เหลียงหู่คิดเช่นกัน ดูจากสภาพบ้านที่ยากจนข้นแค้นไม่น่ามีชาดีใดได้
ยอมยกขึ้นจิบหนึ่งคำตามมารยาท คิดไม่ถึงว่าลองจิบแล้วจะรู้สึกหอมหวานและอร่อยมาก
ลองมองก็พบว่าน้ำชามีสีเขียวอ่อนมีเก๋ากี้สีแดงสองเม็ดลอยอยู่ หน้าตาสวยงามมาก
“น้องสะใภ้ นี่คือชากระไรหรือ?” เหลียงหู่อดถามไม่ได้
หลินหวั่นชิวแนะนำด้วยรอยยิ้ม “ชาดอกเก๊กฮวยป่าใส่เก๋ากี้ ล้วนเก็บจากูเาด้านหลังทั้งสิ้น ดื่มชาเก๊กฮวยใส่เก้ากี้ในฤดูใบไม้ร่วงจะช่วยบำรุงเืลมขับความแห้ง บำรุงตับและสายตา หากเหลียงต้าเกอไม่รังเกียจก็นำกลับไปหน่อยเถิด อย่างไรล้วนแล้วเป็ของจากป่า ไม่มีราคาใด” อีกฝ่ายมาจากบ่อนพนัน คือเพื่อนร่วมงานของเจียงหงหย่วนในอนาคต นางย่อมต้องช่วยผูกมิตรอยู่แล้ว
เหลียงหู่ชื่นชม “โอ้ ช่างมีน้ำใจยิ่งนัก! ขอบคุณน้องสะใภ้! น้องสะใภ้ไตร่ตรองมาดี บุรุษเช่นพวกข้าไม่ได้ละเอียดรอบคอบเช่นนั้น หนึ่งปีดื่มชาทุกฤดูแต่แค่กลอกเข้าปากคลายกระหายเท่านั้น ไม่เคยคิดถึงรายละเอียดพวกนี้ น้องเจียง เ้านี่ช่างโชคดี!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านหัวหน้าพูดได้ตรงใจข้ายิ่งนัก!” มีคนชมภรรยาตัวเอง เขาต้องดีใจอยู่แล้ว
แน่นอนว่าเจียงหงหย่วนเห็นด้วยกับคำพูดอีกฝ่ายเช่นกัน
หลินหวั่นชิวถอยออกจากห้องเงียบๆ ปล่อยให้บุรุษทั้งสองอยู่กันเพียงลำพัง
เหลียงหู่พูดว่า “น้องเจียงไม่ต้องเกรงใจ ข้าอายุมากกว่าเ้าแค่ไม่กี่ปี เรียกข้าว่าเหลียงต้าเกอก็ได้ ระหว่างเราไม่ต้องห่างเหินกันเช่นนั้น” บ้านเกิดเขาอยู่ที่เมืองเอกประจำมณฑล มาทำงานที่บ่อนซิงหลงั้แ่อายุสิบกว่า ต่อมาเพราะเขาทำงานดี เถ้าแก่จึงส่งมาเป็หัวหน้าผู้คุมงานที่อำเภอนี้
ครั้งนี้เบื้องบนบอกให้เขาฝึกฝนเจียงหงหย่วน ปล่อยมือได้เมื่อไรจะให้เขากลับไปเป็ผู้ดูแลที่หัวเมือง
นี่เทียบเท่าการเลื่อนตำแหน่ง เงินเดือนเพิ่มขึ้นเท่าทวี
และด้วยเหตุนี้เอง เขาถึงได้เป็มิตรกับเจียงหงหย่วนที่เข้ามาแบบปุบปับ เพราะหากเขาไม่ถูกส่งกลับหัวเมืองคงตั้งท่าป้องกันเจียงหงหย่วนไปแล้ว
ไม่ต้องทำสิ่งใดมาก แค่แอบกลั่นแกล้งให้ลำบากเป็พอ
ไม่สนว่าเข้ามาทำงานในบ่อนด้วยเส้นสายใด หน้าที่หลักของบ่อนคือที่ทำเงิน หากเจียงหงหย่วนทำผิดบ่อยครั้งและส่งผลต่อการหาเงินเข้าบ่อน เช่นนั้นต่อให้คนหนุนหลังเขาจะมีความสามารถหรือใหญ่โตเพียงใดย่อมช่วยไม่ได้
นี่คือสิ่งที่เรียกว่า พญายมสบาย ผีน้อยลำบาก
“เช่นนั้นข้าจะไม่เกรงใจแล้วนะขอรับเหลียงต้าเกอ” เจียงหงหย่วนคล้อยตาม อีกฝ่ายเป็หัวหน้าผู้คุมงาน เขาอุตส่าห์ให้เกียรติเ้า จะมามัวเล่นตัวไม่ได้
“ไม่ทราบว่าน้องเจียงจะไปบ่อนได้เมื่อไร?” เหลียงหู่ถาม
“เดือนนี้เหลืออีกไม่กี่วัน เช่นนั้นเริ่มวันที่หนึ่งเดือนหน้าเถิดขอรับ จะได้คิดเงินเดือนง่ายด้วย”เจียงหงหย่วนตอบ เขาคิดเื่นี้เรียบร้อยั้แ่ตอนกลับมาแล้ว
“ได้ ข้าจะรอเ้าที่บ่อนในวันที่หนึ่ง บ่อนเราไม่เปิด่เช้า เ้ามาหาข้าตอนสายย่อมได้ นี่คือป้ายแขวนเอวประจำบ่อน ข้าจะให้เ้าไว้ก่อน อีกเื่ที่ข้าจะถามคือ งานที่บ่อนมีวันหยุดแค่เดือนละสามวัน เริ่มงานแล้วเ้าจะอยู่พักในอำเภอหรือพักที่บ้าน? หากพักในอำเภอ ด้านหลังบ่อนมีบ้านพักว่างอยู่ เป็กิจการของเถ้าแก่พวกเรา ถ้าเ้าสนใจ ข้าจะให้คนเก็บไว้ให้ก่อน วางใจได้ ค่าเช่าสำหรับคนในบ่อนไม่สูงนัก”
เจียงหงหย่วนคิดแล้วตอบว่า “เช่นนั้นคงต้องขอบคุณเหลียงต้าเกอมากแล้ว รบกวนให้ท่านช่วยเก็บให้ก่อน ไว้ข้าจะหาเวลาไปดูแล้วค่อยตัดสินใจ”
เจียงหงหย่วนเกิดความสนใจ แม้ตอนนี้เขาจะยังไม่อยากย้ายออกจากหมู่บ้าน แต่การมีที่อยู่ในอำเภอเป็สิ่งจำเป็เช่นกัน
“ได้ ตกลงตามนี้ ข้ายังมีงานอื่น คงต้องขอตัวก่อน”
“ขอรับ ครั้งหน้าค่อยเชิญเหลียงต้าเกอดื่มเหล้า!” เจียงหงหย่วนพูดจบก็เรียกหลินหวั่นชิว “ภรรยาจ๋า ไปเอาเนื้อเสือมาให้เหลียงต้าเกอหนึ่งก้อน!”
“ได้เลย!” หลินหวั่นชิวรีบไปหั่นเนื้อเสือหนักห้าชั่งจากห้องครัว ใช้กระดาษห่อให้เรียบร้อยและมอบให้เจียงหงหย่วนพร้อมกับชาดอกเก๊กฮวยป่าหนึ่งห่อ
เจียงหงหย่วนยัดใส่มือเหลียงหู่
เหลียงหู่ปฏิเสธ “ข้ามามือเปล่า จะกล้าเอาของติดมือกลับไปได้อย่างไร”
เจียงหงหย่วนพูดว่า “เหลียงต้าเกอไม่ต้องเกรงใจข้า หากท่านเกรงใจ วันหน้าข้ามีปัญหาขึ้นมาจะกล้าบอกท่านหรือ?”
เหลียงหู่รับเนื้อเสือพร้อมหัวเราะคำโต “ฮ่าฮ่าฮ่า ได้ เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจเ้าแล้ว!”
หลินหวั่นชิวพูดเสริมหนึ่งประโยค “เหลียงต้าเกอ เนื้อเสือค่อนข้างคาว ตอนพี่สะใภ้ทำต้องใส่หัวหอม ขิงกระเทียมให้มาก จากนั้นใส่เปลือกส้มกับเหล้าขาวดับคาว”
“ได้ ข้าจะจำกลับไปบอกภรรยาที่บ้าน จะให้ของดีนี่เสียของไม่ได้” ล้อกันเล่นหรือไร ผู้ใดจะไปมีปัญญาล่าเสือจากูเาได้บ่อยๆ?
ของนี่มีแต่ต้องพบเจอเอง ไม่อาจเรียกร้อง
ส่งเหลียงหู่ออกไปแล้ว เจียงหงหย่วนลากหลินหวั่นชิวไปด้านข้าง “วันหลังห้ามเรียกผู้อื่นว่าต้าเกอ”
หลินหวั่นชิวงุนงง “เช่นนั้นให้เรียกว่าอย่างไร? คุณลุง? แบบนั้นไม่ผิดลำดับาุโหรือ? อีกอย่าง ข้าก็เรียกตามท่านไม่ใช่หรือไร?”
เจียงหงหย่วนส่ายมือด้วยความหงุดหงิด “ช่างเถิดๆ ตามใจเ้าแล้วกัน!” เขาแค่ทนฟังภรรยาตัวน้อยเรียกคนอื่นเสียงอ่อนเสียงหวานว่าต้าเกอไม่ได้
แต่ที่ภรรยาตัวน้อยพูดก็ถูก นางเรียกตามเขา
“หย่วนเกอ ท่านเป็กระไรไป?” หลินหวั่นชิวเห็นสีหน้าเขาแปลกๆ ไม่รู้เป็กระไรขึ้นมาอีกจึงอดถามไม่ได้
คำว่าหย่วนเกอลอยเข้าหูเหมือนขนนก คันยุบยิบไปถึงในใจ
เจียงหงหย่วนอารมณ์ดีทันที เหลียงต้าเกอ หวางต้าเกอ หลิวต้าเกอ…คำเรียกพวกนี้สนิทสนมไม่เท่าคำว่าหย่วนเกอ
ใจที่คับแคบของชายผู้ป่าเถื่อนได้รับการเติมเต็มทันที
“ไม่มีกระไร ไป วันนี้พวกเราเข้าอำเภอกัน ข้าจะไปยืมเกวียนวัวจากฟู่กุ้ย” เจียงหงหย่วนพูดจบก็เดินออกไป หลินหวั่นชิวคิดว่าเขาคงยืมเกวียนเพราะไม่อยากรบกวนหวางฟู่กุ้ย ไม่รู้เลยว่าเจียงหงหย่วนแค่อยากอยู่กับนางตามลำพังต่างหาก ไม่อยากให้ตลอดทางมีก้างขวางคอ
ทั้งคู่คุยกันไว้แล้วว่าจะเข้าอำเภอ แค่ยังไม่กำหนดวันก็เท่านั้น
วันนี้เหลียงหู่มา งานของเจียงหงหย่วนกำหนดเรียบร้อยแล้ว พวกเขาย่อมมีเวลาเข้าอำเภอ ไม่ต้องรอที่บ้านอีก
หลินหวั่นชิวไปเก็บของ หนังสือที่คัดให้ร้านหนังสือคัดเสร็จเรียบร้อยและเก็บอยู่ในช่องเก็บของบนเสียนอวี๋ แต่ในเมื่อต้องไปกับเจียงหงหย่วน นางจึงต้องนำของออกมาเพื่อไม่ให้เผยพิรุธใด
จากนั้นหยิบหนังเสือกับน้ำมันกระดูกเสือที่เจียงหงหย่วนทำออกมาด้วย นอกจากซื้อของแล้ว เป้าหมายสำคัญในการเข้าอำเภอครั้งนี้ยังคือเพื่อนำหนังเสือกับน้ำมันกระดูกเสือไปขาย
ทำทุกอย่างเสร็จสิ้น หลินหวั่นชิวใช้รองพื้นสีเข้มที่ซื้อจากเสียนอวี๋มาทาบนหน้าและแต่งหน้าแบบง่ายๆ ผิวหมองคล้ำลงแล้วจะได้ไม่ดูสะดุดตา
นี่เป็สาเหตุที่เมื่อนางไปบอกเจียงหงหนิงกับเจียงหงป๋อ สองพี่น้องจึงพากันคิดว่านางป่วย เป็ห่วงกันขึ้นมา
“…ข้าแค่แต่งหน้าให้ตัวเองดูขี้เหร่หน่อย ไม่ได้ไม่สบาย พวกเ้าไม่ต้องเป็ห่วง หงหนิงอยู่บ้านดูแลเอ้อร์เกอเ้าดีๆ ข้ากับต้าเกอเ้าจะเข้าไปดูในอำเภอให้ ช่วยเ้าหาโรงเรียน ต้องหาโรงหมอที่น่าเชื่อถือด้วย…ไว้ถามข้อมูลเสร็จแล้วค่อยพาพวกเ้าเข้าอำเภอครั้งหน้า”
“อื้ม วางใจเถิดขอรับพี่สะใภ้ ข้าจะดูแลเอ้อร์เกอให้ดี” เจียงหงหนิงตบหน้าอกรับประกัน
หลินหวั่นชิวกำชับเพิ่มอีกว่า “ตอนทำกับข้าวอย่าเสียดายน้ำมันเครื่องปรุง ไม่ใช่ข้าไม่อยู่แล้วทำนิดเดียว!” เื่เดียวที่นางเป็ห่วงเจียงหงหนิงคือขี้เหนียวเกินไปนี่แหละ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้