กลิ่นไม้จันทน์หอมฟุ้ง ลอยอวลจนแทบจะเรียกได้ว่าฉุนแสบจมูก
ซูซินขมวดคิ้วเล็กๆ ของนาง กลิ่นหอมหนักอึ้งนี้ทำให้ความเจ็บแปล๊บที่แล่นผ่านขมับยิ่งทวีความรุนแรง นางฝืนปรือตาขึ้นอย่างยากลำบาก
ภาพแรกที่เห็นคือเพดานไม้แกะสลักลวดลายวิจิตรสีทองอร่าม สูงลิบจนน่าเวียนหัว นี่ไม่ใช่ห้องนอนเพนท์เฮาส์สไตล์มินิมัลลิสต์ของนาง และยิ่งไม่ใช่ห้องประชุมผู้ถือหุ้นของ 'เดอะ ซีนิธ' ที่นางเพิ่งอนุมัติงบประมาณไตรมาสสุดท้ายไป
ความคิดในหัวยังคงเป็ของ 'ภารวี' นักธุรกิจสาวทายาทห้างดัง แต่นางรู้ทันทีว่าร่างกายนี้ไม่ใช่
นางพยายามยันกายลุกขึ้น ทว่าอุปสรรคสำคัญประการแรกคือ แขนของนางสั้นและป้อมเกินไป
ซูซินยกมือเล็กจิ๋วคู่นั้นขึ้นมาจ้องเขม็ง ผิวขาวละเอียดราวกับกระเบื้องเคลือบเนื้อดี นี่มันมือของเด็กชัดๆ
วิเคราะห์สถานการณ์ สัญชาตญาณซีอีโอบอก
“ไม่ใช่” นางลองเปล่งเสียง แต่สิ่งที่หลุดออกมาคือเสียงใสกิ๊งราวกับกระดิ่งเงิน
“นี่มันไม่ใช่เสียงของฉัน”
ในจังหวะนั้นเอง ประตูบานเลื่อนที่กรุกระดาษสาชั้นดีก็เคลื่อนเปิดออก
หญิงสาวสองนางในชุดผ้าไหมสีเขียวอ่อนราวกับหลุดมาจากยุคสมัยใดมิทราบ ถลันเข้ามาคุกเข่าลงข้างเตียงไม้สลักลายหงส์ที่นางนอนอยู่ทันที
“องค์หญิง องค์หญิงน้อยซูซิน”
เสียงนางกำนัลคนหนึ่งสั่นเครือด้วยความยินดี
“ท่านฟื้นแล้ว ในที่สุดท่านก็ฟื้น หม่อมฉันจะรีบไปทูลไทเฮาเพคะ”
องค์หญิงซูซิน
“เดี๋ยวก่อน” ซูซินเอ่ยห้ามไว้ แม้เสียงจะเล็กแหลม แต่ความเฉียบขาดในน้ำเสียงนั้นทำให้นางกำนัลทั้งสองชะงักกึก
“ที่นี่คือที่ไหน”
นางกำนัลทั้งสองมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่ก
คนที่ดูาุโกว่ารีบก้มหน้าตอบอย่างนอบน้อม
“ที่นี่คือตำหนักวสันตสุข ในวังหลวงแคว้นฉินอย่างไรเพคะ องค์หญิงทรงบรรทมไปสามวันเต็มหลังจากทรงตกน้ำ หม่อมฉันใจหายใจคว่ำหมดแล้วเพคะ”
ตกน้ำ วังหลวง แคว้นฉิน?
ข้อมูลประดังเข้ามา ซูซินสูดลมหายใจเย็นๆ นี่คือการ 'ควบรวมกิจการ' ที่นางไม่ได้ร้องขอและดูเหมือนว่า 'บริษัท' ใหม่นี้จะมีความซับซ้อนสูงยิ่ง
“ขอน้ำ” นางสั่งสั้นๆ
“เพคะ” นางกำนัลอีกคนรีบรินน้ำชาอุ่นๆ จากกาน้ำชาดินเผาที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ส่งถ้วยกระเบื้องเคลือบเนื้อดีให้
ซูซินรับมาจิบ ความอุ่นช่วยให้สมองที่กำลังตื้อตันเริ่มทำงาน
“สรุปสถานการณ์ปัจจุบัน หนึ่งฉันทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กแปดขวบชื่อซูซิน สองที่นี่คือวังหลวงยุคโบราณที่ดูเหมือนจะวุ่นวาย สามฉันคือ 'องค์หญิง' ซึ่งเป็ตำแหน่งที่มีความเสี่ยงสูง แถมเพิ่งตกน้ำมาหมาดๆ”
นี่มันวิกฤตองค์กรชัดๆ
“พวกเธอออกไปก่อน” ซูซินในร่างองค์หญิงน้อยบัญชา “ข้าอยากพักผ่อนเงียบๆ”
“แต่ว่าองค์หญิงเพิ่งฟื้น พระวรกายยังอ่อนแอ ให้หม่อมฉันอยู่ถวายพัดเถอะเพคะ”
“ข้าบอกให้ออกไป!” นางจ้องตานางกำนัลคนนั้นนิ่ง แม้จะเป็ดวงตาของเด็กแปดขวบ แต่แววตาของผู้บริหารที่คุ้นเคยกับการสั่งการคนนับพัน ทำให้นางกำนัลทั้งสองสะดุ้งเล็กน้อย พวกนางรีบก้มหัวคำนับและถอยออกไปจากห้องอย่างเงียบเชียบ
เมื่อประตูเลื่อนปิดลง ซูซินก็ถอนหายใจยาว
“อย่างน้อย ทักษะการบริหารคนก็ยังติดมาด้วย”
นางลุกจากเตียง ร่างเล็กๆ นี้ยังอ่อนแรงอยู่บ้าง แล้วเดินโซเซไปที่คันฉ่องทองเหลืองขัดเงามันวับที่ตั้งอยู่มุมห้อง ภาพที่สะท้อนกลับมาคือเด็กผู้หญิงใบหน้ากลมแก้มยุ้ย ผิวขาวอมชมพู ดวงตากลมโต น่ารักน่าชัง แต่ไม่ใช่ภารวี
นางกำลังเคาะนิ้วลงบนกรอบคันฉ่อง ประเมินสินทรัพย์ใหม่ ทันใดนั้นก็มีเสียงสังเคราะห์ที่นางคุ้นเคยดังขึ้นในหัว
[ติ๊ง]
ซูซินชะงักกึก
[...กำลังเชื่อมต่อระบบการย้ายโอนข้อมูลจิติญญาเสร็จสิ้น...]
[ยินดีต้อนรับ ซีอีอ๊ะ...องค์หญิงซูซิน สู่ระบบห้างสรรพสินค้า 'เดอะซีนิธ' แพ็คเกจข้ามมิติ]
ตรงหน้าของซูซิน ปรากฏหน้าจอโฮโลแกรมสีฟ้าอ่อนใสๆ ที่มีเพียงนางเท่านั้นที่เห็น
“นี่มันระบบของห้างฉัน”
[ถูกต้องเพคะ องค์หญิง] เสียงระบบตอบกลับอย่างร่าเริง
[เนื่องจากการย้ายจิตข้ามภพอย่างกะทันหัน ระบบจึงได้ทำการซิงค์ข้อมูลสิทธิประโยชน์ผู้บริหารสูงสุดของท่านมาด้วย]
หน้าจอเปลี่ยนเป็รูปแคตตาล็อก แถบแรกเขียนว่า 'สินค้าจำเป็พื้นฐาน'
[คะแนนสะสมปัจจุบัน 10 แต้ม]
“สิบแต้ม สิบแต้มมันจะไปซื้ออะไรได้ บะหมี่ถ้วยเดียวยังไม่ได้เลย” ซูซินแทบอยากจะกรีดร้อง
[คะแนนสิบแต้มคือ 'โบนัสแรกเข้า' สำหรับการเปิดระบบครั้งแรกเพคะ] เสียงระบบยังคงสุภาพ
[ท่านสามารถสะสมคะแนนเพิ่มได้จากการทำ 'ภารกิจ' ค่ะ]
หน้าจอพลิกไปอีกหน้า
[ภารกิจพิเศษ (ด่วนที่สุด) ทำให้ไทเฮาทรงพอพระทัยในการเข้าเฝ้าครั้งแรกหลังฟื้นไข้]
[รางวัล: 100 แต้ม]
“ไทเฮา” ซูซินพึมพำ
[ติ๊ง ระบบตรวจพบการเคลื่อนไหวภายนอกห้อง ไทเฮาทรงกำลังเสด็จมาที่ตำหนักวสันตสุข]
“เฮ้ย นี่มันการตรวจสอบสาขาแบบไม่แจ้งล่วงหน้าชัดๆ” ซูซินอุทานในใจ
นางมองหน้าจอระบบอย่างรวดเร็วด้วยสายตาของซีอีโอที่กำลังแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
“สิบแต้มที่มี ตอนนี้ต้องใช้อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด”
[โปรโมชั่นพิเศษ แลกซื้อ 'โอสถน้ำตาลรสสตรอว์เบอร์รี' 1 เม็ด ด้วยราคา 1 แต้ม (จากปกติ 5 แต้ม) ]
[เพื่อสร้างความประทับใจแรกพบ กดเพื่อยืนยันหรือไม่]
“ยืนยัน” ซูซินตกลงในใจทันที
แสงสีฟ้าอ่อนๆ วาบขึ้นในมือเล็กๆ ของนาง และลูกอมห่อพลาสติกสีสันสดใสก็ปรากฏขึ้นมา
“องค์หญิงเพคะ ไทเฮาเสด็จเพคะ” เสียงนางกำนัลดังขึ้นจากหน้าประตู
ซูซินรีบกำลูกอมไว้ในมือ นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“เอาล่ะ การบริหารวังหลังก็คงไม่ต่างจากการบริหารลูกค้าระดับ VVIP”
นางเหลือบมองลูกอมในมือ “ต้องรีบสร้างแบรนด์ ท่านปู่เซียนั้แ่ตอนนี้”
ประตูตำหนักเปิดกว้างออก ร่างในฉลองพระองค์หงส์สีทองอร่ามก้าวเข้ามา พร้อมกับกลิ่นไม้จันทน์ที่รุนแรงกว่าเดิม
ร่างในฉลองพระองค์หงส์สีทองอร่ามก้าวเข้ามา หางตาที่คมกริบนั้นตวัดมองไปทั่วห้องราวกับกำลังประเมินราคาสินทรัพย์ ก่อนจะหยุดลงที่ร่างเล็กบนเตียง
ซูซินกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว นี่คือ 'ไทเฮา' ผู้กุมอำนาจสูงสุดในวังหลังหรือในศัพท์ธุรกิจ นี่คือ 'ผู้ถือหุ้นใหญ่' ที่มีสิทธิ์ขาดในการสั่งปิดสาขานี้ได้ทุกเมื่อ
“ถวายพระพรไทเฮาเพคะ” เหล่านางกำนัลรีบคุกเข่าหมอบกราบลงกับพื้นเย็นเฉียบ
ซูซินพยายามยันกายเล็กๆ ของนางลุกขึ้น ทำท่าจะลงจากเตียงเพื่อถวายความเคารพตามธรรมเนียม
แต่ร่างนี้อ่อนแอเกินไป นางทำได้เพียงโงนเงนและไอค่อกแค่กออกมาสองสามครา
“พอแล้ว” เสียงของไทเฮาเ็าและแหบแห้ง บ่งบอกถึงความเบื่อหน่ายที่สั่งสมมานานปี
“ข้าไม่ได้มาดูเด็กป่วยแสดงละครลิง ข้าแค่มาดูให้แน่ใจว่าเ้ายอมฟื้นขึ้นมาหายใจต่อแล้วจริงๆ”
“ประเมินลูกค้า เ็า เบื่อโลกและน่าจะผ่านการนำเสนอในวังที่น่าเบื่อมานับพันครั้ง” ซูซินวิเคราะห์ในใจ
“เสด็จย่า...” ซูซินเอ่ยขึ้น เสียงของนางทั้งสั่นและแหบพร่าจากการไม่ได้ใช้งานมาสามวัน
“หม่อมฉันขอประทานอภัยที่ทำให้ทรงเป็ห่วงเพคะ”
ไทเฮาเหลือบมองนางด้วยหางตา
“เป็ห่วงรึ เ้าเพิ่งตกน้ำไปสามวัน จำความอันใดได้บ้างหรือไม่ หรือสมองไหลไปกับน้ำหมดแล้ว”
นางกำนัลชุนหลันหน้าซีดเผือดแทนเ้านายของนาง
นี่คือโอกาส!
ซูซินบีบน้ำตา (ปลอมๆ) ให้คลอหน่วยเล็กน้อย นางจ้องมองไทเฮาด้วยดวงตากลมโตที่บัดนี้แดงก่ำ
“หม่อมฉันจำได้เพคะ ตอนที่หม่อมฉันจมลงไปในน้ำ มันทั้งหนาวทั้งมืด...”
ไทเฮาถอนพระทัยอย่างเบื่อหน่าย “ข้าไม่ได้มาฟังเ้าเล่านิทาน”
“หม่อมฉันไม่ได้จมน้ำตายทันทีเพคะ” ซูซินโพล่งขึ้นมาเสียงดัง จนทุกคนในห้องสะดุ้ง
นางกำของในมือแน่น
เปิดตัวแบรนด์เดี๋ยวนี้!
“หม่อมฉันได้พบท่านปู่ท่านหนึ่งเพคะ”
คราวนี้ไทเฮาที่กำลังจะหันพระวรกายกลับ ขมวดคิ้วและหยุดชะงัก
“ท่านปู่เคราสีขาวชุดก็สีขาว ท่านลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ท่านบอกว่าท่านคือ 'ท่านปู่เซียน' เพคะ”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบกริบ แม้แต่เสียงลมหายใจของเหล่านางกำนัลก็ยังไม่กล้าดังออกมา
การอ้างถึงเซียนหรือเทพโดยตรงนั้น ถือเป็เื่ใหญ่หลวง
ไทเฮาหรี่พระเนตรลง “เ้ากำลังจะบอกว่า เ้าพบเซียนรึ ซูซิน”
“เพคะ” ซูซินพยักหน้าอย่างแรง “ท่านปู่เซียนบอกว่าหม่อมฉันยังมีบุญบารมีเหลืออยู่ ท่านจึงส่งหม่อมฉันกลับมา แต่ก่อนกลับ...”
นางค่อยๆ แบมือเล็กๆ ที่กำแน่นอยู่ออก เผยให้เห็นห่อพลาสติกสีแดงสดใสแวววาว ที่มีรูปสตรอว์เบอร์รีสีสวยพิมพ์อยู่บนนั้น
“ท่านปู่มอบ 'โอสถทิพย์' นี้ให้หม่อมฉันมาเพคะ”
นี่คือความจริงข้อที่หนึ่งของการตลาด สร้างเื่ราวที่จับใจ
นางกำนัลาุโที่ติดตามไทเฮามา ก้าวออกมาขวางทันที
“บังอาจ! องค์หญิงน้อย ท่านกำลังเอาสิ่งใดมาถวายไทเฮา ของไร้ที่มาที่ไปเช่นนี้อาจเป็ยาพิษ!”
“นางเพิ่งฟื้นจากความตาย” ไทเฮาตรัสเสียงเรียบ แต่แววพระเนตรฉายแววสนใจอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน
“หากนางคิดจะวางยาข้า ก็คงฉลาดกว่านี้หน่อย”
ไทเฮาเบื่อแล้ว เบื่อโอสถชั้นเลิศจากหมอหลวง เบื่อเครื่องบรรณาการที่ซ้ำซากจำเจ แต่ไอ้ของห่อแวววาวสีแดงในมือเด็กนี่มันคือสิ่งใหม่
“ท่านปู่เซียนตรัสว่า...” ซูซินพูดต่อ พยายามแกะพลาสติกที่ห่ออย่างทุลักทุเล เสียงแกะพลาสติก 'แกรบๆ' ดังขึ้นในความเงียบ เป็เสียงที่ประหลาดที่สุดในยุคนี้
“ท่านตรัสว่านี่คือ 'โอสถน้ำตาลรสผลไม้์' เพคะ ท่านบอกว่ามันรวบรวมแก่นแท้ของฤดูวสันต์เอาไว้ เสวยแล้วจะทำให้หายเบื่อหน่ายเพคะ”
ยิงให้ตรงจุดเ็ปของลูกค้า!
ซูซินยื่นลูกอมสีแดงใสที่แกะออกจากห่อแล้วชูขึ้นสูง แม้แขนเล็กๆ จะสั่นเทา
ไทเฮาจ้องมอง “โอสถ” สีแดงใสนั้น มันสะท้อนแสงแดดยามสายที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาอย่างงดงาม
นางไม่เคยเห็นสิ่งใดเช่นนี้มาก่อน
“เสด็จย่าลองเสวยดูเถิดเพคะ” ซูซินยิ้มหวาน “อย่างน้อยก็เพื่อเห็นแก่ที่หม่อมฉันอุตส่าห์ 'กลับมา' นะเพคะ”
ไทเฮาเหลือบมองนางกำนัลาุโของนางแวบหนึ่ง ก่อนจะตัดสินพระทัย
นางยื่นพระหัตถ์ที่เหี่ยวย่นเล็กน้อยตามวัย แต่ยังคงไว้ซึ่งความสง่างาม ออกมาหยิบ “โอสถ” เม็ดเล็กนั้น
ทั้งตำหนักแทบหยุดหายใจ
ไทเฮาพลิกมันดูเล็กน้อย ก่อนจะใส่เข้าพระโอษฐ์
วินาทีแรกที่ลิ้นัั...
ความหวาน...
ความหวานที่ชัดเจนและรุนแรง ไม่ใช่ความหวานนวลๆ จากน้ำผึ้งหรือผลไม้แห้งที่นางคุ้นเคย ตามมาด้วยกลิ่นหอมเปรี้ยวจางๆ ที่ะเิในโพรงจมูกรสชาติของ “สตรอว์เบอร์รี” ที่ถูกปรุงแต่งจนสมบูรณ์แบบ
ดวงตาของไทเฮาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย มันเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่สำหรับซูซินนั่นคือ 'สัญญาณซื้อ'
ไทเฮาไม่ได้ตรัสอะไร นางยืนนิ่ง อม “โอสถทิพย์” นั้นไว้ ปล่อยให้รสชาติที่นางไม่เคยรู้จักมาก่อนแผ่ซ่าน
[ติ๊ง]
เสียงระบบดังขึ้นในหัวของซูซิน
[ภารกิจพิเศษ (ด่วนที่สุด) ทำให้ไทเฮาทรงพอพระทัยสำเร็จ]
[ท่านได้รับ 100 แต้มสะสม]
[คะแนนสะสมปัจจุบัน 109 แต้ม]
“เยส ปิดการขายได้” ซูซินแทบจะชูกำปั้น แต่ทำได้เพียงยิ้มอ่อนหวานต่อไป
ไทเฮาปล่อยให้ลูกอมละลายจนหมด ก่อนจะตรัสด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเรียบ แต่ความเบื่อหน่ายในนั้นลดลงไปครึ่งหนึ่ง
“โอสถน้ำตาล' ที่เ้าว่า...”
“เพคะ เสด็จย่า”
“รสชาติประหลาดดี พรุ่งนี้เอามาให้ข้าอีก” ไทเฮาตรัส
ซูซินยิ้มค้าง พรุ่งนี้โปรโมชั่น 1 แต้มมันหมดแล้วนะ พรุ่งนี้มันราคาเต็ม 5 แต้ม นี่มันลูกค้า VVIP จอมเอาเปรียบชัดๆ
[ติ๊ง ระบบตรวจพบความ้าของลูกค้า]
[ภารกิจรายวัน (ใหม่) ถวาย 'โอสถน้ำตาล' แก่ไทเฮา (0/1) ]
[รางวัล 5 แต้ม (เท่าทุน) + ค่าความพอพระทัยของไทเฮา +1]
“อ้ออย่างน้อยก็เท่าทุน ถือว่าเป็การลงทุนเพื่อรักษาลูกค้า”
“ด้วยความยินดีเพคะ เสด็จย่า” ซูซินก้มหน้าตอบรับอย่างนอบน้อมที่สุด
“ขอเพียงเสด็จย่าไม่เบื่อหน่าย หม่อมฉันก็ดีใจแล้วเพคะ”
ไทเฮาพยักหน้าอย่างพึงพอใจลึกๆ
“ดี หายป่วยไวๆ เถิด ร่างกายอ่อนแอนัก สมองจะได้ไม่เลอะเลือนไปเจอ 'ท่านปู่เซียน' ที่ไหนอีก”
นางตรัสเพียงเท่านั้น ก่อนจะสะบัดฉลองพระองค์หงส์ เสด็จกลับออกไปจากตำหนัก พร้อมกับนางกำนัลทั้งขบวน ทิ้งไว้เพียงกลิ่นไม้จันทน์ที่เริ่มจางลง
ทันทีที่ลับร่างไทเฮา ซูซินก็ทิ้งตัวนอนแผ่ลงบนเตียงทันทีแล้วถอนหายใจยาว
การรับมือลูกค้ารายใหญ่ครั้งแรกเหนื่อยกว่าการประชุมบอร์ดผู้บริหารทั้งวันเสียอีก
[คะแนนสะสม 109 แต้ม]
นางจ้องมองตัวเลขบนหน้าจอระบบที่เห็นคนเดียว
เอาล่ะอย่างน้อยเราก็มี 'เงินทุน' เริ่มต้นแล้ว
ซีอีโอในร่างองค์หญิงน้อยแสยะยิ้ม
'เดอะซีนิธ' สาขาวังหลังได้เวลาเปิดทำการอย่างไม่เป็ทางการแล้ว
