นางเซี่ยขัดขืนตามสัญชาตญาณ กล่าวว่า “ท่านแม่ อาการป่วยของข้าดีขึ้นมากแล้ว ไม่อันใดร้ายแรงแล้วเ้าค่ะ”
นางเหอจ้องเขม็ง เอ่ยว่า “เ้าจะปฏิเสธความตั้งใจดีของข้าหรือ?”
กล่าวจบ นางก็ไม่สนใจว่านางเซี่ยเต็มใจหรือไม่ ก้าวขึ้นหน้าสองก้าวหมายจะบังคับกรอกยาให้นางเซี่ย
นางเซี่ยถอยหลังติดต่อกัน ไหนเลยจะสู้เรี่ยวแรงของนางเหอได้ เพียงครู่เดียวก็ถูกนางเหอผลักล้มลงกับพื้น นางเหอถือถ้วยยาเดินขึ้นหน้าพลางกล่าว “ลูกสะใภ้ นี่เป็ยาดี จะให้เสียเปล่าได้อย่างไร”
แน่นอนว่านางเซี่ยจำได้ว่าเมิ่งอู่เคยกำชับไว้ว่า ต่อไปห้ามดื่มยาต้มใดๆ ที่นางเหอส่งมาให้เด็ดขาด! นางคิดว่าเมิ่งอู่คงไม่อยากเกี่ยวข้องใดๆ กับครอบครัวลุงใหญ่อีก แต่เมื่อเห็นยาถ้วยนี้และอารมณ์บนใบหน้าของนางเหอแล้ว ความพรั่นพรึงชนิดหนึ่งก็จู่โจมก้นบึ้งหัวใจของนางเซี่ย
ภาพเหตุการณ์ชวนหัวใจสลายที่สุดเมื่อหลายปีก่อนปรากฏขึ้นอีกครา ครานั้นนางถูกจับกรอกยาถ้วยหนึ่งลงท้อง ไม่ว่านางจะร้องไห้จนใจแทบขาดปอดแทบฉีกเพียงใดก็เปล่าประโยชน์… อาการป่วยจากไข้หนาวสั่นก็เกิดขึ้นครั้งนั้น
นางเซี่ยเริ่มตัวสั่นสะท้าน สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่รู้เลยว่าตนสมควรมีปฏิกิริยาเช่นไร
ทว่านางเหอเพิ่งก้าวขึ้นหน้าได้เพียงสองก้าว พริบตานั้นเองจู่ๆ ก็มีเงาดำพุ่งมาจากด้านหลังเสียงดังฟิ้วแหวกอากาศ เฉียดชายเสื้อนางเหอไป ก่อนปักตรึงลงบนพื้นข้างเท้านางเหออย่างแม่นยำและเรียบร้อย แม้แต่ขอบรองเท้านางยังทะลุ ถูกตรึงอยู่กับพื้นด้วยกัน
นี่เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่เท่านั้น
รอกระทั่งนางเหอได้สติกลับคืนมาแล้วก้มลงดู คาดไม่ถึงว่าสิ่งที่ตรึงรองเท้านางไว้เป็เคียวดำเล่มหนึ่ง นางอดร้องลั่นด้วยความตระหนกใไม่ได้
นิ้วเท้านางยังััได้ถึงความเย็นะเืของเคียวข้างเท้า หากเฉอีกเพียงครึ่งชุ่น ก็คงทะลุเท้าของนางเป็แน่ บางทีอาจตัดนิ้วเท้าของนางด้วยซ้ำ!
นางเหอหันกลับไปมอง เห็นเมิ่งอู่แบกตะกร้าใบหนึ่งเดินเข้าเรือนอย่างไม่เร่งไม่รีบ
เมิ่งอู่ยกมุมปากยิ้มเ้าเล่ห์แล้วกล่าว “ท่านย่า ท่านจะลองแตะต้องท่านแม่ของข้าอีกหรือไม่?”
สีหน้าของนางเหอประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวขาว
เคียวนี่ นี่ นี่... นางเป็คนขว้างเคียวเล่มนี้หรือ?!
นางกินดีสุนัข [1] เช่นนี้ั้แ่เมื่อไร!
นางเหอยังคงตื่นตระหนก ก่อนโกรธจัด นางด่าทอเมิ่งอู่ “เมิ่งอู่! เ้าคิดจะพลิกฟ้า [2] หรือ! ถึงกับกล้าใช้เคียวแทงย่าของเ้า!”
เมิ่งอู่วางตะกร้าสมุนไพรลงข้างๆ สีหน้าดุจเมฆบางลมเบา [3] นางถอนหายใจกล่าวว่า “เฮ้อ สายตาข้าใช้การไม่ได้เลย ขว้างพลาดไปแล้ว”
ถ้อยคำเช่นนี้หมายความว่านางไม่เพียงกล้าทำ แต่ยังตรวจสอบให้แน่ใจว่าแทงถูกเป้าหมายหรือไม่!
"เ้า... เ้า!" นางเหอเดือดดาลมาก แต่เคียวยังปักอยู่บนรองเท้านาง นางจึงไม่กล้าขยับเขยื้อน มิเช่นนั้นอาจตัดนิ้วเท้าของนางได้
เมิ่งอู่เดินเข้ามารับถ้วยยาจากมือนางเหอ หลังดมแล้วนางก็ยิ้มกล่าว “ท่านย่ามาส่งยาให้ท่านแม่ของข้าอีกแล้วหรือเ้าคะ?”
นางเหอกล่าวอย่างดุดัน “ข้าอุตส่าห์หวังดีเอายามาให้ เ้านี่ใจหมาป่าปอดสุนัข ถึงขนาดทำกับข้าเยี่ยงนี้!”
นางเซี่ยที่ล้มอยู่ข้างชายคาตกตะลึงพรึงเพริดเช่นกัน เป็นานกว่าจะได้สติกลับคืนมา
เมิ่งอู่แค่เลิกคิ้วพลางกล่าว “ท่านแม่ของข้าป่วยเป็ไข้หนาวสั่น แต่ท่านย่ากลับส่งยาเย็นมาให้ถ้วยหนึ่ง” นางเงยหน้าจ้องนางเหอ ระหว่างคิ้วเ็า “ท่านย่าคิดจะฆ่านางหรือ?”
นางเหอไม่คุ้นเคยกับท่าทางเช่นนี้ของเมิ่งอู่ ยิ่งไม่เคยเห็นนางแสดงสีหน้าแบบนี้มาก่อน เมื่อนางมองด้วยสายตาแฝงนัยนั่นพาให้ในใจนางเหอหนาวสะท้าน กล่าวกระอึกกระอัก “เ้าพูดจาเหลวไหล ท่านหมอบอกว่า นี่คือยารักษาไข้หนาวสั่น เป็ยาบำรุง!”
เมิ่งอู่หัวเราะสองครั้ง ครู่ต่อมาก็พุ่งเข้าไปหาโดยตรง เคียวยังปักอยู่ที่รองเท้าของนางเหอ นางจึงถอยไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้เมิ่งอู่บีบกราม
นางเหออ้าปากหายใจเอาลมเย็นเข้าไป คาดไม่ถึงว่ามือของนางสารเลวตัวน้อยนี่จะทำให้คนประหวั่นพรั่นพรึง…
เมิ่งอู่ออกแรงง้างปากของนางเหอให้เปิดออก ระหว่างคิ้วอาบย้อมยิ้มชั่วร้าย นางกล่าว “ในเมื่อท่านย่าบอกว่าเป็ยาบำรุง ท่านแม่ของข้าย่อมดื่มไม่ได้ แล้วจะปล่อยให้สิ้นเปลืองเสียเปล่าได้อย่างไร เป็ธรรมชาติที่จะต้องแสดงความกตัญญูต่อท่านย่าดีๆ”
“อื้อ อื้อ อื้อ...”
……….
[1] หมายถึง ใจกล้า กล้าหาญ
[2] หมายถึง ขบถ
[3] หมายถึง ไม่แยแส ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้