ตอนที่ 8 ก่อตั้งฟีนิกซ์เทค
ทันทีที่ลายเซ็นของหวังเทียนซานแห้งสนิทบนสัญญาเืฉบับนั้น บรรยากาศในห้องเพนต์เฮาส์ก็เปลี่ยนไป ความตึงเครียดของการทดสอบได้สลายไป ถูกแทนที่ด้วยพลังงานอันเข้มข้นของการเริ่มต้นา
หวังเทียนซาน, CEO คนใหม่ผู้เพิ่งถูกเจิมตำแหน่งเมื่อไม่ถึงชั่วโมงที่แล้วกลับเข้าสู่โหมดนักวิเคราะห์ที่เฉียบคมของเขาทันที เขาไม่ได้มัวแต่ตื่นเต้นกับตำแหน่งใหม่ แต่ยิงคำถามแรกที่สำคัญที่สุดออกมา
“ท่านประธานครับ ขั้นตอนต่อไปของเราคืออะไร และเรามีเงินทุนตั้งต้นเท่าไหร่ครับ?”
ซูเหม่ยหลินพยักหน้าอย่างพึงพอใจนี่คือคุณสมบัติของขุนพลที่เธอ้า คนที่มองไปยังสนามรบข้างหน้าเสมอ
เธอดื่มด่ำกับความเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะให้คำตอบที่ทำให้หวังเทียนซานต้องขมวดคิ้ว
“เงินทุนตั้งต้น... ตอนนี้เหลืออยู่ประมาณสองล้านหยวน”
“สอ... สองล้าน!?” เขาเผลอขึ้นเสียง
“แต่เงินเกือบร้อยล้านจากการลงทุนครั้งก่อน...”
“เงินก้อนนั้นถูกแปรสภาพเป็สินทรัพย์ระยะยาวไปแล้ว” เธอตัดบท “มันคือรากฐานสำคัญของอาณาจักรเรา จะไม่มีการแตะต้องมันเด็ดขาด... ส่วนเงินสองล้านที่เหลืออยู่ คือเงินทุนทั้งหมดที่เรามีในตอนนี้”
หวังเทียนซานรู้สึกเหมือนถูกน้ำเย็นจัดสาดเข้าใส่หน้าอย่างจัง! สองล้าน! นั่นคือเงินทุนทั้งหมดที่พวกเขามี!
สมองนักวิเคราะห์ของเขาเริ่มคำนวณตัวเลขอย่างบ้าคลั่ง ค่าเช่าสำนักงานระดับ B+ ในย่านธุรกิจใหม่ ค่าจ้างบริษัทกฎหมายระดับท็อปค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนบริษัทข้ามชาติที่ซับซ้อน เงินเดือนเริ่มต้นของทีมงานหลักที่พวกเขากำลังจะไปทาบทาม... แค่ค่าใช้จ่ายพื้นฐานในการก่อตั้งบริษัท... ก็แทบจะกลืนกินเงินก้อนนี้ไปจนหมดแล้ว!
“ท่านประธานครับ... ด้วยความเคารพ”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่พยายามสะกดความตื่นตระหนกไว้
“เงินจำนวนนี้ มันไม่เพียงพอแม้แต่จะสร้างฐานรากที่มั่นคงได้เลย แล้วเราจะเอาเงินทุนที่ไหนไปสร้างอาณาจักรเพื่อต่อกรกับเฉินอี้ฟาน หรือแม้แต่ไทเกอร์คอร์ปที่กำลังจับตาดูเราอยู่?”
ในที่สุดเขาก็ถามออกมา... คำถามที่อัดอั้นอยู่ในใจ
“แล้วเราจะ...”
ซูเหม่ยหลินยังคงนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา ร่างของเธอยังคงจมอยู่ในเงามืด แต่เธอกลับหัวเราะออกมาเบาๆ ... เป็เสียงหัวเราะที่ไม่มีความขบขันเจือปน มีเพียงความรู้สึกเหมือนผู้ใหญ่ที่กำลังมองดูเด็กน้อยกังวลว่าของเล่นจะพัง
“เราจะหาใหม่”
เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย ราวกับกำลังพูดถึงการไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ไม่มีความกังวลไม่มีความกดดันมีเพียงความจริงอันเรียบง่ายที่ไม่อาจโต้แย้งได้ หวังเทียนซานถึงกับพูดไม่ออก... หาใหม่? เงินหลายร้อยล้านหยวนเนี่ยนะที่จะหามาใหม่ได้ง่ายๆ! ผู้หญิงคนนี้เสียสติไปแล้วหรืออย่างไร? แล้วเขามาทำอะไรที่นี่!! หวังเทียนซานได้แต่ภาวนาว่าตัวเองไม่ได้คิดผิดหรือเสียสติที่มารวมหัวจมท้ายกับสิ่งที่ยังจับต้องไม่ได้แบบนี้..
แล้วซูเหม่ยหลินก็ค่อยๆ เคลื่อนไหว เด็กสาวค่อยๆ ลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าต่างกระจกบานั์ที่ทอดมองเห็นเส้นเืใหญ่ทางการเงินของเซี่ยงไฮ้ที่ส่องสว่างอยู่เบื้องล่าง
“ฉันเข้าใจความกังวลของคุณ คุณหวัง” เธอกล่าว โดยที่ยังไม่หันกลับมา
“คุณมองเห็นตัวเลข คุณมองเห็นค่าใช้จ่าย คุณมองเห็นความเสี่ยงที่อยู่ตรงหน้า นั่นคือโลกของคนทั่วไป”
“สำหรับคนทั่วไป เงินคือสิ่งที่ต้อง ‘หา’ มาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย ต้องต่อสู้แย่งชิง... และต้องหวาดกลัวว่าจะสูญเสียมันไป”
เธอหันกลับมา แสงไฟจากตึกระฟ้าเบื้องนอกสาดส่องเข้ามาในห้อง ทำให้แววตาของนางทอประกายลึกล้ำจนน่าสะพรึงกลัว
“แต่สำหรับฉัน เงินไม่ใช่สิ่งที่ต้อง หา...”
“...มันคือสิ่งที่ต้อง เก็บเกี่ยว”
หวังเทียนซานรู้สึกเหมือนถูกค้อนทุบเข้าที่กลางอก! เก็บเกี่ยว!เธอใช้คำว่าเก็บเกี่ยว! ราวกับว่าความมั่งคั่งมหาศาลของโลกใบนี้เป็เพียงผลผลิตในไร่นาของเธอที่รอให้ไปเก็บเท่านั้น!
“โลกการเงินที่พวกคุณเห็นว่ามันซับซ้อนและน่ากลัว สำหรับฉัน มันเป็เพียงมหาสมุทรที่เปิดเปลือย” เธอกล่าวต่อ น้ำเสียงของเด็กสาวแฝงไว้ด้วยอำนาจของผู้ที่อยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง
“คนอื่นอาจจะเห็นแค่คลื่นลมที่บ้าคลั่งบนผิวน้ำ แต่ฉันมองเห็นทุกกระแสน้ำอุ่น ทุกรอยแยกของเปลือกโลกใต้ทะเล... และมองเห็นทุกหีบสมบัติที่จมอยู่ใต้ก้นบึ้ง ก่อนที่ใครจะทันได้เริ่มออกเรือด้วยซ้ำ”
นี่ไม่ใช่ความเย่อหยิ่ง...
หวังเทียนซานตระหนักได้ในทันที สิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ไม่ใช่ความโอ้อวดแต่มันคือ ความจริงแท้.. เป็ความมั่นใจอย่างสมบูรณ์แบบที่น่าสะพรึงกลัวกว่าความเย่อหยิ่งใดๆ ในโลก!
“เงินทุนไม่ใช่ปัญหาของเรา คุณหวัง... มันไม่เคยเป็ และจะไม่มีวันเป็”
ซูเหม่ยหลินเดินกลับมานั่งที่เดิม สายตาของเธอจ้องตรงมาที่เขา... เป็สายตาที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็เพียงมดปลวกที่กำลังสนทนากับพระเ้า
“และคุณ จะได้เห็นวิธีการทำงานของฉันเป็ครั้งแรก”
เธอหันแล็ปท็อปของเธอกลับมา บนหน้าจอไม่ได้มีกราฟหุ้นที่ซับซ้อน แต่กลับมีโครงสร้างองค์กรของบริษัทแห่งหนึ่ง
“นี่คือเป้าหมายต่อไปของเรา” เธอกล่าว
สายตาของเธอจับจ้องไปที่หุ้นของบริษัทโฮลดิ้งแห่งหนึ่งที่ชื่อว่าโกลเรียส ฟิวเจอร์ โฮลดิ้งส์’ (รหัส: GFH) บริษัทที่เปลือกนอกดูสวยหรู มีการเติบโตที่น่าอัศจรรย์และเป็ที่รักของนักลงทุนรายย่อย แต่ซูเหม่ยหลินรู้ดีจากความทรงจำในอนาคต ว่าทั้งหมดนั้นคือเื่โกหก มันคือปราสาททรายที่สร้างขึ้นจากการตกแต่งบัญชีและข่าวลวง และปราสาทหลังนี้ กำลังจะพังทลายลงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เมื่อรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดถูกประกาศออกมา
เธอจะไม่ซื้อ แต่เธอจะ ‘ขายชอร์ต (Short-sell) ’
มันคือการเดิมพันว่าหุ้นจะร่วง การยืมหุ้นจากโบรกเกอร์มาขายในราคาปัจจุบัน และรอซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่าเพื่อทำกำไร แต่ถ้าหากหุ้นกลับพุ่งขึ้นสวนทาง การขาดทุนของเธอจะไม่มีขีดจำกัด!
“GFH คือบริษัทที่ดูดีแต่เปลือกนอก สร้างการเติบโตขึ้นมาจากการตกแต่งบัญชีและข่าวลวง และในอีกสามวันข้างหน้า พวกเขาจะประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ซึ่งฉันรู้ดีว่าผู้ตรวจสอบบัญชีจะปฏิเสธที่จะลงนามรับรอง”
หวังเทียนซานเบิกตากว้าง “นั่นหมายความว่าหุ้นของมันกำลังจะ กลายเป็เศษกระดาษ!”
“ถูกต้อง” เธอยืนยัน
“และเรา... จะเป็คนได้กำไรจากความพินาศของมัน”
“ท่านจะให้ผม... ขายชอร์ต?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจ
“ฉันจะทำด้วยตัวเอง” เธอตอบ
“หน้าที่ของคุณคือจับตาดู และเรียนรู้”
การล่าครั้งใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ มันโเี้และอันตรายกว่าครั้งก่อนหลายเท่า สำหรับหวังเทียนซานนั้นตอนนี้เขายังไม่เชื่อ แต่เขาจะไม่พูดออกไป เขาจะเฝ้าดูเช่นกัน เฝ้าดูว่าเธอคนนี้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการเป็ผู้นำของเขาหรือไม่
ซูเหม่ยหลินใช้เงินสดสองล้านหยวนสุดท้ายเป็หลักประกัน เพื่อเปิดสถานะขายชอร์ตในหุ้น GFH ด้วยมูลค่ามหาศาลกว่า สองร้อยล้านหยวน ผ่านโบรกเกอร์ในต่างประเทศที่ให้อัตรา Leverage สูงสุด! มันคือการเดิมพันที่บ้าคลั่ง หากการคาดการณ์ของเธอผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว หรือหากมีตัวแปรที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น พวกเขาจะไม่ใช่แค่หมดตัว แต่จะติดหนี้มหาศาลไปตลอดชีวิต!
วันจันทร์ เธอเริ่มเปิดสถานะขายชอร์ตอย่างเงียบเชียบ ราคาหุ้น GFH ยังคงทรงตัวอยู่ที่ 25 หยวน ทุกอย่างเป็ไปตามแผน
วันอังคาร สถานการณ์เริ่มตึงเครียด! CEO ของ GFH ผู้รู้ดีว่ารายงานผลประกอบการกำลังจะย่ำแย่ ได้ออกมาให้ข่าวเื่ แผนการร่วมทุนกับต่างชาติ ที่ไม่มีอยู่จริง! ข่าวลวงนั้นได้ผล นักลงทุนรายย่อยแห่กันเข้ามาซื้อหุ้น ดันราคาให้พุ่งขึ้นไปถึง 27 หยวน!
พอร์ตของซูเหม่ยหลินกลายเป็สีแดงฉาน! เธอขาดทุนทางบัญชีไปแล้วกว่าสิบล้านหยวน! โบรกเกอร์เริ่มส่งสัญญาณเตือนเื่ Margin Call (การบังคับให้ปิดสถานะเพื่อป้องกันการขาดทุน)
นี่คือาจิตวิทยากับเวลาและความทรงจำ! ทุกสัญชาตญาณของนักลงทุนทั่วไปกำลังกรีดร้องให้เธอรีบตัดขาดทุน... แต่ซูเหม่ยหลินเพียงแค่นั่งจ้องหน้าจอด้วยสายตาที่เ็า... เธอไม่ได้ต่อสู้กับตลาด... แต่กำลังต่อสู้กับ CEO จอมปลอมคนนั้นผ่านกระดานหุ้น... และเธอรู้ว่าไพ่ในมือของใครเหนือกว่า
ตลาดตอบรับข่าวจอมปลอมนั้นอย่างบ้าคลั่ง! ราคาหุ้น GFH พุ่งขึ้นกว่า 10% ในวันเดียว!
พอร์ตการลงทุนของซูเหม่ยหลินกลายเป็สีแดงฉาน! ตัวเลขขาดทุนทางบัญชีพุ่งสูงถึงยี่สิบล้านหยวน! สัญญาณเตือน Margin Call สว่างวาบขึ้นบนหน้าจอ!
หวังเทียนซานที่ยืนดูอยู่ข้างหลังถึงกับเหงื่อตก หัวใจของเขาเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมานอกอก! นี่มันไม่ใช่การลงทุน นี่มันคือการฆ่าตัวตายชัดๆ! เขาค่อยเหลือบตามองไปที่เ้านายอีกครั้ง
“ท่านประธานครับ! เราควรจะรีบตัดขาดทุน...”
“นิ่งๆ”
“นิ่งเข้าไว้”
ซูเหม่ยหลินสั่งการด้วยน้ำเสียงที่เยียบเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็ง ดวงตาของเธอยังคงจับจ้องที่หน้าจอไม่วางตา
“ตลาดหุ้นไม่ใช่สนามเด็กเล่น คุณหวัง.. มันคือสนามรบที่ผู้อ่อนแอที่สุดจะถูกกินก่อนเสมอ และคืนนี้ เราคือผู้ล่า ไม่ใช่เหยื่อ ดังนั้นไปชงชาชั้นเลิศมาและรอ!!”
หน้าจอแสดงตัวเลขขาดทุนสีแดงฉานเกือบสี่แสนหยวน! ความกดดันเริ่มถาโถมเข้ามา แม้แต่ในห้องที่เปิดแอร์จนเย็นฉ่ำ แต่หวังเทียนซานกลับรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ซึมอยู่ตามไรผม เขาเหลือบมองเ้านายอีกครั้ง เธอ ก็ยังคงไม่ไหวติง...
เ้านายสาวของเขา ไม่แม้แต่จะกะพริบตา...
ในขณะที่โลกภายนอกกำลังบ้าคลั่ง ในขณะที่นักลงทุนนับล้านกำลังตื่นตระหนกกับข่าวลือจอมปลอม ในขณะที่ตัวเลขสีแดงฉานบนหน้าจอกำลังกรีดร้องถึงความพินาศ...
แต่ในโลกภายในของซูเหม่ยหลิน กลับมีเพียงความสงบนิ่งอันสมบูรณ์แบบ...
เพราะนี่ไม่ใช่ การเดิมพัน... สำหรับเธอ มันคือการ อ่านทบทวนประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นแล้ว
คนอื่นอาจจะมองเห็นเพียงคลื่นลมที่บ้าคลั่งบนผิวน้ำ แต่เธอมองเห็นการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกใต้ก้นบึ้งมหาสมุทร เธอรู้ว่าสึนามิลูกที่แท้จริงกำลังจะมา และคลื่นลมในตอนนี้เป็เพียงแค่ระลอกคลื่นเล็กๆ ที่น่ารำคาญเท่านั้น
นี่คือความยิ่งใหญ่ และคือความอหังการอันเยียบเย็นของผู้กุมอนาคต...
มันคือความรู้สึกของผู้เขียนนิยายที่รู้ตอนจบของเื่ราวทั้งหมดแล้ว แต่นั่งมองดูตัวละครของตัวเองกำลังดิ้นรนและหวาดกลัวไปกับโชคชะตาในบทแรกๆ ... มันคือความรู้สึกของปรมาจารย์หมากล้อมที่มองเห็นกระดานทั้งใบในอีกห้าสิบก้าวข้างหน้า ในขณะที่คู่ต่อสู้ยังคงขบคิดอยู่กับการเดินหมากเพียงตาเดียว...
ความทรงจำจากอนาคตไม่ใช่แค่ ความเชื่อมั่น.. แต่มันคือสัจธรรมที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ คือสมอเรือที่หนักแน่นดั่งภูผาที่ยึดเธอไว้ท่ามกลางพายุแห่งความผันผวน
เธอเดิมพันทุกอย่างลงไปบนความเชื่อมั่นนั้น ไม่ใช่ด้วยความบ้าบิ่น แต่ด้วยความมั่นใจอันสมบูรณ์แบบของผู้ชนะที่รู้ผลลัพธ์ั้แ่ก่อนาจะเริ่มต้นขึ้นด้วยซ้ำ!
และแล้วก็ถึงวันที่สาม…. วันพิพากษา...
ตลาดหุ้นปิดทำการเวลา 15:00 น และ GFH จะประกาศผลประกอบการในเวลา 16:30 น. ตลอดทั้งวัน ราคาหุ้นยังคงลอยตัวอยู่ในระดับสูง พอร์ตของเธอยังคงขาดทุนอย่างหนัก หวังเทียนซานโทรเข้ามารายงานความคืบหน้าเื่การจดทะเบียนบริษัท แต่เธอเพียงแค่ตอบรับสั้นๆ แล้ววางสายไป สมาธิทั้งหมดของเธอจดจ่ออยู่กับาที่มองไม่เห็นนี้
16:29 น.... หนึ่งนาทีก่อนการประกาศ... อากาศในห้องราวกับจะจับตัวเป็น้ำแข็ง
16:30 น.... ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
16:35 น.... ยังคงเงียบ... ‘หรือว่ามันจะเลื่อนการประกาศ?’ ความคิดที่น่าหวาดหวั่นแวบเข้ามาในหัว
16:41 น....
ป๊อป!
หน้าต่างข่าวด่วนเด้งขึ้นมา... ไม่ใช่รายงานผลประกอบการ แต่เป็...
‘ด่วน! GFH ประกาศ เลื่อน การส่งรายงานผลประกอบการ หลังผู้ตรวจสอบบัญชีปฏิเสธที่จะลงนามรับรอง และออก หมายเหตุเตือนถึงความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง!’
‘หมายเหตุเตือน’ ... มันคือศัพท์ทางการเงินที่แปลว่า... ‘บริษัทนี้กำลังจะเจ๊ง!’
วินาทีนั้นเอง... ห่าฝนโลหิตก็ได้ตกลงมาในตลาดซื้อขายนอกเวลา!
คำสั่งขาย (Offer) นับร้อยล้านหุ้นถูกถล่มออกมาจากกองทุนสถาบันที่รู้ความจริง! ราคาหุ้น GFH ที่เคยอยู่ที่ 27 หยวน... ร่วงดิ่งลงเหวในแนวดิ่ง!
20 หยวน... 15 หยวน... 10 หยวน... 5 หยวน!!!
ในตลาด Pre-market ของเช้าวันรุ่งขึ้น... ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 2.5 หยวน!... มูลค่าของมันหายไปกว่า 90% ในชั่วข้ามคืน!
ซูเหม่ยหลินกดซื้อหุ้นคืนเพื่อปิดสถานะขายชอร์ตทั้งหมดของเธอ...ตัวเลขกำไรสุทธิที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ทำให้เธอต้องแสยะยิ้มออกมา...ซูเหม่ยหลินกด เพื่อปิดสถานะขายชอร์ตทั้งหมดของเธอด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ตัวเลขกำไรสุทธิที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ทำให้หวังเทียนซานถึงกับต้องยกมือขึ้นขยี้ตา...
+ 180,000,000 หยวน!
จากเงินสองล้าน กลายเป็ร้อยแปดสิบล้าน ภายในเวลาสามวัน!หวังเทียนซานมองใบหน้าด้านข้างของซูเหม่ยหลิน ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แค่อัจฉริยะ แต่เธอคือปีศาจแห่งโลกการเงินโดยแท้! ความเคารพยำเกรงในใจของเขาทวีคูณขึ้นเป็ร้อยเท่า หากว่าเป็ในยุคโบราณเขาคงจะคุกเข่าให้เธอแล้ว
“เอาหละ ตอนนี้เรามีทุนแล้ว”
ซูเหม่ยหลินกล่าวเรียบๆ
“เริ่มงานของคุณได้แล้ว คุณหวัง”
หลังจากนั้นทุกอย่างก็ดำเนินไปราวกับติดเทอร์โบ หวังเทียนซานใช้เงินทุนก้อนใหม่นี้เช่าสำนักงานว่าจ้างบริษัทกฎหมายและบัญชีที่ดีที่สุด และจดทะเบียนบริษัทภายใต้โครงสร้างที่ซับซ้อนเพื่อปกปิดตัวตนของซูเหม่ยหลิน
ในคืนที่สำนักงานแห่งใหม่ถูกจัดเตรียมจนเสร็จสิ้น พวกเขาได้ประชุมสายลับเพื่อตัดสินใจเื่ชื่อบริษัท
“...บริษัทของเราจะใช้ชื่อว่า...ฟีนิกซ์เทค”
เสียงสังเคราะห์ของซูเหม่ยหลินประกาศก้อง
“เพราะเราจะเกิดใหม่จากเถ้าถ่าน และทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยเปลวเพลิงที่จะแผดเผาทุกสิ่งที่ขวางหน้า”
หวังเทียนซานรู้สึกขนลุก... เขาััได้ถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าที่ซ่อนอยู่เื้ัชื่อนั้น
“คุณคือใบหน้าและเสียงของฟีนิกซ์เทค...” เสียงสังเคราะห์ของเธอกล่าวต่อ “...ส่วนฉันคือเงามืดที่คอยกระซิบอยู่ข้างหูคุณ... จงจำไว้เสมอว่าเงามีไว้เพื่อซ่อนตัว... และเพื่อโจมตีในตอนที่ศัตรูตายใจที่สุด”
บัดนี้ ทั้งเงินทุนและขุนพลต่างก็พร้อมแล้ว อาณาจักรแห่งการล้างแค้นได้ถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเป็ทางการ รอเพียงเวลาที่จะเปิดฉากาเท่านั้น
.…..