“เท่จัง เขาเท่เกินไปแล้ว ฉันก็อยากโดนผู้ชายคนนั้นกอดบ้างจังฉันเล่นด้วยสิ”
“ดนตรีจาก์ การเต้นรำที่ดูดิญญา...มันโคตรโรแมนติกเลย!”
“เต้นรำบนทะเล นี่เป็การเต้นรำที่เป็เอกลักษณ์แห่งปีเลยนะเนี่ย”
…
ไม่ใช่แค่พวกแฟนๆเท่านั้นที่หลงเสน่ห์ฉินเฟิงกับไป๋ชิง แม้แต่อาเวยกับเหมิ่งจื่อก็หยุดด้วยพวกเขาปาจนขวดหมดถังแล้วสี่สิบกว่าชิ้นที่ปาไปไม่มีขวดไหนถูกฉินเฟิงเลยแม้แต่ขนสักเส้นบนตัวก็ยังไม่โดน
เขากลายเป็ตัวตลกและขวดที่ปาไปก็กลายเป็ฉากหลังพวกเขาอยากจะะโลงทะเลดีกว่าทนถูกตบหน้าอยู่แบบนี้พวกเขารู้สึกว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะทำเป็ห้าวอย่างก่อนหน้านี้
ปัง!
เสียงปะทะดังออกมาตอนนี้ฉินเฟิงกอดไป๋ชิงและหมุนตัว 360 องศากลางอากาศเท้าของเขาเตะไปที่ขวดเบียร์ที่กำลังจะหล่นและขวดเบียร์นั้นก็ดูเหมือนจะได้รับชีวิตใหม่มันลอยกลับไปหาอาเวย
โป๊ก!
วินาทีต่อมาหน้าผากของอาเวยก็แตกเพราะขวดเบียร์ แรงจนทำให้ตัวของเขากระเด็นตกทะเลไป
ตัวของฉินเฟิงยังคงหมุนอยู่กลางอากาศหลังจากหมุนหนึ่งรอบเขาก็ใช้เท้าอีกข้างส่งอีกขวดหนึ่งบินไป
ด้วยเสียง‘ฟ้าว’ ขวดแหวกอากาศและโดนหน้าอกของเหมิ่งจือ
ลูกเตะนี้ดูเหมือนเขากำลังเตะลูกโทษที่บอลลอยไปโดนท้องของผู้รักษาประตูลูกเตะมีพลังจนป้องกันไม่อยู่และส่งให้ผู้รักษาประตูกระเด็นไปพวกเขาลอยกลางอากาศไปสิบเมตรก่อนที่จะตกลงทะเล
“ฉินเฟิง คุณเก่งแบบนี้ั้แ่เมื่อไร?” ั้แ่ตอนแรกไป๋ชิงเกลียดพวกคนไม่ดีที่มาจากไหนไม่รู้เ่าั้ แต่เมื่อเธอเห็นคนพวกนั้นโดนอัดเธอก็ะโโลดเต้นเหมือนกับเด็กสาวมีความสุข
“ฉันเก่งอย่างนี้ั้แ่เด็กแล้ว” ฉินเฟิงพูดอย่างจริงจัง
“ขี้โม้” ไป๋ชิงขมวดคิ้วและเบ้ปาก
ฉินเฟิงคัดจมูกและไม่ได้อธิบายจอมยุทธ์มักโดดเดี่ยวเสมอ
เหตุการณ์นี้ก็อยู่ในสายตาของคนที่ขับเรือให้กับฉินเฟิงและไป๋ชิงพวกเขาก้มหัวต่ำจนมองไม่เห็นหน้า ความประหลาดใจฉายแววไปที่ดวงตาของพวกเขา
“แม่งเอ๊ย ในเมื่อแกกล้าลงมือล่ะก็พี่น้องล่มเรือมันและให้มันตกทะเลไปเป็อาหารฉลามซะ!”
เมื่อเห็นว่าพี่น้องทั้งสามโดนตบลงทะเลพี่เพลิงก็โกรธมากจนมีสีหน้าน่าขนลุก เขาขับเรือไปหาฉินเฟิงอย่างเกรี้ยวกราด
เรือนั้นแล่นเร็วมากมันเข้ามาใกล้ฉินเฟิงกับไป๋ชิงเรื่อยๆ ครั้งนี้ไป๋ชิงไม่มีอารมณ์มาตื่นเต้นแล้วฝ่ายตรงข้ามกำลังขับเรือมาหาดูจากสีหน้าและการเพิ่มความเร็วของเรือแล้วชายผมแดงคนนี้บ้าไปแล้วจริงๆ มันกำลังจะเอาชีวิตของเธอและฉินเฟิง
ท่าทีของฉินเฟิงเอาจริงเอาจังทันทีจิตสังหารเบาบางแผ่ออกมาจากั์ตา เขาใช้แรงโยนไป๋ชิงขึ้นเรือของเขาแล้วเพิ่มแรงที่ขาเขาะโสูงขึ้นไปห้าเมตรแล้วตีลังกาอย่างสวยงามและเหยียบลงบนเรือของพี่เพลิง
การเคลื่อนไหวต่อเนื่องที่พลิ้วไหวดั่งสายน้ำนี้เป็เพียงน้ำจิ้มเท่านั้น
“แม่งเอ๊ย มันไปไหนวะ? ไอ้เด็กนั่นมันไปไหน?” พี่เพลิงพบว่าฉินเฟิงหายไปในพริบตา เขาคิดว่าฉินเฟิงแอบซ่อนอยู่ “ไอ้หนูพ่อไม่เชื่อว่าแกจะแอบในทะเลได้ตลอดชีวิตหรอก”
“พี่เพลิง ไอ้เด็กนั่นมันอยู่ข้างหลังคุณ”พี่เพลิงไม่เห็นฉินเฟิงแต่คนอื่นๆ อีกสองคนบนเรือเห็นทุกอย่างชัดเจนฉินเฟิงเหมือนกับผีที่หายไปและโผล่ออกมาจากไหนไม่รู้ พวกมันไม่รู้ว่าเขาลงเรือไปตอนไหนทั้งสองจ้องอย่างตกตะลึงพร้อมกับอ้าปากพะงาบๆ
พี่เพลิงเปลี่ยนทิศทันทีเขากลับเรือตีโค้งเป็วงกลมในทะเลและยิ่งโกรธขึ้นไปอีก “ไอ้บัดซบใครบอกว่าไอ้เด็กนั่นมันอยู่หลังพ่อวะ? พ่อกลับเรือมารอบหนึ่งแล้วทำไมไม่เห็นใครเลย?”
คนอีกสองคนอยากจะะโลงทะเลการเคลื่อนไหวที่น่าทึ่งของฉินเฟิงเมื่อครู่ทำให้พวกเขากลัว พวกเขารู้สึกผิดและบอก“พี่เพลิง ข..เขาอยู่หลังคุณ ตรงข้างหลังเลย”
พี่เพลิงดูเหมือนถูกไฟช็อกทันทีร่างของเขาแข็งทื่อ เขาค่อยๆหันไปมองด้านหลังและก็เจอกับฉินเฟิงที่กำลังมองเขาด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าเขาจะยิ้มแต่รอยยิ้มก็ทำให้พี่เพลิงขนลุกรอยยิ้มที่มีความเ็าให้ความรู้สึกเหมือนมัจจุราช
“พ...พี่ชาย มาั้แ่เมื่อไรเหรอ? ไปดื่มกันเถอะ”พี่เพลิงยิ้มตอบกับเขา
“ฉันคิดว่านายควรจะไปดื่มน้ำทะเลแทนนะ”ฉินเฟิงจับคอเสื้อของพี่เพลิงและโยนเขาแบบไม่ใส่ใจ พี่เพลิงที่สูง 180 เิเลอยโค้งออกไปอย่างสวยงาม เขาตกลงทะเลดังตูม
“พวกนายที่ยังอยู่ตรงนั้นน่ะ อยากให้ฉันเตะลงทะเลหรือจะโดดลงไปเอง?”หลังจากจัดการพี่เพลิงฉินเฟิงก็มองคนที่ยังอยู่บนเรือด้วยสายตาเ็าและข่มขู่
คนพวกนั้นตะลึงพวกเขาอยากจะต่อยตัวเองเพื่อดูว่าเจ็บหรือเปล่า
ก่อนหน้านี้ตอนที่ฉินเฟิงเคลื่อนไหวด้วยท่าต่างๆอย่างเป็ธรรมชาติบนกระดานเพื่อทำเท่ คนพวกนั้นก็รู้แล้วว่าเขาไม่ธรรมดาตอนนี้เขาแค่โบกมือเบาๆ ก็ส่งพี่เพลิงลอยไปโดยที่ไม่ได้ขัดขืน
มันเป็ครั้งแรกที่พวกเขาเห็นแรงช้างสารนี่มันยังเป็คนอยู่อีกหรือ? มันซูเปอร์แมนชัดๆ
ตอนนี้ซูเปอร์แมนได้ยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาและมอบสองทางเลือกคือให้ซูเปอร์แมนเตะลงทะเลกับะโลงไปเองหลังจากรู้สึกตัวพวกเขาก็ะโลงทะเลเองโดยไม่ลังเล
พวกเขากลัวว่าถ้าซูเปอร์แมนเตะพวกเขาพวกเขาคงจะกระอักเืตายก่อนที่จะตกลงทะเล
อันธพาล9คนะโลงทะเลเหมือนกันทุกคนฉากที่น่าตื่นเต้นนี้กระตุ้นเสียงร้องจากผู้คนบนฝั่งอีกครั้ง
ฉินเฟิงเคลื่อนไหวทันทีเมื่อเห็นคนพวกนั้นะโลงทะเลอย่างกล้าหาญและไร้ความกลัวเพื่อแสดงความเคารพต่อการกระทำของพวกเขาฉินเฟิงจึงขับเรือไปตราบใดที่เขาเห็นใครโผล่หัวออกมาจากน้ำ เขาก็จะขับเรือไปหาเขาเล่นอยู่อย่างนั้นมาสองสามนาที เหล่านักเลงเกือบตายจากการเล่นของฉินเฟิงทันใดนั้นฉินเฟิงก็ตระหนักได้ว่าเรือเร็วของเขาไม่เห็นอีกแล้ว
ไป๋ชิงยังอยู่บนนั้นและยังมีชายอีกสองคนอยู่บนนั้น...
ฉินเฟิงร้อนใจทันทีเขามองไปรอบๆ และพบว่าเรือของเขากำลังแล่นอยู่บริเวณน้ำลึกไป๋ชิงกำลังยืนอยู่บนเรือและโบกมือให้เขาช่วย
“บ้าเอ๊ย กะแล้วว่าตาแก่พวกนั้นมันไม่ใช่คนดีอายุปูนนี้แล้วยังอยากจะเล่นศึกสามเส้าอีกเหรอฟะ?” ฉินเฟิงด่าไปยังชายใส่หมวกฟางสองคนอย่างโกรธเกรี้ยวขณะที่ขับเรือไล่ตามไป“แม้ว่าจะอยากเล่นอย่างนั้นก็ตาม อย่างน้อยก็ชวนฉันด้วยสิเฟ้ย!”
ตลอดเวลาที่ไล่ตามพวกมันเรือของฉินเฟิงขับออกทะเลไกลขึ้นและไกลขึ้นเขาหันไปดูที่ที่เขาเล่นเวคบอร์ดก่อนหน้านี้พี่เพลิงและเรือของคนพวกนั้นเป็จุดดำเล็กๆ ไปแล้วเขามาถึงทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลที่เป็เขตน้ำลึก
“เฮ้ ถ้าพวกแกไปต่ออีกฉันไม่ไล่ตามแล้วนะถ้าฉันน้ำมันหมดเพื่อเล่นกับผู้หญิงนายน้อยผู้นี้อาจจะต้องว่ายกลับฝั่ง”ฉินเฟิงะโด้วยความโกรธ
หลังะโเสร็จพวกมันก็เปลี่ยนทิศทางจริงๆ และขับเรือกลับมาทันที
เมื่อพวกเขาเห็นอย่างนี้มุมปากของทั้งสามบนเรือก็กระตุกไป๋ชิงโกรธมากจนเกือบจะกัดฟันให้แหลกเป็ชิ้นๆ
ชายทั้งสองในหมวกฟางก็ยืนขึ้นเสียงของเขาทุ้มเบาแต่แม้ว่าจะมีเสียงคลื่นมันก็ยังผ่านไปถึงหูของฉินเฟิงด้วยความชัดเจน
“อย่าเพิ่งไปไอ้หนู เรายังมีคนรักของเ้าอยู่ เ้าไม่้านางแล้วหรือ?”เรือที่ไป๋ชิงอยู่ก็เลี้ยวกลับมาและหยุด
“พวกท่านทั้งสองแก่แล้ว ดังนั้นพวกท่านจึงไม่เข้าใจสังคมยุคใหม่ทุกวันนี้แม้ว่าจะจับมือกอดจูบลูบคลำก็ยังไม่นับว่าเป็คนรักกันอาจจะเป็ครูกับนักเรียน หรือพี่ชายกับน้องสาว หรืออาจจะเป็เพื่อนสนิทกันก็ได้แต่ส่วนใหญ่ก็เป็คู่ขาล่ะนะ”
ฉินเฟิงก็หยุดเรือและมองไปที่ชายทั้งสอง“สาวสวยคนนั้นกับฉันก็เป็คู่ขากัน”
สีหน้าของไป๋ชิงแข็งทื่อทันทีคำพูดของฉินเฟิงเหมือนกับศรนับไม่ถ้วนที่แทงทะลุหัวใจ เธอเสียสติและหัวเราะเบาๆ“ฮะๆๆ คู่ขาเหรอ? ใช่แล้วเขากับฉันมันก็แค่คู่ขากันทำไมเขาต้องสนใจด้วยล่ะว่าฉันจะอยู่หรือตาย?”
“ฉินเฟิง ไอ้เวรตะไล ไอ้เดรัจฉาน!” ไป๋ชิงสติแตกทันที เธอนั่งยองๆบนเรือและร้องไห้โฮ
ฉินเฟิงและชายหมวกฟางสองคนตะลึงหลังจากนั้นสักพักชายหมวกฟางก็อดไม่ได้ที่จะถาม “ความสัมพันธ์แบบไหนกัน...ไอ้‘คู่ขา’ นั่นน่ะ?”
“มันก็...ขาที่เล่นพนันด้วยกันไง” หลังจากคิดสักพักฉินเฟิงก็ตอบ
“ขาที่เล่นพนันด้วยกัน?”
ฉินเฟิงพยักหน้า
ชายในหมวกฟางขมวดคิ้วพวกเขาคิดในใจ “พวกเขาแค่พูดเื่ขาที่เล่นพนันด้วยกันไม่ใช่หรือ? ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงหวั่นไหวนักล่ะ?” ทั้งคู่อายุเกินหกสิบหน่อยๆและอยู่ห่างจากสังคมปกติ พวกเขาห่วงแต่เื่ฝึกฝนเท่านั้นดังนั้นพวกศัพท์วัยรุ่นจึงไม่คุ้นเคยสำหรับพวกเขา
ชายใส่หมวกฟางทั้งสองคนรู้สึกตัวพวกเขามาเพื่อจับฉินเฟิงทำไมพวกเขาถึงเริ่มถามเื่ ‘คู่ขา’ กันนะ?
“ไอ้หนุ่มน้อย ผู้หญิงคนนี้ก็สวย และเรือนร่างนางก็เย้ายวนเ้ามั่นใจหรือว่าจะหักอกนางตรงนี้?” สีหน้าของชายหมวกฟางเ็าอีกครั้ง
ฉินเฟิงหันกลับจะออกไปเพื่อทดสอบว่าทั้งสองคนนี้จับไป๋ชิงเพื่ออยากได้ความสวยของเธอหรืออยากจะล่อเขาเข้าไปตอนนี้สถานการณ์ชัดเจนแล้ว
“ฉันมีผู้หญิงมากมายก่ายกอง และแต่ละคนก็สวยกว่าคนนี้เป็สิบเท่าถ้าพวกท่านชอบผู้หญิงคนนี้งั้นผมให้ท่านแล้วกัน นายน้อยผู้นี้ต้องขอตัว”ฉินเฟิงโบกมือด้วยรอยยิ้มและหันเรือกลับ
ทันทีที่เขาหันกลับสีหน้าของเขาก็แข็งทื่อ เขาเดาถูก คนพวกนั้นคือจอมยุทธ์ระดับยอดฝีมือฉินเฟิงแค่รู้สึกถึงลมจากด้านหลังและน้ำหนักที่กดบนเรือเท่านั้น