หยางเฉินเงยหน้ามอง โม่เชี่ยนนีได้มาอยู่ตรงหน้าผู้สมัครทุกคนพร้อมยกไมโครโฟนขึ้น
หยางเฉินเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมคนอื่นๆ และไอ้อ้วนต่างลุ่มหลงโม่เชี่ยนนีกันถ้วนหน้า
เธอเป็ผู้หญิงสวยอย่างไม่ต้องสงสัย ร่างกายสมส่วนพร้อมใบหน้าน่ารัก ไม่ด้อยไปกว่าเฉียงเวย อย่างไรก็ตามทั้งสองมีกลิ่นอายแตกต่างกัน เฉียงเวยมีภาพลักษณ์ดูเ้าเสน่ห์และเย้ายวน ในขณะที่โม่เชี่ยนนีดูเป็สาวมั่น
"ทุกคนโปรดเงียบก่อน" โม่เชี่ยนนีพูดด้วยรอยยิ้มน่ารักและน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ
"สิ่งที่เราจะทดสอบต่อไปนี้คือ การทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาต่างประเทศของผู้สมัครทุกท่าน เพราะตำแหน่งประชาสัมพันธ์จำเป็ต้องบริการลูกค้าหลากหลายประเภท"
“ลูกค้าต่างชาติในบริษัทอวี้เหล่ยนั้นเป็เื่ธรรมดาอย่างยิ่ง ในอนาคตถ้าใครสามารถพูดภาษาต่างชาติได้คล่องแคล่วจะได้รับการพิจารณาเป็พิเศษ ทั้งนี้เราได้เตรียมแบบทดสอบภาษาต่างประเทศไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น สเปนและอิตาลี”
“ทุกคนสามารถเลือกสองภาษาในนี้เพื่อทดสอบ สำหรับผู้สมัครที่ทำคะแนนได้เท่ากับหรือมากกว่า 60% จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ดังนั้นขอให้ทุกคนตั้งใจทำให้เต็มที่ มีเวลาให้หนึ่งชั่วโมง ขอบคุณค่ะ”
พูดจบก็ส่งสัญญาณมือ สาวงามต่างๆ เริ่มแจกเอกสารจากมุมทั้งสี่ ไล่เข้าหาตรงกลางอย่างพร้อมเพรียง
ในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ล้วนเรียนภาษาที่สองั้แ่ยังเด็ก พวกเขาเรียนภาษาอังกฤษและภาษาคล้ายๆ กัน อย่างสเปนหรือญี่ปุ่น เป็เหตุให้ภาษาที่เลือกมากที่สุดเป็ภาษาอังกฤษและสเปน
หยางเฉินนั่งอยู่ตรงกลาง เมื่อสาวงามผู้แจกกระดาษข้อสอบถามภาษาที่เขา้า หยางเฉินยิ้มกล่าวว่า
"เอาอันไหนมาก็ได้ครับ"
ผู้ช่วยสาวสวยตะลึงงัน ชายคนนี้บ้าไปแล้ว เขารู้ทั้งหกภาษาเลยหรืออย่างไรกัน?
อย่างไรก็ตามผู้ช่วยสาวไม่ได้พูดอะไร เธอ้าให้บทเรียนแก่หยางเฉินด้วยการเลือกภาษาอิตาลีและเยอรมัน ซึ่งไม่มีใครเลือกสองภาษานี้เลย
ถึงแม้เกณฑ์ผ่านจะแค่ 60% แต่มันก็ยังยากโข
หยางเฉินไม่ได้กังวลเลยแม้แต่น้อย เขารับกระดาษข้อสอบมาเขียนชื่อตัวเองลงไป แล้วลงมือเติมคำในช่องว่าง
บรรยากาศในห้องสอบเปลี่ยนเป็มาคุภายในเวลาเพียงห้านาที ผู้สมัครชายต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด หน้านิ่วคิ้วขมวด เพราะคำถามส่วนใหญ่เป็คำถามเกี่ยวกับเครื่องสำอางและเสื้อผ้าผู้หญิง ซึ่งเป็ความรู้เฉพาะทาง และถึงแม้จะเป็ภาษาจีนพวกเขาก็ยังไม่สามารถตอบคำถามเ่าั้ได้ พวกเขารู้จักผู้หญิง แต่ไม่เข้าใจผู้หญิง
ในขณะที่ผู้ชายทุกคนกำลังคลั่งจากคำศัพท์ เครื่องสำอางเอย แผ่นซับอกเอย ยกทรงเอย ศัพท์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ยากสำหรับตัวผู้ทั้งหลาย
สิบนาทีผ่านไป ชายสี่จากแปดคนเริ่มวางปากกา จ้องมองโม่เชี่ยนนีอย่างหื่นกระหายเป็ครั้งสุดท้ายก่อนออกจากห้องไปอย่างไม่เต็มใจ
ไอ้อ้วนที่นั่งอยู่ข้างๆ หยางเฉินเหงื่อท่วมตัวสีหน้าดูอัปลักษณ์ยิ่ง แต่มันก็ยังอดทนทำข้อสอบต่อไปอย่างมุ่งมั่น
สิบห้านาทีผ่านไป หยางเฉินก็ขมวดคิ้วพลางจ้องมองกระดาษข้อสอบ เขายกมือขึ้นกล่าวว่า
"ขอโทษครับ… ผมมีคำถาม"
โม่เชี่ยนนียังคงมีรอยยิ้มดุจเดิม เธอพยักหน้าเดินอย่างสบายๆ ไปหาหยางเฉินพร้อมถามว่า
"คุณมีคำถามอะไรหรือคะ"
เสน่ห์ของโม่เชี่ยนนีเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อเธอเดินไปหาหยางเฉิน กลิ่นน้ำหอมชาแนลโชยอ่อน ขับเน้นภาพลักษณ์ที่แฝงด้วยภูมิปัญญา
ไอ้อ้วนด้านข้างวางปากกานานแล้ว มันจ้องโม่เชี่ยนนีจนน้ำลายไหลเป็ทาง
อาจเพราะมีสาวงามอยู่ข้างกายหยางเฉินมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็ เฉียงเวย หลี่จิงจิง และที่สำคัญภรรยาสุดสวยของเขา หลินรั่วซีผู้เลอโฉมกว่าโม่เชี่ยนนี สายตาหยางเฉินจึงไม่เร่าร้อนเหมือนคนอื่นๆ เขามองข้อสอบพร้อมถามว่า
"คำถามเกี่ยวกับ 'Vereiturn' ผมคิดว่าคุณพิมพ์ผิดไป อันที่จริงมันต้องเป็คำว่า 'Veretern' ความหมายมันเปลี่ยนไปเลยกลายเป็ แผลในช่องคลอด มันง่ายมากถ้าคุณใช้คำต่อท้ายเป็คำว่า 'eitern' "
แม้ว่าเขาจะพูดอย่างแ่เบา แต่คนรอบข้างต่างได้ยินและจ้องมองหยางเฉินอย่างตกตะลึง ในขณะที่ผู้หญิงบางคนเริ่มหน้าแดง มันไม่ง่ายเลยที่ผู้ชายจะพูดถึงจุดซ่อนเร้นของหญิงสาวในที่สาธารณะ
โม่เชี่ยนนีมึนงงไปชั่วครู่ เธอไม่คิดมาก่อนว่าคำถามของหยางเฉินจะเป็คำถามเกี่ยวกับการสอบ เธอมองหยางเฉินด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนให้ผู้ช่วยตรวจสอบคำศัพท์ที่ว่า
ผ่านไปไม่นานหลังจากตรวจสอบด้วยพจนานุกรมภาษาเยอรมันเรียบร้อยแล้ว ผู้ช่วยได้แจ้งให้โม่เชี่ยนนีทราบว่าคำว่า ‘แผล’ นั้นพิมพ์ผิด สาเหตุอาจเกิดจากความประมาทไม่รอบคอบ
จากเหตุการณ์นี้สายตาที่มองมาทางหยางเฉินนั้นแปรเปลี่ยนเป็ทึ่ง ชื่นชมและอิจฉา พนักงานหลายคนของอวี้เหล่ยเริ่มกระซิบกระซาบกัน พลางมองหยางเฉินอย่างสนใจ
หลังจากไอ้อ้วนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันร่ำร้องในใจทันทีว่า 'บัดซบ ไอ้หมอนี่แกล้งทำเป็ไก่อ่อน แท้จริงแล้วมันเป็ปรมาจารย์แห่งการตกหญิงชัดๆ'
โม่เชี่ยนนีเม้มริมฝีปากและรอยยิ้มก็ปรากฏบนหน้าเธออีกครั้ง
"พร์ของคุณช่างน่าทึ่งมาก พวกเราต้องขอขอบคุณคุณจริงๆ ที่ชี้ให้เห็นในความประมาทของพวกเรา"
"เชิญทำข้อสอบต่อได้เลยค่ะ"
"ทำต่อ?" หยางเฉินหัวเราะพลางหยิบกระดาษคำตอบของตนขึ้นมา "ผู้คุม... ผมทำเสร็จแล้วล่ะ ขอส่งเลยได้ไหมครับ"
"เอ๊ะ..." เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกันจากสี่มุมห้อง ทุกคนในห้องล้วนตกตะลึง
นี่มันยังเป็คนอยู่อีกหรือนี่? ทำเสร็จภายในสิบห้านาทีและยังถามคำผิดอีก
โม่เชี่ยนนีเผยท่าทีประหลาดใจไม่น้อย แต่ยังคงกล่าวอย่างใจเย็น
"คุณแน่ใจหรือคะว่า้าจะส่งเลย ยังมีเวลาเหลืออีกมากกว่า 40 นาที คุณไม่ตรวจทานให้ดีก่อนหรือคะ?"
"ผมไม่เคยมองย้อนกลับ มันไม่จำเป็แม้แต่น้อย" หยางเฉินส่ายหัวปฏิเสธความปรารถนาดีของโม่เชี่ยนนี
"เอาล่ะ เราจะทำการตรวจข้อสอบในภายหลัง"
โม่เชี่ยนนีไม่ได้พูดใดๆ อีก พร้อมยื่นกระดาษคำตอบส่งให้ผู้ช่วย พร้อมกวาดสายตามองไปยังผู้ทำข้อสอบคนอื่นๆ ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ความอยากรู้อยากเห็นในตัวหยางเฉินของเธอไม่อาจลบเลือนไปได้แน่นอน
ขณะนั้นเอง หยางเฉินรู้สึกเบื่อและ้าสูบบุหรี่ เขายกมือขึ้นถามทันทีว่า "ผู้คุมครับ ผมอยากไปเข้าห้องน้ำน่ะครับ แล้วก็สูบบุหรี่ด้วย"
"พรืด..." หญิงสาวบางคนไม่อาจกลั้นหัวเราะได้อีกต่อไป
โม่เชี่ยนนีไม่เข้าใจความคิดประหลาดๆ ของหยางเฉิน เธอเลิกคิ้วพร้อมพยักหน้า "ได้ค่ะ แต่แทนที่จะสูบในห้องน้ำ คุณควรไปสูบข้างนอก แล้วก็กลับมาให้ตรงเวลาด้วยนะคะ"
โดยไม่รอให้เธอพูดจบ หยางเฉินก็สะบัดก้นออกไปทันทีพร้อมประตูที่เปิดค้างไว้