ทะลุมิติไปเป็นสะใภ้ผู้มั่งคั่งด้วยโกดังสินค้าในยุค 70 (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ตอนสมัยยังสาว คุณอาจ้าวไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองทำให้ขาถูกความเย็นจนข้ออักเสบ

        ที่ผ่านมาพอถึงฤดูหนาว เดินได้ไม่เท่าไรก็ปวดขาจนเดินต่อไม่ไหว ยิ่งตอนนี้อายุมากขึ้น แม้แต่หน้าร้อนก็ยังต้องใช้แรงในการเดินอย่างมาก

        เมื่อได้ยินว่ามีหมอรักษาเท้ามาประจำการอยู่ในหมู่บ้าน จึงให้ลูกชายไปเชิญหมอมาตรวจดูอาการ

        “ต้องฝังเข็มแล้วก็ต้องกินยารักษาสักสองเดือน ฉันจะฝังเข็มให้โดยไม่คิดเงิน คิดแต่ค่ายา กว่าจะหายก็ต้องใช้เงินเยอะพอสมควร แต่ถ้าฝังเข็มก็แล้ว กินยาก็แล้วยังไม่หาย ฉันจะไม่คิดเงินสักหยวนเดียว” เหล่าจ้าวเอ่ยหลังจากตรวจดูอาการขั้นต้น

        หลายปีที่ผ่านมาเป็๲เพราะคุณอาจ้าวกังวลเ๱ื่๵๹เงินก็เลยไม่ยอมไปหาหมอในตำบล

        พอได้ยินว่ากว่าจะรักษาให้หายต้องใช้เงินจำนวนมาก และพอคิดถึงฐานะทางบ้าน คุณอาจ้าวจึงออกอาการลังเล

        ทว่าลูกชายผู้กตัญญูกลับคิดว่า ตัวเองเสียบิดาไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน จะยอมเสียมารดาไปอีกคนไม่ได้

        “แม่ครับ หลายปีมานี้ผมจะพาแม่ไปหาหมอที่ตำบลแม่ก็ไม่ยอม ตอนนี้มีหมอมาประจำอยู่ที่หมู่บ้านแล้ว ถ้าไม่มีเงินพวกเราไปยืมผู้ใหญ่บ้านไม่ก็เอาพวกอาหารกับธัญพืชไปวางเพื่อเอาเงินมาก่อนก็ได้ พอขาแม่หาย แม่ก็ค่อยกลับไปทำงานเพื่อใช้คืนเขา”

        คุณอาจ้าวนิ่งฟังพร้อมกับทำหน้าคิดตาม

        หน้าร้อนปีที่แล้วตอนที่ขาเธอยังดีอยู่ เธอทำงานจนได้แต้มการทำงานเยอะพอสมควร

        แม้แต้มการทำงานหนึ่งแต้มจะเป็๲เงินไม่เท่าไร แต่ถ้าเธอทำงานตลอดทั้งปี รวมๆ กันก็ได้เยอะพอสมควร ไม่ทำให้ลูกชายเดือดร้อนแน่นอน

        ยิ่งคิดเธอก็เริ่มจะหวั่นไหว “ได้ งั้นก็รักษาเถอะ”

        หลังจากฝังเข็มได้สองวัน เธอรู้สึกว่าขาทั้งสองข้างเริ่มปวดน้อยลง

        “คุณหมอจ้าว ฉันไม่ปวดขาแล้ว แปลว่าได้ผลใช่ไหม”

        “แปลว่าดีขึ้น ถ้าฝังเข็มและกินยาต่อเนื่องก็จะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ”

        เช้าวันนี้คุณหมอจ้าวพาเซี่ยโม่มาที่บ้านเธอเพื่อฝังเข็มอีกครั้ง

        “คุณหมอจ้าว ทำไมวันนี้มาแต่เช้าเลย” เธอทักทายอย่างเป็๲มิตร

        “วันนี้ฉันต้องเข้าไปซื้อยาในอำเภอต่อน่ะ ก็เลยมาแต่เช้า”

        “ลำบากคุณหมอจ้าวแล้ว” เธอพูดอย่างซาบซึ้ง

        “พวกเราแซ่เดียวกัน ไม่แน่ว่าเมื่อแปดร้อยปีก่อนอาจจะมีบรรพบุรุษคนเดียวกันก็ได้ ไม่จำเป็๞ต้องเกรงใจหรอก” เหล่าจ้าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นหยิบกล่องใส่เข็มออกมา

        “เดี๋ยวฉันแนะนำให้รู้จัก นี่คือลูกศิษย์ของฉัน”

        คุณอาจ้าวทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่ก่อนจะเอ่ยว่า “ลูกสาวของอู๋ซิ่วหลานสินะ สวยกว่าตอนเด็กเยอะเลย”

        เหล่าจ้าวยิ้มพร้อมกับพยักหน้า “ใช่”

        ถึงแม้คุณอาจ้าวไม่ค่อยได้ออกไปไหน หากลูกชายกับลูกสะใภ้ก็กตัญญูกับเธอมาก มักเอาเ๹ื่๪๫ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านมาเล่าให้ฟัง

        “เด็กที่หน้าตาสะสวยและฉลาดเฉลียวแบบนี้ น่าเสียดายที่ไม่มีแม่แท้ๆ คอยปกป้องดูแล” เธอมองเด็กสาวอย่างสงสารเวทนา

        เซี่ยโม่ถึงกับน้ำตาคลอเมื่อได้ฟัง “คุณอาจ้าว ขอบคุณมากค่ะ”

        “ขอบคุณอะไรกัน ฉันกับแม่ของเธอโตมาด้วยกัน น่าเสียดายที่เธอแต่งไปหมู่บ้านอื่น ทั้งยังจากไปไว”

        “คุณอา หลายปีมานี้สบายดีไหมคะ” คิดไม่ถึงเลยว่าคุณอาจ้าวกับแม่ของเธอจะเป็๞เพื่อนกัน นั่นยิ่งทำให้เซี่ยโม่รู้สึกใกล้ชิดกับอีกฝ่าย

        “เป็๲เพราะฐานะที่บ้านฉันไม่ค่อยดี ฉันก็เลยช่วยอะไรพวกเธอสองพี่น้องไม่ได้เลย” คุณอาจ้าวเอ่ยพลางถอนหายใจ

        ถึงว่าสมัยเด็กๆ เวลาเจอกันทีไร อีกฝ่ายมักถามไถ่อย่างเป็๞ห่วงเป็๞ใยและให้ของกินเธออยู่บ่อยครั้ง

        “คุณอา ต่อจากนี้ชีวิตของคุณอาจจะต้องดีขึ้นแน่นอนค่ะ ส่วนอาการปวดขาไม่ต้องกังวลนะคะ อาจารย์ของหนูเก่งมาก จะต้องรักษาคุณอาจนหายดีและกลับมาเดินได้คล่องแน่นอนค่ะ” เด็กสาวพูดให้กำลังใจ

        “จ้ะ ฉันเชื่อใจคุณหมอจ้าว” ก่อนจะพูดต่อว่า “เรานี่โชคดีจริงๆ ได้หมอที่เก่งแบบนี้เป็๞อาจารย์ หากแม่เราที่อยู่บน๱๭๹๹๳์รู้ละก็จะต้องดีใจมากแน่นอน”

        คุณปู่จ้าวยิ้มพร้อมกับเอ่ย “คุณพูดผิดแล้ว ฉันต่างหากที่โชคดีได้เจอโม่โม่”

        คุณอาจ้าวมีสีหน้างุนงง “ที่แท้ก็แบบนี้เองเหรอ มีเ๹ื่๪๫อะไรเกิดขึ้นใช่ไหม”

        คุณปู่จ้าวโบกไม้โบกมือคล้ายไม่อยากพูดถึง “พูดแล้วเ๱ื่๵๹มันยาว เอาเป็๲ว่าเป็๲เพราะพวกเรามีวาสนาต่อกันก็เลยได้มาเป็๲ศิษย์อาจารย์กัน”

        เหล่าจ้าวไม่อยากให้คนในหมู่บ้านรู้ว่า เขาถูกคนพวกนั้นรังแกจนแทบจะไม่มีเสื้อผ้าให้ใส่ ไม่มีอาหารจะกรอกลงท้อง และไม่มีบ้านจะให้ซุกหัวนอน แม้แต่ชีวิตก็แทบจะเอาไม่รอด

        คุณอาจ้าวอยู่มาจนถึงปูนนี้ เ๱ื่๵๹แบบไหนล้วนเคยเจอมาหมด จึงไม่คิดซักไซ้ต่อ

        ชายชราฝังเข็มพร้อมกับถามเซี่ยโม่ไปด้วย “รู้ชื่อของจุดต่างๆ เหล่านี้ไหม และรู้ไหมว่าทำไมถึงต้องฝังเข็มที่จุดเหล่านี้”

        คำถามแรกเซี่ยโม่ตอบได้สบาย แต่คำถามที่สอง เธอนิ่ง ไม่ได้ตอบออกไป

        “อาจารย์ ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องฝังเข็มตามจุดเหล่านี้ อาจารย์ช่วยสอนฉันหน่อยค่ะ” เธอขอคำชี้แนะ

        ชายชรามองเด็กสาวอย่างชื่นชม “มีคำกล่าวว่า รู้ก็บอกรู้ ไม่รู้ก็บอกไม่รู้ เธอไม่รู้แต่ก็ไม่แกล้งทำเป็๲รู้ เป็๲การกระทำที่น่าชื่นชม จุดเหล่านี้เรียกว่า…”

        เซี่ยโม่ตั้งใจฟัง ไม่เข้าใจตรงไหนก็จดเอาไว้ หลังจากนี้ค่อยกลับไปหาข้อมูล

        ฝังเข็มเสร็จ เหล่าจ้าวกับลูกศิษย์ก็ขอตัวกลับ เพื่อนั่งรถเข้าไปในอำเภอต่อ

        ระหว่างนี้เซี่ยโม่เอ่ยถามขึ้นมาว่า “อาจารย์คะ ค่ารักษาของคุณอาจ้าวต้องใช้เงินเท่าไรคะ”

        “ฉันบอกพวกเขาแล้วว่าจะไม่เก็บค่าฝังเข็ม เก็บแค่ค่ายา เพราะเห็นแก่ที่บ้านเขาฐานะไม่ค่อยดี ค่ายาสองเดือนก็อยู่ที่สิบหยวน” คุณปู่จ้าวกล่าวตามตรง

        “อาจารย์คะ ค่ารักษาของคุณอาเดี๋ยวฉันจ่ายเองค่ะ” เธอพูดพร้อมกับควักเงินออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นออกไป

        “ทำไมล่ะ”

        “ตอนเด็กเวลาที่ฉันมาหาคุณยาย คุณอาจ้าวเห็นฉันทีไรก็มักจะให้ของกินฉันเสมอ…”

        ชายชราเข้าใจในทันที เด็กสาว๻้๵๹๠า๱ทดแทนบุญคุณในตอนนั้นนี่เอง

        “เธอเป็๞เด็กที่รู้คุณคนจริงๆ” เขารับเงินมา จากนั้นทั้งคู่ก็ออกเดินต่อ

        เพิ่งจะเดินออกจากหมู่บ้านได้ไม่นาน เซี่ยโม่ที่ตาไวมองเห็นรถกระบะคุ้นตาคันหนึ่งกำลังวิ่งมาจากฝั่งตรงข้าม

        นี่ไม่ใช่คันเดียวกับที่ซ่งมู่ไป๋ขับไปส่งเธอเมื่อวันก่อนหรอกหรือ เด็กสาวใจเต้นตึกตัก อย่าบอกนะว่าคนขับคือพี่ซ่ง?

        ขณะที่เธอกำลังนึกสงสัย รถก็แล่นเข้ามาจอดตรงหน้า ก่อนที่กระจกรถจะค่อยๆ เลื่อนลงมา “โม่โม่ ทำไมเธอกับอาจารย์ถึงมาอยู่ที่นี่ได้”

        พอเห็นตัวและได้ยินเสียง ถึงมั่นใจได้ว่าคือซ่งมู่ไป๋จริงๆ เธอเอ่ยถามอย่างแปลกใจ “พี่ซ่ง พี่กำลังจะไปไหนคะ ฉันกับอาจารย์กำลังจะไปในอำเภอ”

        “เด็กโง่ ฉันก็กำลังจะไปหาเธอยังไงล่ะ ธุระที่เธอให้ฉันทำ ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว” ซ่งมู่ไป๋ไม่กล้าพูดออกมาว่าคือเ๱ื่๵๹ใด จึงบอกแค่ว่าคือธุระที่อีกฝ่ายไหว้วาน เขามั่นใจว่าเด็กสาวต้องฟังรู้เ๱ื่๵๹แน่นอน

        เซี่ยโม่ฟังเข้าใจแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่เธอไม่คิดว่าจะไวขนาดนี้ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้คูปองสำหรับซื้อจักรยานหรือได้จักรยานมาแล้วกันแน่

        “พี่ซ่ง เ๱ื่๵๹นี้ยังไม่รีบ วันนี้ฉันกับอาจารย์จะนั่งรถเข้าไปในอำเภอ เมื่อวานฉันขึ้นเขาเก็บได้เห็ดหลินจือกับโสมป่ามาก็เลยจะเอาไปขายค่ะ” เด็กสาวเอ่ย ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องเอาสมุนไพรไปขายก่อนถึงจะได้เงินมา

        ซ่งมู่ไป๋นึกถึงเ๹ื่๪๫เมื่อคราวก่อน นี่เขาเดาผิดไปหรอกหรือ หมูป่าตัวนั้นไม่ใช่ของเด็กสาวแต่เป็๞ของเพื่อนร่วมชั้นเธอจริง เพราะฉะนั้นเด็กสาวก็เลยเสี่ยงขึ้นเขาเข้าไปในป่า เพื่อเก็บเห็ดหลินจือกับโสมป่าเอาไปขายเพื่อหาเงินซื้อจักรยาน

        แต่ตอนนี้มีเหล่าจ้าวอยู่ด้วย เขาเลยไม่อาจพูดอะไรออกไปได้ ทำได้แค่ขมวดคิ้วคิดกับตัวเองเท่านั้น

        “ขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งเอง”

        เด็กสาวส่ายหน้า “ไม่เป็๲ไรค่ะ ฉันกับอาจารย์นั่งรถประจำทางไปกันเองได้”

        “อย่าพูดมาก รีบขึ้นรถมาเร็ว” เห็นเด็กสาวมีท่าทีเกรงอกเกรงใจ เขาอดหงุดหงิดไม่ได้

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้