ฟังสวี่ซื่อพูดเช่นนี้ หลินกุ้ยฮวาไม่โวยวายอีก
นางวางแผนว่าจะรีบไป บ้านเจียงต้องเตรียมขนมและผลไม้ไว้เป็แน่
“ท่านแม่ ท่านให้ต้าเจี่ยมอบเสื้อผ้าดีๆ ให้ข้าทีเถิดเ้าค่ะ ไม่รู้วันนี้บ้านเจียงจะมีผู้ใดมาบ้าง หากมีบุรุษมาถูกใจข้า ข้าจะได้รีบแต่งออกไป ไม่ต้องแย่งเสบียงในครอบครัว”
“ฝันไปเถิด!” ไม่รอให้สวี่ซื่อพูด หลินซย่าจื้อก้าวเท้าออกมา “หลินกุ้ยฮวา ถ้าเ้าอยากอยู่บ้านนี้ก็อยู่ ไม่อยากอยู่ก็ไสหัวไป!”
นางรำคาญหลินกุ้ยฮวายิ่งนัก แต่ท่านพ่อท่านแม่คอยปกป้อง รวมถึงหลินกุ้ยฮวาใช้เื่นั้นมาข่มขู่…
นางรู้สึกว่าควรกลอกยาพิษให้หลินกุ้ยฮวากลายเป็บ้าเสียจะได้จบๆ
สวี่ซื่อช่วยไกล่เกลี่ย “เหล่าเอ้อร์ บ้านเจียงเป็แค่เศรษฐีใหม่ จะมีแขกผู้มีเกียรติมาจากที่ใด? แม่ว่าเ้าใส่ชุดใดก็ย่อมได้ เอาของแม่ไปใส่ดีหรือไม่?”
“ท่านแม่ ท่านไม่ให้ข้าเอาชุดท่านพ่อมาใส่ไปเลยล่ะเ้าคะ?” หลินกุ้ยฮวาพูดประชด “ต้าเจี่ย ก็แค่เสื้อผ้าชุดเดียว จะได้เป็หน้าเป็ตาให้บ้านหลิน หลินฉินหมดราคาแล้วแต่ยังเหลือหลิวฮั่วไม่ใช่หรือ?”
พูดจบก็มองหลินฉิน พูดยิ้มๆ ว่า “หากเป็ข้า ข้าคงไม่กล้าใช้งานนังหนูฉินหนัก นังหนูฉินมีพื้นฐานดีกว่านังหนูฮั่วเยอะ ดูแลให้ดีแล้วยกให้เป็อนุของครอบครัวพ่อค้าหมู่บ้านอื่นก็ยังได้ อย่างน้อยที่บ้านก็ยังได้เงิน นังหนูฉินเองก็จะได้สุขสบาย”
หลินกุ้ยฮวาไม่ได้ช่วยพูดแทนหลินฉินเพราะหวังดีแต่อย่างใด นางแค่อยากยุแหย่ให้พี่น้องแตกกัน
เป็ไปตามคาด เมื่อนางพูดจบ หลินฉินกับหลินฮั่วมีสีหน้าไม่สู้ดีทันที
หลินซย่าจื้อหันไปพิจารณาหลินฉินอย่างละเอียดเช่นกัน
“ต้าเจี่ย เราต่างก็เป็คนบ้านหลิน ล่มหัวจมท้ายตัวกัน ข้ากับนังหนูฉินทำงานทั้งวันจนผมยุ่งกระเซิง หน้าตามอมแมม บ้านหลินจะไม่ขายหน้าหรือ?”
“เหล่าต้า เ้าแบ่งเสื้อผ้าให้เหล่าเอ้อร์สักชุดเถิด” สวี่ซื่อพูด
“ลูกซย่า ไปเอาชุดมาให้เหล่าเอ่อร์ วันนี้พวกเราจะไปดูเื่สนุกที่บ้านเจียงอย่างมีหน้ามีตา!” หลินฟาไฉเดินออกมา
เขาจงใจเน้นเสียงที่คำว่า ‘ดูเื่สนุก’
หลินซย่าจื้อไม่โต้แย้งกระไรอีก เดินเข้าบ้านไปหยิบชุดมาให้หลินกุ้ยฮวาด้วยใบหน้าบึ้งตึง
หลินฉินมีเสื้อผ้าเป็ของตัวเอง แค่ล้างหน้าล้างตาและเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ได้แล้ว
บ้านสวี
สวีเต๋อเซิ่งยังไม่กลับมา สวีฝูออกไปเดินเล่นั้แ่เช้า ฮัมเพลงไปด้วยระหว่างเดินไปบ้านเจียง
เมื่อเห็นป้ายหยกสีขาวหิมะที่ห้อยบนเอวเจียงหงหย่วนที่สวมเสื้อคลุมนวมสีฟ้าตัดใหม่ ใบหน้าเขามีรอยยิ้มลุ่มลึกปรากฏ
ไอ้หนู…ของดีไม่ใช่จะเอากันง่ายๆ นะ ป้ายหยกดูดีและล้ำค่าก็จริง แต่ต้องดูด้วยว่าเ้าจะมีชีวิตใส่หรือไม่
เพื่อป้องกันไม่ให้เจียงหงหย่วนนำป้ายหยกไปขายทิ้ง หลังจากที่เจียงหงหย่วนกลับหมู่บ้านในวันล่าปา สวีฝูแอบตามไปและซ่อนตัวอยู่ข้างทาง เมื่อเจียงหงหย่วนกับหลินหวั่นชิวถือโคมออกมาจากบ้านหวาง เขาถึงค่อยนำป้ายหยกไปวางไว้ข้างถนน
ไม่มีผู้ใดไม่ชอบสมบัติ
เป็ไปตามคาด สองสามีภรรยาเก็บป้ายหยกขึ้นมา
หยกขาวหยางจื่อเชียวนะ แม้จะเป็เวลากลางคืนแต่ก็สะดุดตาเมื่อโดนแสงโคมส่อง
“หย่วนเกอ ป้ายหยกชิ้นนี้งามยิ่งนัก วันพรุ่งท่านนำไปใส่ดีหรือไม่”
“อย่าดีกว่า ไม่รู้ว่าผู้ใดทำหล่นเอาไว้ หากโดนจับได้ขึ้นมาจะทำอย่างไร?”
“ดูก็รู้ว่าเป็ของปลอม ไม่ใช่ของจริง ขายไม่ได้ราคา ท่านลองคิดดูเถิด ละแวกบ้านพวกเรามีผู้ใดซื้อป้ายหยกได้บ้างเล่า? ของปลอมเช่นนี้ผู้ใดก็ใส่ได้ ใช่ว่าจะไม่มีเงินซื้อ อีกอย่าง บนนี้ก็ไม่ได้มีชื่อเขียน ต่อให้มีผู้ใดจำได้ อีกฝ่ายจะเอากระไรมายืนยันว่าเป็ของเขาเล่า? ไม่เหมือนขนจิ้งจอกของข้าที่ปักชื่อไว้ หลินกุ้ยฮวากับหลินฉินจะพูดอย่างไรก็เอาไปไม่ได้”
“ได้ วันพรุ่งข้าจะใส่ จะได้ให้บรรยากาศเฉลิมฉลองด้วย”
ทั้งคู่เดินจากไปไกล สวีฝูถึงโผล่ออกมาจากพุ่มหญ้า
ของปลอม…เหอะ มีตาหามีแววไม่ นั่นมันป้ายหยกของแท้ต่างหาก
แต่ถึงจะล้ำค่าเพียงใด พวกเ้าก็ใส่ได้แค่วันเดียว เพราะอีกประเดี๋ยวก็อายุสั้นแล้ว!
“ท่านหัวหน้าหมู่บ้านมาแล้วหรือ เชิญเข้าข้างในเลย” หวางทงเป่ามาช่วยงานเจียงหงหย่วน เห็นว่าสวีฝูมาก็รีบต้อนรับ
สวีฝูยิ้มเสแสร้ง “ข้ามาดูว่ามีกระไรให้ช่วยงานหรือไม่”
หวางทงเป่ายิ้ม “ท่านเป็แขก จะให้ช่วยงานได้อย่างไร รีบเข้าไปนั่งเถิด…”
“ข้าไม่มาเกะกะดีกว่า ไว้อีกประเดี๋ยวข้าค่อยมาใหม่” เขามองไปรอบบ้าน ไม่เห็นว่ามีกระไรพิเศษก็เดินกลับไป
รถล่อบ้านเจียงออกไปรับคนั้แ่เช้า เจียงหงหย่วนบอกให้ซุนเคอรอ เขาจะส่งคนไปรับ
นี่เป็ธรรมเนียม บ่งบอกว่าเขาให้ความสำคัญกับเ้า ซุนเคอจึงไม่ปฏิเสธ
เจียงหงหย่วนแบ่งโต๊ะจัดเลี้ยงเป็ด้านนอกและด้านใน ด้านนอกมีที่นั่งเยอะกว่า ใช้ต้อนรับชาวบ้านในหมู่บ้าน ส่วนด้านในมีแค่สามโต๊ะ ใช้ต้อนรับพวกหวงจ้งซาน ซุนเคอและหมอฉู่
แขกในหมู่บ้านไม่ได้พิถีพิถันเหมือนตระกูลใหญ่ที่บุรุษสตรีต้องนั่งแยกกันและมีฉากกั้นบัง แขกในหมู่บ้านแค่นั่งแยกบุรุษสตรีแต่อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน เพราะบรรดาสตรีในหมู่บ้านต้องทำงาน ไม่ได้เก็บตัวอยู่แต่บ้านเหมือนกุลสตรีตระกูลใหญ่ ยากมากกว่าบุรุษภายนอกจะได้เจอสักครั้ง
บ้านเจียงจัดเตรียมขนมและเมล็ดแตงโมจำนวนมาก เด็กๆ ในหมู่บ้านมาหยิบกินั้แ่เช้า ชาวบ้านหลายคนมาเช้ามากเช่นกัน หยิบเมล็ดแตงโมแทะกินไปรอบบ้าน
แต่บ้านเจียงเปิดให้เข้าแค่ลานชั้นนอก หรือก็คือลานหน้าสุด ประตูลานด้านหลังกับเรือนปีกซ้ายขวาถูกปิด ประตูซ้ายขวาถูกลงกุญแจ มีคนจะผลักเข้าไปดูลานด้านหลังแต่ถูกเจียงเป่าขวางไว้ เขาไม่ให้เข้าไป ชาวบ้านจึงไม่กล้าล่วงล้ำ
แม่ม่ายจูถ่มน้ำลาย “บ้านเจียงมีเงินแล้วดูถูกพวกเรา”
เจียงเป่าพูดว่า “ไม่พอใจก็เชิญออกไป อย่ามาหยิบของกินบ้านเจียง กินของผู้อื่นแล้วยังจะกล้าว่าเขาอีก”
แม่ม่ายจูโมโห ที่นี่มีชาวบ้านหลายคน แต่นางกลับหาทางลงไม่ได้ อับอายจนโมโห มีปากเสียงกับเจียงเป่า “ลูกบ่าวใช้อย่างเ้ากล้าดีอย่างไรมาพูดกับข้าเช่นนี้”
เจียงเป่าไม่ไว้หน้านาง “ถึงจะเป็ลูกบ่าวใช้แต่ก็เป็บ่าวบ้านเจียง เกี่ยวกระไรกับเ้า เหตุใดเล่า จะไปต่อว่าข้าให้นายท่านฟังหรือ? เอาเถิด ดูเสียว่านายท่านจะสั่งสอนข้าหรือไล่ตะเพิดเ้าออกไป!”
แม่ม่ายจูแค่นึกถึงใบหน้ามีแผลเป็ของเจียงหงหย่วนก็กลัวตัวสั่น เ้าหมอนั่นไม่สนว่าเ้าจะเป็สตรีหรือไม่ จับได้เมื่อไรจะโดนยัดมูลเข้าปาก… ใจนางหวาดกลัวแต่แสร้งทำเป็ปากกล้า “เ้า…ข้าไม่ถือสาเอาความกับคนเช่นเ้าดอก…”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้