ในที่สุด ก็ต้องยอมให้อาเหลยตามไปด้วยกัน
"อาเหลย ถ้าสมมติเจอกับหมูป่า เ้าต้องรีบปีนขึ้นไปหลบบนต้นไม้เลยนะ เข้าใจไหม อย่าเข้าตัวเองเข้าไปขวางเป็อันขาด หากเ้าไม่เชื่อฟัง ต่อไปพี่สาวจะไม่พาเ้าออกไปไหนอีกแล้ว เข้าใจหรือไม่"
เซวียเสี่ยวหรั่นปากเปียกปากแฉะกำชับเื่ที่ต้องระวัง ทั้งยังเลียนเสียงขู่แฮ่ๆ แบบหมูป่าอีกด้วย ให้อาเหลยเข้าใจว่าหมูป่าเป็สัตว์ประเภทไหน
ได้ยินนางเลียนแบบเสียงหมูป่าโดยไม่ห่วงภาพลักษณ์ตนเองแม้แต่น้อย เหลียนเซวียนซึ่งเดินอยู่ด้านหลังก็ไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือว่าถอนหายใจมากกว่ากัน
เซวียนเสี่ยวหรั่นมือหนึ่งถือตาข่ายดักปลา อีกมือหิ้วตะกร้า หลังสะพายเป้ ส่วนสเปรย์พริกกับมีดสองเล่มล้วนพกติดตัว
"เหลียนเซวียน นี่ให้ท่าน ข้าจะวิ่งล่วงหน้าไปก่อน ว่าจะตัดเถาเฮ่อกลับไปสักหน่อย" เธอวางมีดพับสีเงินใส่มือของเหลียนเซวียน
เหลียนเซวียนอึ้งไปชั่วขณะ นางจะวิ่งไปก่อน?
"ข้าเป็คนว่องไว ตัดเถาเฮ่อสักสองสามต้น ไม่รั้งอยู่นานนักหรอก ท่านเดินเลียบริมฝั่งแม่น้ำไปเรื่อยๆ ก็พอ" เซวียเสี่ยวหรั่นฉวยโอกาสที่เขายังอึ้งอยู่ วิ่งราวกับติดพายุไว้ใต้ฝ่าเท้า พริบตาเดียวก็ไปไกลโพ้นแล้ว "อาเหลย เ้าอยู่กับเหลียนเซวียนนะ"
นางไม่ลืมหันมากำชับอาเหลยซึ่งเดินด้วยสามขา
เหลียนเซวียนลอบกัดฟัน แม่นางผู้นี้สงบเสงี่ยมได้ไม่กี่วัน นึกว่านางแก้นิสัยปรับปรุงตัวใหม่แล้ว ที่ไหนได้ พอออกจากถ้ำเท่านั้น ก็เริ่มกระโดกกระเดกเหมือนเดิม
ฝีเท้าของเขาก้าวเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่แม้ว่าจะทุ่มสุดกำลัง ความเร็วก็ยังเร็วกว่าหอยทากเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ละย่างก้าวขยับไปอย่างยากเย็น สีหน้าดำทะมึนปานจะมีน้ำหยดออกมา บัญชีนี้ ไม่ช้าก็เร็วเขาต้องทวงกลับมาให้ได้
"เจี๊ยกๆ" อาเหลยอยากตามหลังเซวียเสี่ยวหรั่น แต่ถูกเธอโบกมือไล่กลับมา มันก็เลยชักสีหน้า หันมาทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจใส่เหลียนเซวียนที่เดินช้ากว่ามัน
หนึ่งคนกับหนึ่งลิงหน้าตาบูดบึ้ง เดินเลียบริมฝั่งแม่น้ำตามกันไปอย่างช้าๆ
เซวียเสี่ยวหรั่นเอี้ยวศีรษะหันมามองปราดหนึ่ง ก่อนวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าเพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด เธอหยิบสเปรย์พริกจากเสื้อชั้นในออกมาถือไว้ในมือ อยู่ในท่าเตรียมพร้อมตลอดเวลา
ยามวิ่งไปถึงริมธาร เซวียเสี่ยวหรั่นก็เหนื่อยหอบพลางมองไปรอบด้าน ไม่พบร่องรอยของหมูป่า จึงวางตาข่ายดักปลากับตะกร้าไว้ริมธาร หลังจากนั้นก็วิ่งไปยังเนินต้นเถาเฮ่อแห่งนั้น
แน่นอนว่าบนเนินแห่งนั้นมีบ่อมีหลุมเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย หัวเฝิ่นเฮ่อถูกหมูป่าขุดเอาไปอีกแล้ว
เซวียเสี่ยวหรั่นไม่สนใจอะไรมากมาย เริ่มใช้มีดไม้ตัดเถาเฮ่อ
มีดไม้สู้มีดเงินของเธอไม่ได้ การตัดเถาเฮ่อจึงต้องเสียเวลาหน่อย
จนกระทั่งได้ปริมาณที่ไม่หนักและไม่เบาเกินไป เซวียเสี่ยวหรั่นก็เริ่มลากเถาเฮ่อต้นยาววิ่งกลับไป
เสียงครืดๆ ดังมาตลอดทาง พอเหลียนเซวียนได้ยิน ก็รู้ว่าแม่นางผู้นั้นตัดเถาเฮ่อกลับมาแล้ว
"แฮ่กๆๆ เอ่อ เหลียนเซวียน ข้าจะลากเถาเฮ่อกลับไปก่อน พวกท่านค่อยๆ เดินไปนะ ข้างหน้าเป็ทางแยกของแม่น้ำ ให้ท่านเลี้ยวไปทางซ้าย"
ยังไม่ทันวิ่งมาถึง เสียงกำชับของนางก็มาก่อนแล้ว จนกระทั่งผ่านตัวเขาไป นางก็เปลี่ยนเป้าหมายไปพูดกับอีกตัวหนึ่ง "อาเหลย เ้าอย่าวิ่งตามข้า ตามเหลียนเซวียนไป อย่าให้เขาตกแม่น้ำไปเสียล่ะ"
เหลียนเซวียนแน่นหน้าอกขึ้นมาทันควัน
"เจี๊ยกๆ" อาเหลยจะวิ่งตามเซวียเสี่ยวหรั่น แต่ก็ถูกโบกมือไล่ให้กลับมาอีกรอบ
อาเหลยก็อัดอั้นตันใจเหมือนกัน
เสียงลากครืดๆ ไกลออกไปทีละน้อย
หลังจากนั้นหนึ่งเค่อ เสียงเท้าตึกตักๆ ก็ย้อนกลับมา
"เหลียนเซวียน พวกท่านเพิ่งถึงตรงนี้เองหรือ งั้นข้าวิ่งไปอีกรอบแล้วกัน ไม่นานเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว"
ขณะเอ่ยปากก็มีลมหอบหนึ่งวาบผ่านไป
ถูกไล่ถึงสองครั้งสองครา อาเหลยก็คร้านจะตามเธอแล้ว
แม่นางผู้นี้พละกำลังเต็มเปี่ยม ต่างกับเมื่อสองวันก่อนที่ปวดท้องจนลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้นราวกับเป็คนละคน เหลียนเซวียนส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้
หลังจากลากเถาเฮ่อกลับมาถึงถ้ำอีกครั้ง เซวียเสี่ยวหรั่นก็ไม่วิ่งอีกแล้ว
เธอเหนื่อยแทบขาดใจ ค่อยๆ เดินจนตามพวกเหลียนเซวียนทัน
บัดนี้พวกเขาเดินผ่านทางแยกของแม่น้ำมาแล้ว กำลังจะไปที่ลำธาร
"เดินตรงไปอีกหน่อยก็ถึงแล้ว ลำธารสายนี้น้ำค่อนข้างนิ่ง สามารถลงไปยืนดักปลาได้" เซวียเสี่ยวหรั่นตามมาถึงข้างกายเหลียนเซวียน เอ่ยพลางหัวเราะคิกคัก
เหลียนเซวียนยังคงทำหน้าบึ้งตึงไม่สนใจนางชั่วคราว
"ฮิๆ ูเากว้างใหญ่ขนาดนี้ อาณาเขตของหมูป่าก็คงจะกว้างอยู่เหมือนกัน ไหนเลยจะมาพบเจอกันง่ายๆ ท่านว่าไหม"
รู้ว่าเขาขุ่นเคืองที่เธอวิ่งมาเองก่อน เซวียเสี่ยวหรั่นก็ยังทำหน้าหนาเข้าไว้ "อีกอย่าง ข้าพกสเปรย์พริกมาด้วย ท่านก็รู้ว่าอานุภาพของมันร้ายกาจแค่ไหน สำหรับสัตว์ทั่วไปแล้วมันคืออาวุธร้ายแรง อย่าว่าแต่หมูป่า เสือได้กลิ่นก็ยังล้มกลิ้งระเนระนาด"
อย่าว่าแต่สัตว์ป่า แม้แต่คนก็ล้มไม่เป็ท่าเช่นกัน
ที่เธอพูดไม่เกินจริงแม้แต่น้อย แค่นึกถึงกลิ่นแสบร้อนรุนแรงที่เคยมีบทเรียนมาแล้วครานั้น เหลียนเซวียนก็รู้สึกระคายจมูกแล้ว
นางเก็บพริกที่เป็น้ำเ่าั้อย่างไร เหตุใดถึงพ่นออกมาได้ดีขนาดนั้น เหลียนเซวียนนึกกังขา
"ถ้ากล้ามาอีกละก็ ข้าจะให้มันได้ลิ้มรสน้ำตานองหน้าไปเลย ฮ่าๆๆ"
เซวียเสี่ยวหรั่นหัวเราะอย่างลำพองใจ
แม่นางผู้นี้ เ้าแน่ใจหรือว่าเจอหมูป่าครั้งหน้า สองขาของเ้าจะวิ่งเร็วกว่าสี่ขาของพวกมัน เหลียนเซวียนปรามาสในใจ
พอมาถึงริมธาร เซวียเสี่ยวหรั่นก็ประคองเหลียนเซวียนนั่งลงบนโขดหิน ก่อนหันไปมองโดยรอบว่าจะเริ่มจับปลาจากตรงไหนดี
"ที่นี่มีปลาเยอะมาก" เซวียเสี่ยวหรั่นดวงตาเป็ประกาย หยิบตาข่ายดักปลาขึ้นมา เหยียบก้อนหินริมธารเดินไปอย่างระมัดระวังจนไปถึงส่วนที่ระดับน้ำค่อนข้างลึก
เธอค่อยๆ ยื่นตาข่ายลงไปในน้ำ ปลาด้านล่างใว่ายหนีทันควัน แต่เธอก็ไม่รีบร้อน สะกดกลั้นอารมณ์รอคอยอย่างเงียบเชียบ
เหลียนเซวียนฟังเสียงการไหลของกระแสน้ำก็รู้ว่าลำธารตรงส่วนนี้ค่อนข้างนิ่ง ฝูงปลาคงจะมีไม่น้อย แม่นางผู้นี้หาที่ได้ดียิ่ง
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังต๋อม หลังจากนั้นผิวน้ำก็แตกกระจาย
"เฮ่อ... ทำไมหนีไปได้ล่ะ เข้ามาติดตาข่ายแล้วแท้ๆ" เสียงหงุดหงิดของหญิงสาวแว่วมา
มุมปากของเหลียนเซวียนโค้งขึ้นน้อยๆ อย่างอดไม่ได้
แน่นอนว่าเซวียเสี่ยวหรั่นไม่ยอมแพ้ เธอยังคงยื่นตาข่ายลงไปในน้ำอีกครั้ง พลางกลั้นหายใจรออย่างสงบนิ่ง
"เจี๊ยกๆ" อาเหลยวิ่งเข้าไปหาเธอพลางร้องเรียก แต่เซวียนเสี่ยวหรั่นรีบทำเสียงชู่บอกให้มันเงียบ
อาเหลยอยากรู้อยากเห็นนั่งลงข้างตัวเธอ พลางเบิกตาจ้องลงไปในน้ำ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ความเคลื่อนไหวแบบเดิมก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แล้วก็ล้มเหลวอีกอย่างไม่คาดฝัน
"เฮ่อ ปลาที่นี่เหลี่ยมจัดเกินไปแล้ว" เซวียเสี่ยวหรั่นไม่ยอมแพ้ เห็นอยู่ว่าปลามาถึงหน้าตาข่าย แต่พอเธอยกมือจะดักขึ้นมา กลับจับมันไม่ได้
หางตาของเหลียนเซวียนเชิดขึ้นเล็กน้อย การมองปลาจากผิวน้ำไม่ใช่มุมที่แม่นยำ ประกอบกับนางเคลื่อนไหวไม่เร็วพอ จับปลาไม่ได้ก็เป็เื่ปรกติ
เซวียเสี่ยวหรั่นทำซ้ำอีกห้ารอบ จับได้แต่ความว่างเปล่ากลับมาตลอด
เธอชักเริ่มโมโห เดิมทีนึกว่าลำธารแห่งนี้มีปลามากมาย จะจับสักกี่ตัวก็ได้ ใครเล่าจะรู้ว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด ตกมาครึ่งค่อนวันยังไม่ได้ปลาสักตัว
เหลียนเซวียนกลั้นหัวเราะ หยิบไม้เท้าค่อยๆ เดินเข้าไปหา พลางยื่นมือออกไป
"ท่านจะจับปลาหรือ?" สีหน้าของเซวียเสี่ยวหรั่นเต็มไปด้วยความสงสัย
หนึ่งเขามองไม่เห็น สองเรี่ยวแรงไม่มี แล้วจะจับปลาได้หรือ?
เหลียนเซวียนมองนางด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เซวียเสี่ยวหรั่นนึกถึงสถานะจอมยุทธ์ของเขาได้อย่างฉับพลัน จึงส่งตาข่ายให้เขาทันที หลังจากนั้นก็กระวีกระวาดพาเขาไปยังตำแหน่งที่ดีที่สุดในการจับปลา
"เหลียนเซวียน คืนนี้จะได้ปลามาย่างกินหรือไม่ ต้องพึ่งท่านแล้ว"