“กลับดีๆ นะขอรับ!” ปาหลีว์จื่อพาเฮ่อตงเวยที่กินดื่มจนอิ่มออกไปส่งด้วยความเคารพนบนอบ รอจนไม่เห็นแผ่นหลังอีกฝ่ายแล้วจึงถ่มน้ำลาย “ถุย! คิดว่าตัวเองเป็ผู้ใดกัน!”
เฮ่อตงเวยเดินโซซัดโซเซไปขึ้นเกี้ยว บอกให้ไปส่งที่สถานศึกษาชิงไท่ เขาแอบออกมาจากสถานศึกษา
ก่อนหน้านี้ที่ไปเที่ยวเล่นกับแม่นางเฟิ่งเซียนก็กลับดึกเช่นกัน ตอนกลางวันต้องกลับไปเรียนตามปกติ มิเช่นนั้นท่านอาจารย์ไปฟ้องท่านพ่อขึ้นมาเขาคงได้อับโชคเป็แน่
เขาดื่มจนเมา เกี้ยวส่ายไปมา เฮ่อตงเวยพิงพนักด้านหลังและหลับตางีบ
แต่จู่ๆ เกี้ยวก็หยุด เฮ่อตงเวยกลิ้งออกจากเกี้ยวอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ผู้ใดกันที่มันอยากตาย!” เฮ่อตงเวยล้มหน้าคะมำ ลุกขึ้นแล้วจะยกเท้าถีบคนที่ขวางทางและทำให้เกี้ยวหยุด
“ขออภัยเ้าค่ะคุณชาย เสี่ยวฟู่เหรินมิได้ตั้งใจ”
เสียงนี้ไพเราะน่าฟังยิ่งนัก ลำพังแค่เสียงก็ทำให้เฮ่อตงเวยเสียวสะท้านไปครึ่งร่าง เขารีบถอยเท้ากลับและตั้งใจมอง ให้ตาย สตรีสาวที่กำลังร้องไห้ตรงหน้าเขาช่างสวยเหลือเกิน!
นางสวมชุดเสื้อกับกระโปรงแยกชุดกันสีเหลืองอ่อน อกโตบั้นท้ายกลมแต่เอวกลับบางมาก ใบหน้าทรงเมล็ดแตงโมขาวราวกับหยก ดวงตาทรงผลซิ่งมีคราบน้ำตา…
เอาล่ะ ครึ่งร่างที่เหลือเสียวสะท้านแล้วเช่นกัน
“เสี่ยวเหนียงจื่อรีบลุกขึ้นเถิด ขออภัยจริงๆ คนหามเกี้ยวชนท่านเข้าแล้ว ท่านเจ็บหรือไม่? ให้เปิ่นกงจื่อพาไปส่งดีหรือไม่?” เขาพูดจบก็หันไปด่าคนหามเกี้ยว “ตาบอดหรือไร เดินอย่างไรของพวกเ้า?”
เปลี่ยนสีหน้าเร็วจนต้องร้องว่าอัศจรรย์
“ไม่ใช่ขอรับคุณชาย จู่ๆ แม่นางคนนี้ก็กระโจนออกมา…” คนหามเกี้ยวโดนเข้าใจผิด รีบอธิบาย
เฮ่อตงเวยจะยกเท้าถีบคนหามเกี้ยว แต่เขายังพอรักษาภาพพจน์ต่อหน้าสตรีงามอยู่บ้าง โยนเหรียญทองแดงสองสามเหรียญให้คนหามเกี้ยว “จะไปที่ใดก็ไป อย่ามาขวางหูขวางตาข้าที่นี่”
คนหามเกี้ยวทั้งสองเก็บเงินจากพื้นแล้วรีบหามเกี้ยวที่ว่างเปล่าจากไป
“เสี่ยวเหนียงจื่อ คนหามเกี้ยวที่ข้าจ้างมาเป็ฝ่ายชนท่าน ไม่ทราบว่าบ้านท่านอยู่ที่ใดหรือ? ข้าพาไปส่ง” เฮ่อตงเวยประคองฟู่เหรินสาวลุกขึ้นยืน ฉวยโอกาสจับมือนางไปด้วย
ฟู่เหรินดึงมือกลับ ใบหน้าแดงระเรื่อ ตอบอย่างเกรงใจว่า “ข้าน้อยอยู่ในตรอกทางซ้ายด้านหน้า…รบกวนคุณชายแล้วเ้าค่ะ”
ฟู่เหรินก้าวเท้าเดินแต่กลับตัวเซ “โอ๊ย…” นางร้องเบาๆ คิ้วขมวดกันแน่น น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง
เฮ่อตงเวยรีบช่วยประคอง นางจึงไม่ล้ม ทว่าตัวนางกลับถูกเขาดึงเข้าอ้อมอก
เนื่องจากในตรอกนี้ไม่มีผู้ใด เฮ่อตงเวยถึงได้กล้าไล่มือลงไปจับบั้นท้ายฟู่เหรินอย่างใจกล้า
“คุณชาย…”
ฟู่เหรินหน้าแดงกว่าเดิม กระมิดกระเมี้ยนไปมา
แม้อายุจะไม่มาก แต่เฮ่อตงเวยที่ชอบเที่ยวสตรีมีหรือจะไม่รู้ว่าฟู่เหรินน้อยนางนี้มีใจให้เขาเช่นกัน เพราะหากไม่พอใจจริงๆ ก็คงตบหน้าหรือวิ่งหนีไปแล้ว ไม่มากระมิดกระเมี้ยนอยู่ในอ้อมอกเขาเช่นนี้
“ข้าไปส่งเสี่ยวเหนียงจื่อแล้วกัน ไม่ทราบว่าที่บ้านเสี่ยวเหนียงจื่อมีผู้ใดอยู่หรือไม่?”
ฟู่เหรินตอบอย่างเขินอาย “ข้าน้อยเป็ม่าย นอกจากบ่าวใช้ยายเฒ่ากับสาวใช้อีกคนแล้วก็ไม่มีผู้ใดอีก”
เฮ่อตงเวยได้ยินดังนั้นก็ดีใจ ประคองฟู่เหรินไปยังทางที่นางบอก คอยลวนลามนางตลอดทางไปด้วย ฟู่เหรินน้อยเขินอายพยายามหลบเลี่ยงแต่หลบไม่สำเร็จ
เมื่อใกล้ถึงที่หมาย ฟู่เหรินน้อยก็หยุดเดิน ย่อตัวคำนับให้เฮ่อตงเวย “ขอบคุณคุณชายเ้าค่ะ”
“ฝ่ายข้าเป็คนทำเ้าเจ็บเอง ควรเป็ข้าที่ขอโทษมากกว่า เอาเช่นนี้ เดี๋ยวข้าไปซื้อยามาให้เ้า ไม่ทราบว่าเ้าสะดวกหรือไม่?”
“คุณชายมิต้อง…”
“ต้องสิ!”
“เช่นนั้น…คุณชายมาตอนต้นยามซวี[1]ก็ได้เ้าค่ะ เพื่อนบ้านรอบข้างจะได้ไม่เห็นแล้วเอาไปนินทา” นางพูดจบก็ชี้ไปทางประตูบานหนึ่ง “คุณชาย ประตูที่ติดรูปท่านเทพทวารบาลคือบ้านของข้าน้อยเ้าค่ะ”
พูดจบก็ย่อตัวคำนับให้เฮ่อตงเวยอีกครั้ง
เฮ่อตงเวยยิ้มกว้างในใจ “ได้ พวกเราตกลงตามนี้!”
“คุณชายกลับไปเถิดเ้าค่ะ ผู้ใดเห็นเข้าคงไม่ดี”
“ได้ ไว้คืนนี้ข้าจะมา!” เฮ่อตงเวยจับหน้าฟู่เหรินอย่างเบิกบานใจแล้วหันตัวเดินจากไป
กระทั่งเมื่อเขาเดินจากไปไกล ฟู่เหรินนางนั้นกลับไม่เดินเข้าตรอก นางเดินตรงไปข้างหน้า ทิศทางตรงข้ามกับทิศที่เฮ่อตงเวยเดินออกไป
คืนนั้น เมื่อท้องฟ้ามืดสนิท เงาดำร่างหนึ่งวิ่งเข้ามาในตรอก ะโเข้าบ้านหลังที่ฟู่เหรินน้อยชี้ให้ดูเมื่อตอนกลางวัน ค่อยๆ เปิดกลอนประตูจากด้านใน
จากนั้นไปเป่าควันนอนหลับใส่ทุกห้องในบ้าน
เมื่อสาวใช้และยายเฒ่าสลบหมด คนชุดดำก็นำพวกนางไปขังไว้ในห้องเดียวกันก่อนที่กลับออกไปเงียบๆ
ส่วนเฮ่อตงเวยที่ดื่มสุรามาเล็กน้อย ในมือถือขนมอบสองสามห่อก็ได้ก้าวเท้าเข้ามาในตรอกเส้นนี้…
ภายในหอสุราเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกล เจียงหงหย่วนกับหัวหน้ามือปราบซุนเคอดื่มจนหน้าแดงตาเมาสะลึมสะลือเช่นกัน
“น้องเจียง นับว่าพวกเราผูกมิตรกันแล้ว วันหน้ามีโอกาสร่ำรวยอย่าลืมพี่ล่ะ!”
เวลาไปทวงหนี้ มีหลายครั้งที่ทางบ่อนจะหาเ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยอย่างมือปราบและนักการมาช่วยงาน แต่แน่นอนว่าไม่ได้ช่วยเปล่า
“วันหน้าข้าต่างหากต้องพึ่งหัวหน้ามือปราบซุน!” เขาประสานมือคารวะซุนเคอ จากนั้นหยิบกล่องไม้ใบหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ “ข้าได้ปิ่นอันนี้มาจากบ่อน ต้าเกอนำกลับไปให้พี่สะใภ้หรือมอบให้บ่าวใช้ก็ได้ขอรับ”
ซุนเคอรับมาเปิดดู เป็ปิ่นทองรูปพัดเตี่ยนชุ่ย[2] ฝีมือประณีตมาก
“ขอบคุณมาก!” เขาเก็บเข้าแขนเสื้ออย่างไม่ปฏิเสธแล้วชนจอกกับเจียงหงหย่วน
“ไม่ทราบว่าวันที่เก้าเดือนสิบสอง ซุนต้าเกอพอจะมีเวลาว่างหรือไม่ขอรับ? หากมีเวลาก็เชิญมาดื่มที่บ้านข้า ข้ากำลังจะจัดงานขึ้นบ้านที่หมู่บ้านเค่าซาน” เจียงหงหย่วนถือโอกาสเชิญชวน “จริงสิ หวงจ้งซาน หวงต้าเกอก็มาด้วยเช่นกัน”
ซุนเคอได้ยินตบเข่าตอบตกลงทันทีเมื่อได้ยินดังนี้ “ฮ่าฮ่าฮ่า งานมงคลของน้องชายทั้งที ข้าทั้งไปอยู่แล้ว วางใจเถิด วันนั้นข้าจะพาลูกน้องไปร่วมงานด้วย!”
“เช่นนั้นข้าจะรอรับซุนต้าเกอที่บ้าน ถึงเวลาแล้วคงต้องรบกวนให้ซุนต้าเกอช่วยดูแลหวงต้าเกอ เพราะวันนั้นข้าน่าจะยุ่งมาก…กลัวดูแลไม่ทั่วถึง”
“วางใจได้ วันนั้นข้าจะออกจากบ้านั้แ่ฟ้ายังไม่สาง จะรีบไปรอที่บ้านเ้า!” หัวหน้ามือปราบระดับจังหวัดจะมา เขาต้องแสดงทัศนคติท่าทางให้เหมาะสมอยู่แล้ว
เจียงหงหย่วนพึงพอใจ นี่เป็ผลลัพธ์ที่เขา้า “ซุนต้าเกอ นี่ก็ดึกแล้ว พวกเราพอแค่นี้ก่อนหรือไม่ขอรับ ข้ายังต้องกลับไปที่บ่อนอีก…”
“ได้ กินข้าวดื่มเหล้าอิ่มแล้ว เ้าไปทำงานเถิด พวกเราค่อยนัดกันใหม่”
ทั้งคู่แยกกันที่หน้าหอสุรา ซุนเคอจับแขนเสื้อ จำได้ว่ามีปิ่นทองอยู่ด้านใน เขานึกได้ว่าที่นี่อยู่ห่างจากบ้านฮวนเหนียงไม่ไกล ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจก้าวเท้าเดินไปทางตรอกเล็กๆ
บ้านที่ฟู่เหรินน้อยชี้เมื่อตอนกลางวันคือบ้านภรรยาเก็บของซุนเคอ ฮวนเหนียงเป็หญิงคณิกาที่เขาเพิ่งไถ่ออกมาจากหอนางโลม พากลับบ้านไม่สะดวกจึงจัดหาที่พักไว้ข้างนอก
เชิงอรรถ
[1] ยามซวี(戌时) เวลา 19.00 น. – 21.00 น.
[2] เตี่ยนชุ่ย(点翠) คือการใช้ขนนกกระเต็นสีฟ้าสดตัดเป็ชิ้นๆ ประดับลงบนโครงโลหะ ทำเครื่องประดับจำพวกปิ่น หวีสับ ศิราภรณ์กระบังกระจังมงกุฎทั้งหลาย