยู่ที่นี่ด้วย เ้าคุกเข่าอ้อนวอนแบบนี้ทำให้ศิษย์น้องของเ้ารู้สึกเสียหน้า เ้าทำให้สำนักของเ้าขายหน้า นี่คือสิ่งที่เ้าทำพลาดอย่างมหันต์”
“ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกเ้าไปว่า ข้าจะอัดเ้า แต่ข้าไม่ได้บอกเ้านะว่าข้าจะอัดเ้าจนตาย อยู่ต่อหน้าชีวิตกับศักดิ์ศรี ควรเลือกอย่างแรกนะ ตราบใดที่ขุนเขาเขียวขจียังอยู่ อย่าได้กลัวไม่มีฟืนเผา ในเื่นี้มันไม่มีอะไรผิด แต่เวลาที่กำลังจะมีอันตรายถึงชีวิต ระหว่างการลดความเ็ปของร่างกายกับเกียรติของสำนัก เ้าก็ยังคงเลือกอย่างแรก ถ้าอย่างนั้นเ้าเห็นสำนักของเ้าที่บ่มเพาะเ้ามาเป็อะไร เป็คน ทำไมถึงได้เห็นแก่ตัวแบบนี้?”
“เ้า ... ” ชุยเฟิงคิดอยากจะเถียงอะไรกลับ แต่ก็พบว่าเขาพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ
ในใจของศิษย์สำนักกังเหรินที่อยู่ด้านหลังล้วนแต่ตะลึง ิอวี่ ... เหมือนจะพูดมีเหตุผล ทั้งๆ ที่เขาเป็ศัตรู แต่อยู่ต่อหน้าคุณธรรม เขากลับช่วยออกหน้าแทนสำนักกังเหริน
มันทำให้เหล่าศิษย์ของสำนักรู้สึกผิด พวกเขาเหมือนรู้ตัวแล้วว่าพวกตนนั้นใจแคบแค่ไหน
“ส่วนปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดของเ้าก็คือ ท่าทางหน้าไหว้หลังหลอกตีสองหน้าของเ้า”
น้ำเสียงของิอวี่ดังเข้าหูทุกคนที่อยู่ด้านหลังของชุยเฟิงอีกครั้ง “เ้าตัดสินทุกอย่างเพียงเพราะประโยชน์ที่อยู่ตรงหน้า หากวันใดที่สำนักมีภัย เ้าจะใช้ฐานะศิษย์พี่ใหญ่ของเ้าไปปกป้องสำนักไหม? เ้าไม่มีทางทำแน่ เพราะถึงเวลาคับขันเ้าไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีความเป็ลูกผู้ชายเลยแม้แต่นิดเดียว!”
“ไม่ต้องพูดแล้ว!”
ชุยเฟิงพูดออกมา ิอวี่พูดจนเขาร้องไห้ มันออกมาจากใจจริงๆ “ไม่ต้องพูดแล้ว ... ขอร้องล่ะนะ ไม่ต้องพูดแล้ว ...”
คำพูดของิอวี่ทุกคำทิ่มแทงใจเขา มันแทงไปที่หัวใจของชุยเฟิงต่อเนื่องจนเขาแทบบ้า
ถูกแล้ว ชุยเฟิงหนีอยู่ตลอด ไม่กล้าเผชิญหน้ากับตัวเองเลย แต่คำพูดของิอวี่ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่โหดร้ายอย่างมาก!
ชุยเฟิงทรุดนั่งลงกับพื้น ท่าทางของเขาเหม่อลอย และหลังจากนั้นอีกระยะเวลาหนึ่งเขาก็ยังคงอยู่ในสภาพนี้ เขารู้สึกได้รับความกระทบกระเทือนใจอย่างมาก ร่างกายของเขารู้สึกเ็ปร้อยพันเท่า!
ิอวี่ส่ายหน้า อะไรที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว ส่วนชุยเฟิงจะคิดอย่างไร จะทำอะไร มันเป็เื่ของเขา ิอวี่เองก็ไม่อยากไปสนใจ
ิอวี่หันหลังกลับมา คนที่เหลืออยู่ต่างมีท่าทางเหม่อลอย ส่วนชุยเฟิงยังทรุดตัวนั่งอยู่กับพื้น จากนั้นเขาก็เดินไปหาวิหคัปีกมืด
เซี่ยหรงเอ๋อร์ศิษย์น้องหญิงที่แอบชอบชุยเฟิง ตอนนี้นางยังคงนอนอยู่ที่พื้นโดยไม่ขยับเลย นางเห็นสิ่งที่ิอวี่ทำเมื่อครู่ทุกอย่าง ในเวลานี้นางมองไปที่ิอวี่ด้วยสายตาที่สับสน
สายตาของิอวี่เต็มไปด้วยความประชดประชัน เขามองไปที่เซี่ยหรงเอ๋อร์แล้วพูดว่า “เสาหลักของสำนักกังเหรินอย่างไม่เท่าไรเลยนี่นา”
เซี่ยหรงเอ๋อร์ก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด นางไม่กล้าสบตาิอวี่เลย
เมื่อเจอเื่ราวเหล่านี้นางถึงได้เข้าใจว่า ที่แท้คนที่ผิดมาั้แ่ต้นก็คือชุยเฟิง ิอวี่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่นิดเดียว
ความสามารถของิอวี่แข็งแกร่งมากขนาดนี้ แต่เขากลับทำทุกอย่างเรียบง่าย ไม่ได้โอ้อวดตัวแต่อย่างใด อยู่ต่อหน้าคุณธรรม เขาก็เลือกที่จะออกหน้าแทนสำนักกังเหริน พูดในสิ่งที่ทุกคนละเลยไปว่าชุยเฟิงคือคนที่มีปัญหา
ลูกผู้ชายตัวจริงคือแบบนี้ เซี่ยหรงเอ๋อร์คิด
หากเป็ไปได้ เซี่ยหรงเอ๋อร์อยากจะเป็เพื่อนกับิอวี่ ต่อไปหากมีโอกาสนางจะทำทุกวิถีทางเพื่อแสดงความรู้สึกผิดที่นางมีต่อเขา หวังว่าิอวี่จะให้อภัยนาง เพียงแต่แม้แต่ชื่อของเขาหรือเขาเป็ใครนางยังไม่รู้เลย
“คุณชาย ท่านคือ ... ”
เซี่ยหรงเอ๋อร์กำหมัดแน่ แล้วพยายามรวบรวมความกล้าเงยหน้าขึ้นมาถาม แต่ว่าพูดได้แค่ไม่กี่คำิอวี่ก็ขึ้นไปนั่งบนหลังวิหคัปีกมืดแล้วเ้าอสูรสัตว์ปีกก็บินขึ้นสูงไปแล้ว
เซี่ยหรงเอ๋อร์รู้สึกผิดหวังมาก ต่อไปหากมีโอกาสนางจะต้องรู้ให้ได้ว่าเขาเป็ใคร นางเชื่อว่าสักวันิอวี่จะต้องให้อภัยนางแน่นอน
ในเวลานี้เอง ิอวี่บินอยู่บนฟ้าและมองตรงไปทางทิศตะวันออก
ก่อนหน้านี้เขาเสียเวลาไปแล้วตอนนี้จึงต้องเร่งเดินทาง เพราะหากไม่สามารถไปถึงพื้นที่รกร้างภายในสองเดือน ก็จะหมดเวลาที่สามารถไปทำบททดสอบของสำนักเทพอัคคี ถ้าอย่างนั้นจะต้องรอถึงปีหน้า
ิอวี่จำจุดที่ระบุอยู่บนแผนที่โบราณได้ขึ้นใจ
ตอนนี้ิอวี่กับวิหคัปีกมืดใจสื่อถึงกันแล้ว เขาบังคับมันได้สบายๆ ส่วนวิหคัปีกมืดก็ยินดีที่ได้รับใช้เขา
บนกลางอากาศ ในใจของเ้าวิหคัปีกมืดเหมือนเกิดอาการบางอย่างขึ้น มันแฝงไปด้วยความหมายที่ว่า ข้าหิวแล้ว ...
ิอวี่ขมวดคิ้ว จากนั้นก็ยิ้มแล้วส่ายหน้าพร้อมพูดออกไปว่า “เ้าอยากกินอะไร?”
“ฮูกฮูก ... ” วิหคัปีกมืดส่งอารมณ์กลับมา
“เ้าอยากกินยาจูหยวนตันหรือ? ได้ ข้าจะให้เ้า” ิอวี่รู้สึกแปลกใจ อสูรสัตว์ปีกส่วนใหญ่ล้วนแต่กินเนื้อสัตว์ และอสูรบางตัวก็จะมีของชอบเฉพาะ แต่เ้าวิหคัปีกมืดกลับอยากจะกินยาจูหยวนตัน
อสูรที่มีสายเืวิหคันั้นแตกต่างกับอสูรทั่วไป อสูรตัวอื่นไม่สามารถสลายพลังงานจากยาจูหยวนตันแบบที่วิหคัปีกมืดนั้นสามารถทำได้
ก่อนหน้านี้ วิหคัปีกมืดกินยาจูหยวนตันอยู่ตลอด แต่ครูฝึกกลับให้มันกินสมุนไพรเฉพาะทาง ที่จริงเ้าวิหคัปีกมืดก็ไม่ได้อยากกินมานานแล้ว มันอยากจะกินยาจูหยวนตัน เพียงแต่ไม่มีใครเข้าใจมัน มีแค่ิอวี่คนเดียวที่พึ่งได้
ิอวี่สั่งให้เ้าวิหคัปีกมืดบินลงมาบนพื้น จากนั้นเขาก็เทยาจูหยวนตันออกมา วิหคัปีกมืดก็กินยาจูหยวนตันเข้าไปจนหมดอย่างไม่เกรงใจ
สุดท้าย มันกินยาจูหยวนตันเข้าไปถึงหนึ่งพันเม็ดถึงได้พอใจ
“ ... ”
ิอวี่รู้สึกพูดไม่ออก กินจูหยวนตันครั้งละหนึ่งพันเม็ดแบบนี้ แล้วต่อไปจะไหวหรือ?
แต่พอลองคิดดู วิหคัปีกมืดมีสายเืที่สูงส่ง กินของพวกนี้ก็ถือว่าเป็เื่ปกติ เพียงแต่ ิอวี่ประเมินว่าต่อไปหากมันเติบโตมากกว่านี้ มันอาจจะอยากกินมากกว่านี้อีกก็ได้
“เลี้ยงเ้านี่ใช้เงินเยอะเหมือนกันนะเนี่ย”
ิอวี่ลูบไปที่หัวของวิหคัปีกมืดด้วยความรักและเอ็นดู จากนั้นก็ขึ้นไปขี่มันอีกครั้ง และบินลอยไปทางทิศตะวันออก
หลังจากวิหคัปีกมืดกินอิ่มแล้วก็มีกำลังมากขึ้น จึงบินทะลุเมฆไปได้อย่างรวดเร็ว
เวลาผ่านเลยไป พริบตาเดียวก็เย็นแล้ว
พระอาทิตย์ฉายแสงออกมาทำให้เมฆเต็มไปด้วยแสงสีแดง ิอวี่หมอบอยู่บนตัววิหคัปีกมืดบินอยู่กลางอากาศ
และในเวลานี้เอง เขาก็พบว่าบนเมฆเหมือนจะมีจุดดำๆ ปรากฏอยู่
เหมือนมันเป็อสูรสัตว์ปีกตัวอื่น?
ิอวี่เปิดััแห่งิญญาขึ้นแล้วมองออกไปถึงจะเห็นว่าจุดที่ว่านั่นคืออะไร
มันคือนกกระเรียนเซียนเมฆาตัวสีขาวราวกับหิมะ ดวงตาเป็ประกาย ปากยาว รูปร่างสวยงาม และบนตัวของนกกระเรียนเซียนเมฆาก็มีคนนั่งอยู่สองคน คนด้านหน้ารูปร่างหน้าตางดงามราวกับภาพวาด สวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ส่วนคนด้านหลังสวมชุดสีน้ำเงินเข้ม ท่าทางสง่างามไม่ธรรมดา
ทั้งสองคนก็คือคนที่ิอวี่เจอในวันนี้ จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยาที่มาจากราชวงศ์เวิ่นเจี้ยน!
ในเวลานี้ จี้เฟิงอวินโอบเอวของซ่งเหยาเอาไว้ เอาหัวพาดไปยังหัวไหล่ของซ่งเหยาแล้วกระซิบอะไรบางอย่างให้นางฟัง ซ่งเหยาก็หน้าแดงแล้วหันกลับมาทุบไปที่หน้าอกของเขา
และตอนที่ซ่งเหยาหันหัวกลับมา สุดสายตาของนางก็มองเห็นจุดดำๆ ที่อยู่ด้านหลัง
ทะเลเมฆหมอกที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ ระยะที่สายตาสามารถมองเห็นนั้นมันเกินระยะการรับรู้ไปแล้ว ดังนั้นซ่งเหยาเห็นิอวี่แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็เขาอยู่ดี
ซ่งเหยาพูดกับจี้เฟิงอวินแล้วสีหน้าของจี้เฟิงอวินก็เปลี่ยนไปทันที เขาบังคับเ้านกกระเรียนเซียนเมฆากลับมาแล้วบินไปทางจุดดำนั้น
เมื่อเข้าไปใกล้ พวกเขาก็พบว่าคนที่มานั้นคือิอวี่
“เ้าแอบตามเรามา”
จี้เฟิงอวินนั่งอยู่บนนกกระเรียนเซียนเมฆาแล้วกระพือปีกอยู่ที่เดิม เขามองมาที่ิอวี่ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ เดิมเขาลืมิอวี่ไปแล้ว แต่พอได้เจอกันอีก เื่ที่ิอวี่ทำให้เขาไม่พอใจนั้นก็กลับมาอีกครั้ง มันทำให้จี้เฟิงอวินไม่พอใจอย่างมาก
อีกทั้งเมื่อครู่เขากับซ่งเหยากำลังหยอกล้อกันอยู่ พอิอวี่ปรากฏตัวก็ทำให้เขาหมดสนุก
คนที่โกรธมากที่สุดก็คือซ่งเหยา นางเป็ผู้หญิงสูงส่ง เมื่อครู่คิดว่าอยู่บนท้องฟ้าไม่มีใครเห็นเลยยอมปล่อยตัวให้ชายที่รักได้เห็นท่าทางแบบนั้นของนาง แต่คิดไม่ถึงว่ากลับมาถูกิอวี่เห็นเข้า
ถึงแม้ซ่งเหยาจะไม่คิดว่าิอวี่จะเห็นจริงๆ แต่ในใจของนางก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
