ชายชรากวาดสายตามองฝูงชนที่กำลังตื่นเต้น ในที่สุดก็กล่าวว่า “เอาล่ะ อสูรปีศาจสิงโตเพลิง ราคาเริ่มต้นที่ 500 หินหยวนระดับกลาง ตอนนี้เริ่มประมูลได้”
“ปัง”
สิ้นเสียงชายชราอันเป็สัญญาณบ่งบอกว่าการประมูลได้เริ่มต้นขึ้น เหล่าผู้คนต่างรีบลุกยืนและเริ่มประมูลราคา
“1,000 หินหยวนระดับกลาง!”
“1,200 หินหยวนระดับกลาง!”
“1,500 หินหยวนระดับกลาง!”
ผู้คนเริ่มเสนอราคา อย่างไรก็ตามฝูงชนต่างทราบดีว่านี่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น เพียงแค่ 1,200 หินหยวนระดับกลางจะสามารถประมูลปีศาจสิงโตเพลิงไปได้อย่างไรกัน
ท่ามกลางบรรยากาศตื่นเต้นในการประมูลนั้น หลินเฟิงที่อยู่ในศาลาก็นั่งไม่ติดที่ เพราะเขาประเมินมูลค่าของปีศาจสิงโตเพลิงต่ำมาก แต่หลังจากที่เห็นการเสนอราคาที่ดุเดือดเบื้องหน้าเขาก็เข้าใจทันที มูลค่าของปีศาจสิงโตเพลิงช่างน่าสะพรึงกลัวนัก
หญิงสาวที่นั่งข้างๆ มองหลินเฟิงอย่างสนใจ ั์ตาภายใต้หน้ากากสีเงินนั่น คาดไม่ถึงว่าจะสงบนิ่งได้เช่นนี้
“คุณชาย ข้าควรเรียกท่านว่าอะไรเ้าคะ?” หญิงสาวถามหลินเฟิง
“เรียกข้า?” แววตาของหลินเฟิงเป็ประกาย จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “เรียกข้าว่า ‘เฟิง’ ก็ได้”
“คุณชายเฟิง ข้ามีนามว่าอีเสวี่ยเ้าค่ะ” หญิงสาวกล่าวอย่างอ่อนหวาน แล้วหลินเฟิงก็พยักหน้าเล็กน้อย ในขณะที่การประมูลดำเนินไป มูลค่าของปีศาจสิงโตเพลิงก็สูงถึง 3,000 หินหยวนระดับกลางแล้ว บางทีราคาอาจพุ่งสูงขึ้นมากกว่านี้ก็ได้
ทว่าด้านหลังของหลินเฟิง ชายหนุ่มแซ่เินั้นได้เหลือบมองหลินเฟิงอย่างเ็า
จากนั้นชายหนุ่มได้ลุกขึ้นเดินไปบริเวณด้านหน้าพื้นที่เหล่าชนชั้นสูง และจับราวระเบียงพลางกล่าวว่า “วันนี้ปีศาจสิงโตเพลิงตัวนี้ต้องเป็ของข้าเิชง ทุกท่านได้โปรดอย่าแข่งขันกับข้า หลังจากนี้ทุกท่านก็จะเป็มิตรสหายที่ดีต่อกัน หากทุกคนพยายามแข่งขันกัน สุดท้ายการแข่งขันก็จะมีแต่การทะเลาะวิวาท หากมิตรสหายทำไม่ได้ ถ้าเป็เช่นนั้น มันก็จะไม่ค่อยดีนัก”
เมื่อฝูงชนได้ยินคำพูดของเิชงพวกเขาต่างแข็งทื่อ ไอ้สารเลวนี่… คาดไม่ถึงว่าจะข่มขู่ผู้คนด้วยคำพูดของเขา มันได้คุกคามเหล่าผู้คน พวกเขาต้องเลือกว่าอยากเป็มิตรหรือศัตรู
ผู้คนจ้องเขม็งไปที่เิชง พวกเขาตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายอยู่ในพื้นที่ของเหล่าชนชั้นสูง เพราะฉะนั้นจึงไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา
ในเมืองหลวงมีเพียงหนึ่งตระกูลสูงศักดิ์นั่นก็คือ ตระกูลเิ!
“ตอนนี้ ข้าขอเสนอราคา 3,001 หินหยวนระดับกลาง”
รอยยิ้มบางๆ ปรากฏที่มุมปากของเิชง ขณะเหลือบมองหลินเฟิง กล้าแย่งชิงสิ่งของที่เขาอยากได้ เมื่อเป็เช่นนี้เขาก็จะทำให้ราคาในการประมูลสูงขึ้นจนไม่มีใครสามารถจ่ายได้
ชายชราจ้องมองเิชงจากบนเวทีอย่างไม่สบายใจ การกระทำของเ้าเด็กนี่ทำให้เขาอึดอัดใจ
“ปีศาจสิงโตเพลิงเป็ของข้า” เิชงกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ ขณะนั้นมีเสียงหนึ่งะโแทรกขึ้น “4,000 หินหยวนระดับกลาง”
“ใครพูด?” สีหน้าที่ดีใจของเิชงถูกแทนที่ด้วยความเย็นเยียบ เขารับไม่ได้ที่เ้าของเสียงดังกล่าวกล้ามาทำให้เขาเสียหน้า
แววตาเยือกเย็นของเิชงได้กวาดมองฝูงชน เพื่อเฟ่นหาเ้าของเสียงเมื่อครู่นี้
“ข้าพูดเอง”
ทันใดนั้นมีเสียงเ็าและหยิ่งยโสดังขึ้น ท่ามกลางฝูงชนมีร่างเงาหนึ่งค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ทว่าเส้นผมและแม้แต่ั์ตาของเขาก็ยังเปล่งประกายสีทอง คนผู้นี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก
เมื่อเห็นคนผู้นี้ ม่านตาของหลายๆ คนถึงกับหดลง... นั่นเขา!
“ขวงซือ” ม่านตาของเิชงก็หดลงเช่นกัน
“เ้า้าอะไร?” ดวงตาสีทองของขวงซือมองไปยังเขตของเหล่าชนชั้นสูง และกล่าวอย่างไม่แยแส จึงทำให้ั์ตาของเิชงหม่นลง และกล่าวพร้อมกับสีหน้าที่แข็งทื่อว่า “ฮ่าๆ ที่แท้ก็เป็ศิษย์ของนิกายหมื่นอสูร ในเมื่อท่าน้าประมูลมันไป งั้นข้าจะไม่ทำให้ท่านเสียหน้า โดยการไม่แข่งกับท่าน”
ขวงซือไม่ได้สนใจเิชง จึงทำให้เิชงต้องอับอายมากยิ่งขึ้น ศักดิ์ศรีของเขาตอนนี้มันไม่เหลืออีกแล้ว
“ฮ่าๆๆๆ!”
ทันใดนั้นมีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าบรรยากาศที่เงียบสงัดจู่ๆ ก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงหัวเราะดังกล่าว แววตาเยือกเย็นของเิชงค่อยๆ หันไปหยุดชะงักที่หลินเฟิง
“เ้าหัวเราะอะไร?”
“ข้าแค่หัวเราะใครบางคน ที่คำพูดของเขาช่างเหม็นยิ่งกว่าผายลมเสียอีก” หลินเฟิงกล่าวแดกดัน ก่อนหน้านี้เิชงยังกำเริบเสิบสานและข่มขู่ผู้คน แต่หลังจากเห็นขวงซือ เขาถึงกับผงะในทันที มันดูน่าขันและไร้สาระมาก
นิกายหมื่นอสูร เป็หนึ่งในนิกายที่มีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรเสวี่ยเยว่ และในเมืองหลวงนั้นยังเป็นิกายที่แข็งแกร่งมาก แม้ว่าสถานะของเิชงจะไม่ธรรมดา แต่เมื่อเห็นคนของนิกายหมื่นอสูร เขายังต้องรีบถอยทันที
ในเวลานี้สีหน้าของเิชงดูหดหู่และมืดมนอย่างที่สุด คาดไม่ถึงว่าวันนี้เขาถูกหลินเฟิงทำให้ขายหน้าหลายครั้ง เดิมทีเขาแค่อยากมาประมูลปีศาจสิงโตเพลิงและรีบกลับ เขาจึงใช้ฐานะของตัวเองไปขัดขวางการประมูลของผู้คน แต่การปรากฏตัวของขวงซือกลับทำให้เื่มันแย่ลง อีกทั้งหลินเฟิงยังซ้ำเติมให้เขายิ่งอับอายเสียอีก วันนี้เหมินชงได้ทำให้ตระกูลต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมากเสียแล้ว
อย่างไรก็ตามไม่มีใครสนใจความรู้สึกของเขาเลยสักคน ชายชราจึงยิ้มบางๆ และกล่าวว่า “4,000 หินหยวนระดับกลาง ยังมีใคร้าเสนออีก ในอนาคตขอบเขตลี้ลับของปีศาจสิงโตเพลิงจะกลายเป็ขอบเขต์ เมื่อถึงตอนนั้นแล้ว อาณาจักรเสวี่ยเยว่จะมีอำนาจที่ไร้ขอบเขต”
“4,500 หินหยวนระดับกลาง” คำพูดของชายชราเต็มไปด้วยสิ่งล่อใจ จึงมีคนเสนอราคาขึ้นมา แม้พวกเขาจะรู้ดีว่าในการแข่งขันนี้มีความหวังอันน้อยนิด แต่อย่างไรก็ต้องพยายามไว้ก่อน เพราะนี่คือปีศาจสิงโตเพลิงที่เป็เป้าหมายของใครหลายๆ คน
“5,000 หินหยวนระดับกลาง” สีหน้าของขวงซือไร้อารมณ์ความรู้สึก เื่นี้เขาเชื่อว่าจะต้องทำได้อย่างแน่นอน นั่นคือเหตุผลที่เิชงต้องถอนตัวจากการประมูลไป เพราะเขารู้นิสัยของขวงซือดี
“6,000 หินหยวนระดับกลาง” ชายชราชุดดำกัดฟันเสนอราคาด้วยความโกรธ
“10,000 หินหยวนระดับกลาง”
น้ำเสียงสงบนิ่งของขวงซือทำให้ฝูงชนถึงกับสั่นสะท้าน 10,000 หินหยวนระดับกลาง! แม้ตอนที่ขวงซือะโเสนอราคาออกมา เขาไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วเลยสักนิด
“ไม่สงสัยเลยว่าทำไมคนอื่นๆ ถึงพูดว่านิกายหยุนไห่อ่อนแอที่สุดในอาณาจักรเสวี่ยเยว่ ดูเหมือนว่ามันจะเป็ความจริงสินะ”
หลินเฟิงพึมพำและถอนหายใจด้วยความหดหู่ นิกายหยุนไห่นั้นขาดแคลนทรัพยากร และไม่มีหยวนชี่บริสุทธิ์อย่างสำนักเทียนอี้ ทว่าศิษย์ของนิกายหมื่นอสูรสามารถเสนอราคา 10,000 หินหยวนระดับกลางได้อย่างไม่สะทกสะท้าน ในทางกลับกันสำหรับนิกายหยุนไห่แล้ว หินหยวนระดับต่ำถือว่ามีมูลค่าอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นเดิมทีแล้วนิกายหยุนไห่นั้นไม่สามารถเปรียบเทียบใครได้เลย
“11,000 หินหยวนระดับกลาง” ชายชราชุดเทาหน้าซีด เขาถึงกับต้องกัดฟันพูด ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้มาถึงคอขวด เพราะฉะนั้นเขาจำเป็ต้องพึ่งพาพลังของสัตว์อสูรปีศาจแล้ว
“15,000 หินหยวนระดับกลาง” ขวงซือเปิดปากเอ่ยอีกครั้ง ทำให้หัวใจของฝูงชนต้องเต้นรัว จากนั้นบนใบหน้าของพวกเขาได้ปรากฏรอยยิ้มขมขื่น เป็อย่างที่คิดไว้… ไม่มีใครสามารถแข่งขันกับชายผู้นี้ได้ ด้วยราคา 15,000 หินหยวนระดับกลาง จึงทำให้หลายๆ ตระกูลถึงกับต้องถอย ซึ่งไม่มีใครสามารถประมูลต่อได้อีก
ในที่สุดปีศาจสิงโตเพลิงถูกขวงซือประมูลไปด้วยราคา 15,000 หินหยวนระดับกลาง
มุมปากของหลินเฟิงเผยรอยยิ้มออกมา ราคานี้เขาพอใจอย่างมาก แต่เขาได้สัญญาแล้วว่าจะลด 100 หินหยวนระดับกลาง เดิมทีแล้วผู้คนต่างไม่สนใจหลินเฟิง และเขาก็ไม่คาดคิดว่าการประมูลจะมีราคาที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้
เขาคิดว่าปีศาจสิงโตเพลิงตัวนี้จะสามารถประมูลได้ประมาณ 3,000 - 4,000 หินหยวนระดับกลาง นี่ก็ถือว่าไม่เลวแล้วสำหรับราคานี้
จากนั้นหลินเฟิงและอีเสวี่ยเดินไปหลังเวทีด้วยกัน และมีคนนำหินหยวนมามอบให้หลินเฟิง
“ในนี้คือ 10,000 หินหยวนระดับกลาง เ้าสมควรที่จะได้รับมัน เ้านับด้วยตัวเองนะ”
ชายชรากล่าวกับหลินเฟิง จากนั้นหลินเฟิงได้หัวเราะออกมา ด้วย 10,000 หินหยวนระดับกลางแล้ว มันมากกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก
จากนั้นหินหยวนที่ได้รับมาพลันเกิดแสงเปล่งประกาย และจู่ๆ หินหยวนเ่าั้ก็หายไป สิ่งที่เกิดขึ้นได้ทำให้ชายชราตกตะลึง และมองหลินเฟิงด้วยความประหลาดใจ
“ดูเหมือนว่าข้าจะแก่เกินไปจนสายตาพร่ามัว”
ชายชราจ้องเขม็งไปที่หน้ากากสีเงินของหลินเฟิง ทว่าด้วยหินหยวนจำนวนมากขนาดนั้นเขาจึงจงใจและ้ากลั่นแกล้งหลินเฟิง แต่กลับไม่คาดคิดเลยว่าหลินเฟิงจะมีแหวนหินไว้ใน
แหวนหินนั้น คนสามัญไม่มีทางมีไว้ในได้ เมื่อเป็เช่นนั้นแล้ว หลินเฟิงจึงยากจะต่อกรได้อย่างง่ายดายเสียแล้ว
ั์ตาของหลินเฟิงภายใต้หน้ากากได้ปรากฏรอยยิ้มเ็า และไม่มีคำตอบใดๆ ชายชราก็ไม่ได้ถามอะไรอีก จากนั้นเขาชี้ไปที่ป้าเตาที่อยู่ข้างๆ และกล่าวว่า “จากนี้มันเป็ของเ้าแล้ว เชิญจัดการได้ตามสบาย”
ในขณะนั้นชายชรามีบางอย่างสงสัย ป้าเตาบรรลุขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 6 ไม่รู้ว่าความแข็งแกร่งของหลินเฟิงจะเป็เช่นไร และจะสามารถต่อกรกับทาสผู้ฝึกยุทธ์ได้หรือไม่?
“ตามข้ามา” หลินเฟิงเหลือบมองป้าเตาและกล่าวอย่างเฉยเมย จากนั้นเขาก็เดินนำออกไป
โซ่ตรวนที่อยู่บนข้อเท้าของป้าเตาได้ปลดออกไปทั้งหมด จากนั้นเขาก็เดินตามหลินเฟิงไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
หลังออกมาจากลานประมูลไม่นาน หลินเฟิงก็หยุดเดินและหันกลับไปมองป้าเตาที่มีสีหน้าไร้ความรู้สึก
เมื่อทาสผู้ฝึกยุทธ์ได้ปลดโซ่ตรวนออกแล้วและไม่มีข้อผูกมัดใดๆ อีก พวกเขาจึงย่อมมีความคิดเป็ของตัวเอง และไม่ต้องประพฤติตัวดีเช่นนั้นอีกต่อไป แต่อย่างไรเสีย พวกเขาก็คือ มนุษย์!