ภายในวัดม่านเมฆเป็โลกอีกใบที่แตกต่างจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง สวนหินที่จัดวางอย่างประณีต ต้นบ๊วยที่ออกดอกนอกฤดูกาล และลำธารเล็กๆ ที่ไหลผ่านกลางลานวัด เสียงระฆังทองเหลืองดังกังวานเป็ระยะ สร้างความรู้สึกสงบและศักดิ์สิทธิ์
อาจารย์เหลียงซานนำหลินเว่ยและคณะเข้าสู่ห้องโถงกลางของวัด ภายในห้องมีเสาไม้แกะสลักสิบสองต้น ผนังวาดภาพจิตรกรรมโบราณแสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด ที่กลางห้องมีแท่นหินทรงกลมแผ่รัศมีแสงสีฟ้าอ่อนๆ
"นี่คือหอแห่งความจริง" อาจารย์เหลียงซานอธิบาย "ที่นี่คือสถานที่ที่พลังงานจากมิติอื่นทะลุผ่านมายังโลกเราได้ง่ายที่สุด"
หลินเว่ยรู้สึกถึงพลังงานในร่างกายตื่นตัวเมื่อเข้าใกล้แท่นหิน พลังสีม่วงในตัวเขาเริ่มไหลวนเร็วขึ้น เส้นเืสีม่วงปรากฏขึ้นตามแขนของเขา
"ระวังตัวด้วย" หลิวซินเตือนเสียงเบา "พลังของคุณกำลังตอบสนองต่อสถานที่นี้"
อาจารย์เหลียงซานพยักหน้า "แน่นอน นี่คือบ้านของพวกมัน" เขาหันไปทางหลินเว่ย "เ้ารู้สึกถึงมันใช่ไหม? การดึงดูด การเรียกร้อง?"
หลินเว่ยพยักหน้า "ใช่ เหมือนมีเสียงกระซิบเรียกผมจากอีกฟากของกำแพงบางๆ"
"เล่าเื่ของฉันให้ฟังเถอะ" หลินเว่ยเรียกร้อง "ทำไมผมถึงเป็ส่วนหนึ่งของพวกเขา?"
อาจารย์เหลียงซานผายมือให้ทุกคนนั่งบนเบาะรอบแท่นหิน ขณะที่นักบวชในชุดสีเทาเสิร์ฟชาและขนมแห้ง เสวียนจื้อและนักรบเงายืนเฝ้าที่ประตู
"เื่ราวเริ่มต้นเมื่อห้าสิบปีก่อน" อาจารย์เหลียงซานเริ่มเล่า "มนุษย์เริ่มทดลองกับพลังงานที่พวกเขาไม่เข้าใจ องค์กรเทียนซื่อได้ค้นพบวัดของเราและศึกษาบันทึกโบราณของเรา พวกเขาเริ่มทดลองกับประตูมิติ พยายามติดต่อกับสิ่งมีชีวิตจากอีกด้านหนึ่ง"
"ิญญาอนันต์" หลินเว่ยเอ่ย
"ใช่ แต่พวกเขาไม่ได้เรียกตัวเองอย่างนั้น" อาจารย์เหลียงซานยิ้มเล็กน้อย "พวกเขาเรียกตัวเองว่า 'ชิวเสวียน' หรือ 'ผู้สถิตในความว่างเปล่า' พวกเขาเป็สิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยพลังงานบริสุทธิ์ ไม่มีร่างกายที่แท้จริง แต่มีจิตสำนึกและความฉลาด"
"อย่างเื่เล่าเกี่ยวกับิญญาและภูตผีในตำนานโบราณหรือ?" เมิ่งหลิงถาม
"ใช่และไม่ใช่" อาจารย์เหลียงซานตอบ "พวกเขาไม่ใช่ิญญาของผู้ตาย แต่เป็รูปแบบชีวิตที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง เข้าใจยากสำหรับจิตใจมนุษย์ธรรมดา"
เขาหันกลับมาที่หลินเว่ย "องค์กรเทียนซื่อพยายามจับชิวเสวียนมาทดลอง พวกเขาคิดค้นวิธีกักขังพลังงานของชิวเสวียนในสิ่งมีชีวิต และทดลองสร้างทารกในห้องทดลองที่มียีนส์ผสมระหว่างมนุษย์และชิวเสวียน"
หัวใจของหลินเว่ยเต้นเร็วขึ้น "และฉันคือหนึ่งในทารกเ่าั้?"
"ใช่" อาจารย์เหลียงซานพยักหน้า "เ้าเป็หนึ่งในไม่กี่คนที่รอดชีวิต ส่วนใหญ่เสียชีวิตก่อนคลอดหรือไม่ก็เสียชีวิตในวัยเด็ก ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถรับพลังของชิวเสวียนได้ ยกเว้นจะมีการดัดแปลงพิเศษ"
หลินเว่ยมองมือตัวเอง ไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน "ผมไม่ใช่...มนุษย์หรือ?"
"เ้าเป็ทั้งมนุษย์และชิวเสวียน" อาจารย์เหลียงซานตอบอย่างใจดี "เ้าเป็สะพานระหว่างสองโลก นั่นคือเหตุผลที่เ้าสามารถรับิญญาอนันต์ตัวใหม่เข้าสู่ร่างกายได้โดยไม่ถูกทำลาย"
หลิวซินขมวดคิ้ว "ถ้าองค์กรเทียนซื่อสร้างเขาขึ้นมา ทำไมพวกเขาถึงตามล่าเขา?"
"เพราะเขาหนีออกมา" ลี่จงตอบแทนอาจารย์เหลียงซาน "ใช่ไหม? พวกเขาไม่อยากเสียเครื่องมือทดลองที่มีค่า"
อาจารย์เหลียงซานพยักหน้า "ถูกต้อง และเพราะพวกเขากลัวสิ่งที่หลินเว่ยอาจกลายเป็ พลังที่แท้จริงของเขาอาจทำลายทุกสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้น"
หลินเว่ยนั่งนิ่ง สับสนกับข้อมูลที่ได้รับ "แล้วพลังที่แท้จริงของผมคืออะไร? ทำไมองค์กรเทียนซื่อถึงสร้างคนแบบผมขึ้นมา?"
อาจารย์เหลียงซานมองไปรอบห้อง ก่อนจะพยักหน้าให้นักบวชที่ยืนอยู่มุมห้อง นักบวชผู้นั้นกดแผ่นหินที่ผนัง เปิดประตูลับที่ซ่อนอยู่
"ตามข้ามา มีคนที่อยากพบเ้า" อาจารย์เหลียงซานลุกขึ้น
เขานำหลินเว่ยและเพื่อนๆ เดินผ่านประตูลับเข้าสู่อุโมงค์แคบที่ทอดลงไปใต้ดิน ทางเดินสว่างด้วยแสงสีฟ้าอ่อนๆ จากแท่งคริสตัลที่ติดอยู่ตามผนัง ทุกคนเดินไปเงียบๆ จนถึงประตูโลหะขนาดใหญ่ที่มีสัญลักษณ์แปลกประหลาดสลักอยู่
อาจารย์เหลียงซานวางมือบนสัญลักษณ์ กล่าวคาถาในภาษาโบราณ ประตูเปิดออกพร้อมเสียงฉึ่ง เผยให้เห็นห้องโถงกว้างใต้ดิน
เมื่อเดินเข้าไปในห้อง หลินเว่ยต้องกลั้นหายใจด้วยความใ ภายในห้องมีผู้คนสิบกว่าคนที่มีลักษณะแปลกประหลาด บางคนมีผิวสีเทาอมฟ้า บางคนมีดวงตาเรืองแสง บางคนมีเส้นลายสีม่วงปรากฏบนิั คล้ายกับเส้นเืที่ปรากฏบนแขนของหลินเว่ยเวลาใช้พลัง
"นี่คือ 'แซงเสวียน' หรือ 'ผู้เปลี่ยนผ่าน'" อาจารย์เหลียงซานแนะนำ "ทายาทของการทดลองรุ่นแรก พวกเขาเป็เช่นเ้า—ลูกผสมระหว่างมนุษย์และชิวเสวียน"
หญิงสาวผิวสีเทาอมฟ้าเดินเข้ามาหาหลินเว่ย ดวงตาสีเงินของเธอเรืองแสงเล็กน้อย "นานแค่ไหนแล้วที่พลังของเ้าตื่นขึ้น?" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่มีเสียงก้องแปลกๆ
"ประมาณสองสัปดาห์" หลินเว่ยตอบ พยายามไม่จ้องเธอนานเกินไป "หลังจากต่อสู้กับผู้นำติดเชื้อ"
"เร็วมาก" หญิงสาวพยักหน้า "ชื่อของข้าคือ หลิงเยว่ ข้าเป็นักพรตรุ่นสองของวัดม่านเมฆ"
ชายร่างสูงใหญ่ที่มีลายสีม่วงพาดผ่านใบหน้าเดินเข้ามา "ข้าคือ จ้าวหยาง กองพิทักษ์แห่งวัดม่านเมฆ" เขาแนะนำตัว เสียงทุ้มลึก "น่าสนใจที่เ้าไม่เสียสติเมื่อได้รับพลังเพิ่ม ส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาเป็เดือนในการปรับตัว"
"ฉันเกือบเสียสติ" หลินเว่ยยอมรับ "แต่เพื่อนๆ ช่วยฉันไว้ และผมเริ่มเรียนรู้ที่จะควบคุมมัน"
หลิงเยว่และจ้าวหยางสบตากัน "น่าทึ่ง" หลิงเยว่พูด "เ้ามีพร์มากกว่าที่คิด"
หลิวซินก้าวเข้ามาใกล้หลินเว่ย เธอดูระแวดระวัง "พวกคุณทั้งหมดอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? องค์กรเทียนซื่อไม่ตามหาหรือ?"
"วัดม่านเมฆปกป้องเราด้วยพลังโบราณ" หลิงเยว่ตอบ "องค์กรเทียนซื่อไม่สามารถตรวจจับเราได้ เมื่ออยู่ภายในกำแพงพลัง"
อาจารย์เหลียงซานผายมือให้ทุกคนนั่งลง "ข้าทราบว่าเ้ามีคำถามมากมาย แต่ก่อนอื่น เ้าต้องเข้าใจว่าเหตุใดองค์กรเทียนซื่อจึงทำการทดลองเหล่านี้"
เขานั่งลงที่โต๊ะกลม ทุกคนนั่งล้อมรอบโต๊ะ หลินเว่ยรู้สึกแปลกประหลาดที่นั่งอยู่ท่ามกลางผู้คนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเขา เหมือนได้พบครอบครัวที่ไม่เคยรู้ว่ามีอยู่
"องค์กรเทียนซื่อก่อตั้งขึ้นเพื่อศึกษาปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ" อาจารย์เหลียงซานเริ่มเล่า "พวกเขาเริ่มต้นด้วยเจตนาดี—้าเข้าใจจักรวาลที่กว้างใหญ่กว่าที่เราเห็น แต่เมื่อพวกเขาพบชิวเสวียน พวกเขาเห็นศักยภาพในการสร้างอาวุธชีวภาพ"
"และไวรัสที่ทำให้เกิดการระบาดคือผลพวงของการทดลองเ่าั้?" เมิ่งหลิงถาม
"ใช่" จ้าวหยางตอบ "พวกเขาพยายามสร้างมนุษย์ที่มีพลังของชิวเสวียน แต่ล้มเหลวหลายครั้ง เชื้อไวรัสที่ใช้เป็พาหะในการดัดแปลงพันธุกรรมรั่วไหลออกมา และกลายพันธุ์"
"แล้วพวกเรา...พวกเราเป็อะไร?" หลินเว่ยถาม เสียงสั่น "พวกเราเป็แค่อาวุธหรือ?"
หลิงเยว่ส่ายหน้า "เราเป็การเชื่อมต่อระหว่างสองโลก เราไม่ใช่มนุษย์ล้วนๆ และไม่ใช่ชิวเสวียนล้วนๆ เรามีศักยภาพที่จะเป็ได้มากกว่าที่องค์กรเทียนซื่อตั้งใจ"
"และนั่นคือสิ่งที่พวกเขากลัว" จ้าวหยางเสริม "พวกเขากลัวว่าเราจะกลายเป็สิ่งที่พวกเขาไม่สามารถควบคุมได้"
หลินเว่ยรู้สึกถึงความเชื่อมโยงกับคนกลุ่มนี้ที่เขาเพิ่งพบ แต่ก็รู้สึกกลัวไปพร้อมกัน "แล้วพลังของพวกเรา...มันทำอะไรได้บ้าง?"
หลิงเยว่ยกมือขึ้น สร้างลูกแก้วพลังงานสีม่วงอมฟ้า ลูกแก้วนั้นลอยเหนือมือเธอและเปลี่ยนรูปร่างไปมา "เราสามารถควบคุมพลังงานบริสุทธิ์ได้" เธออธิบาย "ใช้มันสร้าง ทำลาย หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้"
"เราสามารถเชื่อมต่อกับจิตใจผู้อื่น" จ้าวหยางแทรก "บางครั้งแม้กระทั่งควบคุมพวกเขา แต่นั่นเป็พลังที่อันตราย และเราไม่ใช้มัน"
"และด้วยการฝึกฝน เราสามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายของเราได้" หลิงเยว่เสริม ผิวของเธอค่อยๆ เปลี่ยนเป็สีธรรมชาติมากขึ้น เส้นลายสีม่วงจางหายไป เธอดูเหมือนมนุษย์ปกติ "เราสามารถกลมกลืนไปกับฝูงชนได้เมื่อจำเป็"
หลินเว่ยใกับสิ่งที่เห็น "ฉันจะเรียนรู้ทำแบบนั้นได้หรือ?"
"ได้ ถ้าเ้าเลือกอยู่กับเรา" อาจารย์เหลียงซานตอบ "เราสามารถสอนเ้าทุกอย่างที่เราเรียนรู้มา ช่วยให้เ้าควบคุมพลังของเ้าได้อย่างสมบูรณ์"
หลินเว่ยนิ่งคิด ข้อเสนอนี้ล่อใจมาก การได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองและพลังที่ตนเองมี แต่เขาหันไปมองเพื่อนๆ—หลิวซิน เมิ่งหลิง และแม้แต่ลี่จง
"แล้วเพื่อนของผมล่ะ?" เขาถาม "พวกเขาเดินทางมาไกลเพื่อช่วยผม"
"พวกเขาสามารถพักอยู่ที่วัดเพื่อเป็แขกได้" อาจารย์เหลียงซานตอบ "แต่การฝึกของเ้าเป็เื่ส่วนตัวและอันตราย"
หลินเว่ยส่ายหน้า "ผมไม่ทิ้งเพื่อนผม เราผ่านเื่ราวมาด้วยกัน"
จ้าวหยางดูไม่พอใจ "เ้าไม่เข้าใจ การฝึกพลังชิวเสวียนอาจเป็อันตรายถึงชีวิตสำหรับมนุษย์ธรรมดาที่อยู่ใกล้ๆ"
"เรารออยู่ที่นี่มานาน" หลิงเยว่พูดเสียงเย็น "รอคนอย่างเ้า ที่มีศักยภาพจะเป็ผู้นำของเรา เ้าต้องเลือกระหว่างเพื่อนมนุษย์ของเ้า กับชะตากรรมที่แท้จริงของเ้า"
หลินเว่ยยืนขึ้น หันไปหาอาจารย์เหลียงซาน "ผมขอเวลาคิด"
อาจารย์เหลียงซานพยักหน้า "เข้าใจได้ นี่เป็เื่ใหญ่สำหรับเ้า" เขาหันไปทางนักบวช "พาพวกเขาไปยังห้องพัก พวกเขาเป็แขกผู้มีเกียรติของวัดม่านเมฆ"
ขณะที่ทุกคนออกจากห้องใต้ดิน หลินเว่ยรู้สึกแยกออกเป็สองส่วน—ส่วนหนึ่งรู้สึกเชื่อมโยงกับผู้คนแปลกประหลาดเหล่านี้ ราวกับพบครอบครัวในที่สุด อีกส่วนหนึ่งรู้สึกห่วงใยเพื่อนมนุษย์ที่เดินทางมากับเขา เขาต้องเลือกระหว่างการค้นพบตัวตนที่แท้จริง กับการรักษามิตรภาพที่พาเขามาถึงจุดนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้