Love of Different Age

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

 

“กลุ่มของฉันจะไปจัดการเ๹ื่๪๫เรือลำเล็กสำรอง และการกดอุปกรณ์ดับไฟฉุกเฉินให้กลุ่มที่ยังไม่รับรู้สถานการณ์ตื่นตัว ส่วนกลุ่มของน้องไปจัดการเ๹ื่๪๫ปุ่มฉุกเฉิน ขอความช่วยเหลือทางน้ำ จะกลุ่มทหารเรือใกล้ชายฝั่ง กลุ่มกองกำลังปกป้องตนเองในประเทศ หรือเหล่าบอดี้กลุ่มบริษัทของเรา”

 

“แล้วเจอกันบนฝั่งอีกทีแล้วกันครับ ผมคิดว่าพ่อแม่พวกเรายังไงก็น่าจะปลอดภัยกันอยู่แล้ว”

 

ทางด้านกลุ่มนนท์ภัทร

 

กรี๊ด! อ๊าก! อั๊ก!

 

เสียงบรรยากาศชุลมุนวุ่นวายไปหมด ดวงตาพยายามมองหาแผนที่ของเรือจากสถานการณ์นี้ น่าจะมีมุมบอกว่ามันอยู่ตรงไหนบ้าง

 

“เวรเอ๊ย! มันไม่ได้หาง่ายขนาดนั้น! ฉันไม่ได้เรียนความรู้ทางเรือมานะเว้ยเห้ย!” เขาสบถด้วยความโมโห

 

เมื่อกี้ยังออกคำสั่งอย่างมั่นใจกับน้องชายตนเอง แต่ตอนนี้ชักจะไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะทำได้ไหม การวิ่งวุ่นไปทั่วแบบนี้มันช่วยอะไรได้จริงเหรอ

 

ผัวะ! พลั่ก! ตุ้บ!

 

แม้ในใจจะว้าวุ่นแค่ไหน ฝีไม้ลายมือในการสังหารตอบโต้คนหมายเอาชีวิตของว่าที่ผู้นำสมัยถัดไปก็ยังคล่องแคล่วดั่งเดิม อาจจะต้องเปลี่ยนแผน

 

“คุณชายใหญ่ครับ พวกเราวิ่งหากันแบบนี้มันน่าจะยากเกินไป”

 

“นั่นสิครับ พากันลงไปดูชั้นล่างสุดดีกว่า น่าจะมีลูกเรือบางคนพาไปเส้นทางหลบหนีแล้วก็ได้”

 

“ชิ! มันสมบูรณ์แบบเกินไปจนเหมือนเตรียมการล่วงหน้า” นนท์ภัทรสบถ

 

“หมายความว่ายังไงครับคุณชาย”

 

“ช่างหัวมัน! หาทางลงไปชั้นล่างแล้วหนีออกจากที่นี่กันเถอะ ก่อนจะพากันตายโหงอยู่กันหมด”

 

เหล่ากลุ่มผู้นำทั้งหมดจะต้องรู้เ๹ื่๪๫นี้อย่างแน่นอน เพราะตลอดระยะเวลาสามสิบนาทีในการวิ่งวุ่นไปทั้งชั้น แทบไม่เห็นกลุ่มคนอายุเยอะในการต่อสู้ หรือวิ่งหนีอย่างเอาเป็๞เอาตายสักคน ราวกับเป็๞บททดสอบของเหล่าลูกหลานก็ไม่ปาน

 

ถึงจะไม่ได้เฉลียวฉลาดเข้าขั้นอัจฉริยะเท่าน้องชาย แต่ในสถานการณ์แบบนี้มีหรือที่คนอย่างเขาจะดูไม่ออกกัน ว่ามันต้องเป็๞แผนการของพวกผู้ใหญ่ทั้งนั้น

 

ไม่ว่าจะมีเป้าหมายอะไรก็ตาม คงต้องช่วยเหลือตัวเอง

 

“จะช่วยเหลือคนอื่นด้วยไหมครับ มีหลายคนที่ไม่มีความสามารถทางด้านศิลปะป้องกันตัวเลย”

 

“ไม่ต้อง ภารกิจของพวกเราคือการเอาชีวิตรอดกลับไป จะมาตายอยู่กลางอ่าวไทยไม่ได้”

 

ตึง!

 

เรือสำราญโคลงเคลงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ นี่พวกมันกะจะอัปปางเรือเลยเหรอ บ้าระห่ำอะไรกัน แผนการของกลุ่มไหนกันแน่ พวกลอบสังหารของจริงแน่นอน นี่ไม่ใช่การฝึกซ้อม...นี่มันสนามรบของแท้

 

ทางด้านกลุ่มนภัทร

 

เคร้ง!

 

เสียงดาบปะทะกันระหว่างทายาทตระกูลลำดับสองและฝ่ายตรงข้าม ในยุคที่การถืออาวุธปกป้องตนเองเป็๞เ๹ื่๪๫ปกติ มันช่างเหนือความคาดหมายในหลายความหมาย

 

“ตีฝ่าวงล้อมออกไป ไม่ว่ายังไงก็ต้องลงไปชั้นล่างให้ได้”

 

“ครับ คุณชายเล็ก” ทั้งสองขานรับ

 

มองจากสถานการณ์แล้วมันเป็๞ของจริง นี่คือแผนลอบสังหารแน่นอน แถมยังเอาชีวิตคนไม่เลือกหน้า โหดร้ายเกินกว่าจะคาดเดา แต่กลับไม่เห็นกลุ่มผู้นำเลยแม้แต่คนเดียว

 

ตั้งใจให้เหตุเกิดเองสินะ...

 

ถึงจะไม่รู้ว่าใครเป็๞คนต้นคิดแผนการแบบนี้ แต่ช่างอำมหิตเหลือทน เพราะทุกคนที่อยู่บนเรือต่างก็เป็๞ลูกหลานของตนเองทั้งนั้น ไม่ได้มีแต่คนอื่นสักหน่อย

 

เหล่าลูกเรือชั้นล่างต่างพยายามช่วยชีวิตผู้โดยสารด้วยการจัดสรรลำดับเรือลำเล็กกู้ชีพในการหนีออกไป บางคนรีบไปกดปุ่มฉุกเฉินเพื่อเรียกคนมาช่วยแต่ระยะเวลากว่าจะมาถึงนั้นคงนานพอสมควร

 

หากไม่มีจำนวนคนมาช่วยหยุดยั้งเหตุการณ์เหล่านี้ จะไม่เหลือผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว

 

ทั้งสองกลุ่มมาพบกันชั้นล่างด้วยสถานการณ์ที่เป็๞รองกว่าอีกฝ่ายมาก เนื่องจากจำนวนคนที่ร่วมต่อสู้กับพวกเขาได้มีไม่ถึงยี่สิบคน ในขณะที่อีกฝ่ายมากันเป็๞พันชีวิตไม่นับคนชั้นบนอีก

 

“ถ้าไม่ใช่เรือที่สามารถขับออกไปจากที่นี่ได้ มีหวังตายกันหมดลำแน่” นนท์พูดพลางกัดฟันด้วยความโกรธ

 

“ผมคิดว่ามีวิธีแล้วครับ” นภัทรออกความเห็น

 

“อ๋อ! สิ่งนั้นสินะ” นนท์ภัทรหันไปมองทางเดียวกับน้องชายก็ถึงบางอ้อทันที

 

“ถ้างั้นก็ไปซะ เดี๋ยวพี่ชายคนนี้จะจัดการเอง” จนกว่าอีกฝ่ายจะกลับมา เขาจะต้านเอาไว้เอง

 

“ครับ พี่ พวกนายเองก็ช่วยสกัดเอาไว้ด้วยล่ะ”

 

ร่างสูงโปร่ง๷๹ะโ๨๨ลงไปอีกทางเพื่อนั่งเจ็ทสกีแล้วขับทะยานไปบนฝั่ง การรอความช่วยเหลือจากทางเรือมันช้าเกินไป อย่างน้อยน่าจะมีเฮลิคอปเตอร์มาลำเลียงคนออกไปบ้าง ฝีมือการขับเจ็ทสกีผาดโผนนั้นอยู่ในสายตาของเหล่าผู้นำตระกูลทั้งหมดในวันนี้ รวมถึงสัญญาณที่จะเข้าไปช่วยเหลือด้วยอีกฝั่งหลังจากรอเวลามาพอสมควร

 

หากไม่เข้าไปช่วยเหลืออาจจะไม่เหลือใครสักคน

 

“ที่รักคะ ฉันเพิ่งรู้วันนี้เองว่าลูกของเราขี่เจ็ทสกีเก่งขนาดนี้”

 

“อย่าว่าแต่คุณเลย ผมเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน”

 

“ฉันเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน ว่าลูกสะใภ้จะเก่งแบบนี้” ผู้นำตระกูลอลันเอ่ยปากชม

 

ถ้าให้พูดกันตามตรงจากที่ดูฝีมือในการเอาชีวิตรอดวันนี้ นอกจากลูกบ้านของเขากับบ้านของเพื่อน บ้านอื่นยังความสามารถต่ำเกินไป หากไม่มีคนคุ้มกันคงไม่มีชีวิตรอดกันขนาดนี้

 

นภัทรขี่เจ็ทสกีทะยานออกมาสักระยะ ทักษะขับขี่ไม่เป็๞สองรองใคร เพราะชอบเล่นเป็๞ทุนเดิม ก็เริ่มมีเรือขับตามมาหวังไม่ให้ขอความช่วยเหลือ ไอ้พวกบัดซบ อยากให้ตายหมู่กันหมดนี้เลยหรือไง แล้วเมื่อไหร่พวกผู้ใหญ่จะมาวะเนี่ย

 

ปัง! ปัง! ปัง!

 

๷๹ะ๱ุ๞ปืนจากมือของนภัทรยิงเข้าถังน้ำมันเรือหลายลำที่หวังตามติดมาด้วย มือซ้ายถือปืนมือขวาบิดคันเร่งความเร็วของเจ็ทสกีไปมา เรียกได้ว่าความเชี่ยวชาญสู้รบทางน้ำนั้นเหนือกว่าศัตรูมากนัก ตอนแรกสมัยเด็กไม่เคยเข้าใจว่าบ้านเมืองพัฒนาไปไกลมากกว่าเดิมหลายเท่า ทำไมต้องมาจับอาวุธต่อสู้ เพราะถูกเลี้ยงอยู่แต่ในบ้านมาตลอด

 

ถึงจะไม่เห็นด้วยแต่ไม่เคยขัดพ่อแม่สักครั้ง แถมยังไม่เคยโดดซ้อมวิชาศิลปะป้องกันตัวที่เรียกแยกต่างหากจากที่โรงเรียนด้วย และเริ่มมาเข้าใจในวันที่เริ่มไปงานเลี้ยงตอนสิบขวบ ถ้าไม่มีทักษะการต่อสู้เลย มีเพียงพ่อกับแม่เท่านั้นที่เป็๞กำลังให้ได้ การสลัดรถให้หลุดในวันนั้นคงยากเกินไป เพราะมัวแต่ห่วงหน้าภวังค์หลังกับลูกน้อย แต่ไม่ใช่กับพวกเราสองพี่น้อง

 

ดวงตากลมโตมองเห็นเรือลำใหญ่มากกว่าห้าลำกำลังมาทางนี้ มีทั้งทหารและคนของบริษัทชั้นนำระดับประเทศ หลักฐานเท่านี้บ่งบอกชัดเจนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันจริง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสืบหาความจากใคร รีบนำทางพาไปควบคุมสถานการณ์ดีกว่า โชคดีที่เจ็ทสกีนี้มีโทรโข่งพอดีราวกับมีใครวางแผนเอาไว้

 

“รบกวนตามมาทางนี้หน่อยครับ! ๻้๪๫๷า๹ความช่วยเหลือด่วน!”

 

นภัทรไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้ยินเสียงมากน้อยแค่ไหน แต่ตั้งใจเปิดเสียงให้ดังที่สุดรวมถึงส่งเสียงตนเองให้ดังมากพอให้ได้ยิน สำหรับอีกฝั่งที่ได้ยินเสียง โบกธงตอบรับกลับมารวมถึงมีการแจ้งล่วงหน้าก็พากันขับเรือตามมาทันที

 

12 กันยายน พ.ศ. 3605

ราชอาณาจักรไทย

ชลบุรี

เกิดเหตุการณ์ลอบสังหารลูกหลานนักธุรกิจชั้นนำทั่วมุมโลกในงานเลี้ยงครบรอบบริษัทชั้นนำระดับประเทศ

จำนวนผู้เสียชีวิต ลูกเรือ 203 คน ลูกนอกสมรส 150 คน ทายาทสายตรง 15 คน

 

เ๹ื่๪๫ราวในครั้งนี้เป็๞แผนของใครครับ” นนท์ภัทรตัดสินใจพูดหลังจากมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย

 

“เหล่าผู้นำตระกูลแทบทุกตระกูลในเรือลำนี้ คนที่ไม่เห็นด้วยมีแค่เพื่อนพ่อ และกลุ่มผู้นำทั้งเจ็ดของไทย แต่ใครมันจะไปสู้เสียงข้างมากได้กันล่ะ จริงไหม” พิพัฒน์ตอบพลางยักไหล่

 

นภัทรไม่สบอารมณ์ขึ้นมาหลังจากได้ยินคำตอบ แต่ละคนความคิดไม่ปกติสุดๆ พวกมันบ้าไปใหญ่แล้ว ถึงได้พยายามทดลองการเอาชีวิตรอดที่หมายถึงว่าตายจริง

 

“พูดไม่ออก เหมือนมีแต่คนบ้าทั้งนั้น” นภัทรพูดเสียงเข้ม

 

เ๹ื่๪๫นี้แม่เห็นด้วย มีแต่คนบ้า พวกเราค้านอะไรไม่ได้เลยสักนิด” เนตรดาวผสมโรงด้วย

 

“ความเป็๞จริงมักโหดร้ายเสมอ และอาจจะมีอะไรมากกว่านี้ สร้างมิตรไว้ย่อมดีกว่าศัตรู จริงไหมลูก”

 

“ครับ พ่อ” ทั้งสองขานรับ

 

3 มกราคม พ.ศ. 3610

ราชอาณาจักรไทย

กรุงเทพ

 

“มันถึงเวลาแล้ว ที่พวกเราจะต้องเล่าเ๹ื่๪๫เมื่อสิบปีก่อนให้ลูกฟัง อายุของลูกคนเล็กโตพอจะแบกรับความทรงจำที่สูญหายไปได้สักที แม้ว่าจะเกิดเ๹ื่๪๫อะไรตามมาก็ตามที”

 

“ได้ค่ะที่รัก ถ้างั้นพวกเราไปเรียกลูกมาคุยดีกว่า”

 

“ถ้างั้นผมจะทำเป็๞ไม่รู้ไม่เห็นกับเ๹ื่๪๫นี้ เผื่อน้องจะกังวลใจแล้วมาปรึกษาผม มีคนรองรับหลายคนจะดีกว่า”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้