ตอนสมัยยังสาว คุณอาจ้าวไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองทำให้ขาถูกความเย็นจนข้ออักเสบ
ที่ผ่านมาพอถึงฤดูหนาว เดินได้ไม่เท่าไรก็ปวดขาจนเดินต่อไม่ไหว ยิ่งตอนนี้อายุมากขึ้น แม้แต่หน้าร้อนก็ยังต้องใช้แรงในการเดินอย่างมาก
เมื่อได้ยินว่ามีหมอรักษาเท้ามาประจำการอยู่ในหมู่บ้าน จึงให้ลูกชายไปเชิญหมอมาตรวจดูอาการ
“ต้องฝังเข็มแล้วก็ต้องกินยารักษาสักสองเดือน ฉันจะฝังเข็มให้โดยไม่คิดเงิน คิดแต่ค่ายา กว่าจะหายก็ต้องใช้เงินเยอะพอสมควร แต่ถ้าฝังเข็มก็แล้ว กินยาก็แล้วยังไม่หาย ฉันจะไม่คิดเงินสักหยวนเดียว” เหล่าจ้าวเอ่ยหลังจากตรวจดูอาการขั้นต้น
หลายปีที่ผ่านมาเป็เพราะคุณอาจ้าวกังวลเื่เงินก็เลยไม่ยอมไปหาหมอในตำบล
พอได้ยินว่ากว่าจะรักษาให้หายต้องใช้เงินจำนวนมาก และพอคิดถึงฐานะทางบ้าน คุณอาจ้าวจึงออกอาการลังเล
ทว่าลูกชายผู้กตัญญูกลับคิดว่า ตัวเองเสียบิดาไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน จะยอมเสียมารดาไปอีกคนไม่ได้
“แม่ครับ หลายปีมานี้ผมจะพาแม่ไปหาหมอที่ตำบลแม่ก็ไม่ยอม ตอนนี้มีหมอมาประจำอยู่ที่หมู่บ้านแล้ว ถ้าไม่มีเงินพวกเราไปยืมผู้ใหญ่บ้านไม่ก็เอาพวกอาหารกับธัญพืชไปวางเพื่อเอาเงินมาก่อนก็ได้ พอขาแม่หาย แม่ก็ค่อยกลับไปทำงานเพื่อใช้คืนเขา”
คุณอาจ้าวนิ่งฟังพร้อมกับทำหน้าคิดตาม
หน้าร้อนปีที่แล้วตอนที่ขาเธอยังดีอยู่ เธอทำงานจนได้แต้มการทำงานเยอะพอสมควร
แม้แต้มการทำงานหนึ่งแต้มจะเป็เงินไม่เท่าไร แต่ถ้าเธอทำงานตลอดทั้งปี รวมๆ กันก็ได้เยอะพอสมควร ไม่ทำให้ลูกชายเดือดร้อนแน่นอน
ยิ่งคิดเธอก็เริ่มจะหวั่นไหว “ได้ งั้นก็รักษาเถอะ”
หลังจากฝังเข็มได้สองวัน เธอรู้สึกว่าขาทั้งสองข้างเริ่มปวดน้อยลง
“คุณหมอจ้าว ฉันไม่ปวดขาแล้ว แปลว่าได้ผลใช่ไหม”
“แปลว่าดีขึ้น ถ้าฝังเข็มและกินยาต่อเนื่องก็จะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ”
เช้าวันนี้คุณหมอจ้าวพาเซี่ยโม่มาที่บ้านเธอเพื่อฝังเข็มอีกครั้ง
“คุณหมอจ้าว ทำไมวันนี้มาแต่เช้าเลย” เธอทักทายอย่างเป็มิตร
“วันนี้ฉันต้องเข้าไปซื้อยาในอำเภอต่อน่ะ ก็เลยมาแต่เช้า”
“ลำบากคุณหมอจ้าวแล้ว” เธอพูดอย่างซาบซึ้ง
“พวกเราแซ่เดียวกัน ไม่แน่ว่าเมื่อแปดร้อยปีก่อนอาจจะมีบรรพบุรุษคนเดียวกันก็ได้ ไม่จำเป็ต้องเกรงใจหรอก” เหล่าจ้าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นหยิบกล่องใส่เข็มออกมา
“เดี๋ยวฉันแนะนำให้รู้จัก นี่คือลูกศิษย์ของฉัน”
คุณอาจ้าวทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่ก่อนจะเอ่ยว่า “ลูกสาวของอู๋ซิ่วหลานสินะ สวยกว่าตอนเด็กเยอะเลย”
เหล่าจ้าวยิ้มพร้อมกับพยักหน้า “ใช่”
ถึงแม้คุณอาจ้าวไม่ค่อยได้ออกไปไหน หากลูกชายกับลูกสะใภ้ก็กตัญญูกับเธอมาก มักเอาเื่ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านมาเล่าให้ฟัง
“เด็กที่หน้าตาสะสวยและฉลาดเฉลียวแบบนี้ น่าเสียดายที่ไม่มีแม่แท้ๆ คอยปกป้องดูแล” เธอมองเด็กสาวอย่างสงสารเวทนา
เซี่ยโม่ถึงกับน้ำตาคลอเมื่อได้ฟัง “คุณอาจ้าว ขอบคุณมากค่ะ”
“ขอบคุณอะไรกัน ฉันกับแม่ของเธอโตมาด้วยกัน น่าเสียดายที่เธอแต่งไปหมู่บ้านอื่น ทั้งยังจากไปไว”
“คุณอา หลายปีมานี้สบายดีไหมคะ” คิดไม่ถึงเลยว่าคุณอาจ้าวกับแม่ของเธอจะเป็เพื่อนกัน นั่นยิ่งทำให้เซี่ยโม่รู้สึกใกล้ชิดกับอีกฝ่าย
“เป็เพราะฐานะที่บ้านฉันไม่ค่อยดี ฉันก็เลยช่วยอะไรพวกเธอสองพี่น้องไม่ได้เลย” คุณอาจ้าวเอ่ยพลางถอนหายใจ
ถึงว่าสมัยเด็กๆ เวลาเจอกันทีไร อีกฝ่ายมักถามไถ่อย่างเป็ห่วงเป็ใยและให้ของกินเธออยู่บ่อยครั้ง
“คุณอา ต่อจากนี้ชีวิตของคุณอาจจะต้องดีขึ้นแน่นอนค่ะ ส่วนอาการปวดขาไม่ต้องกังวลนะคะ อาจารย์ของหนูเก่งมาก จะต้องรักษาคุณอาจนหายดีและกลับมาเดินได้คล่องแน่นอนค่ะ” เด็กสาวพูดให้กำลังใจ
“จ้ะ ฉันเชื่อใจคุณหมอจ้าว” ก่อนจะพูดต่อว่า “เรานี่โชคดีจริงๆ ได้หมอที่เก่งแบบนี้เป็อาจารย์ หากแม่เราที่อยู่บน์รู้ละก็จะต้องดีใจมากแน่นอน”
คุณปู่จ้าวยิ้มพร้อมกับเอ่ย “คุณพูดผิดแล้ว ฉันต่างหากที่โชคดีได้เจอโม่โม่”
คุณอาจ้าวมีสีหน้างุนงง “ที่แท้ก็แบบนี้เองเหรอ มีเื่อะไรเกิดขึ้นใช่ไหม”
คุณปู่จ้าวโบกไม้โบกมือคล้ายไม่อยากพูดถึง “พูดแล้วเื่มันยาว เอาเป็ว่าเป็เพราะพวกเรามีวาสนาต่อกันก็เลยได้มาเป็ศิษย์อาจารย์กัน”
เหล่าจ้าวไม่อยากให้คนในหมู่บ้านรู้ว่า เขาถูกคนพวกนั้นรังแกจนแทบจะไม่มีเสื้อผ้าให้ใส่ ไม่มีอาหารจะกรอกลงท้อง และไม่มีบ้านจะให้ซุกหัวนอน แม้แต่ชีวิตก็แทบจะเอาไม่รอด
คุณอาจ้าวอยู่มาจนถึงปูนนี้ เื่แบบไหนล้วนเคยเจอมาหมด จึงไม่คิดซักไซ้ต่อ
ชายชราฝังเข็มพร้อมกับถามเซี่ยโม่ไปด้วย “รู้ชื่อของจุดต่างๆ เหล่านี้ไหม และรู้ไหมว่าทำไมถึงต้องฝังเข็มที่จุดเหล่านี้”
คำถามแรกเซี่ยโม่ตอบได้สบาย แต่คำถามที่สอง เธอนิ่ง ไม่ได้ตอบออกไป
“อาจารย์ ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องฝังเข็มตามจุดเหล่านี้ อาจารย์ช่วยสอนฉันหน่อยค่ะ” เธอขอคำชี้แนะ
ชายชรามองเด็กสาวอย่างชื่นชม “มีคำกล่าวว่า รู้ก็บอกรู้ ไม่รู้ก็บอกไม่รู้ เธอไม่รู้แต่ก็ไม่แกล้งทำเป็รู้ เป็การกระทำที่น่าชื่นชม จุดเหล่านี้เรียกว่า…”
เซี่ยโม่ตั้งใจฟัง ไม่เข้าใจตรงไหนก็จดเอาไว้ หลังจากนี้ค่อยกลับไปหาข้อมูล
ฝังเข็มเสร็จ เหล่าจ้าวกับลูกศิษย์ก็ขอตัวกลับ เพื่อนั่งรถเข้าไปในอำเภอต่อ
ระหว่างนี้เซี่ยโม่เอ่ยถามขึ้นมาว่า “อาจารย์คะ ค่ารักษาของคุณอาจ้าวต้องใช้เงินเท่าไรคะ”
“ฉันบอกพวกเขาแล้วว่าจะไม่เก็บค่าฝังเข็ม เก็บแค่ค่ายา เพราะเห็นแก่ที่บ้านเขาฐานะไม่ค่อยดี ค่ายาสองเดือนก็อยู่ที่สิบหยวน” คุณปู่จ้าวกล่าวตามตรง
“อาจารย์คะ ค่ารักษาของคุณอาเดี๋ยวฉันจ่ายเองค่ะ” เธอพูดพร้อมกับควักเงินออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นออกไป
“ทำไมล่ะ”
“ตอนเด็กเวลาที่ฉันมาหาคุณยาย คุณอาจ้าวเห็นฉันทีไรก็มักจะให้ของกินฉันเสมอ…”
ชายชราเข้าใจในทันที เด็กสาว้าทดแทนบุญคุณในตอนนั้นนี่เอง
“เธอเป็เด็กที่รู้คุณคนจริงๆ” เขารับเงินมา จากนั้นทั้งคู่ก็ออกเดินต่อ
เพิ่งจะเดินออกจากหมู่บ้านได้ไม่นาน เซี่ยโม่ที่ตาไวมองเห็นรถกระบะคุ้นตาคันหนึ่งกำลังวิ่งมาจากฝั่งตรงข้าม
นี่ไม่ใช่คันเดียวกับที่ซ่งมู่ไป๋ขับไปส่งเธอเมื่อวันก่อนหรอกหรือ เด็กสาวใจเต้นตึกตัก อย่าบอกนะว่าคนขับคือพี่ซ่ง?
ขณะที่เธอกำลังนึกสงสัย รถก็แล่นเข้ามาจอดตรงหน้า ก่อนที่กระจกรถจะค่อยๆ เลื่อนลงมา “โม่โม่ ทำไมเธอกับอาจารย์ถึงมาอยู่ที่นี่ได้”
พอเห็นตัวและได้ยินเสียง ถึงมั่นใจได้ว่าคือซ่งมู่ไป๋จริงๆ เธอเอ่ยถามอย่างแปลกใจ “พี่ซ่ง พี่กำลังจะไปไหนคะ ฉันกับอาจารย์กำลังจะไปในอำเภอ”
“เด็กโง่ ฉันก็กำลังจะไปหาเธอยังไงล่ะ ธุระที่เธอให้ฉันทำ ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว” ซ่งมู่ไป๋ไม่กล้าพูดออกมาว่าคือเื่ใด จึงบอกแค่ว่าคือธุระที่อีกฝ่ายไหว้วาน เขามั่นใจว่าเด็กสาวต้องฟังรู้เื่แน่นอน
เซี่ยโม่ฟังเข้าใจแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่เธอไม่คิดว่าจะไวขนาดนี้ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้คูปองสำหรับซื้อจักรยานหรือได้จักรยานมาแล้วกันแน่
“พี่ซ่ง เื่นี้ยังไม่รีบ วันนี้ฉันกับอาจารย์จะนั่งรถเข้าไปในอำเภอ เมื่อวานฉันขึ้นเขาเก็บได้เห็ดหลินจือกับโสมป่ามาก็เลยจะเอาไปขายค่ะ” เด็กสาวเอ่ย ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องเอาสมุนไพรไปขายก่อนถึงจะได้เงินมา
ซ่งมู่ไป๋นึกถึงเื่เมื่อคราวก่อน นี่เขาเดาผิดไปหรอกหรือ หมูป่าตัวนั้นไม่ใช่ของเด็กสาวแต่เป็ของเพื่อนร่วมชั้นเธอจริง เพราะฉะนั้นเด็กสาวก็เลยเสี่ยงขึ้นเขาเข้าไปในป่า เพื่อเก็บเห็ดหลินจือกับโสมป่าเอาไปขายเพื่อหาเงินซื้อจักรยาน
แต่ตอนนี้มีเหล่าจ้าวอยู่ด้วย เขาเลยไม่อาจพูดอะไรออกไปได้ ทำได้แค่ขมวดคิ้วคิดกับตัวเองเท่านั้น
“ขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งเอง”
เด็กสาวส่ายหน้า “ไม่เป็ไรค่ะ ฉันกับอาจารย์นั่งรถประจำทางไปกันเองได้”
“อย่าพูดมาก รีบขึ้นรถมาเร็ว” เห็นเด็กสาวมีท่าทีเกรงอกเกรงใจ เขาอดหงุดหงิดไม่ได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้