พลังอันไร้รูปลักษณ์นั้น ไร้รูปไร้รอยตามองไม่เห็นแต่มีอยู่จริงแน่นอน
ตอนที่พลังไร้รูปสายนั้นของเสวียนเทียนะเิออกมาบรรดาศิษย์ที่ชมการต่อสู้อยู่รอบด้าน แต่ละคนมีสีหน้าตะลึงงัน
ถึงแม้ว่าเบื้องหน้าจะไม่มีกระบี่ แต่ศิษย์ในหลายคนล้วนมีความรู้สึกเหมือนถูกกระบี่คมกริบฟันผ่านร่าง
อากาศไม่ขยับ แต่มีลมเย็นไร้รูปสายหนึ่งทำให้บรรดาศิษย์ในสั่นสะท้านไปทั้งกายและใจ
พวกที่จิตใจค่อนข้างเข็มแข็งบางคนเพียงขนทั้งร่างลุกชันสัญชาตญาณระวังภัยของคน พริบตาก็ขยับขึ้นมาถึงขีดสุด
พวกที่จิตใจค่อนข้างอ่อนแอบางคน คิดว่าร่างกายถูกกระบี่คมฟันผ่านไปจริงพากันร้องเสียงหลงออกมา ถึงขนาดที่มีศิษย์ชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งบางคนที่เหมือนกับหยางเทียนจวินซึ่งถูกเล่นงานเป็คนแรกร่างกายล้มไปข้างหลังล้มลงกับพื้นเช่นกัน
หยางติ่งจวินก็ล้มลงบนพื้นเช่นเดียวกันนอกจากนี้ยังกระอัดเืออกมาอีกคำ
ไม่ใช่เพราะจิตใจของเขาอ่อนแอกว่าศิษย์ในคนอื่นแต่เป็เพราะเสียงะโอย่างลำพองของหยางติ่งจวินเมื่อครู่เสวียนเทียนจึงตั้งใจลงโทษเขาเสียบ้าง
การโจมตีของจิตกระบี่ที่ศิษย์ในคนอื่นรู้สึกเป็เพียงพลังที่แผ่กระจายออกไปเองเท่านั้นหยางติ่งจวินถึงก็เป็คนที่เสวียนเทียนจงใจใช้จิตกระบี่โจมตีแม้จะไม่เทียบเท่ากับหนึ่งในสิบที่หยางเทียนจวินเผชิญแต่ก็เพียงพอให้หยางติ่งจวินหวาดกลัว ล้มโครมใหญ่
ในการปะทะพลังลักษณ์กันหยางเทียนจวินที่ในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสามไร้คู่ต่อกรกลับพ่ายแพ้แล้วแพ้ให้กับเสวียนเทียนที่เพิ่งพลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งเท่านั้น
อีกทั้งหยางเทียนจวินยังแพ้ย่อยยับปราณแท้ในร่างโคจรย้อนกลับ ลมหายใจสับสน จนทำให้ร่างกายได้รับาเ็เล็กน้อยกระอักเืคำโตออกมา
บรรดาศิษย์ในที่ชมการต่อสู้อยู่ไม่มีใครไม่ตื่นตะลึง ไม่มีใครไม่ตะลึงงัน!
“จิตกระบี่! ์ นี่มันจิตกระบี่!”
เฟิงปู๋จื้อดวงตาเบิกโต มองเสวียนเทียนอย่างไม่อยากเชื่อพึมพำออกมา
บรรดาศิษย์ที่ตกอยู่ในความตื่นตะลึงพริบตาก็ฮือฮาขึ้นมา แต่ละคนทั้งเบิกตาอ้าปากค้าง สีหน้าตื่นตะลึงตะลึงงันเหลือแสน ไม่อยากเชื่อ
“เป็ไปได้อย่างไรนี่มันจิตกระบี่ที่มือกระบี่เฝ้าฝันปรารถนาจะบรรลุเชียวนะ!”
“มีเพียงชั้นเบิกนภา่ปลาย อย่างน้อยก็ต้องถึงชั้นเบิกนภาขั้นเจ็ดความยากที่มือกระบี่จะบรรลุจิตกระบี่ถึงลดน้อยลงไปมากบรรลุจิตกระบี่ใน่กลางชั้นเบิกนภาก็เป็อัจฉริยะแห่งวิถีกระบี่แล้วแต่ศิษย์พี่หวงเพิ่ง...!”
“ขนาดศิษย์พี่ฉู่พร์น่าตื่นตะลึงถึงเพียงนั้น เป็มือกระบี่อัจฉริยะแห่งยุคที่ร้อยปีจะมีของสำนักกระบี่์หลังบรรลุชั้นเบิกนภาขั้นสามถึงบรรลุจิตกระบี่ ศิษย์พี่หวง...เป็ไปได้อย่างไร?”
“์ ศิษย์พี่หวงเพิ่งจะชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งก็บรรลุจิตกระบี่แล้วสุดยอด นี่มันสุดยอด...!”
“นี่เป็ไปได้หรือ? เมื่อครู่นั่นเป็จิตกระบี่จริงหรือ? นี่มันเป็ไปไม่ได้?นี่มันจะเป็ไปได้อย่างไร?”
“จริงแท้แน่นอนเ้าไม่ได้ยินศิษย์พี่เฟิงปู๋จื้อพูดหรือ เป็จิตกระบี่อย่างจริงแท้เมื่อครู่เ้ารู้สึกหรือไม่ ความรู้สึกที่มีกระบี่คมกริบสุดแสนตัดผ่านร่างน่ะ?ยังคิดว่าตนเองถูกกระบี่แทงทะลุไปจริงๆ ใยกใหญ่เลย แม้ว่านี่จะเป็เพียงความรู้สึกลวงทางด้านจิตใจแต่ถ้าจิตใจคิดเป็จริงไป ลมปราณก็จะแตกซ่าน ปราณแท้ไหลย้อนกลับ ทำให้ได้รับาเ็”
“์ นี่มันช่างเมื่อครู่ข้าเกือบจะคิดว่าตัวเองโดนกระบี่แทงไปจริงๆ แล้ว อีกนิดเดียวจะล้มลงไปที่พื้นแล้วถ้าไม่ใช่ปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วอยู่ ต้องได้รับาเ็เป็แน่พลังของจิตกระบี่ช่างน่ากลัวนัก!”
“ใช่ แม้ว่าจะเป็สิ่งลวงไม่มีพลังโจมตีในโลกความจริง แต่ก็ทำให้คนอื่นเกิดภาพหลอน คิดว่าตนเองถูกโจมตีได้ยินว่าระดับความสูงต่ำของจิตกระบี่แบ่งออกเป็เก้าขั้นจิตกระบี่ขั้นต่ำยังเป็เพียงการโจมตีลวงทางจิตใจ จิตกระบี่ขั้นสูงสามารถเปลี่ยนลวงเป็จริงทำร้ายเป้าหมายให้าเ็ได้โดยตรง!”
“พวกเราแค่โดนผลข้างเคียงของจิตกระบี่เท่านั้นนั่นก็น่าหวาดกลัวถึงเพียงนี้แล้ว ศิษย์พี่หยางเป็แนวหน้าปะทะ ไม่รู้ว่าต้องรับมือการโจมตีลวงตาที่น่าหวาดกลัวถึงเพียงไรไม่เช่นนั้น ด้วยจิตใจของศิษย์พี่หยาง ย่อมไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้”
“น่ากลัวเกินไปแล้วศิษย์พี่หวงน่ากลัวกว่าที่ข้าจินตนาการไว้มากนักแม้พลังวัตรจะต่ำกว่าศิษย์พี่ฉู่เฟิงสามขั้น แต่บรรลุจิตกระบี่เร็วกว่าศิษย์พี่ฉู่เฟิงสองขั้นความน่ากลัวของทั้งสองคนสูสีคู่คี่กัน”
“เฮ้อ...ล้วนแต่เป็คนที่พวกเราต้องแหงนคอมอง!”
......
......
บรรดาศิษย์ที่ชมการต่อสู้อยู่วิพากษ์วิจารณ์กันระงม ไม่มีใครไม่ตื่นตะลึง ไม่มีใครไม่ตะลึงงัน
แน่นอนว่า ไม่มีใครไม่อิจฉา
สำนักกระบี่์เป็สำนักกระบี่ศิษย์ในสำนักเก้าในเก้าล้วนฝึกฝนวิถีกระบี่จิตกระบี่เป็สิ่งที่พวกเขาเฝ้าฝันจะบรรลุ จะไม่อิจฉาได้อย่างไร?
มือกระบี่เมื่อบรรลุจิตกระบี่ต่อกรกับผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดา ต่อสู้ข้ามระดับชั้น จะกลายเป็ง่ายดายราวกับกินข้าวดื่มน้ำ
จิตกระบี่กับพลังวัตร ‘กระบี่ขุนเขาหนัก’ ซึ่งเป็ศาสตราวิเศษชั้นนิล ล้วนเป็ไพ่ตายของเสวียนเทียนยามปกติเสวียนเทียนย่อมไม่เปิดเผยไพ่ตายเหล่านี้
ที่ต้องเปิดเผยจิตกระบี่หนึ่งเพราะพลังลักษณ์ที่คุกคามของหยางเทียนจวินแข็งแกร่งเกินไปเหนือกว่าผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสามไปมาก แม้ว่าเสวียนเทียนจะใช้จิตอันแหลมคมดุจกระบี่ตั้งมั่นไม่พ่ายแพ้ แต่ก็ยังกดหยางเทียนจวินไม่ได้ ต้องใช้จิตกระบี่ออกมาเป้าหมายก็เพื่อให้หยางเทียนจวินโดนเล่นงานอย่างหนักหน่วงสักทีหนึ่งในเมื่อเขาอยากทำลายจิตใจของเสวียนเทียน เสวียนเทียนย่อมตอบแทนคืนไปเป็เท่าตัว
ประการที่สองเป็เพราะจิตกระบี่ที่เสวียนเทียนบรรลุถึงขีดสุดของขั้นที่หนึ่งแล้วจิตกระบี่มีกี่ขั้นเป็คำพูด เป็คำอธิบายที่จดบันทึกไว้ในหนังสือว่าจิตกระบี่ควรมีกี่ขั้นจิตกระบี่ของเสวียนเทียนตอนนี้เป็ขีดสุดของขั้นที่หนึ่งเสวียนเทียนรู้สึกว่าห่างจากการบรรลุจิตกระบี่ขั้นสองอีกไม่ไกลแล้ว
ตอนนี้เปิดเผยจิตกระบี่ขั้นหนึ่งก็ไม่เป็ผลเสียใหญ่โตไม่นานจิตกระบี่ขั้นสองก็จะกลายเป็ไพ่ตายของเสวียนเทียน
มือกระบี่ธรรมดาโดยทั่วไปถึงชั้นเบิกนภาขั้นเจ็ดถึงจะเพิ่งบรรลุจิตกระบี่ ขีดสุดของจิตกระบี่ขั้นหนึ่งที่จริงควรเป็ความมุ่งมั่นปรารถนาของผู้ฝึกยุทธ์่ปลายชั้นเบิกนภาน่าหวาดกลัวยิ่งนัก แม้จิตใจของหยางเทียนจวินจะไม่อ่อนแอเป็ผู้โดดเด่นในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสามแต่ในยามที่ไร้ซึ่งการป้องกันก็ถูกภาพหลอนของจิตกระบี่ขั้นหนึ่งที่บรรลุถึงขีดสุดครอบงำใยกใหญ่ ปราณแท้ในร่างไหลย้อนกลับ ลมปราณแตกซ่านตนเองทำร้ายตนเองจนได้รับาเ็
“เ้าบรรลุจิตกระบี่ได้อย่างไร?เป็ไปได้อย่างไร?”
อย่างไรหยางเทียนจวินก็มีพลังแข็งแกร่งแม้ว่าลมปราณจะแตกซ่าน ปราณแท้ไหลย้อนกลับ ล้มลงไปกับพื้น แต่ไม่นานก็ควบคุมได้ร่างกายะโลุกยืนขึ้นมา
ถึงกับพ่ายแพ้ให้แก่เสวียนเทียนในการปะทะอำนาจพลังลักษณ์ หยางเทียนจวินไม่อาจยอมรับได้ไฟโทสะในใจเขาลุกโชน สองตาแดงก่ำ ะโว่า “ต่อให้เ้าบรรลุจิตกระบี่แล้วอย่างไรเมื่อครู่ข้าไม่ได้เตรียมพร้อมให้ดี ไม่ตั้งใจ ถึงถูกภาพลวงหลอกได้ตอนนี้ข้าเตรียมพร้อมรับดีแล้ว หวงเทียน เ้าจงเตรียมรับความโกรธของ ‘ปีศาจหยาง’ เสียเถอะ!”
“หนึ่งกระบี่แผดเผานภา!”
หยางเทียนจวินะโ ทันใดนั้นกระบี่เล่มั์สีแดงชาดในมือเล่มนั้นก็ออกจากฝัก รัศมีกระบี่ทะลักออกมาราวกับเปลวไฟสีแดงชาด พริบตาก็พุ่งแทงมาหาเสวียนเทียน
บริเวณโดยรอบร้อยเมตรพริบตาก็ร้อนระอุขึ้นมา ‘ปราณอัคนีบริสุทธิ์’ ขั้นที่ห้าของหยางเทียนจวิน ใช้ ‘กระบี่โลกันตร์ผลาญฟ้า’ แทบทำให้อาณาเขตร้อยเมตรเปลี่ยนเป็เตาอบอันร้อนระอุเตาหนึ่ง
พลังลักษณ์แพ้ให้เสวียนเทียนแต่หยางเทียนจวินไม่คิดว่าในด้านพลังที่แท้จริงก็จะพ่ายแพ้ด้วยพลังของจิตกระบี่แม้จะน่าหวาดหวั่น แต่ที่สุดก็เป็เพียงภาพลวงขอเพียงจิตมั่นคงพอย่อมไม่ได้รับอิทธิพลของจิตกระบี่เสวียนเทียนเพิ่งพลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่ง พลังต่ำเกินไปจิตกระบี่เสริมส่งพลังในการต่อสู้ได้จำกัด แม้เสวียนเทียนจะเคยสู้ชนะเจียงห้าวอวี่แต่พลังของหยางเทียนจวินเทียบกับเจียงห้าวอวี่แล้ว ทั้งสองคนก็ยังแข็งแกร่งกว่าอยู่ดีย่อมไม่หวาดกลัวเสวียนเทียนแต่อย่างใด
ในด้านจิตใจ หยางเทียนจวินถูกทำลายพ่ายไปแล้วแต่ในการต่อสู้จริง เขาต้องกู้หน้ากลับมาให้ได้เมื่อลงมือจึงใช้พลังการต่อสู้ขั้นสูงสุด ไม่มียั้งมือแม้แต่น้อย
“หนึ่งกระบี่แผดเผานภา!”
เสวียนเทียนยิ้มออกมาบางๆ ‘หนึ่งกระบี่แผดเผานภา’ กระบวนท่าเดียวกัน แทงพุ่งไปหาหยางเทียนจวิน
รัศมีกระบี่สีฟ้าราวกับมีเปลวเพลิงขยับเคลื่อนไหวอยู่ราวกับปลายเข็มปลายเมล็ดข้าว ทิ่มแทงไปหาปลายกระบี่ที่แทงมาของหยางเทียนจวิน
แน่นอนว่าหยางเทียนจวินย่อมคาดคะเนพลังที่แท้จริงของเสวียนเทียนผิดพลาดไปครั้งใหญ่
จิตกระบี่เสริมส่งพลังในการต่อสู้เป็สัดส่วนที่ไม่แน่นอน มือกระบี่สองคนบรรลุจิตกระบี่ขั้นที่หนึ่งเหมือนกันแต่ผู้ที่พลังแข็งแกร่งกว่า ยิ่งเสริมส่งพลังในการต่อสู้ได้มากกว่า
พลังในร่างของเสวียนเทียนเหนือกว่าผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสามแล้วทั้งยังมีพละกำลังอันน่าหวาดกลัวต่อให้เป็ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเบิกนภาขั้นสี่ก็ยังเทียบไม่ได้ ผนวกกับพลังของจิตกระบี่การโจมตีกระบี่นี้ของเสวียนเทียนต่อให้เป็ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสี่ก็ยังต้องถูกกระแทกจนถอยหลัง
ฉึบ!
รัศมีกระบี่สีแดงถูกรัศมีกระบี่สีฟ้าจากหนึ่งแหวกเป็สอง
พริบตานั้น ปลายกระบี่ของ ‘กระบี่แรกฟ้า’ ก็แทงเข้าที่ปลายกระบี่ของ ‘กระบี่อัคคีแดง’ ศาสตราวิเศษชั้นนิลระดับล่างของหยางเทียนจวิน
เคร้ง!
เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ภาพที่ทำให้ศิษย์ในที่ชมการต่อสู้อยู่ทุกคนตื่นตะลึงปรากฏขึ้นแล้ว
หยางเทียนจวินส่งเสียงกระอักออกมากระอักเืสดออกมาคำหนึ่ง ร่างกระเด็นถอยหลังไปทันที ร่างกายราวกับว่าวสายขาดปลิวไปในอากาศไกลถึงสามสิบกว่าเมตร ก่อนจะล้มลงบนพื้น
ฟึบ!
แสงสว่างสีแดงสายหนึ่งวิ่งผ่านเป็สะเก็ดไฟทอดยาวสายหนึ่ง พุ่งกระเด็นออกไปไกลยี่สิบกว่าเมตร ปักอยู่บนพื้นเป็ ‘กระบี่อัคคีแดง’ ของหนางเทียนจวินนั่นเอง
เพลงกระบี่เดียวกัน!
กระบวนท่าเดียวกัน!
หนึ่งกระบี่!
เพียงแค่หนึ่งกระบี่!
หยางเทียนจวินถูกแรงกระแทก กระแทกจนกระอักเื ‘กระบี่อัคคีแดง’ ศาสตราวิเศษชั้นนิลในมือหลุดจากมือไป
ส่วนเสวียนเทียนยังคงรักษาท่วงท่าที่แทงกระบี่ไว้ได้ร่างกายไม่ขยับแม้แต่น้อย ‘กระบี่แรกฟ้า’ ในมือเขา ชี้ตรงมาข้างหน้าไม่มีสั่นะเืแม้แต่น้อย
ส่วนหยางเทียนจวินที่ล้มอยู่กับพื้น มือข้างที่จับกระบี่สั่นสะท้านน้อยๆพลังของกระบี่เมื่อครู่นั้นน่าหวาดกลัวเกินไปแล้วอย่างแท้จริง จนถึงตอนนี้ไหล่ขวาของหยางเทียนจวินก็ยังคงสะท้านไม่หาย
กระบี่นั้นเมื่อครู่ของเสวียนเทียนพละกำลังของกายเนื้อใช้ออกมาเจ็ดแปดส่วน หนึ่งกระบี่ทิ่มแทง พละกำลังเจ็ดแปดพันชั่งผสานกับปราณแท้เบิกนภาที่ลึกล้ำคอยเสริมหนุนจิตกระบี่เสริมส่งและพลังอำนาจของเพลงกระบี่ชั้นนิล กระบี่เมื่อครู่พลังจึงเรียกได้ว่าน่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง
ชิ้ง!
‘กระบี่แรกฟ้า’ เก็บเข้าฝัก สายตาของเสวียนเทียนมองหยางเทียนจวินที่กองอยู่ที่พื้นอย่างเ็า เอ่ยว่า “ศิษย์น้องหยางเ้าแพ้แล้ว”
นาทีนี้ศิษย์ในไม่น้อยรอบด้าน อารมณ์พลุ่งพล่าน จิตใจฮึกเหิมขึ้นมา!
ขนาดหนึ่งในห้าั์ใหญ่ของสำนักในหยางเทียนจวินผู้มีฉายาว่า ‘ปีศาจหยาง’ ยังพ่ายแพ้ในมือของเสวียนเทียน ย่อมชวนให้ผู้คนตื่นตะลึงยิ่งกว่าครั้งเจียวห้าวอวี่เป็หมื่นเท่า
เมื่อความตื่นตะลึงบรรลุถึงจุดหนึ่งก็กลายเป็ความชินชาเื่ที่เกิดขึ้นกับเสวียนเทียนต่อให้เป็เื่เหนือธรรมดายิ่งกว่านี้ก็ล้วนกลายเป็เื่ธรรมดาดังนั้นบรรดาศิษย์ในทั้งหลาย ไม่ตื่นตะลึงตาโตอ้าปากค้างอีกแล้ว แต่เกิดพลุ่งพล่านตื่นเต้นอย่างไม่มีสาเหตุขึ้นมา
ศิษย์ในชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งคนหนึ่งถึงกับเอาชนะหยางเทียนจวินห้าอันดับแรกของสำนักในได้กลายเป็หนึ่งในห้าั์ใหญ่คนใหม่
นอกจากนี้ พลังที่เสวียนเทียนแสดงออกมาก็แทบจะทัดเทียมอยู่ในระดับเดียวกันกับยอดฝีมือชั้นเบิกนภาขั้นสี่เกรงว่าแม้แต่เติ้งเฟยอันดับหนึ่งของศิษย์สำนักในเมื่อเปรียบกับเขาแล้วก็ยังด้อยราศีไปอยู่บ้าง
นี่...จะไม่ให้คนตื่นเต้นได้อย่างไร?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้