งูเหลือมน้ำแข็งั์เลื้อยมาหาเนี่ยเทียนอย่างเชื่องช้า
มันใช้สายตาราวกับกำลังตรวจสอบมองเนี่ยเทียนด้วยความนิ่งสงบ ไม่ได้ลงมือสังหารทันที
สมาธิของเนี่ยเทียนมารวมกันอยู่ที่กลางอากาศเบื้องหน้า จ้องเขม็งไปที่งูเหลือมน้ำแข็งั์ตัวนั้น โคจรพลังิญญาในร่าง ตั้งท่าเตรียมพร้อมลงมือทุกขณะ
“กะ... เกล็ด!” เนี่ยเทียนใจหายวาบ
หลังจากที่เข้ามาใกล้ เขาพลันสังเกตเห็นว่างูเหลือมน้ำแข็งั์ที่ลำตัวเป็สีเงินขาวยาวเกินสิบเมตรนั้น บนร่างของมันกลับมีเกล็ดที่เป็สีเงินใสโผล่ขึ้นมาบางส่วน!
หลายวันก่อนตอนที่เขาติดตามพันเทาไปตามหางูเหลือมน้ำแข็งั์ตัวนั้นทั่วเกาะน้ำแข็ง เขาจึงได้รู้ความลับมากมายเกี่ยวกับงูเหลือมน้ำแข็งั์จากปากของพันเทา
ตามที่พันเทากล่าว งูเหลือมน้ำแข็งั์ระดับสอง ตลอดร่างล้วนเป็เพียงสีขาวเงิน ไม่มีเกล็ด
แต่หากบนร่างของงูเหลือมน้ำแข็งั์มีเกล็ดโผล่ขึ้นมา ต่อให้เป็เพียงแค่ชิ้นเดียวก็ตาม นั่นหมายความว่างูเหลือมน้ำแข็งั์ระดับสองได้มีวิวัฒนาการจากระดับสองไปสู่ระดับสามสำเร็จแล้ว
ความสามารถที่แท้จริงของสัตว์วิเศษระดับสามเทียบเคียงได้กับผู้ฝึกลมปราณขอบเขตกลาง์ ระดับความน่ากลัวเพิ่มขึ้นหลายต่อหลายเท่า!
งูเหลือมน้ำแข็งั์ที่อยู่เบื้องหน้าตัวนี้ซ่อนตัวอยู่นานมาก เกล็ดที่โปร่งใสราวกระจกหลายสิบแผ่นปรากฏอยู่บนร่างของมัน นี่หมายความว่าการซ่อนตัว่ที่ผ่านมาของงูเหลือมน้ำแข็งั์ตัวนี้ ทำให้มันได้กลายเป็สัตว์วิเศษระดับสามไปแล้ว!
หากงูเหลือมน้ำแข็งั์อยู่แค่ระดับสอง เขายังกล้าที่จะต่อสู้กับมันดูสักตั้ง หรือบางทีอาจอาศัยหมัดพิโรธสังหารงูเหลือมน้ำแข็งั์ตัวนี้
แต่งูเหลือมน้ำแข็งั์ที่หลังจากมีวิวัฒนาการไปถึงระดับสามแล้ว เขารู้ดีว่าต่อให้กระตุ้นหมัดพิโรธจนสุดความสามารถ เกรงว่าก็คงยังไม่สามารถเอาชนะมันได้แม้แต่นิดเดียว
หมัดพิโรธสามารถสังหารผู้ฝึกลมปราณขั้นท้าย์ได้เท่านั้น และระดับความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อผู้ฝึกลมปราณก็ห่างชั้นกับสัตว์วิเศษในระดับเดียวกันไกลโข
งูเหลือมน้ำแข็งั์ระดับสาม ไม่ว่าอย่างไรก็ยากที่เขาจะสามารถสังหารได้ หากฝืนต่อสู้กับงูเหลือมน้ำแข็งั์ นั่นเท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ!
หลังจากตระหนักรู้ถึงข้อนี้ เนี่ยเทียนจึงไม่กล้าลังเลอีกต่อไป ถอยฉากด้วยความเร็วที่เร็วที่สุดทันที
“ฟิ้ว!”
ร่างของเขาดุจดั่งรุ้งเส้นยาวพุ่งออกไปยังทิศทางที่คนของพวกสำนักภูตผีและสำนักโลหิตมุ่งหน้าไป ไม่กล้าอยู่ต่ออีกแม้แต่นาทีเดียว
เขารู้ดีว่าลำพังพลังของเขาเพียงคนเดียว ย่อมไม่สามารถต่อกรกับงูเหลือมน้ำแข็งั์ได้แน่นอน
มีเพียงรวมพลังกับหอหลิงเป่า สำนักหลิงอวิ๋น หรือแม้แต่รวมสำนักภูตผีและสำนักโลหิตเข้าไปด้วยเท่านั้น บางทีถึงจะพอสังหารงูเหลือมน้ำแข็งั์ระดับสามตัวนี้ได้
“สวบๆ!”
เสียงของงูเหลือมน้ำแข็งั์เลื้อยบนพื้นทรายดังมาจากด้านหลังของเขา สิบกว่าวินาทีหลังจากนั้น งูเหลือมน้ำแข็งั์นั่นกลับเลื้อยผ่านตัวเขาไปรออยู่บนพื้นทรายเบื้องหน้าอย่างสงบ
งูเหลือมน้ำแข็งั์ที่กลายเป็สัตว์ระดับสามเคลื่อนไหวได้รวดเร็วยิ่งกว่าเขาเสียอีก!
พอมองเห็นว่างูเหลือมน้ำแข็งั์เลื้อยแซงหน้าและไปรอเขาอยู่ด้านหน้า ใช้สายตาแปลกประหลาดจ้องนิ่งสงบมาที่เขา เนี่ยเทียนก็แทบหนังหัวะเิทันที
ไม่มีเวลาให้คิดมาก เขาหันขวับกลับหลัง ถลาออกไปยังทิศทางตรงข้ามกัน
“สวบๆ!”
สิบวินาทีให้หลัง งูเหลือมน้ำแข็งั์ตัวนั้นเลื้อยผ่านเขาไปอีกครั้ง แถมยังรอเขาอยู่ด้านหน้าอีกด้วย
เนี่ยเทียนตะลึงพรึงเพริด หันหลังกลับอีกครั้ง กระตุ้นพลังิญญาอย่างบ้าคลั่ง บวกกับพลังงานที่ก่อเกิดขึ้นมาในร่างกาย ห้อตะบึงอย่างไม่คิดชีวิต
ทว่างูเหลือมน้ำแข็งั์ที่เผยกายบนทะเลทรายร้างตัวนั้นยังคงเร็วกว่าเขามากอยู่ดี!
ไม่ว่าเขาจะวิ่งทะยานบ้าคลั่งแค่ไหน งูเหลือมน้ำแข็งั์ก็ยังคงเลื้อยผ่านร่างเขาไปอย่างสบายๆ แล้วไปดักรอเขาอยู่ด้านหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า
หลังจากผ่านไปหลายครั้ง เนี่ยเทียนที่ยังสลัดมันไม่หลุดก็จำต้องล้มเลิกความคิดที่จะหนี
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าไม่ว่าอย่างไรเขาก็หนีงูเหลือมน้ำแข็งั์ที่เลื่อนขั้นเป็ระดับสามไม่พ้น
“มาเถอะ!”
เนี่ยเทียนที่ถอดใจ ถูกบีบให้ตั้งท้าพร้อมรบ
ที่น่าแปลกก็คืองูเหลือมน้ำแข็งั์ตัวนั้นกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดต่อท่วงท่าที่ท้าทายของเขา
ในดวงตาของมัน มีประกายแสงของการครุ่นคิดวาบผ่าน คล้ายมีแผนการอย่างอื่น
มันไม่ขยับ เนี่ยเทียนก็ไม่กล้าขยับ เอาแต่จ้องมันตาเขม็ง ตั้งรับเผื่อวินาทีถัดมามันจะพุ่งเข้าเข่นฆ่ากะทันหัน
ผ่านไปครู่ใหญ่ ในดวงตาของงูเหลือมน้ำแข็งั์กลับมีประกายแสงแปลกประหลาดเปล่งวาบ หันตัวกลับกะทันหัน แล้วเลื้อยไปยังจุดลึกของทะเลทรายร้าง
พอมันเลื้อยไปได้พักหนึ่งก็หยุดชะงัก หันหน้ากลับมามองเนี่ยเทียน
ราวกับว่ามันกำลังรออะไรบางอย่าง...
ใบหน้าเนี่ยเทียนเต็มไปด้วยความฉงนสนเท่ห์
“ฟ่อๆ!”
งูเหลือมน้ำแข็งั์แลบลิ้นแผล็บ เปล่งเสียงคำรามแปลกประหลาดเบาๆ แล้วก็คอยหันหน้ากลับมามองเป็ระยะ
เนี่ยเทียนที่มองมันด้วยความอึ้งงัน ในที่สุดก็มองออกถึงความหมายที่มัน้าแสดงให้เห็นผ่านทางดวงตาว่าให้ตามมันไป
เนี่ยเทียนตื่นตะลึง
งูเหลือมน้ำแข็งั์จะให้เขาตามมันไปอย่างนั้นหรือ?
“ฟ่อๆ!”
งูเหลือมน้ำแข็งั์ส่งเสียงคำรามแหบพร่าอีกครั้ง เสียงคำรามนั้นเริ่มแสดงออกถึงหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด คล้ายกำลังเร่งเร้า
เนี่ยเทียนยืนอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มเจื่อน ยอมตามมันไปอย่างว่าง่าย
เขาไม่รู้ว่างูเหลือมน้ำแข็งั์คิดจะทำอะไรกันแน่ แต่เขากลับรู้ว่าหากเขาเปิดศึกกับงูเหลือมน้ำแข็งั์ขึ้นมาจริงๆ คนที่ตายย่อมต้องเป็เขาอย่างแน่นอน
งูเหลือมน้ำแข็งั์ที่เลื่อนขั้นเป็สัตว์วิเศษระดับสาม ย่อมไม่ใช่คู่ต่อกรของเขาในตอนนี้ ดูจากเมื่อครู่ที่งูเหลือมน้ำแข็งั์แซงผ่านร่างเขาไป เขาก็ตระหนักได้ถึงข้อนี้แล้ว
หนี เขาหนีไม่รอด สู้ เขาย่อมตายอย่างมิต้องสงสัย
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การยอมเชื่อฟังอย่างว่าง่าย จึงเป็ทางเลือกที่ฉลาดมากที่สุด
แม้ในใจจะรู้สึกกล้ำกลืนฝืนทนอย่างถึงที่สุด แต่เพื่อเอาชีวิตรอด เขาจึงทำได้เพียงตามงูเหลือมน้ำแข็งั์เข้าไปที่จุดลึกของทะเลทรายร้างภายใต้การนำทางของมัน
เดินทางตามงูเหลือมน้ำแข็งั์ตัวนั้นไปอย่างเร่งร้อน เขารู้สึกว่าตัวเองเดินมานานเหลือเกินแล้ว
ระหว่างทาง งูเหลือมน้ำแข็งั์ที่รู้ว่าเขาตามมาเงียบๆ ก็คอยเลื้อยไปด้วยความเร็วที่เนี่ยเทียนสามารถตามทันได้
หากเขาหยุดพักหรือเกิดความกังขาขึ้นกลางใจ งูเหลือมน้ำแข็งั์ก็จะหันหลังกลับมามองเขา
ภายใต้สายตาแปลกประหลาดของงูเหลือมน้ำแข็งั์ตัวนั้น เขามักจะคอยส่งยิ้มประจบให้ จากนั้นก็เดินตามต่อ ล้มเลิกความคิดเื่อื่นไปชั่วคราว
งูเหลือมน้ำแข็งั์อยู่ด้านหน้า เขาอยู่ด้านหลัง เร่งเดินทางเงียบๆ อยู่ตลอดเวลา
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน อยู่ๆ งูเหลือมน้ำแข็งั์ตัวนั้นก็หยุดลงกะทันหัน เนี่ยเทียนจึงถือโอกาสหยุดพักตามไปด้วย
เขาปรับลมหายใจตัวเองพลางแอบสังเกตรอบด้าน อยากรู้ว่าเหตุใดงูเหลือมน้ำแข็งั์ถึงได้หยุดลงตรงนี้
ที่นี่คือเกาะสีเขียวเล็กๆ แห่งหนึ่ง ในทะเลสาบขนาดไม่ใหญ่นักมีน้ำตื้นๆ น้ำของทะเลสาบที่เป็สีเขียวแปลกตามีกลิ่นเหม็นคาวลอยออกมา
ข้างเกาะสีเขียวมีพืชพรรณพุ่มเตี้ยขึ้นมากมาย พืชเ่าั้บางตาหร็อมแหร็ม ราวกับว่าสามารถแห้งเหี่ยวได้ตลอดเวลา
งูเหลือมน้ำแข็งั์หยุดอยู่กับที่ไม่นาน ร่างใหญ่โตของมันก็ค่อยๆ เลื้อยลงไปกลางทะเลสาบช้าๆ
หางของมันชี้สูงขึ้นสู่ท้องฟ้า บนปลายแหลมคมของหางนั้น หยดเืสดๆ มากมายไหลออกมาคล้ายถูกมันรีดเค้นออกมา
“ติ๋ง! ติ๋ง!”
เืสดมากมายหยดลงในทะเลสาบสีเขียว ทะเลสาบที่มีกลิ่นคาวแสบจมูกเกิดเป็ระลอกคลื่นกระเพื่อมเป็ชั้นๆ
แสงสีเขียวขมุกขมัวแผ่ออกมาบนผิวน้ำ เขียวมันขลับ มองดูแล้วน่าขนลุกยิ่งนัก
“สวบ!”
หางงูเหลือมที่ชี้ขึ้นฟ้าแทงทะลุเข้าไปในทะเลสาบราวกับสว่านที่เจาะลงไป
เนี่ยเทียนจ้องมองอย่างตั้งใจ พบว่าหางของงูเหลือมน้ำแข็งั์แทงลงไปยังจุดศูนย์กลางของก้นทะเลสาบ ทั้งยังทะลุลงไปอย่างต่อเนื่อง
ลำตัวของงูเหลือมน้ำแข็งั์ที่ยาวสิบกว่าเมตรจึงค่อยๆ จมลึกลงไปใต้ดินทีละนิดตามหางของมัน
เมื่อเหลือเพียงศีรษะที่มีขนาดเท่าต้นไม้ั์ต้นหนึ่งซึ่งโผล่พ้นผิวน้ำ มันก็หันขวับมามองเนี่ยเทียน สายตาส่งประกายเหมือนก่อนหน้านี้
---ตามข้ามา!
เนี่ยเทียนใจสั่นสะท้าน คิดจะฉวยโอกาสเผ่นหนีไปไกลอย่างรวดเร็ว
ทว่าเวลานี้เอง งูเหลือมน้ำแข็งั์คล้ายจะมองออกถึงความคิดของเขา ลำตัวส่วนใหญ่ที่จมลึกลงไปใต้ดินของมันพลันโผล่ทะลุพื้นดินออกมาอีกครั้ง
หลังจากที่ร่างของมันโผล่ขึ้นมา จึงเผยให้เห็นถ้ำโคลนแห่งหนึ่งที่อยู่ใต้ดินในทะเลสาบอย่างชัดเจน
มันเอาร่างเบี่ยงหลบ ทำให้ถ้ำโคลนแห่งนั้นยิ่งปรากฏอยู่เบื้องหน้าเนี่ยเทียนอย่างชัดเจน ใช้สายตาบอกเป็นัยว่าให้เนี่ยเทียนเข้ามาก่อน
เนี่ยเทียนที่ถูกจับไต๋ได้ ยิ้มแห้งๆ หนึ่งครั้ง พยักหน้า เดินเข้าไปยังจุดศูนย์กลางของทะเลสาบอย่างอืดเอื่อยด้วยความจนใจ
เมื่อมาถึงตรงกลางทะเลสาบ เขาพบว่าน้ำของทะเลสาบสูงถึงแค่หน้าอกเขาเท่านั้น มองถ้ำโคลนที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน เขาก็ถอนหายใจหนึ่งครั้ง หลับตาแล้วะโเข้าไป
เขาััได้ว่าตลอดทางที่ไถลลงไปยังจุดลึกใต้ดิน เขาต้องได้กลิ่นเหม็นคาวแสบจมูกอยู่ตลอดเวลา
“จ๋อม!”
ผ่านไปครู่ใหญ่ เขาก็ร่วงหล่นลงไปในทะเลสาบแบบเดียวกัน
เขาเบิกตาค้าง
ไม่คาดคิดว่าจุดลึกใต้ดินจะมีตำหนักหินขนาดั์แห่งหนึ่งอยู่!
ตรงกลางตำหนักหิน มีรูปปั้นมากมายตั้งตระหง่าน รูปปั้นเ่าั้ล้วนเป็สัตว์วิเศษขนาดใหญ่ั์
นอกจากรูปปั้นแล้วยังมีเสาหินอีกหลายต้น ้าเสาหินมีัหลายตัวเลื้อยโอบล้อมราวกับมีชีวิตจริง!
ตำแหน่งที่เขาอยู่คือมุมหนึ่งของตำหนักหิน ซึ่งมันคือบ่อน้ำรูปพระจันทร์เสี้ยวหนึ่งบ่อ และตอนนี้เขากำลังลอยตัวอยู่ในน้ำของบ่อนั้น สังเกตการณ์ไปรอบตำหนักหินโบราณแห่งนี้
“ตึง!”
และเวลานี้เอง เรือนกายใหญ่โตของงูเหลือมน้ำแข็งั์ก็ร่วงลงมาจาก้า
เขารีบหันกลับไปมองทันที
เขามองเห็นว่า้าของตำหนักหิน มีทางหินปูยาวอยู่เส้นหนึ่ง ซึ่งทางหินนั้นคล้ายจะเชื่อมต่อกับถ้ำโคลนของทะเลสาบที่อยู่้า
ตอนที่งูเหลือมน้ำแข็งั์ร่วงลงมา มันบิดร่างหนึ่งครั้งเบี่ยงหลบตัวเขาไป แล้วไปหยุดอยู่ตรงพื้นที่ว่างกลางตำหนักหิน
หลังจากงูเหลือมน้ำแข็งั์อยู่นิ่งได้แล้วมันก็มองไปยังเสาหินขนาดมโหฬารเสาหนึ่ง จากนั้นจึงเหลือบมองเขา ใช้สายตาบอกเป็นัยแก่เขาอีกครั้ง
ภายใต้การบอกเป็นัยจากงูเหลือมน้ำแข็งั์ เขาจึงมองไปที่เสาหินต้นนั้น แล้วก็พบทันทีว่าที่เลื้อยพันอยู่รอบเสาหินนั่นก็คือัเพลิงตัวหนึ่ง
-----