ทว่าไม่มีใครคิดถึงหลินฟู่อินผู้เป็เหยื่อที่เกือบถูกใส่ความเลย และทั้งสามคนที่มากับหลินฟู่อินเองก็ไม่มีใครเกี่ยวข้องกับนางที่เป็สาวชาวบ้านเลย
ไม่น่าแปลกใจที่เด็กสาวทั่วไปจะจงใจแต่งตัวให้ดูดีเล็กน้อยเวลาไปตลาด แต่หลินฟู่อินนั้นจงใจแต่งตัวให้ดูธรรมดา และแต่งหน้าให้ดูคล้ำลงเล็กน้อยเพื่อปิดบังสีผิว
แต่งผิวให้ดูดำกร้านที่เป็เื่ปกติของสาวชาวบ้านทั่วไป หากไม่เพ่งมองก็จะไม่มีใครเห็นเลยว่านางดูงดงาม
“นายท่าน คุณหนูไม่กลับมาสักทีเลยขอรับ…” ตวนมู่เฉิงที่กำลังคุ้มกันหวงฝู่จินด้วยท่าทีสบายใจตื่นตัวขึ้นมา จนการเคลื่อนไหวใดๆ บนถนนเส้นนี้ไม่อาจรอดสายตาเขาไปได้
เพราะฉะนั้นหากหลินฟู่อินกลับมาเขาก็จะรู้ได้ทันที
และหวงฝู่จินเองก็จะรู้เช่นกัน
“ฉลาดนัก นางหวาดกลัวขึ้นมาจึงหนีไปก่อนแล้ว และใครจะไปคิดกันว่านางจะรู้จักพวกเราด้วย?” ริมฝีปากและสีหน้าของเขาคลายลง และพอสตรีนางหนึ่งบนถนนหันมามองแล้วเผลอสบตากับเขาเข้า นางก็จ้องเขาไม่วางตาทันที
โชคร้ายที่หวงฝู่จินไม่แม้แต่จะชายตามองนาง เดินผ่านนางไปทั้งอย่างนั้น
“เป็บุรุษที่รูปงามยิ่งนัก…” สตรีนางนั้นพึมพำกับตัวเอง
“พูดถึงข้าหรือ?” เหล่าลิ่วที่แบกเจียงซานหลางไว้บนไหล่หันมาทักทายด้วยรอยยิ้ม
สตรีนางนั้นสะดุ้งกลัวจนแทบจะล้มก้นจ้ำเบ้า หากมิใช่เพราะมีเด็กสาวข้างๆ ช่วยพยุงไว้ก็คงล้มไปแล้ว
เหล่าลิ่วกลายเป็ที่หวาดกลัวของคนรอบข้าง แต่เขาไม่ได้รู้สึกผิดอันใด ทั้งยังแกล้งขู่จนเหล่าสตรีในเมืองพยายามหลีกเลี่ยงเขาด้วย
“น้องหก อย่าไปทำให้คนอื่นกลัวสิ” หวงฝู่จินหันมาบอกเขา แต่สายตายังคงจับจ้องไปยังทิศที่หลินฟู่อินวิ่งหายไป ั์ตาเผยประกายรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
“พักหลังมานี้คุณหนูหลินไปได้สวยนัก จนกลายเป็จุดสนใจของคนทั่วไป” เมื่อหวงฝู่จินหันกลับมา ตวนมู่เฉิงก็หัวเราะออกมา แต่ในสายตานั้นไร้ซึ่งรอยยิ้มใดๆ “นายท่านคิดจะเอาอย่างไรกับเ้าเจียงซานหลางนี่หรือขอรับ”
หวงฝู่จินมีสีหน้าสบายๆ แต่น้ำเสียงนั้นเย็นเยียบ “ข้าต้องให้เ้ามาบอกเื่นี้ด้วยหรือ?”
ตวนมู่เฉิงหน้าซีดเผือด คุกเข่าเพื่อเตรียมขอโทษ แต่หวงฝู่จินยื่นแขนออกมาดึงแขนซ้ายเขาไว้ก่อนเพื่อไม่ให้คุกเข่า
“นายท่าน โปรดให้อภัย! ข้าเข้าใจแล้ว….” ตวนมู่เฉิงเข้าใจความคิดของนายท่านของเขาแล้ว และรู้สึกขยะแขยงต่อเจียงซานหลางผู้ไร้สมองนัก พึ่งบารมีบิดาเพื่อมารับงานราชการ แล้วหาเื่ใครไม่หา กลับไปหาเื่ฟู่อิน!
ใครจะไปคิดว่าสาวชาวบ้านตัวน้อยเช่นนั้นจะเคยช่วยชีวิตเ้านายของเขาทั้งยังกุมท้องเขาไว้อยู่หมัดกัน?
ปัญหาเล็กๆ พวกนี้ถือว่าจบแล้ว ที่เหลือก็พาคุณหนูหลินกลับบ้าน…
ตวนมู่เฉิงคิดอย่างงุนงง แต่ก็ได้ยินเสียงอันเ็าของผู้เป็นาย “เอาไว้ถามมันเสร็จว่าใครเป็คนส่งมันมา ก็โบยหลังมันร้อยทีแล้วเอาไปโยนทิ้งไว้ที่สำนักงานมันเสีย”
“นายท่าน…” ตวนมู่เฉิงหวาดกลัวจนแทบคุกเข่าอีกครั้ง เช่นนั้นมันเกินไปแล้ว!
โบยหลังร้อยครั้ง แม้แต่นักรบร้อยศึกที่ผ่านการฆ่าฟันเืเนื้อกระเซ็นมามากก็ยังต้องกรีดร้องราวกับเด็กเล็ก
“มันทำไม?” เมื่อเห็นตวนมู่เฉิงนิ่งเงียบไป หวงฝู่จินจึงมองลูกน้องด้วยสายตาอันตราย
ตวนมู่เฉิงตะลึงกับสายตาคู่นั้น จึงรีบส่ายหน้าแล้วกล่าว “มิได้ ข้าแค่กลัวว่าเ้าไก่อ่อนนั่นมันจะตายก่อนโบยได้สิบทีก็เท่านั้น…”
ไก่อ่อนหรือ สายตาของหวงฝู่จินมีประกายเย้ยหยัน เป็คำพูดที่ถูกต้องนัก ตวนมู่เฉิงมองเขาด้วยใบหน้าซีดเซียว “ท่านจะไม่ปล่อยให้มันตายหรือ?”
มันกล้าหาเื่นาง ทั้งยังพยายามทำลายชื่อเสียงนาง อย่าให้มันได้ตาย!
หากมิใช่เพราะถ้ามันตายแล้วจะสร้างปัญหาให้หลินฟู่อินที่อยากอยู่อย่างสงบ เช่นนั้นล้างบางตระกูลมันไปเลยก็ได้มิใช่หรือ?
จะงูหรือหนูก็ไม่น่าเก็บไว้ทั้งนั้น!
ฮึ องค์หญิงผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเว่ยอะไรกัน มีขุนนางฉ้อโกงอยู่ในระบบมากขนาดนี้ แล้วมีพวกชอบเอาเปรียบเช่นนี้อีกตั้งเท่าไร?
ตวนมู่เฉิงรู้สึกอึดอัดกับแรงกดดันที่อยู่ๆ ผู้เป็นายก็ปล่อยออกมา จึงเตะเจียงซานหลางไปสองสามที บังอาจทำให้นายของเขาโกรธ!
แล้วคุณหนูหลินเป็อะไรสำหรับนายท่านกัน?
จะว่าเป็ความรู้สึกแบบที่บุรุษมีต่อสตรีก็ดูไม่ถูก บอกว่าอยากตอบแทนบุญคุณก็ยิ่งไม่ใช่
ตวนมู่เฉิงเกาหัวอย่างคิดไม่ตก แต่จะอย่างไรเมื่อเห็นท่าทีของนายท่านเช่นนี้แล้ว เขาก็จะสุภาพกับคุณหนูหลินให้มากขึ้น
หลินฟู่อินไม่รู้เลยว่าบุรุษที่นางได้พบในวันนี้เกือบจะสังหารเจียงซานหลางเพื่อระบายความโกรธแล้ว
หลินฟู่อินกำลังนั่งอยู่บนเกวียนเทียมลา ไม่รู้ตัวแม้ลุงหลิวจะะโเรียกนางหลายครั้งแล้ว
“ฟู่อิน เ้าเป็อะไรไป คิ้วขมวดเช่นนั้น เจอเื่อะไรมาหรือ?”
ลุงหลิวเห็นหลินฟู่อินดูเครียดๆ ก็เป็ห่วงจึงถามขึ้นมา
หลินฟู่อินส่ายหน้า นางไม่อยากบอกลุงหลินว่านางโดนคนที่อ้างตัวเป็ลูกของรองเ้าเมืองมาหาเื่ นางไม่ได้เข้าเมืองบ่อยนัก วันนี้ยังมีบุรุษผู้นั้นเข้ามาช่วยขวาง ก็พอจะหวังได้ว่าคนที่เห็นเหตุการณ์วันนี้จะไม่คิดถึงเื่ของนางมากนัก แล้วปล่อยให้มันผ่านๆ ไป
ส่วนเื่ของบุตรคนที่สามนั่น นางจะจำเอาไว้ รอให้นางมีอำนาจมากพอที่จะไปปะทะกับรองเ้าเมืองก่อนเถอะ!
“ลุงหลิว ขอบคุณที่เป็ห่วง ข้าไม่เป็ไร ข้าแค่เพิ่งไปส่งพี่สามเสร็จ เมื่อคิดว่าจากนี้ไปลุงสองและป้าสองจะได้พบเขาเพียงเดือนละไม่กี่ครั้งจึงรู้สึกแย่ขึ้นมาเล็กน้อย”
หลินฟู่อินเฉไฉเปลี่ยนเื่ไปง่ายๆ
“ฮ่า!” ลุงหลิวตบขาแล้วหัวเราะออกมา “เ้าน่ะยังเล็ก และนี่ก็เป็สิ่งที่เ้าเลือกเอง พี่สามของเ้าได้ไปเรียนในเมืองแล้ว นี่เป็เื่ดีๆ ที่คนมากมายไม่อาจฝันถึงได้ด้วยซ้ำ สบายใจเถอะ ลุงสองและป้าสองของเ้ามีแต่จะมีความสุขเท่านั้น และสุขมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตแน่!”
หลินฟู่อินก็มิได้กังวลมากนัก จึงพยักหน้ารับไปเมื่อได้ยิน
เมื่อกลับถึงหมู่บ้านหูลู่ในสภาพที่ในหัวเต็มไปด้วยความคิดมากมาย รวมไปถึงเื่ของบุรุษผู้นั้น ไม่รู้ว่าเขามีเป้าหมายที่เ้าซานหลางนั่นอยู่แล้ว หรือเข้ามาซัดเขาสลบเพื่อช่วยนาง
หากเป็อย่างหลัง นางก็เป็หนี้เขาแล้ว
แต่เมื่อคิดว่านางเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ จะบอกว่าเป็หนี้เขามันก็แปลกๆ…
เมื่อคิดดูแล้ว ก็หาคำตอบที่ดีไม่ได้ จึงลืมๆ มันไป เพราะการคิดเื่ทำเงินนั้นสำคัญที่สุด!
แต่แม้นางจะปล่อยวางเื่นี้ได้ แต่เื่นี้ไม่ยอมปล่อยนาง
หลังฟ้ามืด ย่าหลี่และแม่นมฉินที่เป็พวกนอนเร็วก็เข้านอนไปพร้อมเด็กๆ ทั้งสอง ส่วนหลินฟู่อินนั้นมิใช่คนนอนเร็ว จึงอยู่อ่านหนังสือต่อ
แต่แล้วแสงไฟพลันสั่นไหว หลินฟู่อินขมวดคิ้ว หันไปมองประตูโดยไม่รู้ตัว
ภายใต้แสงเทียนเลือนรางนั้น บุรุษชุดขาวผู้นี้เป็ใครกัน?
เขา… มาเพื่อทำมิดีมิร้ายนางหรือ?
ไม่ใช่คนดีแน่! หลินฟู่อินเลิกคิ้วมองเขา โดยลืมเื่รักษาท่าทีไปเสียสิ้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้