เซียวเฉินมองสัตว์ปิศาจตัวนั้นราวกับยิ้มและไม่ยิ้ม ทว่าสีหน้ากลับเ็าขึ้นทุกที
ส่วนสัตว์ปิศาจตัวนั้นก็ถอยหลังอย่างต่อเนื่อง เพราะมันรู้สึกถึงกลิ่นอายที่ทำให้มันหวาดกลัวแบบตอนอยู่ริมหน้าผาจากร่างของเซียวเฉิน
“ได้เวลาชดใช้หนี้แล้ว”
เซียวเฉินเอ่ยแล้วสาวเท้ามา ก้าวออกมาสิบกว่าเมตรก็มาถึงเบื้องหน้าของสัตว์ปิศาจราวกับย่นระยะทางได้
วิ้งวิ้ง!
แขนทั้งสองข้างของเซียวเฉินเปี่ยมพลังรุนแรงจากการผสานโลหิตแก่นชีวิตของวานรั์ค้ำยันฟ้า ทำให้พลังของเขาพุ่งทะยาน บวกกับเรี่ยวแรงัเถื่อนยุคกำเนิดโลก ขีดจำกัดเรี่ยวแรงทั้งสองแขนของเขาในตอนนี้จึงมีเกือบหนึ่งแสนชั่ง!
เห็นแขนทั้งสองข้างของเซียวเฉินมีเส้นเืปูด พลังปะทุไร้ที่สิ้นสุด
สายฟ้าแลบแปลบปลาบ นั่นคือร่างเทพอัสนี!
เวลานี้ แม้เซียวเฉินยังอยู่ขั้นเสวียนฟ้าสี่ชั้นฟ้า แต่กลับมีความสามารถอันน่ากลัวของสัตว์ปิศาจขั้นเสวียนฟ้าเก้าชั้นฟ้าระดับสูงสุด
ดังนั้น จึงเห็นได้ถึงความสามารถของเซียวเฉินในปัจจุบัน
“อู...”
ยังไม่ทันสู้ สัตว์ปิศาจตัวนั้นก็คร่ำครวญ น้ำเสียงแฝงความขลาดเขลา
เซียวเฉินขมวดคิ้ว ในห้วงสมองมีเสียงดังขึ้น
“อย่าฆ่าข้า ข้าจะรับท่านเป็นาย”
เซียวเฉินชะงักมองสัตว์ปิศาจตัวนั้น ตนถึงกับฟังภาษาสัตว์ปิศาจเข้าใจ?
“วิชาเทพปิศาจแปรเปลี่ยน...”
หรือเป็เพราะตนฝึกวิชาเทพปิศาจแปรเปลี่ยน จึงฟังภาษาสัตว์ปิศาจเข้าใจ?
เซียวเฉินมองสัตว์ปิศาจตัวนั้น “ข้าไม่้าผู้ติดตาม สิ่งที่้าในตอนนี้คือโลหิตแก่นชีวิตและผลึกสัตว์ของเ้า!”
สัตว์ปิศาจตัวนั้นชะงัก จากนั้นแหงนหน้ากู่ร้อง ทั่วร่างแผ่ไอชั่วร้าย ดวงตามีประกายดุร้าย พ่นลำแสง ดุจฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ โจมตีเซียวเฉินในพริบตา ในเมื่อเซียวเฉินไม่ละเว้นมัน เช่นนั้นก็สู้จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง!
เซียวเฉินต่อยหมัดออก ทำลายลำแสงในพริบตา แต่แขนของเขากลับเ็ป
เซียวเฉินมองสัตว์ปิศาจตัวนั้นแล้วหัวร่อเ็า “นี่คือท่าทีของเ้าหรือ? ผู้ติดตามแบบนี้ข้ารับไว้ไม่ได้ มอบชีวิตของเ้ามาให้ข้าดีกว่า!” น้ำเสียงของเซียวเฉินดุจราชันที่เผด็จการไปเสียทุกเื่ หงสาด้านหลังสยายปีกสู่ท้องนภา พ่นเปลวอัคคีศักดิ์สิทธิ์หงสา เผานภาต้มสมุทร เปลวอัคคีทรงพลังกักขังสัตว์ปิศาจไว้ภายในทันที ลุกโชนรุนแรง ทำให้สัตว์ปิศาจตื่นตระหนก
“บั่นเศียร!”
เร่งเร้ากระบี่ทัณฑ์์ทั้งหมดฟันลงมา ฟ้าพร่างดาวสั่นะเืนิดๆ
ราวกับกระบี่นี้สามารถฟันดวงดาวให้ร่วงลงมาได้!
ตูม!
ดับสูญทุกสิ่ง ทำลายทุกอย่างในสถานที่ทั้งหมดที่รังสีกระบี่กวาดผ่าน สัตว์ปิศาจคายลำแสงหลายสาย แต่ทั้งหมดถูกรังสีกระบี่ทำลาย สุดท้ายฟันลงด้านหลังของมัน สัตว์ปิศาจร้องโหยหวนอย่างเ็ป กระบี่นี้ฟันการป้องกันของมัน ทิ้งาแยาวครึ่งเมตรไว้บนร่าง โลหิตกระฉูด
สัตว์ปิศาจล้มลงกับพื้น พื้นดินยุบเป็หลุมลึก
ไม่รอให้สัตว์ปิศาจตัวนั้นลุกขึ้น ก็มีอัสนีผ่าลงมาจากฟากฟ้ากลายเป็เชือกรัดมันไว้ อสนีบาตรุนแรง ทำให้มันร้องโหยหวนไม่หยุด
ร่างของเซียวเฉินเปล่งพลังปิศาจและกลายร่างเป็ปิศาจในพริบตา เทพปิศาจแปรเปลี่ยนมีทั้งหมดเก้าเปลี่ยนแปลง เซียวเฉินกลายเป็นกเผิง [1] ั์ในพริบตา ยามนี้ ร่างของเขาสูงหลายสิบเมตร ใหญ่กว่าสัตว์ปิศาจตัวนั้นมาก หลังจากสัตว์ปิศาจเห็นเขากลายเป็นกเผิงั์แล้ว มันก็สั่นไปทั้งตัว คุกเข่าร้องสะอึกสะอื้นอยู่บนพื้น
เซียวเฉินกู่ร้อง สยายปีกทั้งสองข้าง ปิดฟ้าบังตะวัน
“เ้ากำลังกลัวเทพปิศาจแปรเปลี่ยนสินะ ตอนนี้ให้เ้าตายใต้เทพปิศาจแปรเปลี่ยน เ้าคงตายตาหลับแล้ว”
นกเผิงั์พูดภาษามนุษย์ กางปีก ลำแสงอันแข็งแกร่งฟันลงมาดุจดาวตกวาบผ่าน แววตาของสัตว์ปิศาจพรั่นพรึง ตรงคอมีโลหิตสดกระฉูดเป็ลำ ร่างล้มเสียงดัง ขนาดจะร้องก่อนตายยังทำไม่ได้
จากนั้น ร่างของสัตว์ปิศาจค่อยๆ เปลี่ยนเป็ขนาดปกติและหายไป
สิ่งที่เหลืออยู่ คือโลหิตแก่นชีวิตหนึ่งหยดและแก่นของสัตว์ปิศาจขนาดเท่ากำปั้น
ใบหน้าของเซียวเฉินมีรอยยิ้ม
ตอนนี้เขาฝึกเทพปิศาจแปรเปลี่ยนแล้ว เขาย่อมไม่้าแก่นโลหิตอีก แต่เขารู้ว่าเทพปิศาจแปรเปลี่ยนยังสามารถพัฒนาได้ เทพปิศาจแปรเปลี่ยนในตอนแรกสุดมีเพียงสามเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อผ่านการทำให้แข็งแกร่งขึ้นของผู้เข้มแข็งหลายรุ่นจึงมีเทพปิศาจเก้าแปรเปลี่ยนในวันนี้
เงื่อนไขในการทำให้เทพปิศาจแปรเปลี่ยนแข็งแกร่งขึ้นก็ยากเย็นสุดๆ
้าสัตว์ปิศาจที่แข็งแกร่ง ถึงขั้นผสานโลหิตแก่นชีวิตของสัตว์์ สัตว์เทพลงในนั้นจึงเร่งให้เกิดขึ้นได้
เซียวเฉินย่อมจะไม่หมายตาสัตว์ปิศาจแบบตัวเมื่อครู่ เขามองการณ์ไกล การเปลี่ยนแปลงสามแบบแรกในร่างปิศาจเก้าเปลี่ยนแปลงคือสัตว์ปิศาจขั้นเก้าระดับสูงสุดชั้นยอด ส่วนการเปลี่ยนแปลงหกแบบหลังคือปิศาจ์ ดังนั้น เซียวเฉินจึงคิดจะทำให้เทพปิศาจแปรเปลี่ยนแข็งแกร่งขึ้น อย่างแย่ที่สุดต้องเป็ระดับสัตว์์
เซียวเฉินฝึกการเปลี่ยนแปลงแบบที่หนึ่ง เผิงทองแปรเปลี่ยน สำเร็จภายในเวลาหนึ่งเดือน
เื่นี้ทำให้เซียวเฉินพอใจอย่างยิ่ง
กลายร่างเป็นกเผิง พลังต่อสู้เพิ่มขึ้นหนึ่งเท่า อีกทั้งความเร็วยังเป็เอก กายเนื้อทนทาน เทพปิศาจแปรเปลี่ยนนี้คือเคล็ดวิชาต่อสู้อันล้ำเลิศ!
แม้ไม่ต้องใช้แก่นโลหิต แต่แก่นของสัตว์ปิศาจตัวนั้นมีประโยชน์ต่อพลังฝึกปรือ สามารถใช้ได้
เซียวเฉินเก็บแก่นโลหิตไว้ ตนเองใช้ไม่ได้ แต่ให้คนอื่นได้
พี่ใหญ่หลินคุนฝึกวิชาในแนวทางดุดัน พี่ใหญ่สือเทียนสามารถใช้แก่นโลหิตหล่อหลอมกายเนื้อได้เช่นกัน มิใช่ว่าจะได้สัตว์ปิศาจขั้นเสวียนฟ้าระดับสูงสุดมาได้ง่ายๆ
คิดแล้ว ใบหน้าของเซียวเฉินก็เผยรอยยิ้ม ไม่ได้ไปหาพวกเขานานแล้ว กลับไปคราวนี้ต้องไปสำนักนอกสักครา...
เซียวเฉินสะบัดมือ พริบตาเทพปิศาจแปรเปลี่ยนก็เปล่งแสงปกคลุมเขาไว้
แม้แต่สัตว์ปิศาจขั้นเสวียนฟ้าระดับสูงสุดก็เกรงกลัวเทพปิศาจแปรเปลี่ยน เช่นนั้น เทพปิศาจแปรเปลี่ยนน่าจะถือเป็เกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดในพื้นที่รกร้างฟ้าพร่างดาว ไม่มีปิศาจใดกล้ากล้ำกราย
เซียวเฉินหล่อหลอมแก่นสัตว์ปิศาจฝึกวิชาอยู่ในนั้นอย่างวางใจ
เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีประสบการณ์หลอมมาแล้ว คราวนี้เซียวเฉินจึงมั่นใจอย่างยิ่ง เขาปลดปล่อยสายโลหิตหงสาเพื่อดูดซับโดยตรง อานุภาพกดดันของสัตว์เทพวนเวียนอยู่เหนือศีรษะ เขาสยบพลังเสวียนอันบ้าคลั่งของสัตว์ปิศาจ มุมปากของเขาโค้งขึ้น
“ใช้ได้ดีจริงๆ”
พลังเสวียนดุจทะเลปั่นป่วน ชำระร่างของเซียวเฉินไม่หยุด ล้างชีพจรและทะลวงม่านกั้นทีละก้าว ฝึกวิชาครั้งนี้ พริบตาเดียวก็ผ่านไปสามวัน ในเวลาสามวันนี้ แสงเสวียนบนร่างของเขาโชติ่อยู่ตลอด เนิ่นนานไม่ดับสูญ ส่วนเซียวเฉินก็ได้สติ
จนกระทั่งวันที่ห้า ม่านป้องกันของสัตว์ปิศาจแปรเปลี่ยนพลันปริแตก ดวงตาของเซียวเฉินค่อยๆ ลืมขึ้นในเวลานี้
ดวงตาคู่นั้นเปล่งแสงเจิดจ้าดุจดวงดารา แต่กลับฉายแววผิดหวัง
“อีกนิดเดียวก็จะบรรลุระดับกลาง...”
รู้สึกว่าพลังเสวียนภายในร่างมารวมอยู่ด้วยกัน ใบหน้าของเซียวเฉินเผยรอยยิ้มบางๆ ดวงตาคู่นั้นมองไปไกลลิบ แล้วกล่าวว่า “ถึงเวลาออกไปแล้ว ไม่รู้ว่าเสิ่นเล่ยฝึกวิชาเป็อย่างไรบ้าง แล้วยังมีพวกเชี่ยนเอ๋อร์กับศิษย์พี่ซูด้วย ไม่รู้ว่าพวกเขาจะอยู่ที่นี่หรือไม่...”
คิดถึงตรงนี้ ร่างของเซียวเฉินก็กลายเป็ลำแสงจากไปอย่างรวดเร็ว
เวลาที่ทุกคนเข้าไปในประตู์สามสิบหกบานผ่านไปสามเดือน ในสามเดือนนี้ บางคนก็ออกมาในไม่ช้า คนที่ออกมาบรรยายว่า ในนั้นคือขุมนรกแท้ๆ อันตรายเปี่ยมล้น หากไม่ระวังเพียงนิดเดียวก็จะตายโดยไร้ที่ฝัง
เื่นี้เพิ่มสีสันให้กับประตู์สามสิบหกบาน
วันนี้ มีเงาร่างหลายสิบสายในประตู์สามสิบหกบาน ผ่านการฝึกวิชามาสามเดือน คนเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน บางคนความสามารถรุดหน้า บางคนพบโชควาสนา บางคนได้สิ่งของล้ำค่า ถึงขั้นมีคนได้พลังสืบทอด
ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนมาจากประตู์สามสิบหกบานทั้งสิ้น
โชควาสนาในนั้นมีมากมายหลากหลาย
ส่วนกลุ่มคนที่ออกมาต่างเป็บุคคลผู้มีพร์ของกลุ่มอิทธิพลในเขติญญา อย่างเช่นพวกโม่เส้าชิงของสำนักเหยียนหยาง ฉีเทียนหย่วนของจวนัเจียว หวังเจวี๋ยของหอหมื่นอาวุธ และซือคงไจซิงของสำนักดารากร รวมถึงบุตรหลานของกลุ่มอิทธิพลอื่นๆ และในบรรดานั้นยังมีเงาร่างสี่สาย
พวกเขาคือผู้มีพร์ของสถานศึกษาชางหวง
นอกจากซูเฉินเทียนและมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์แล้ว ก็ยังมีเด็กหนุ่มอีกสองคน ทุกคนเป็บุคคลที่อยู่นอกเหนือผังชางหวง
กู้สิงเฉินและฉู่เฉินเฟิง!
คนของสถานศึกษาชางหวงมาทั้งหมดหกคน นอกจากสี่คนนี้แล้ว ก็ยังมีอีกสองคนที่ยังไม่กลับมา
ซูเฉินเทียนมองกู้สิงเฉินและฉู่เฉินเฟิงแล้วเอ่ยถาม “คนที่มากับพวกเ้าเป็ใคร?”
“คนที่มากับพวกเ้าเป็ใคร?”
คนทั้งสี่ถามพร้อมกัน
“เสิ่นเล่ย ศิษย์สืบทอดของผู้าุโใหญ่”
“เซียวเฉิน...”
---
[1] นกเผิง คือ นกขนาดใหญ่ในตำนานจีน