บทที่ 6 พี่ใหญ่กลับมาแล้ว!
หมอเฒ่าหลี่นำเห็ดทั้งหมดไปชั่งน้ำหนัก ได้น้ำหนักรวมสองจินครึ่งพอดิบพอดี เขาเดินกลับเข้าไปในบ้านครู่หนึ่งก่อนจะออกมาพร้อมกับเงินจำนวน 2 หยวน 5 เหมา และห่อยาเล็กๆ สองสามห่อ
"นี่เงินของเธอ 2 หยวน 5 เหมา ส่วนนี่คือยาลดไข้กับยาแก้อักเสบ ฉันแถมให้ ถือเป็การเปิดการค้าที่ดีต่อกัน เอากลับไปต้มให้น้องเธอกินซะ"
"ขอบคุณค่ะท่านหมอ! ขอบคุณจริงๆ ค่ะ!" ไป่ซินซินโค้งคำนับอย่างจริงใจ เธอไม่ได้ดีใจแค่เื่ยาที่ได้มาฟรี แต่ดีใจที่สามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในหมู่บ้านได้สำเร็จ ท่านหมอหลี่ที่ดูเหมือนจะเคี้ยวและเข้มงวดแต่ในใจก็ยังสงสารสามพี่น้องอยู่เหมือนกัน
เธอกำเงินที่เพิ่งได้มาไว้ในมือแน่น มันเป็ธนบัตรเก่าๆ แต่สำหรับเธอในตอนนี้ มันคือเงินทุนก้อนแรก คือเส้นเืที่หล่อเลี้ยงความหวังของครอบครัวเล็กๆ ของเธอ หลังจากร่ำลาหมอเฒ่าหลี่ เธอก็รีบตรงกลับกระท่อมทันที แต่ระหว่างทาง เธอแวะที่บ้านของป้าจวง หญิงม่ายใจดีที่อาศัยอยู่คนเดียวและมีฐานะพอมีพอกินที่สุดคนหนึ่งในละแวกนั้น เธอใช้เงิน 20 เหมา ซื้อข้าวสารมาหนึ่งชั่ง และไข่ไก่สดๆ ห้าฟอง เครื่องปรุงซีอิ๊วกับเกลืออีกเล็กน้อย เพราะที่บ้านนั้นหมดไม่เหลืออะไรเลย
เมื่อกลับถึงกระท่อม ภาพแรกที่ไป่ซินซินเห็นคือร่างเล็กจิ๋วของไป่เหมยที่นั่งขดตัวอยู่ตรงธรณีประตู ดวงตาคู่กลมโตฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าเล็กๆ ซูบผอมที่ยังคงมีร่องรอยความเจ็บป่วยหันซ้ายทีขวาที มองไปตามเส้นทางที่พี่สาวจากไปอย่างใจจดใจจ่อ ทุกครั้งที่มีเสียงลมพัด หรือเงาไม้ไหว เธอก็จะสะดุ้งเฮือก เงยหน้าขึ้นมองด้วยความหวังอันริบหรี่ แล้วก็ต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า แววตาของเด็กน้อยเต็มไปด้วยความกลัวว่าพี่สาวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่จะจากไปอีกคน ทิ้งให้เธอและไป่ซานต้องเผชิญโลกอันโหดร้ายเพียงลำพัง ลมหายใจเล็กๆ ถอนออกมาราวกับจะขาดห้วงทุกครั้งที่ความหวังมลายหายไป ความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างกัดกินหัวใจดวงน้อยๆ จนเ็ป
และเมื่อร่างคุ้นตาของพี่สาวปรากฏขึ้นที่ปลายทางเดิน ใบหน้าที่ซีดเซียวของไป่เหมยก็พลันสว่างไสวขึ้นมาในทันที ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความดีใจระคนโล่งอก ราวกับเห็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิดสุดขอบฟ้า ร่างเล็กๆ พุ่งทะยานออกไปราวกับลูกะุ ไม่สนว่าพื้นดินจะเปรอะเปื้อนหรือมีก้อนหินขรุขระ เธอ้าเพียงแค่ไปให้ถึงอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั้นให้เร็วที่สุด เสียงเล็กๆ ที่เคยแหบพร่าด้วยความกังวล บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็เสียงใสๆ ที่เต็มไปด้วยความปิติ
"พี่ใหญ่! กลับมาแล้ว!"
"พี่กลับมาแล้ว"
ไป่ซินซินยิ้มอย่างอบอุ่นเป็ครั้งแรก เธอโอบกอดร่างเล็กของไป่เหมยแน่นััได้ถึงความสั่นเทาที่ยังไม่หายไปจากตัวน้องสาว หัวใจของไป่ซินซินบีบรัดด้วยความเ็ปและสงสาร ภาพของไป่เหมยที่นั่งเฝ้ารอที่ประตูอย่างใจจดใจจ่อเมื่อครู่ยังคงติดตา เธอรู้ดีว่าความกลัวที่จะถูกทอดทิ้งนั้นฝังรากลึกอยู่ในจิตใจของเด็กน้อยทั้งสองคน ความรู้สึกผิดที่ไม่ใช่ของเธอโดยตรง แต่เป็ความรู้สึกผิดที่ไป่ซินซินคนเดิมเคยแบกรับไว้ถาโถมเข้ามา
เธอเคยเป็จักรพรรดินีผู้เด็ดขาด ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ แต่ตอนนี้หัวใจของเธอเ็ปราวกับถูกบีบขยี้ เธอมองใบหน้าซูบผอมของน้องสาวที่ซบลงกับอกของเธอ น้ำตาอุ่นๆ ซึมผ่านเนื้อผ้า เธอสาบานกับตัวเองว่าจะไม่มีวันปล่อยให้น้องๆ ต้องเผชิญความกลัวเช่นนี้อีกต่อไป จะไม่มีใครต้องอดอยาก หรือโดดเดี่ยวอีกแล้ว ความมุ่งมั่นอันแรงกล้าฉายชัดในดวงตาที่เคยเ็าของนักธุรกิจหมื่นล้าน
"และพี่มีของดีมาด้วย ไปทำอาหารกันน้องรัก"
ไป่ซินซินกระซิบเสียงอ่อนโยน พลางผละกอดออกเล็กน้อย แต่ยังคงประคองใบหน้าเล็กๆ ของไป่เหมยไว้ในมือ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ััในชีวิตนี้
เธอจัดการก่อไฟในเตาดินเก่าๆ อย่างคล่องแคล่ว ความทรงจำของไป่ซินซินคนเดิมทำให้เธอรู้วิธีใช้ชีวิตในยุคนี้เป็อย่างดี เธอต้มยาให้ไป่ซานก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ป้อนยาที่เย็นลงแล้วให้น้องชายทีละช้อนและให้เขานอนพักต่อในขณะที่เธอลุกไปทำอาหาร… ก็ถึงเวลาของอาหารมื้อแรกที่จะพลิกฟื้นชีวิตของพวกเขา!
เธอหุงข้าวต้มในหม้อดินจนส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่วกระท่อม กลิ่นไอข้าวผสมกับกลิ่นดินหอมๆ ลอยอวลในอากาศราวกับโอบอุ้มความอบอุ่นไว้ ขณะเดียวกันไป่ซินซินก็นำเนื้อส่วนที่ดีที่สุดของงูที่ได้มาจากการผจญภัยบนูเามาสับจนละเอียด แม้จะดูเป็ของแปลกสำหรับบางคน แต่สำหรับไป่ซินซินแล้ว นี่คือแหล่งโปรตีนชั้นดีที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกายของน้องชาย เธอต้มเนื้อละเอียดนั้นรวมกับข้าวต้ม ปรุงรสด้วยเกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยพอให้มีรสชาติกลมกล่อมกำลังดี
แม้ในอดีตชาติเธอจะเป็ถึงนักธุรกิจหมื่นล้านผู้ไม่เคยต้องเข้าครัว แต่ในอีกมุมหนึ่ง ไป่หลิงในวัยเยาว์นั้นคือเด็กกำพร้าที่เคยต้องเผชิญกับความหิวโหยและความแร้นแค้นอย่างสาหัส ดังนั้น เมื่อเริ่มมีเงินมีทองในชีวิตก่อน เธอจึงได้ลงเรียนการทำอาหารหลากหลายแขนง ไม่ใช่แค่เพราะความชอบ แต่เป็เพราะความปรารถนาลึกๆ ที่จะไม่ต้องกลับไปอดอยากอีก และเพื่อที่จะสามารถสร้างสรรค์อาหารดีๆ ให้กับคนที่เธอรักได้ ความรู้และทักษะเ่าั้ได้ติดตัวเธอข้ามภพมา และบัดนี้ก็ได้ถูกนำมาใช้เพื่อชีวิตของน้องๆ ที่แสนรัก
และไฮไลท์ของมื้อนี้... ไข่ตุ๋น! เธอตอกไข่สามฟองใส่ชาม ตีให้เข้ากันจนเป็เนื้อเดียว ผสมกับน้ำเล็กน้อย แล้วนำไปนึ่งบนปากหม้อข้าวต้มที่กำลังเดือดปุดๆ จนสุกกำลังดี ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนนุ่มสีเหลืองทองอร่ามดูน่ากินจนน่าเหลือเชื่อ ไอน้ำร้อนๆ ลอยกรุ่นพร้อมกลิ่นหอมละมุน เธอวิ่งไปหลังบ้านเด็กต้นหอมที่ปลูกเอาไว้เล็กน้อยมาหันและโรยเพิ่มความหอมให้ไข่ตุ๋นของเธอมากขึ้น กลิ่นหอมของอาหารทำให้เด็กทั้งสองท้องร้องเสียงดัง ไป่ซานที่เพิ่งได้กินยาก็เริ่มรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมาอย่างอ่อนแรง
"พี่ใหญ่..."
ไป่ซานเรียกเสียงแ่ที่ได้กินยาและนอกพักระหว่างที่ไป่ซินซินทำอาหารตอนนี้สติยังคงเลือนราง ดวงตาเล็กๆ ปรือมองหาพี่สาวอย่างอ่อนแรง
"พี่อยู่นี่แล้วซานซาน"
ไป่ซินซินกล่าวปลอบโยน เธอเดินถือชามข้าวต้มเนื้อตุ๋นร้อนๆ มาวางข้างเตียงไม้เล็กๆ ที่ไป่ซานนอนซมอยู่ ควันกรุ่นๆ ลอยขึ้นมาพร้อมกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ เธอค่อยๆ ตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าเบาๆ จนไอความร้อนจางลง ก่อนจะป้อนให้น้องชายอย่างนุ่มนวล
"มากินข้าวก่อนนะ กินแล้วจะได้มีแรง"
เธอพูดพร้อมส่งช้อนแรกเข้าปากไป่ซาน ไป่ซานรับข้าวต้มอุ่นๆ เข้าไปในปากอย่างเชื่องช้า แต่ทันทีที่รสชาติกลมกล่อมและความอบอุ่นแผ่ซ่านลงสู่กระเพาะที่ว่างเปล่า ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ความหิวโหยที่กัดกินมาหลายวันบรรเทาลงในทันที ไป่ซินซินป้อนไป่ซานจนแน่ใจว่าเขากินได้มากพอ จากนั้นจึงตักข้าวต้มและไข่ตุ๋นให้ไป่เหมย และตักของตัวเองเป็คนสุดท้าย
ฉากสามพี่น้องนั่งล้อมวงกินอาหารมื้อแรกที่สมบูรณ์ที่สุดในรอบหลายเดือนจึงเริ่มต้นขึ้น ข้าวต้มร้อนๆ ไหลผ่านลำคอที่แห้งผากลงสู่กระเพาะที่ว่างเปล่า ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนนุ่มละลายในปากราวกับความฝัน
ไป่เหมยและไป่ซานกินไปน้ำตาไหลไป มันคือน้ำตาแห่งความสุขและความโล่งใจที่เอ่อล้นออกมาโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกปลอดภัยที่ได้กินอิ่ม ได้รับความอบอุ่นจากพี่สาวช่างเป็สิ่งที่พวกเขาโหยหามานานแสนนาน
ส่วนไป่ซินซินมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่พองโต น้ำตาอุ่นๆ คลอเบ้าด้วยความตื้นตันใจ เธอกัดริมฝีปากแน่นเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ เธอไม่เคยคิดเลยว่าการได้เห็นน้องๆ กินอิ่ม จะทำให้เธอรู้สึกสุขใจได้มากขนาดนี้ ความสำเร็จในชาติก่อนที่ยิ่งใหญ่เพียงใด ก็ไม่เคยเทียบเท่าความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่เธอได้รับในตอนนี้ เธอรู้แล้วว่านี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตใหม่ของเธอ และเธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาความสุขนี้ไว้
ติ๊ง!
[ระบบวิเคราะห์ความสำเร็จ: ตรวจพบการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์]
[ไป่ซาน: ความรู้สึกปลอดภัยเพิ่มขึ้น 80%, ความหวังในชีวิตเพิ่มขึ้น 75%]
[ไป่เหมย: ความรู้สึกปลอดภัยเพิ่มขึ้น 90%, ความหวังในชีวิตเพิ่มขึ้น 85%, ความผูกพันกับผู้ใช้เพิ่มขึ้น 95%]
[สถานะความสุขโดยรวมของครอบครัว: 60% (จากเดิม 10%) ]
เสียงของระบบดังขึ้นในหัวของไป่ซินซิน ยืนยันความรู้สึกที่เธอััได้ด้วยตัวเอง เธอรู้แล้วว่านี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตใหม่ของเธอ และเธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาความสุขนี้ไว้
นี่เป็เพียงก้าวแรก... ก้าวเล็กๆ แต่สำคัญที่สุดบนเส้นทางสู่ความรวยแน่ 100% ของเธอ! เธอจะไม่มีวันยอมให้เด็กสองคนนี้ต้องหิวโหยหรือเจ็บป่วยอีกต่อไป
****
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้