"ซื้อแป้งสาลีมาด้วย ท่านอยากกินอะไร บะหมี่ ซาลาเปา เมี่ยนปิ่ง [1] เกี๊ยวนึ่ง หรือว่าเกี๊ยวน้ำดีล่ะ คิกๆ เลือกรายการอาหารมาได้ตามสบาย ไม่มีสิ่งใดยากเกินความสามารถของข้า"
ตอนอยู่บ้าน ปู่ของเธอไม่ยอมให้ซื้อบะหมี่จากนอกบ้านมากิน ต้องทำบะหมี่กินเอง เธอจึงได้ฝึกปรือฝีมือด้วยเหตุนี้
เหลียนเซวียนเหลือบมองนางปราดหนึ่ง ก่อนส่ายหน้าเป็การบอกว่าอะไรก็ได้ทั้งนั้น
เซวียเสี่ยวหรั่นกลับอยากร้อง "ชิ!" ในใจ อย่านึกว่าเธอดูไม่ออก บอกว่าไม่เลือกอาหาร แต่แท้จริงแล้ว มีของหลายอย่างที่เขาไม่ชอบกิน
บุรุษแดนเหนืออย่างเขาน่าจะเคยชินกับการกินอาหารจำพวกแป้งอยู่แล้ว
เซวียเสี่ยวหรั่นปรามาสในใจ เริ่มวางแผนว่าพรุ่งนี้เช้าจะทำบะหมี่หรือว่าห่อเกี๊ยว
เธอลืมสั่งซื้อลังถึง จึงยังนึ่งซาลาเปากับหม่านโถวไม่ได้ชั่วคราว
อันที่จริง เธอชอบกินเกี๊ยวน้ำมากกว่า
แต่ในเรือนมีคนป่วย เธอต้องโอนอ่อนผ่อนตาม
อาหารไม่หลากหลายนัก ล้วนแต่เป็อาหารพื้นๆ ผัดผักป่ามีรสขมอ่อนๆ แต่ทั้งสองก็กินอย่างสำราญใจ
วันๆ กินแต่เนื้อตุ๋น เนื้อย่าง เนื้อกระทะ กินจนขยาดแล้ว ผักสดใหม่ทุกชนิดจึงเป็ที่ถูกปากมาก
"วันนี้ขุดผักจี้ไช่มาไม่น้อย พรุ่งนี้ห่อเกี๊ยวหมูกับจี้ไช่แล้วก็เกี๊ยวหมูกับจิ่วไช่แล้วกัน" เซวียเสี่ยวหรั่นนึกถึงผักในครัวที่เหลืออยู่ พุ้ยข้าวใส่ปากไปคุยไป
แม่นางผู้นี้ไม่คุ้นชินกับธรรมเนียมกินไม่พูดนอนไม่เอ่ยหรือไร เหลียนเซวียนหน้าบึ้งตึง
"เื่ที่ต้องทำพรุ่งนี้มีมากมาย ซีมู่เซิงบอกว่าจะให้น้องสาวของเขามาช่วยตัดชุดให้พวกเรา" เซวียเสี่ยวหรั่นกินไปก็พูดไปเรื่อย "นี่เป็เื่ใหญ่ ไม่มีเสื้อผ้าที่เหมาะสม แม้แต่ประตูก็ออกไปไม่ได้"
เหลียนเซวียนนึกถึงอาภรณ์ตัวยาวที่จะสั้นก็ไม่สั้นจะยาวก็ไม่ยาวของตนเองแล้วก็นิ่งเฉย
"วันนี้ไปหลังเขากับอาเหลย พบเด็กชายผอมกะหร่องคนหนึ่งปีนหน้าผาไปเก็บลูกหม่อน ทำเอาข้าใจนเหงื่อท่วมเลยทีเดียว"
ปากของเซวียเสี่ยวหรั่นพูดไม่หยุด เล่าทั้งที่อาหารเต็มปากว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อตอนกลางวัน
รอเขาพูดได้เมื่อไร จะต้องแก้นิสัยกินไปพูดไปของนางให้จงได้ หน้าผากของเหลียนเซวียนเต้นตุบๆ
เซวียเสี่ยวหรั่นไม่รู้ตัวสักนิดว่าถูกผู้อื่นรังเกียจเข้าเสียแล้ว
ในยุคปัจจุบัน เมื่อคนในครอบครัวกินข้าวร่วมกัน ก็จะกินไปดูทีวีไป ขณะเดียวกันก็พูดคุยกันไปด้วย ไหนเลยจะรู้จักการกินข้าวเงียบๆ
กินข้าวเสร็จ เซวียเสี่ยวหรั่นก็เก็บถ้วยและตะเกียบ
"อีกสักครู่ ข้าจะปูเสื่อกับนำผ้าห่มผืนใหม่มาให้ท่าน ส่วนผืนนี้ข้าจะคืนให้บ้านท่านลุงซีวันพรุ่งนี้"
อย่าเห็นว่าภายนอกเหลียนเซวียนจะแลดูซอมซ่อ แท้จริงแล้วเขาเป็คนพิถีพิถันเป็อย่างยิ่ง
เซวียเสี่ยวหรั่นอยู่ร่วมกับเขามานาน จะมองไม่ออกได้อย่างไร
เมื่อมีเสื่อผืนใหม่ผ้าห่มผืนใหม่แล้ว ต้องเปลี่ยนให้เขาทันที
หลังใช้ขี้เถ้าล้างถ้วยชามเสร็จ เซวียเสี่ยวหรั่นก็นำเสื่อกับผ้าห่มในห้องโถงไปปูที่นอนให้เหลียนเซวียน
"เอาล่ะ คืนนี้นับว่าได้หลับสบายเสียทีนะ ฮ่าๆ"
เหลียนเซวียนปรายหางตามา นางก็หลับสบายทุกวันมิใช่หรือ
"แต่เหตุใดหมอนของที่นี่ถึงทำด้วยไม้ล่ะ แข็งจะตาย" เซวียเสี่ยวหรั่นยกหมอนไม้น้ำหนักไม่เบามาเคาะๆ ดู
หมอนไม้ก็เป็ของที่ใช้ทั่วไปไม่ใช่หรือ เหลียนเซวียนจนใจยิ่ง เหตุใดนางถึงสงสัยแต่เื่ที่ไม่ควรสงสัยอยู่ร่ำไป
เซวียเสี่ยวหรั่นพึมพำสองสามประโยคก่อนวางหมอนไม้ลง
"ข้าจะไปปูเตียงห้องนั้นต่อ อีกสักครู่จะตักน้ำมาให้ อาเหลย เ้าจะนอนที่นี่ หรือไปนอนที่นั่น"
เธอหันไปถามอาเหลยซึ่งกินอิ่มแล้วก็ง่วงนอน
อาเหลยนอนกกอยู่บนเสื่อฟางของมันพยายามฝืนปรือตามองเธอ
เซวียเสี่ยวหรั่นอมยิ้ม "เอาล่ะ เ้านอนเถอะ ดูเ้าสิง่วงขนาดนี้เลย"
หลายวันมานี้ อาเหลยใช้กำลังค่อนข้างเยอะมาก ดังนั้นจึงง่วงได้ง่าย
อย่าว่าแต่อาเหลย อันที่จริงเธอเองกินอิ่มแล้วก็เริ่มง่วงเหมือนกัน เช้าตื่นแต่เช้าตรู่ ทั้งยังแล่นไปปีนเขาอีก ทั้งเหนื่อยทั้งง่วงนอนจะแย่
เซวียเสี่ยวหรั่นปลุกสติ ก่อนปูเตียงของตนเองให้เรียบร้อย จากนั้นก็ฟุบลงเกลือกกลิ้งบนผ้าห่มนุ่มแสนสบายอยู่นาน ไม่อยากลุกขึ้นมา
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ถึงตะกายขึ้นมาต้มน้ำอาบ
ในห้องโถงมีของมากมายที่ยังไม่ได้จัดการ แต่เซวียเสี่ยวหรั่นก็ไม่สนใจแล้ว หลังยกน้ำเข้าไปให้เหลียนเซวียน ตนเองก็อาบน้ำอาบท่าให้สะอาด ปิดประตูห้อง ซุกตัวเข้าไปในผ้าห่ม
พอหัวถึงหมอนก็หลับสนิทฝันดี
พอลืมตาอีกที แสงอาทิตย์ก็สาดแสงลอดหน้าต่างบานเก่าเข้ามาแล้ว
"ไอ้หยา นี่ฉันตื่นสายเหรอ"
เธอขยี้ตาลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างเชื่องช้า อาการปวดเมื่อยที่แขนและต้นขาดีขึ้นกว่าเมื่อวานเล็กน้อย
เดินมาเปิดประตู แสงตะวันเจิดจ้าสาดส่องมาที่ตัวเธอโดยตรง
"บ้าเอ๊ย นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย"
เซวียเสี่ยวหรั่นเกาศีรษะ เดินไปถึงหน้าห้องเหลียนเซวียน พบว่าประตูเปิดอยู่ครึ่งบาน
พอชะโงกเข้าไปมอง เห็นเหลียนเซวียนตื่นนอนนานแล้ว
"แหะๆ ขออภัยด้วย ข้าตื่นสายไปหน่อย อาเหลยก็ออกไปแล้วกระมัง ข้าจะไปทำอาหารเช้าเดี๋ยวนี้"
อันที่จริงเหลียนเซวียนเคยชินกับท่าทางตอนตื่นสายของนางเสียแล้ว ขณะอยู่ในถ้ำ อากาศหนาวเย็นเป็น้ำแข็ง ไม่ได้ออกไปข้างนอก ยามรุ่งสางนางก็ไม่ยินดีจะตื่น
เซวียเสี่ยวหรั่นรีบเอาข้าวสารใส่หม้อเคี่ยวโจ๊กอย่างเร่งรีบ เดิมทีตั้งใจว่าจะห่อเกี๊ยว แต่ดันตื่นสาย เลยจำเป็ต้องเปลี่ยนมาเป็อาหารเช้าที่ใช้เวลาทำน้อยลง
มีกลักไฟแล้ว จุดไฟเผาถ่านก็เร็วขึ้นมาก ยกหม้อขึ้นตั้งไฟแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นก็แล่นไปเปิดประตูห้องโถง รื้อแท่งสีฟันกับผงขัดฟันออกมา
เซวียเสี่ยวหรั่นมองแท่งสีฟันหยาบๆ ก่อนยิงฟัน เอาเถอะ อย่างไรเสียก็ดีกว่าไม่มี
"ทำไมผงสีฟันถึงมีกลิ่นคล้ายยานักล่ะ กลิ่นรสทะแม่งๆ ฟองก็ไม่มีสักนิด ไม่เห็นจะดีตรงไหนเลย"
แปรงไปก็บ่นไป
หลังแปรงฟันบ้วนปากที่ริมรั้วเสร็จเรียบร้อย ก็เก็บแปรงไว้ในแขนเสื้ออย่างระมัดระวัง
ซีต้าเฉียงบอกว่าแท่งสีฟันและผงสีฟันราคาแพง น้อยคนมากจะสละเงินซื้อมาใช้
เธอต้องทะนุถนอมให้ดี
ขณะกำลังเคี่ยวโจ๊กอยู่ นอกเรือนก็มีคนมา
ซีมู่เซิงพาแม่นางน้อยสวมชุดสีชมพูอายุสิบสี่สิบห้ามาด้วยคนหนึ่ง
"นี่คือซีมู่เซียงน้องสาวข้า" ซีมู่เซิงแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน "นี่คือเหลียนต้าเหนียงจื่อ"
รอยยิ้มบนใบหน้าเซวียเสี่ยวหรั่นพลันแข็งค้าง
บ้าฉิบ คำเรียกต้าเหนียงจื่อกลายเป็ตราติดตัวเธอไปแล้ว
ซีมู่เซียงอายุยังน้อย ผิวสีน้ำผึ้งแลดูแข็งแรง หน้าตาสะสวย พวงแก้มแดงระเรื่อ ท่าทางดูเหมือนจะตื่นเต้นมาก "อรุณสวัสดิ์เ้าค่ะ เหลียนต้าเหนียง"
"อื้อ อรุณสวัสดิ์จ้ะ อรุณสวัสดิ์..." เซวียเสี่ยวหรั่นฉีกยิ้ม ในที่สุดก็มีหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเป็เพื่อนคุยเสียที แม้ว่าจะดูขี้อายไปหน่อยก็ตาม
"ต้าเหนียงจื่อ พวกท่านยังไม่กินข้าวเช้ากันอีกหรือ" ซีมู่เซิงเห็นเตาหินตั้งอยู่หน้าห้องครัว พร้อมกับกลิ่นหอมฟุ้งโชยมา
เซวียเสี่ยวหรั่นประหม่าอยู่บ้าง
"แหะๆ วันนี้ตื่นสายไปหน่อย"
ซีมู่เซิงกับซีมู่เซียงมองดูพระอาทิตย์สว่างเจิดจ้า
"แฮ่ม ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวสายหน่อยพวกเราค่อยมาอีกทีก็ได้" ซีมู่เซิงถามหยั่งเชิง
"อ๊ะ อย่าเลย อย่าเลย เดี๋ยวก็เสร็จแล้วล่ะ เ้าดูสิ ผ้าก็อยู่ที่นี่หมดแล้ว น้องมู่เซียง เ้าลองดูเถอะนะ" เซวียเสี่ยวหรั่นไหนเลยจะกล้าให้ผู้อื่นต้องวิ่งไปๆ มาๆ
เธอรีบจูงซีมู่เซียงไปที่ห้องโถง แพรพรรณวางอยู่บนโต๊ะสี่เหลี่ยม
"เ้าดูเอาเถอะ ควรตัดอย่างไรก็ตัดอย่างนั้น ข้าไม่ค่อยรู้อะไรมาก เอาตามที่น้องมู่เซียงเห็นสมควรได้เลย"
ซีมู่เซียงมองผ้าบนโต๊ะ ทั้งหมดล้วนเป็ผ้าฝ้ายเนื้อละเอียด ยาวหลายฉื่อแบบนี้ไม่ใช่ถูกๆ เลย
"เอ่อ... ต้าเหนียงจื่อ ต้องวัดตัวก่อนค่อยดูอีกทีเ้าค่ะ"
"ได้ๆๆ เ้าวัดตัวได้เลยตามสบาย" เซวียเสี่ยวหรั่นกางแขนสองข้างออกทันที
ซีมู่เซียงใกับการเคลื่อนไหวปุบปับของอีกฝ่าย หันกลับไปมองพี่ชายด้วยจิตใต้สำนึก
ซีมู่เซิงยิ้มปลอบใจน้องสาว
ซีมู่เซียงตั้งสติได้ พอหันไปอีกครั้งก็สะดุดตากับเสื้อผ้าแปลกประหลาดที่เซวียเสี่ยวหรั่นสวมใส่
"ต้าเหนียงจื่อ เสื้อของท่านทำอย่างไรหรือ"
...
[1] เป็ขนมปังที่ทำจากแป้ง น้ำ เกลือ ยีสต์ ผสมกันแล้วรีดให้เป็แผ่นแล้วนำขึ้นทอดในกระทะน้ำมันให้สุก
