รัตติกาลอันมืดมิดห่มคลุมป่าทึบที่หลินเว่ยและคณะเดินทางผ่าน ท้องฟ้าสีแดงอมม่วงผิดธรรมชาติยังคงเป็เครื่องเตือนใจถึงหายนะที่กำลังแผ่ขยายไปทั่วโลก แสงจันทร์สาดส่องผ่านยอดไม้เป็ริ้วๆ ทำให้มองเห็นเส้นทางได้พอประมาณ
"เราต้องพักสักหน่อย" หลิวซินกระซิบ ขณะพาทุกคนมาหลบอยู่ในโพรงหินใหญ่ริมลำธาร "พวกทหารคงตามมาไม่ถึงที่นี่ในคืนนี้ ทุกคนควรได้พักผ่อน"
หลินเว่ยวางกระเป๋าลงด้วยความโล่งอก ร่างกายของเขาเ็ปไปทั้งตัวจากการเดินทางหนีตายอันยาวนาน เชื้อไวรัสในร่างกายเขายังคงดิ้นรนต่อสู้กับพลังชี่ที่เริ่มก่อตัว บางครั้งทำให้เขารู้สึกเหมือนมีไฟแผดเผาอยู่ภายใน
"ผมจะเฝ้ายามก่อน" หลินเว่ยอาสา "ทุกคนพักเถอะ"
หลิวซินส่ายหน้า "คุณต้องพักให้มากที่สุด คุณต้องใช้พลังต่อสู้กับเชื้อในร่างกาย ฉันจะเฝ้าเอง"
เมิ่งหลิงที่ร่วมเดินทางมาด้วยนั่งลงข้างลำธาร ล้างแผลถลอกที่แขน "เราจะไปถึงที่ปลอดภัยได้จริงหรือ?" เธอถามเสียงแ่ ดวงตาฉายแววกังวล
"เรายังมีความหวัง" หลิวซินตอบ "ชุมชนบนูเามีปราการธรรมชาติป้องกัน และมีผู้รู้วิชาโบราณที่อาจช่วยเราได้"
หลินเว่ยทรุดตัวลงนั่ง หลับตาลงเพื่อเริ่มต้นฝึกท่า ัหลับใหล เขา้ารวบรวมพลังชี่ให้มากพอเพื่อต่อสู้กับเชื้อร้ายในร่างกาย การหายใจเข้าลึกๆ อย่างสม่ำเสมอทำให้เขารู้สึกถึงกระแสพลังงานอุ่นๆ ไหลเวียนภายใน
ทันใดนั้น ความรู้สึกแปลกประหลาดก็แล่นผ่านสันหลังของเขา ประสาทััที่ถูกปลุกด้วยท่า ัตื่นกาย ส่งสัญญาณเตือนภัย
ดวงตาของหลินเว่ยเบิกกว้าง "มีอะไรบางอย่างกำลังมา!"
หลิวซินดึงมีดออกมาทันที เธอรู้สึกได้เช่นกัน "อยู่ด้านหลังพวกเรา ทุกคนรีบหลบเข้าไปในป่า!"
แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันหนี เสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงกลัวก็ดังสะท้อนระหว่างโขดหิน ร่างของมนุษย์ติดเชื้อสามคนะโลงมาจากหน้าผา้า ดวงตาเรืองแสงสีแดงในความมืด พวกมันเดินเซไปมาอย่างน่ากลัว เืแห้งกรังเป็คราบติดอยู่ตามร่าง ิัของพวกมันเน่าเปื่อยเป็หย่อมๆ เผยให้เห็นเนื้อสีแดงคล้ำและเส้นเืสีดำที่ขมวดเป็ปม บางจุดมีเกล็ดแข็งสีเทาขึ้นปกคลุม
ั์ตาที่เรืองแสงสีแดงนั้นไม่มีม่านตาหรือความเป็มนุษย์หลงเหลืออยู่เลย น้ำลายเหนียวข้นสีเขียวอมดำหยดจากปากที่แยกยิงเผยเขี้ยวแหลมคม กลิ่นเหม็นเน่าของเนื้อที่ตายแล้วลอยคละคลุ้ง ดึงดูดแมลงวันที่บินวนเวียนรอบร่าง เสียงคำรามต่ำในลำคอไม่คล้ายเสียงมนุษย์ แต่เป็เสียงของสัตว์ร้ายที่ตกอยู่ในความทรมาน
"ปิดทางออก!" เมิ่งหลิงกรีดร้อง
หลินเว่ยหันไปมองทิศทางที่เมิ่งหลิงชี้ ผู้ติดเชื้ออีกกลุ่มกำลังปีนลงมาจากโขดหินอีกด้าน พวกเขาถูกล้อมโดยสมบูรณ์
"หลบหลังฉัน!" หลิวซินะโ เตรียมมีดในมือ
หลินเว่ยมองหารอบตัว พยายามหาทางออก แต่มีเพียงลำธารเื้ัเท่านั้นที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อปรากฏตัว
"ะโลงน้ำ!" เขาะโ
"น้ำเชี่ยวเกินไป!" เมิ่งหลิงตอบ ใบหน้าซีดเผือด
ผู้ติดเชื้อคนแรกพุ่งเข้ามา หลิวซินเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกรีดมีดผ่านลำคอของมัน เืสีดำพุ่งออกมา แต่มันยังคงพยายามจะเข้ามาจับเธอ
หลินเว่ยรู้สึกถึงพลังชี่ในร่างกายเริ่มไหลเวียนรุนแรงขึ้น เขานึกถึงท่า ัตื่นกาย ที่หลิวซินสอนให้ ภาพของการเคลื่อนไหวและการหายใจปรากฏชัดในความคิด
เขาหลับตาลงชั่วครู่ หายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับยกแขนขึ้นช้าๆ จินตนาการว่ากำลังดึงพลังจากพื้นดินขึ้นมา เมื่อแขนยกถึงระดับอก เขาหมุนฝ่ามือออกแล้วผลักออกไปข้างหน้า
ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกเหมือนโลกรอบตัวหยุดนิ่ง ประสาทััทุกอย่างถูกขยายจนสุดขีด เขาสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของเมิ่งหลิง เสียงใบไม้ไหวในสายลม และที่สำคัญ—เขาสามารถรับรู้การเคลื่อนไหวของผู้ติดเชื้อทุกคนได้อย่างชัดเจน
ผู้ติดเชื้ออีกคนพุ่งเข้ามา หลินเว่ยหลบหลีกด้วยความเร็วที่เขาเองยังแปลกใจ รับรู้ทิศทางการโจมตีก่อนที่มันจะเกิดขึ้น เขาคว้าท่อนไม้ที่อยู่ใกล้มือและฟาดเข้าที่ขาของผู้ติดเชื้อ ทำให้มันล้มลง
"หลินเว่ย! ระวัง!" เมิ่งหลิงะโ ขณะที่ผู้ติดเชื้อตัวใหญ่พุ่งเข้ามาทางด้านหลัง
หลินเว่ยหันไปทันเวลาพอดี เขาเบี่ยงตัวหลบการโจมตี รู้สึกได้ถึงแรงลมจากกรงเล็บที่พุ่งเฉียดใบหน้าไป
"นี่เป็การใช้ ัตื่นกาย เป็ครั้งแรกของคุณ!" หลิวซินะโขณะต่อสู้กับผู้ติดเชื้ออีกคน "ใช้ประสาทััที่ตื่นตัวนำทางคุณ!"
หลินเว่ยไม่มีเวลาตอบ เขาทุ่มสมาธิทั้งหมดให้กับการเคลื่อนไหวและการรับรู้รอบตัว เสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่ร่วมเดินทางมาดังแว่วมาจากที่ไกล ตามด้วยเสียงกระดูกหักดังกรอบแกรบและเสียงฉีกกระชากของเนื้อ น้ำตาคลอเบ้าตาของหลินเว่ย เธอชื่อหลิน—เขานึกได้ นักศึกษาปีสามที่บังเอิญพบกันระหว่างหลบหนี
เธอมีน้องชายที่รออยู่ที่บ้าน น้องชายที่เธอสัญญาว่าจะกลับไปหา แต่ตอนนี้...เขาไม่อาจหันไปมอง ได้แต่กัดฟันกลั้นความเ็ปไว้ในใจ อีกหนึ่งชีวิตที่โลกใบนี้พรากไป อีกหนึ่งความฝันที่ไม่มีวันเป็จริง ความเร็วและความแม่นยำของเขาเพิ่มขึ้นทุกขณะ ร่างกายเคลื่อนไหวเหมือนไม่ใช่ตัวเอง ราวกับมีบางสิ่งนำทาง
แม้ว่าท่า ัตื่นกาย จะช่วยให้พวกเขาต่อสู้ได้อย่างน่าทึ่ง แต่ผู้ติดเชื้อก็มีจำนวนมากเกินไป พวกเขาเริ่มถูกบีบให้ถอยลงสู่ลำธาร
ขณะที่สถานการณ์ดูเหมือนจะสิ้นหวัง เสียงปืนหลายนัดก็ดังขึ้นจากที่ไกลๆ ผู้ติดเชื้อหลายตัวล้มลงด้วยะุที่แม่นยำ
"ช่วยด้วย! ทางนี้!" เสียงของหญิงสาวะโมาจากยอดเขา้า
ทั้งสามคนมองขึ้นไป เห็นกลุ่มคนประมาณห้าคนกำลังยิงปืนมาทางผู้ติดเชื้อ หนึ่งในนั้นโบกมือให้พวกเขา
"ปีนขึ้นมาทางนี้! เร็วเข้า!"
หลินเว่ยและคณะไม่รอช้า พวกเขาปีนขึ้นไปตามโขดหินอย่างรวดเร็ว ขณะที่กลุ่มผู้ช่วยเหลือยังคงยิงปืนไล่ผู้ติดเชื้อ เมื่อขึ้นมาถึง้า พวกเขาจึงได้เห็นหน้ากลุ่มผู้ช่วยชีวิตอย่างชัดเจน
หญิงสาวผมยาวในชุดพรางทหารเป็ผู้นำกลุ่ม เธอมีรอยแผลเป็พาดผ่านแก้มซ้าย ดวงตาคมแข็งแกร่ง
"พวกคุณดวงดีที่เรามาเจอ" เธอพูด น้ำเสียงเฉียบขาด "ฉันชื่อเมิ่งหลิง เราเป็กลุ่มผู้รอดชีวิตที่กำลังเดินทางไปยังูเาเช่นกัน"
หลินเว่ยมองหญิงสาวด้วยความรู้สึกแปลกๆ "คุณชื่อเมิ่งหลิงหรือ?" เขาทวนชื่อ "เหมือนชื่อเธอเลย" เขาชี้ไปที่เมิ่งหลิงที่มากับพวกเขา
ทั้งสองเมิ่งหลิงมองหน้ากัน ดวงตาฉายแววประหลาดใจ
"เื่นี้พูดกันทีหลัง" หลิวซินแทรกขึ้น "ตอนนี้เราต้องไปจากที่นี่ก่อน ผู้ติดเชื้อกำลังพยายามปีนขึ้นมา"
กลุ่มของเมิ่งหลิงคนใหม่พยักหน้า นำพวกเขาเข้าไปในป่าทึบ พวกเขาเดินทางกันอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ จนห่างจากผู้ติดเชื้อที่ตามมาไม่ทัน
เมื่อมาถึงค่ายชั่วคราวที่ซ่อนอยู่ในโพรงถ้ำ ทุกคนจึงนั่งพักและเริ่มแนะนำตัว
"ฉันเป็อดีตทหารหน่วยพิเศษ" เมิ่งหลิงคนใหม่อธิบาย "เรารวมตัวกันหลังจากที่การระบาดเริ่มขึ้น เราพยายามช่วยเหลือผู้รอดชีวิตระหว่างทางไปูเา"
"ทำไมูเาถึงสำคัญนัก?" เมิ่งหลิงคนเดิมถาม
"มีชุมชนโบราณที่นั่น" เมิ่งหลิงคนใหม่ตอบ "พวกเขามีความรู้ในการต่อต้านเชื้อโรคร้ายแรง และอยู่ห่างไกลจากการเข้าถึงขององค์กรเทียนซื่อ"
หลินเว่ยสบตากับหลิวซิน ราวกับได้รับการยืนยันว่าจุดหมายของพวกเขาถูกต้องแล้ว
"พวกคุณไปที่นั่นทำไม?" เมิ่งหลิงคนใหม่ถาม
หลิวซินลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเล่าความจริง "หลินเว่ยติดเชื้อ แต่ยังไม่แสดงอาการ เราพบตำราโบราณที่อาจช่วยเขาได้..."
ดวงตาของเมิ่งหลิงคนใหม่เบิกกว้าง เธอจ้องมองหลินเว่ยราวกับเห็นผี "คุณติดเชื้อแล้วยังปกติอยู่งั้นเหรอ? นานแค่ไหนแล้ว?"
"เกือบสัปดาห์" หลินเว่ยตอบ "ผมััเืของผู้ติดเชื้อในโรงพยาบาล"
เมิ่งหลิงคนใหม่หันไปกระซิบกับสมาชิกในกลุ่ม ก่อนจะหันกลับมา "คุณต้องเป็คนพิเศษแน่ๆ โดยปกติผู้ติดเชื้อจะแสดงอาการภายใน 24 ชั่วโมง และฉันยังไม่เคยเห็นใครต้านทานได้นานขนาดนี้"
"เป็เพราะตำรา" หลิวซินอธิบาย "วิชาัทะยานฟ้าช่วยให้เขาพัฒนาพลังชี่ที่ต่อต้านเชื้อได้"
แววตาของเมิ่งหลิงคนใหม่เปลี่ยนไป เธอจ้องมองหลินเว่ยอย่างสนใจอย่างยิ่ง "คุณคือกุญแจสำคัญ" เธอพูดช้าๆ
"คุณหมายความว่าอย่างไร?" หลินเว่ยถาม
"มีคำทำนายโบราณของชุมชนูเา" เมิ่งหลิงคนใหม่อธิบาย "ว่าในยามที่มนุษยชาติเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ จะมีผู้ที่แตกต่าง—ผู้ที่สามารถต้านทานหายนะและฟื้นฟูโลกขึ้นใหม่ พวกเขากำลังรอคนแบบคุณ หลินเว่ย"
คำพูดนั้นทำให้ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
"พวกเราจะออกเดินทางพรุ่งนี้ตอนเช้า" เมิ่งหลิงคนใหม่บอก "ถ้าเราเร่งเดินทาง อาจถึงูเาได้ในอีกสามวัน ทุกคนพักผ่อนให้เต็มที่ คืนนี้ฉันจะจัดเวรยามเอง"
ขณะที่ทุกคนแยกย้ายไปพักผ่อน หลินเว่ยกลับรู้สึกวิตกกังวลมากขึ้น เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีความสำคัญถึงเพียงนี้ เขาเป็เพียงนักศึกษาแพทย์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้กลับกลายเป็ "กุญแจสำคัญ" ที่ทุกคนพูดถึง
ทั้งองค์กรเทียนซื่อที่้าจับตัวเขา ชุมชนบนูเาที่รอคอยเขา และยังมีความลับเกี่ยวกับชาติกำเนิดของเขาที่ยังไม่ได้เปิดเผย
หลินเว่ยนอนลงอย่างเหนื่อยล้า แต่ก่อนที่จะหลับ เขาได้ยินเสียงกระซิบระหว่างเมิ่งหลิงทั้งสอง
"คุณไม่ได้บอกเขาเื่ที่เกิดขึ้นหรือ?" เมิ่งหลิงคนใหม่ถาม
"ยังไม่ถึงเวลา" เมิ่งหลิงคนเดิมตอบ "เขายังไม่พร้อม"
"เวลาของเราเหลือน้อยแล้ว ทุกอย่างเริ่มต้นแล้ว..."
หลินเว่ยพยายามตั้งใจฟังต่อ แต่ความเหนื่อยล้าทำให้เขาหลับไป โดยที่ไม่รู้ว่าความลับอะไรที่ทั้งสองคนกำลังปิดบังเขาอยู่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้