“เหยีย?”
เห็นบุรุษในดวงใจของตนสีหน้าซีดขาวนอนอยู่บนเตียงคนป่วย เซิงเอ๋อร์ที่แต่งกายปลอมเป็สาวใช้รีบพุ่งเข้าไป จับมือของเขาไว้แน่น หยาดน้ำตายิ่งร่วงเผาะๆ ลงมา
ไม่ผิด วันนี้ก่อนที่หลิงมู่เอ๋อร์จะออกเดินทาง ได้ไปหาเซิงเอ๋อร์ก่อน จากนั้นได้อธิบายเื่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในงานแต่งเมื่อวานอย่างละเอียด เมื่อได้รู้ว่าองค์ชายเจ็ดเพื่อนางแล้วถึงกับเสียสละตนเองเพื่อยุติการแต่งงานกลางคัน เซิงเอ๋อร์ในยามนั้นก็ร้องไห้ออกมาจนไม่เป็เสียง
“เหยีย ท่านลำบากเช่นนี้เพื่อสิ่งใดกัน? เซิงเอ๋อร์มีความดีความชอบใดจึงให้เหยียทำเพื่อข้าเช่นนี้?” มององค์ชายเจ็ดที่อ่อนแอไร้เรี่ยวแรง เซิงเอ๋อร์แค้นที่ไม่อาจให้ผู้ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยนั้นเป็ตัวนางเอง
“เซิงเอ๋อร์ เ้ามาแล้วหรือ?” เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย องค์ชายเจ็ดก็รีบลืมตา เมื่อเห็นผู้ที่คุ้นเคย อาการป่วยนั้นก็ราวกับดีขึ้นกว่าครึ่ง “ข้าบอกแล้วว่า จะไม่ให้เ้าได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจ เื่นี้แม้ข้าจะจนใจ แต่มีเพียงทำเช่นนี้ จึงจะสามารถลดการทำร้ายเ้าได้น้อยที่สุด เซิงเอ๋อร์ของข้า ทำให้เ้าได้รับความไม่เป็ธรรมแล้ว”
โอบกอดสตรีเบื้องหน้าไว้ในอ้อมกอดแน่น แม้ยามลุกขึ้นนั้นจะกระทบกับาแ
หลิงมู่เอ๋อร์เห็นสถานการณ์เป็เช่นนี้ ก็ถอยไปด้านหลังฉากบังลมอย่างรู้ตัว
“ไม่น้อยใจเพคะ เซิงเอ๋อร์ของพระองค์มีชีวิตที่ดีมากแล้ว เซิงเอ๋อร์ไม่รู้สึกน้อยใจแม้แต่นิดเดียว แต่กลับเป็เหยีย” เซิงเอ๋อร์ลูบหน้าอกเขาอย่างปวดใจ “บริเวณนี้ยังเ็ปหรือไม่?”
แทบอยากจะผสานนางเข้าไปในเืเนื้อ แทบจะอยากเปิดเผยต่อผู้คนอย่างอุกอาจ ว่านี่จึงจะเป็สตรีที่เขา้า แต่เพื่ออำนาจเขาไม่อาจทำได้
องค์ชายเจ็ดเงยหน้า หลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึกครั้งหนึ่ง ในยามที่ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก้นบึ้งของดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “เป็ข้าผิดต่อเ้า”
“ไม่มี ไม่มีจริงๆ เพคะ เหยียอย่าได้ทรงตรัสเช่นนี้ ทรงทำให้เซิงเอ๋อร์อายุสั้นแล้ว” หยาดน้ำตายังคงไหลรินลงมาไม่หยุด ราวสายน้ำตกจากเขื่อนที่แตกออก แม้ในใจจะตื้นตันไร้ใดเปรียบ แต่บัดนี้นางก็หัวใจราวถูกมีดกรีดเช่นกัน นางเต็มใจให้ผู้ที่าเ็เป็นาง ไม่อยากให้องค์ชายเจ็ดเ็ปแม้แต่น้อย
“เหยีย รับปากเซิงเอ๋อร์ดีหรือไม่ วันหน้าไม่ว่าเซิงเอ๋อร์จะเป็อย่างไร ก็อย่าได้ทำเื่ที่ทำร้ายตนเองอีก เซิงเอ๋อร์จะเสียใจ ตรงนี้ของเซิงเอ๋อร์เจ็บมากเพคะ”
นิ้วที่ซีดขาวราวต้นหอมทั้งห้ากุมหน้าอก เซิงเอ๋อร์รีบดึงหลิงมู่เอ๋อร์มา “มู่เอ๋อร์ าแของเหยียไม่มีปัญหาจริงๆ หรือ บริเวณนี้ของเขาเืออกอีกแล้ว รีบทำแผลให้เขาหน่อย รีบหยุดเืให้เขาเร็วเข้า”
เดาได้ั้แ่แรกแล้วว่าผลต้องเป็เช่นนี้ หลิงมู่เอ๋อร์เตรียมผ้าพันแผลไว้ก่อนหน้าแล้ว ห้ามเื ใส่ยา จากนั้นพันแผลอีกครั้ง หลังจากเื่ราวเป็ชุดจบลงก็เป็เวลาหนึ่งเค่อหลังจากนั้นแล้ว
“ท่านก็วางใจเถอะ าแจากกระบี่ขององค์ชายเจ็ด เพียงแค่ดูไปเหมือนร้ายแรงมากเท่านั้น เพียงใส่ยาทุกวัน ครึ่งเดือนก็สามารถหายดีได้”
ผูกปมเสร็จอย่างไร้ที่ติ หลิงมู่เอ๋อร์มองคนทั้งสอง ยักไหล่ “ข้าจะไปให้สาวใช้ในห้องครัวต้มยา พวกท่านค่อยๆ คุยกัน”
“ขอบคุณแม่นางหลิงมาก” องค์ชายเจ็ดมองนางอย่างขอบคุณอีกครั้ง
ในห้องครัว หลิงมู่เอ๋อร์มอบยาที่นำมาให้สาวใช้ แต่คิดไปคิดมา ตนก็อยู่ว่างก็ไม่มีสิ่งใดทำ ดังนั้นจึงลงมือต้มด้วยตนเอง
“เื่การต้มยาเช่นนี้ จะกล้ารบกวนให้แม่นางเซียนแพทย์ทำด้วยตนเองได้อย่างไร มอบให้สาวใช้ก็ได้แล้ว” เสียงที่อ่อนโยนเสียงหนึ่งดังมาจากข้างหู ร่างของหลิงมู่เอ๋อร์ชะงัก ประหม่าขึ้นมาทันที
องค์ชายเจ็ดมิได้กล่าวว่า ได้จัดการทุกเื่เรียบร้อยแล้วจึงให้นางพาเซิงเอ๋อร์มาหรือ พระชายาขององค์ชายเจ็ดผู้นี้ เหตุใดจึงยังอยู่ในจวนอีก?
“องค์ชายเจ็ดมีฐานะพิเศษ ยานี้ก็มีความพิเศษเช่นกัน หากข้าไม่เฝ้าดูด้วยตนเองก็มิอาจวางใจได้จริงๆ เพคะ” หลิงมู่เอ๋อร์หันศีรษะมา หัวเราะอย่างไม่เป็ธรรมชาติ
เมื่อมองพระชายาขององค์ชายเจ็ดอีกครั้ง แม้จะออกเรือนเป็ภรรยาของผู้อื่นแล้ว แต่เพราะสวามีได้รับาเ็มิได้เข้าหอ ดังนั้น นางจึงยังรักษาการแต่งกายของหญิงสาวไว้ หลิงมู่เอ๋อร์เสียดายอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าการแต่งกายเช่นนี้ จะคงอยู่อีกนานเพียงใด
พระชายาองค์ชายเจ็ด สง่างาม วางตัวเหมาะสม ดูไปแล้วก็เป็คนอ่อนโยนมีเมตตา น่าเสียดายที่กลายเป็สิ่งที่ถูกสละเพื่อการต่อสู้แย่งชิงผลประโยชน์
“รบกวนแม่นางเซียนแพทย์แล้วจริงๆ มิทราบว่าวันนี้องค์ชายเจ็ดเป็อย่างไรบ้าง?” พระชายาขององค์ชายเจ็ดถามอย่างระมัดระวัง ความกังวลในก้นบึ้งของดวงตาไม่คล้ายจะเป็เื่เท็จ
เพราะอย่างไรก็เป็พระสวามีที่ต้องอยู่ร่วมกันไปตลอดชีวิตในอนาคต แม้ภายหน้าเขาจะมีสตรีต่างๆ นานาในอนาคต แต่นางมีฐานะเป็พระชายาขององค์ชายเจ็ด ย่อมต้องทำให้ดีที่สุด
“วันนี้องค์ชายเจ็ดฟื้นฟูได้ไม่เลวเพคะ แต่อย่างไรก็ทรงได้รับาเ็สาหัส าแกระบี่ที่หน้าอกยังต้องให้ข้ารักษาด้วยตนเองอีกสองสามครั้งจึงจะได้ หากไม่มีความผิดพลาดอื่น ประมาณครึ่งเดือนก็สามารถปลอดภัยไร้เื่ราวแล้วเพคะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ พระชายาขององค์ชายเจ็ดก็ถอนใจโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด “ในหมู่ประชาชนเล่าลือกันว่า แม่นางเซียนแพทย์มีทักษะการแพทย์ที่สูงส่ง จิตใจบริสุทธิ์ บุคลิกสง่างาม วันนี้เมื่อได้เห็น สมดั่งคำร่ำลือจริงๆ หากไม่มีแม่นาง เหยียคงยากผ่านด่านเคราะห์ในครั้งนี้ได้ ไม่ทราบว่าควรตอบแทนเช่นใดจริงๆ”
ขอเพียงตอนนี้เ้าห่างข้าให้มากหน่อย อย่าได้ตามข้าไปพบองค์ชายเจ็ด ก็ถือเป็การขอบคุณแล้ว หลิงมู่เอ๋อร์คิดในใจเช่นนี้ เพราะอย่างไรตนก็ทำเื่ที่ผิดมโนธรรม จะอย่างไรก็รู้สึกเหมือนคนกระทำความผิด ไม่กล้ามองดวงตาของนางตรงๆ
“พระชายาขององค์ชายเจ็ดทรงเกรงใจไปแล้วเพคะ ทางจวนได้มอบค่าตอบแทนที่เหมาะสมให้ข้าแล้ว ถือเป็การขอบคุณที่ดีที่สุดแล้ว ในเมื่อข้าเป็หมอที่ดูแลองค์ชายเจ็ด ก็ย่อมพยายามสุดความสามารถ เพื่อมิให้องค์ชายเจ็ดทรงเหลือเหตุแห่งโรคในภายหลัง”
“ข้าเชื่อแม่นาง” ได้รับคำรับรองนี้ สีหน้าที่เดิมยังมีความกังวลอยู่ของพระชายาองค์ชายเจ็ด ก็มีความปิติยินดีมาเยือนภายในเสี้ยววินาที นางมองเตายาเบื้องหน้าอีกครั้ง “น้ำสามถ้วยได้เคี่ยวจนเหลือเพียงหนึ่งถ้วยแล้ว บัดนี้ สามารถส่งไปให้องค์ชายได้แล้วหรือไม่”
หลิงมู่เอ๋อร์ไม่ได้คิดมากนัก เมื่อยืนยันถึงผลสัมฤทธิ์แล้ว ก็พยักหน้า “ใช้ได้แล้วเพคะ”
“เช่นนั้นข้าจะส่งไปให้องค์ชายเจ็ด”
พูดจบ พระชายาองค์ชายเจ็ดก็รีบให้สาวใช้เทยาลงมา หลิงมู่เอ๋อร์ปิดตา แทบจะอยากตบปากตนเองซักสองที
เซิงเอ๋อร์ยังอยู่ในห้องขององค์ชายเจ็ดนะ
“เช่นนั้นไม่ได้!” เห็นนางหมุนกายจะจากไป หลิงมู่เอ๋อร์รีบขวางนางไว้ทันที “อืม พระชายาองค์ชายเจ็ด ทรงไม่อาจไปที่นั่นได้เพคะ”
“บังอาจ พระชายาองค์ชายเจ็ดทรงเป็พระชายาเอกขององค์ชายเจ็ด ไปเยี่ยมพระสวามีของตนมีปัญหาใดหรือ เ้ารีบหลีกไปซะ!” สาวใช้ข้างกายของพระชายาองค์ชายเจ็ดเห็นนางยื่นแขนทั้งสองข้างออกขวางทางไป ก็รีบก้าวออกมา มือทั้งสองเท้าเอว ท่าทางวางก้ามเป็อย่างมาก
“จิ้งเอ๋อร์ ถอยไป” พระชายาขององค์ชายเจ็ดไม่คิดว่าสาวใช้จะทำเช่นนี้ รีบส่งสายตาขอโทษไปให้หลิงมู่เอ๋อร์ จากนั้น นางถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ไม่ทราบว่าเหตุใดแม่นางเซียนแพทย์จึงไม่ให้ข้าพบองค์ชายเจ็ด หรือว่าในห้องมีสิ่งใดที่ข้าไม่ควรพบซ่อนอยู่”
ตึง
หัวใจของหลิงมู่เอ๋อร์จมลงอย่างหนัก
พระชายาขององค์ชายเจ็ดผู้นี้ดูไปแล้วอ่อนโยน ชาญฉลาดจริงใจ แต่ดวงตาคู่นั้น แจ่มกระจ่างราวกับจะสามารถมองทะลุนางได้
ได้ยินว่า ปีนั้นในยามที่องค์ชายเจ็ดไถ่ตัวให้เซิงเอ๋อร์ ได้เกิดเื่จนลมฝนกระหน่ำเมือง ต่อให้พระชายาขององค์ชายเจ็ดเป็คุณหนูในห้องหอ ก็ไม่มีทางไม่เคยได้ยินมาก่อน เมื่อนางถามเช่นนี้ ก็ทำให้นางไม่อาจไม่หลีกทางแล้ว
“ไม่เพคะ เพียงเป็ห่วงว่าหากพระชายาขององค์ชายเจ็ดได้เห็นาแที่แย่จนมิอาจทนมองได้ขององค์ชายเจ็ดแล้วจะรู้สึกไม่สบายเพคะ”
พระชายาขององค์ชายเจ็ดพลันยิ้มบางให้นาง มิได้กล่าวสิ่งใดอีก นำสาวใช้เดินจากไปไกลแล้ว
หลิงมู่เอ๋อร์คิดไปคิดมายังคงรีบตามไป หากถูกมองสิ่งใดออกขึ้นมาจริงๆ นางก็จะยืนกรานกล่าวว่า เซิงเอ๋อร์เป็สาวใช้ที่นางพามา เชื่อว่าพระชายาเจ็ดผู้นี้ก็คงไม่กล้าทำอะไรกับเซิงเอ๋อร์
นางคิดเช่นนี้ ไม่กี่ก้าวก็ไล่ตามพระชายาขององค์ชายเจ็ดทัน ในยามที่เข้าใกล้ห้องนอนหลัก ยิ่งจงใจกระแอม เพื่อเป็การเตือนคนทั้งสองที่อยู่ด้านใน
แต่แม้จะเป็เช่นนั้น หัวใจทั้งดวงของหลิงมู่เอ๋อร์ก็ยังคงประหม่าอย่างมาก
พระชายาขององค์ชายเจ็ดจะอย่างไรก็เป็ชายาเอก หากให้นางรู้ว่า นางอาศัยความสะดวกในการรักษานำคนรักของสวามีตนส่งเข้าไปในห้อง ไม่รู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็อย่างไร
เอี๊ยด ประตูเปิดออกแล้ว พระชายาขององค์ชายเจ็ดถือถ้วยยาด้วยตนเองค่อยๆ เดินเข้าไปด้วยเท้าประดุจดอกบัว ทางหนึ่งเดิน ทางหนึ่งก็ทักทาย “เหยีย เล่อเซิงนำยามาให้พระองค์แล้วเพคะ”
์ ชื่อของนางถึงกับมีคำว่า ‘เซิง’ด้วย?
ช่างเป็บุพเพเลวร้ายที่ตัดไม่ขาด แถมยิ่งจัดการยิ่งยุ่งเหยิงขึ้นอีก
หลิงมู่เอ๋อร์ตามอยู่เื้ัอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นบนเตียงมีองค์ชายเจ็ดนอนอยู่คนเดียว ส่วนเซิงเอ๋อร์ได้ถอยไปเขียนใบยาอยู่ที่โต๊ะด้านข้าง นางก็แอบทอดถอนใจออกมา
“เื่ประเภทการส่งยานี้ ให้สาวใช้มาก็ได้แล้ว เหตุใดเ้ายังมาส่งด้วยตนเองอีก” แม้องค์ชายเจ็ดจะกล่าวเช่นนั้น แต่กลับมิได้มอบสีหน้าที่ดีให้นาง เ็าอยู่ตลอด ความอ่อนโยนแม้เพียงเศษเสี้ยวก็ไม่ยินดีจะมอบให้
พระชายาขององค์ชายเจ็ดเดาได้แต่แรกแล้วว่าจะเป็เช่นนี้ แม้หัวใจจะถูกทำร้ายจนทะลุ บนใบหน้าก็ยังคงแขวนรอยยิ้มที่อ่อนโยนและเหมาะสมไว้ “เหยียได้รับาเ็หนักเช่นนี้ เชี่ยเซินไม่อาจดูแลด้วยตนเอง ก็เป็ความผิดแล้ว แต่ว่า ดูสีหน้าของเหยียแล้วดีกว่าตอนเที่ยงมากนัก แม่นางเซียนแพทย์มีทักษะทางการแพทย์ที่สูงส่งจริงๆ”
แม้คำพูดของพระชายาองค์ชายเจ็ดจะกล่าวกับหลิงมู่เอ๋อร์ แต่ดวงตากลับจ้องอยู่ที่เซิงเอ๋อร์ที่ปลอมแปลงกายมา
หลิงมู่เอ๋อร์และองค์ชายเจ็ดพากันสูดลมหายใจลึกทีหนึ่ง กลัวว่านางจะมองความผิดปกติใดออก คนหลังยิ่งรีบเรียกนางไว้ “เล่อเซิงมีความตั้งใจแล้ว แต่เปิ่นหวางบัดนี้ได้รับาเ็ไม่สามารถดูแลเ้าได้ หากเ้าอยู่ในจวนไม่คุ้นชิน สามารถกลับไปที่จวนราชครูก่อนได้ รอจนเปิ่นหวางจื่อหายดีค่อยไปรับเ้ากลับมา”
เดิมก็ไม่รักนาง คราวนี้พึ่งแต่งงานได้สองวันก็จะไล่นางกลับบ้าน หลิงมู่เอ๋อร์แอบยกนิ้วโป้งให้องค์ชายเจ็ดอยู่ในใจ
หลินเล่อเซิงเมื่อได้ยินเช่นนั้นหัวใจก็เจ็บแปลบ นางรู้ว่าในหัวใจขององค์ชายเจ็ดไม่มีนาง แต่การไล่นางไปตรงๆ เช่นนี้ จะให้นางยังเหลือหน้าอยู่ได้อย่างไร?
สายตามองไปยังเซิงเอ๋อร์ที่ปลอมกายมากอีกครั้ง มือที่นางถือชามยาออกแรง แทบอดไม่ได้ที่จะบีบให้กลายเป็ผง
มองออกถึงความไม่พอใจในสายตาของชายาองค์ชายเจ็ด หลิงมู่เอ๋อร์รีบเอ่ยปาก “เจี้ยงเซียง เ้ายังตะลึงอะไรอยู่ ใบยาเขียนเสร็จแล้วรีบนำไปมอบให้ผู้ดูแลเพื่อรับยา าแขององค์ชายเจ็ดมิอาจรอได้”
ไม่ผิด ในยามที่นางให้เซิงเอ๋อร์ปลอมตัว ก็ได้ตั้งใจไว้ว่า หากมีคนถาม ก็ให้กล่าวว่านางมีนามว่าเจี้ยงเซียง อย่างไรซะทุกคนก็รู้ว่า นางมีผู้ช่วยมากฝีมืออยู่สองคน
เซิงเอ๋อร์ตะลึงไป รู้ว่าหลิงมู่เอ๋อร์กำลังช่วยแก้สถานการณ์ให้นาง รีบยอบกายจะออกไป
“หยุดอยู่ตรงนั้น” พระชายาขององค์ชายเจ็ดเอ่ยปาก อีกทั้งยังเดินไปที่เซิงเอ๋อร์
หลิงมู่เอ๋อร์เห็นดังนั้นรีบนำไปก่อนก้าวหนึ่ง “ลืมอธิบายให้พระชายาองค์ชายเจ็ดแล้ว นี่เป็ผู้ช่วยประจำตัวของข้า เจี้ยงเซียง ข้ามีเจตนาให้นางเป็ผู้สืบทอดของข้า จึงได้พานางมาที่จวนด้วย อย่าได้เห็นว่านางอายุยังน้อย แต่เป็คนที่สงบมั่นคงมาก ด้านการแพทย์ก็มีพร์ไม่น้อย”
พระชายาขององค์ชายเจ็ดยิ้มอย่างงดงาม “แม่นางเซียนแพทย์เหตุใดจึงต้องประหม่าเช่นนี้เล่า ข้าเพียงอยากเชิญให้แม่นางป้อนยาให้เหยียเท่านั้น”
ให้ศัตรูความรักของตนป้อนยาให้สามีตน
พระชายาขององค์ชายเจ็ดผู้นี้ หรือว่าเป็คนโง่เขลากัน?
หลิงมู่เอ๋อร์ชะงักไป เซิงเอ๋อร์ตะลึงไปแล้ว แม้แต่องค์ชายเจ็ดก็ตะลึงไปแล้วเช่นกัน
“ยังตะลึงอะไรอยู่อีก คำพูดของพระชายาองค์ชายเจ็ด เ้าไม่ได้ยินหรือ” สาวใช้ที่ชื่อจิ้งเอ๋อร์ผลักเซิงเอ๋อร์ทีหนึ่ง
หลังเซิงเอ๋อร์รีบตอบว่า ‘เพคะ’ แล้วก็ยกชามยาขึ้นมาค่อยๆ เดินไปที่ข้างเตียง
มือที่ถือชามยาล้วนกำลังสั่น เซิงเอ๋อร์ไม่กล้าหายใจออกแรงแม้เพียงครั้ง แม้ในใจขององค์ชายเจ็ดจะมีความสงสัย แต่หลังจากมองเซิงเอ๋อร์ สายตาก็อ่อนลงอย่างควบคุมไม่ได้ ทุกสิ่งนี้ล้วนอยู่ในสายตาของพระชายาองค์ชายเจ็ด