ซูจิ่นซีมองดูกระบอกยาต้มและกากยาจากยาต้มอันเสินอย่างจริงจังตั้งใจสีหน้าดูจริงจังเป็อย่างยิ่ง จนเวลาผ่านไปนานก็ยังไม่พูดสิ่งใดออกมา
“พี่สะใภ้ สุดท้ายท่านมองสิ่งใดออกแล้วหรือยัง? คงมิใช่ว่าท่านมองสิ่งใดไม่ออกเลยนะเพคะหรือเพียงแค่เขียนเสือให้วัวกลัวกระมัง? ”
“พี่สะใภ้ หากท่านมองไม่เห็นสิ่งใดเลยก็ยอมรับความผิดพลาดกับหมอหลวงฉู่เสีย พูดออกมาก็จบ พวกเราทุกคนจะยกโทษให้ท่านอย่างไรเสียท่านก็ไม่รู้วิธีรักษานี่! ”
“พี่สะใภ้ ท่านเห็นว่าอย่างไรเล่าเพคะ? พูดอย่างตรงไปตรงมาดีกว่า!”
เว่ยเหม่ยเจียยังคงไม่รู้สึกว่าตนรบกวนและพูดไปเรื่อยไม่หยุดปากอยู่ข้างหูของซูจิ่นซีเสียงดังรบกวนจนซูจิ่นซีมีความ้าที่จะตบนางให้ตายคามือ
ไม่รู้เหตุใด บัดนี้หมอหลวงฉู่จึงมีเหงื่อเย็นเฉียบที่หน้าผากหยดลงพื้นมองดูท่าทางแล้วเหมือนจะวิตกกังวลอย่างยิ่ง หมอหลวงฉู่มองทุกการเคลื่อนไหวของซูจิ่นซีไม่ขยับไปไหนเลย
เยี่ยโยวเหยาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ จิบชาในมืออย่างแ่เบาและมองดูซูจิ่นซีด้วยความสนใจเป็อย่างมาก
นอกจากเสียงที่น่ารำคาญของเว่ยเหม่ยเจียความจริงแล้วบรรยากาศในสถานที่นั้นยังคงจริงจังมากเช่นกัน
ทันใดนั้นซูจิ่นซีก็ตบโต๊ะ พูดกับนางกำนัลที่อยู่ข้างนางซึ่งเป็ผู้รับผิดชอบต้มยาให้เฉินไท่เฟย “เ้าบังอาจนัก เ้ารู้หรือไม่ว่าโทษของเ้าเป็เช่นไร? ”
สาวใช้ไม่ทราบว่าเกิดสิ่งใดขึ้นนางจึงคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตาอย่างฉับพลัน “พระชายาเพคะไว้ชีวิตด้วย! ท่านอ๋อง ไว้ชีวิตด้วย ข้าน้อย...ข้าน้อยไม่ได้ทำอันใดเลยนะเพคะ! ”
ซูจิ่นซีโกรธมากจนแม้แต่หมอหลวงฉู่ก็ใสั่นสะท้าน ขาของเขาอ่อนลง จนเกือบจะคุกเข่าเช่นเดียวกับนางกำนัลแล้ว
เยี่ยโยวเหยายังคงแสดงออกท่าทีการเคลื่อนไหวเช่นเดิมเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ซูจิ่นซีหยิบยาสมุนไพรที่ตนเองคัดเลือกขึ้นมาเมื่อครู่เทลงไปเบื้องหน้าของนางกำนัล
“ไม่ได้ทำอันใดอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นเ้าอธิบายมาเสียว่าแท้จริงแล้วสิ่งนี้คือกระไรกันแน่? ”
สาวใช้มองดูยาสมุนไพรที่โรยลงบนพื้น ดูเหมือนว่านางจะจิตใจมัวหมองสับสนท่าทางของซูจิ่นซีทำให้นางใหวาดกลัวเป็อย่างมากไปก่อนนานแล้ว นางจึงได้แต่อ้อนวอนขอความเมตตาเพียงเท่านั้น “พระชายา ข้าน้อย ข้าน้อยไม่รู้จริงๆ เพคะ! ข้าน้อยไม่ได้ทำอันใดเลยเพคะ”
“บอกมา ผู้ใดส่งเ้ามาสอดแนมอยู่ข้างกายไท่เฟย? เหตุใดจึง้าที่จะสับเปลี่ยนยาสมุนไพรของเสด็จแม่?ผู้ที่ใช้เ้ามามีเจตนาร้ายอย่างไรกันแน่? ”
ทันทีที่สิ้นเสียงของซูจิ่นซี นางกำนัลยังไม่ทันได้พูดสิ่งใด ก็มีเสียง “ตุบ” ดังขึ้น หมอหลวงฉู่ที่ยืนอยู่ด้านข้าง ทรุดนั่งลงบนพื้นทันที
ปากของซูจิ่นซียกขึ้นเล็กน้อย
“หมอหลวงฉู่ ท่านเป็กระไรไป? ข้ากำลังไต่สวนนางกำนัลคงไม่ถึงขนาดที่ว่าทำให้หมอหลวงฉู่ใจนเป็เช่นนี้หรอกใช่หรือไม่? หรือว่าตัวท่านเองทำเื่ใดที่ไม่ควรทำลงไปแล้วใจฝ่อหวาดผวาขึ้นมาเล่า? ”
“พระชายาพ่ะย่ะค่ะ... ข้าน้อย... ข้าน้อย...”
เหงื่อที่หน้าผากของเขาราวกับฝน มุมปากสั่นเทา อยากจะพูดกระไรบางอย่างทว่าคาดไม่ถึงว่าเขาจะกลัวมากจนพูดออกมาไม่จบสักประโยค
ซูจิ่นซีก้มตัวลงไปหยิบยาสมุนไพรที่กระจัดกระจายบนพื้น แล้วเดินไปตรงหน้าหมอหลวงฉู่
“นี่ไม่ใช่ความรู้การแพทย์ที่ตื้นเขิน บางทีอาจมีบางครั้งที่มองผิดไปบ้างจะไม่ดีกว่านี้หรือหากหมอหลวงฉู่ช่วยข้าดูยาสมุนไพรพวกนี้เสียหน่อยว่าแท้จริงแล้วสมุนไพรเหล่านี้เป็ไป๋ฉีหรือว่าเป็...หวาสยง”
หมอหลวงฉู่หยิบยาจากมือของซูจิ่นซีด้วยนิ้วมือที่สั่นเทา กำลังจะเปิดปากพูดซูจิ่นซีก็พูดขึ้นทันใด “หมอหลวงฉู่ท่านจะต้องมองให้ละเอียดแล้วละคำพูดของท่านเกี่ยวข้องกับชีวิตของเสด็จแม่และหัวของคนที่เปิดร้านขายยานะ!”
ยาสมุนไพรในมือของหมอหลวงฉู่ตกลงบนพื้นทันที เขาแทบจะร้องไห้ออกมาร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง และลุกขึ้นคลานไปยังใต้เท้าของเยี่ยโยวเหยาอย่างไม่มีใครคาดคิด
“ท่านอ๋อง ขอร้องท่านไว้ชีวิตกระหม่อมด้วย! ไว้ชีวิตกระหม่อมด้วย! เป็ความผิดพลาดของกระหม่อมที่จ่ายยาผิดท่านอ๋อง ไว้ชีวิตกระหม่อมด้วย! กระหม่อมไม่ได้เจตนาจริงๆพ่ะย่ะค่ะ! ”
“อ้อ? ที่แท้ตำรับยาต้มนี้เป็หมอหลวงฉู่สั่งนี่เอง?เพียงแต่ว่าความผิดพลาดใหญ่หลวงไปหน่อยหรือไม่? เปลี่ยนยาไป๋ฉีเป็ยาหวาสยงโดยมิได้คาดคิด ถึงแม้ว่ายาสองชนิดนี้จะโตมามีลักษณะคล้ายกันทว่าตราบใดที่มีสามัญสำนึกของแพทย์จีนแม้เพียงน้อยนิดก็สามารถแยกแยะความแตกต่างได้หมอหลวงฉู่ฐานะท่านเป็ถึงหมอหลวงของสำนักหมอหลวงเชียวนะและทักษะการแพทย์ยังเป็รองแค่หัวหน้าหมอหลวงซูอีกด้วยผิดพลาดใหญ่หลวงเช่นนี้ได้อย่างไรกัน? เหตุใดจึงทำให้ข้าคิดว่า...ท่านที่กระทำเื่เช่นนี้ราวกับว่าจะตั้งใจกันนะ? ”
ยาไป๋ฉีกับยาหวาสยง ถึงแม้ว่าจะเป็ยาสองชนิดที่โตมาเหมือนกันมากทว่าคุณสมบัติของยานั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลของยานี้ตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
หากเป็ยาไป๋ฉี ยาชนิดนี้ถือเป็ยากล่อมประสาทอย่างแท้จริงแต่ถ้าเป็ยาหวาสยง ยาชนิดนี้เดิมทีสามารถควบคุมช่วยการแก้ร้อนในได้ ทว่าก็ยังสามารถกลายมาเป็ยาพิษเรื้อรังที่สามารถฆ่าคนได้โดยปริยาย
เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้ว รังสีรอบตัวของเขาเริ่มเย็นะเือย่างไม่มีสิ่งใดสามารถเทียบได้
หมอหลวงฉู่ตัวสั่นอีกครั้ง
“ท่านอ๋อง พระชายา กระหม่อมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ กระหม่อมผิดไปแล้ว ท่านอ๋องพระชายา ไว้ชีวิตกระหม่อมด้วย! ”
เว่ยเหม่ยเจียก่อนหน้านี้ที่เคยปกป้องหมอหลวงฉู่มาก่อนคิดไม่ถึงว่าในพริบตาเื่ที่คาดหวังต่างๆ กลับตาลปัตรไปได้ถึงเพียงนี้
“พี่สะใภ้ ไม่ใช่ว่าท่านมองผิดหรือไม่? ฝีมือของหมอหลวงฉู่สูงส่งจะเป็ไปได้อย่างไรที่แม้แต่ยาสมุนไพรยังแยกไม่ออก ท่านอย่าใส่ความคนดีสิ!”
ซูจิ่นซียิ้มอย่างเ็า “น้องหญิง เช่นนี้แล้วยังจะปกป้องหมอหลวงฉู่อีกหรือว่าเ้าจะเกี่ยวข้องกับเื่นี้อย่างลับๆ ด้วยเล่า? ”
เว่ยเหม่ยเจียขมวดคิ้ว กังวลขึ้นมากะทันหัน “พี่สะใภ้อย่าพูดอันใดไร้สาระนะเพคะ ข้าก็กำลังหาความจริงเช่นเดียวกันสุดท้ายแล้วความสามารถทางการแพทย์ของท่านมีมากเท่าใด เป็เื่ที่พวกเราทุกคนล้วนทราบดี! ”
ซูจิ่นซีมีความคิดอยากที่จะเย็บปากสตรีนางนี้จริงๆ เกลียดยิ่งนัก เกลียดจนไปถึงสกุลของนางเลยเสียด้วยซ้ำทว่าหากทำเช่นนั้นจริงๆ ก็ถือว่าซูจิ่นซีไม่ได้รับการอบรม ไม่รู้จักสำรวมกิริยาเข็มเงินในมือของนางมีไว้เพื่อใช้ถอนพิษ ช่วยเหลือผู้คน ไม่ใช่มีไว้เพื่อทำร้ายผู้คน
“หมอหลวงฉู่ยอมรับด้วยตนเองแล้ว น้องหญิงเอ๋ย ใช่ใส่ความเขาหรือไม่เ้าผู้ที่เอะอะมะเทิ่งเพียงแค่เกรงว่าคำพูดจะไม่มีน้ำหนักเท่าคนที่มีความรู้งูๆปลาๆ เช่นข้ากระมัง! ”
เว่ยเหม่ยเจียโดนตอกหน้าหงาย ขอบตาของนางแดงก่ำนางไม่สามารถรับคำพูดของซูจิ่นซีได้
นี่นับเป็การหยุดปากของเว่ยเหม่ยเจียไว้ชั่วคราวได้อีกครั้งซูจิ่นซียังคงจัดการหาความจริงของเื่ต่อไป
“ท่านอ๋อง ก่อนหน้านี้เนื่องจากไท่เฟยแพ้ผงหลูเกิน ทั่วร่างกายแสบคันยากที่จะทนไหวได้ยาไป่เซียวตานของข้าได้ไปจัดการกับอาการอย่างมีประสิทธิผลแล้วผื่นแดงบนร่างกายของเสด็จแม่ที่แพ้ผงหลูเกินโดยภาพรวมก็ถูกกำจัดออกไปแล้วตอนนี้สามารถยืนยันได้แล้วว่าที่เสด็จแม่อาเจียนเป็โลหิตกะทันหันนั้นก็เพราะว่าเสวยยาไป๋ฉีที่ถูกสับเปลี่ยนเป็ยาต้มหวาสยงเป็เวลานานนี่เป็โรคเรื้อรังชนิดหนึ่ง หากท่านอ๋องยังไม่เชื่อหม่อมฉันอีกเช่นนั้นท่านก็สามารถเชิญหมอที่มีฝีมือสูงส่งจากสำนักหมอหลวงมายืนยันให้แน่ชัดอีกครั้งก็ได้เพคะ”
เยี่ยโยวเหยาพยักหน้า สั่งให้คนไปในวังหลวงเพื่อตามหมอหลวงอีกคนมาด้วยน้ำเสียงเ็า
เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ก็เชิญหมอหลวงมาอีกท่าน
หมอหลวงผู้นั้นรู้ดีว่าเื่ที่เกิดขึ้นในหนานย่วนเวลานี้เยี่ยโยวเหยากังวลเป็อย่างมาก จึงไม่กล้ารอช้า ยิ่งไม่กล้าผิดพลาด ทำการวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็วอาการแพ้ผงหลูเกินของเฉินไท่เฟยหายดีแล้ว นางที่อาเจียนออกมาเป็โลหิตนั้นก็เพียงเพราะว่าหมอหลวงฉู่สั่งยาผิดจากยาไป๋ฉีเป็ยาหวาสยง
“ท่านอ๋องไว้ชีวิตด้วย! ท่านอ๋องกระหม่อมไม่ได้ตั้งใจ กระหม่อมไม่ได้เต็มใจทำพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋องไว้ชีวิตกระหม่อมด้วย! ”
ในตอนนี้หมอหลวงฉู่แขนขาไร้เรี่ยวแรงล้มตัวลงบนพื้นขอความเมตตาจนสั่นสะท้านฟ้า
แท้จริงแล้วเื่ที่หมอหลวงฉู่ทำมีอีกผู้หนึ่งที่อยู่เื้ั
สิ่งที่ซูจิ่นซีทำ ก็ทำเพียงเพื่อชำระล้างความบริสุทธิ์ให้ตนเองเท่านั้นสำหรับเหตุผลที่หมอหลวงฉู่สั่งยาผิดนั้นแม้ว่าจะมีแผนการสมรู้ร่วมคิดอยู่เื้ั ก็ไม่ใช่สิ่งที่นางจะต้องกังวลใจ
“ลากมันออกไป ถลกหนังเลาะเส้นเอ็น! ”
เยี่ยโยวเหยาพูดอย่างเ็า