อวี๋เจียวกำชับอีกหนึ่งรอบ “หากคุณหนูจางมีประจำเดือนห้ามใส่ยาต้มในน้ำอาบเด็ดขาด”
ฮูหยินสกุลจางเอ่ยกับหญิงรับใช้ประจำกายจางซิ่วเยว่ที่อยู่ด้านข้างว่า“จำได้หมดแล้วใช่หรือไม่? อย่าให้มีข้อผิดพลาดใดๆเด็ดขาด”
“เ้าค่ะฮูหยิน” หญิงรับใช้ทั้งสองนางรีบขานรับ
คนที่เจียงชิงเหอใช้ให้ไปสืบข่าวของสกุลจางยังไม่กลับมารายงานคิดไม่ถึงว่าข้ารับใช้ของสกุลจางจะมาซื้อยาที่สำนักหุยชุนเสียแล้ว
เจียงชิงเหอรับเทียบยาทั้งสองชุดมาอ่านดูอย่างละเอียดพบว่าคือเทียบยาบำรุงเืลมและเสริมพลังหยางบำรุงไต ภายในใจเกิดเป็ความสงสัยแสร้งเอ่ยถามราวกับไม่ใส่ใจ “ผู้ใดในจวนของท่านป่วยแล้วหรือ? เหตุใดถึงไม่เรียกข้าน้อยไปตรวจดูเล่า?”
ก่อนมาเด็กรับใช้ถูกกำชับมาแล้ว ยามนี้จึงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว“แม่บ้านในจวนของพวกเราไม่สบาย ไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไรแม่บ้านบอกว่าท่านหมอเจียงมีคนไข้มากมาย ไม่อยากรบกวนประจวบเหมาะกับผู้ดูแลจางมาที่จวนและพาแม่นางน้อยที่รู้วิชาหมออยู่บ้างมาด้วยพอดีจึงให้นางช่วยเขียนเทียบยาขอรับ”
ความสงสัยในใจของเจียงชิงเหอลดลงไม่น้อยเมื่อได้ฟังเช่นนี้สั่งให้เด็กจัดยาเตรียมยาให้เด็กรับใช้ตามเทียบยาส่วนเขาหันหลังเดินเข้าไปในโถงด้านหลังเพื่อรายงานสิ่งที่เด็กรับใช้สกุลจางบอกมากับเฉินอวี๋โดยไม่มีตกหล่นแม้แต่คำเดียว
เฉินอวี๋หมอบอยู่บนเตียงนุ่มงีบหลับหญิงรับใช้ด้านข้างนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น กำลังบีบไหล่ให้เขา
ครั้นได้ฟังคำกล่าวของเจียงชิงเหอ เฉินอวี๋ไม่เงยหน้าขึ้นเพียงโบกมืออย่างเกียจคร้าน
เจียงชิงเหอออกไปจากโถงด้านหลังไม่นานเด็กรับใช้ที่ไปสืบข่าวจากสกุลจางได้กลับมาแล้ว
“นายน้อย ข้าน้อยไร้ความสามารถจ่ายเงินชวนคนเฝ้าประตูของสกุลจางไปดื่มสุรา แต่กลับสืบไม่ได้ความอะไรบอกแค่ว่าคนไม่กี่คนนั้นเดินไปทางเรือนด้านหลังขอรับ”เด็กรับใช้ก้มหน้าเอ่ยเสียงเบา
เฉินอวี๋ขานรับอย่างเกียจคร้านแล้วสั่งให้เด็กรับใช้ออกไป
“อาอู่ เ้าเดาว่าผู้ใดในจวนสกุลจางป่วย? หากเดาถูก นายน้อยจะตกรางวัลเ้าด้วยองุ่นหนึ่งลูก”เฉินอวี๋คว้ามือหญิงรับใช้เอาไว้แล้วพลิกกายลุกขึ้นนั่ง
“อาอู่เดาไม่ถูกเ้าค่ะ” หญิงรับใช้นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นพลางเอ่ยอย่างว่านอนสอนง่าย
เฉินอวี๋ปล่อยมือของนาง บีบแก้มเนียนนุ่มของหญิงรับใช้“เ้าชอบทำตัวน่าเบื่อเช่นนี้ตลอด ภายหน้านายน้อยจะไม่พาเ้าออกไปข้างนอกด้วยแล้วยังคงเป็อาลู่พี่สาวเ้าที่มีรสนิยมอยู่บ้าง”
อาอู่แย้มยิ้มนุ่มนวล เอ่ยเสียงอ่อนโยนว่า“นายน้อยกำลังจะแต่งงานกับคุณหนูสกุลจางแล้วฮูหยินกำชับท่านแล้วว่าห้ามเอ่ยวาจาไร้มารยาทอีกเ้าค่ะ”
แววตาของเฉินอวี๋หม่นลง เอ่ยพลางแค่นหัวเราะเสียงเย็น“จางซิ่วเยว่หน้าตาไม่ดีเท่าเ้ากับอาลู่ จะเป็ภรรยาของข้าได้อย่างไร?”
อาอู่เกลี้ยกล่อมอีกครั้ง “นายน้อย ระวังวาจาด้วยเ้าค่ะ”
บนหน้าผากของเฉินอวี๋ฉายแววดื้อรั้น กำถ้วยน้ำชาบนโต๊ะไว้แน่นหากไม่ใช่เพราะสกุลจางให้คำมั่นเอาไว้ ขอเพียงเขาแต่งกับจางซิ่วเยว่จะยกร้านขายธัญพืชทั้งสองร้านให้สกุลเฉินเป็ทรัพย์สินติดตัวยามออกเรือน ไม่เช่นนั้นเขาจะเข้าไปข้องเกี่ยวกับการแต่งงานครั้งนี้โดยไม่ได้ผลประโยชน์อะไรได้อย่างไร?
หลังจากนิ่งเงียบเป็เวลานาน เฉินอวี๋โยนถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะเอ่ยอย่างหมดสนุกว่า “กลับจวน”
เด็กรับใช้สกุลจางรีบมุ่งหน้ากลับจวนหลังจากซื้อยาในสำนักหุยชุนตามด้วยส่งยาไปที่เรือนด้านหลัง
อวี๋เจียวแยกสมุนไพรที่ผสมอยู่ด้วยกันออกอย่างละเอียดเลือกเอาเสอฉวงจื่อ [1] เปลือกมู่จิ่น [2] ขู่เซิน [3] ออกไปจัดยาในปริมาณเหมาะสมหลังจากจัดเตรียมยาทั้งสองชุดเสร็จเรียบร้อยถึงส่งให้ฮูหยินสกุลจาง
เมื่อเห็นนางไม่ต้องตวง แค่ใช้มือหยิบก็สามารถวัดปริมาณฮูหยินสกุลจางมองพิจารณาอวี๋เจียวอีกครั้งอย่างไม่อาจเลี่ยงลอบคาดเดาว่าแม่นางอายุน้อยในหมู่บ้านเช่นนี้ หรือว่าจะเป็ชนรุ่นหลังของท่านหมอเทวดา?
ฮูหยินสกุลจางสั่งให้คนนำเงินสิบตำลึงมามอบให้อวี๋เจียวเหตุที่นางใจกว้างเช่นนี้ล้วนแต่ทำเพื่อปิดปาก เอ่ยกำชับอีกครั้งว่า “แม่นางเมิ่งโปรดจำเอาไว้ว่าห้ามแพร่งพรายเื่ในวันนี้สู่ภายนอกเด็ดขาด”
อวี๋เจียวรับเงินค่ารักษามา เอ่ยพลางแย้มยิ้มว่า“วันนี้มีเื่อะไรหรือ? ข้าไม่เคยพบคุณหนูจางและไม่เคยพบฮูหยินจางแค่นั่งรถม้าของผู้ดูแลจางมาซื้อของในตำบลจากนั้นก็แค่ช่วยเขียนเทียบยาให้แม่บ้านสกุลจางที่ร่างกายอ่อนแอเท่านั้นเอง”
…………..
เชิงอรรถ
[1] เสอฉวงจื่อ 蛇床子 สรรพคุณ บำรุงหยางและไต ฆ่าเชื้อ แก้คัน รสชาติและคุณสมบัติ รสเผ็ดขม อุ่น เข้าสู่เส้นลมปราณไต
[2] เปลือกมู่จิ่น 木槿皮 คือเปลือกต้นชบา
[3] ขู่เซิน 苦参 คือโสมรสขม
