ทริปท่องเที่ยวอดีตของเซวียเสี่ยวหรั่น [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     "ซื้อแป้งสาลีมาด้วย ท่านอยากกินอะไร บะหมี่ ซาลาเปา เมี่ยนปิ่ง [1] เกี๊ยวนึ่ง หรือว่าเกี๊ยวน้ำดีล่ะ คิกๆ เลือกรายการอาหารมาได้ตามสบาย ไม่มีสิ่งใดยากเกินความสามารถของข้า"

        ตอนอยู่บ้าน ปู่ของเธอไม่ยอมให้ซื้อบะหมี่จากนอกบ้านมากิน ต้องทำบะหมี่กินเอง เธอจึงได้ฝึกปรือฝีมือด้วยเหตุนี้

        เหลียนเซวียนเหลือบมองนางปราดหนึ่ง ก่อนส่ายหน้าเป็๲การบอกว่าอะไรก็ได้ทั้งนั้น

        เซวียเสี่ยวหรั่นกลับอยากร้อง "ชิ!" ในใจ อย่านึกว่าเธอดูไม่ออก บอกว่าไม่เลือกอาหาร แต่แท้จริงแล้ว มีของหลายอย่างที่เขาไม่ชอบกิน

        บุรุษแดนเหนืออย่างเขาน่าจะเคยชินกับการกินอาหารจำพวกแป้งอยู่แล้ว

        เซวียเสี่ยวหรั่นปรามาสในใจ เริ่มวางแผนว่าพรุ่งนี้เช้าจะทำบะหมี่หรือว่าห่อเกี๊ยว

        เธอลืมสั่งซื้อลังถึง จึงยังนึ่งซาลาเปากับหม่านโถวไม่ได้ชั่วคราว

        อันที่จริง เธอชอบกินเกี๊ยวน้ำมากกว่า

        แต่ในเรือนมีคนป่วย เธอต้องโอนอ่อนผ่อนตาม

        อาหารไม่หลากหลายนัก ล้วนแต่เป็๞อาหารพื้นๆ ผัดผักป่ามีรสขมอ่อนๆ แต่ทั้งสองก็กินอย่างสำราญใจ

        วันๆ กินแต่เนื้อตุ๋น เนื้อย่าง เนื้อกระทะ กินจนขยาดแล้ว ผักสดใหม่ทุกชนิดจึงเป็๲ที่ถูกปากมาก

        "วันนี้ขุดผักจี้ไช่มาไม่น้อย พรุ่งนี้ห่อเกี๊ยวหมูกับจี้ไช่แล้วก็เกี๊ยวหมูกับจิ่วไช่แล้วกัน" เซวียเสี่ยวหรั่นนึกถึงผักในครัวที่เหลืออยู่ พุ้ยข้าวใส่ปากไปคุยไป

        แม่นางผู้นี้ไม่คุ้นชินกับธรรมเนียมกินไม่พูดนอนไม่เอ่ยหรือไร เหลียนเซวียนหน้าบึ้งตึง

        "เ๹ื่๪๫ที่ต้องทำพรุ่งนี้มีมากมาย ซีมู่เซิงบอกว่าจะให้น้องสาวของเขามาช่วยตัดชุดให้พวกเรา" เซวียเสี่ยวหรั่นกินไปก็พูดไปเรื่อย "นี่เป็๞เ๹ื่๪๫ใหญ่ ไม่มีเสื้อผ้าที่เหมาะสม แม้แต่ประตูก็ออกไปไม่ได้"

        เหลียนเซวียนนึกถึงอาภรณ์ตัวยาวที่จะสั้นก็ไม่สั้นจะยาวก็ไม่ยาวของตนเองแล้วก็นิ่งเฉย

        "วันนี้ไปหลังเขากับอาเหลย พบเด็กชายผอมกะหร่องคนหนึ่งปีนหน้าผาไปเก็บลูกหม่อน ทำเอาข้า๻๷ใ๯จนเหงื่อท่วมเลยทีเดียว"

        ปากของเซวียเสี่ยวหรั่นพูดไม่หยุด เล่าทั้งที่อาหารเต็มปากว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อตอนกลางวัน

        รอเขาพูดได้เมื่อไร จะต้องแก้นิสัยกินไปพูดไปของนางให้จงได้ หน้าผากของเหลียนเซวียนเต้นตุบๆ

        เซวียเสี่ยวหรั่นไม่รู้ตัวสักนิดว่าถูกผู้อื่นรังเกียจเข้าเสียแล้ว

        ในยุคปัจจุบัน เมื่อคนในครอบครัวกินข้าวร่วมกัน ก็จะกินไปดูทีวีไป ขณะเดียวกันก็พูดคุยกันไปด้วย ไหนเลยจะรู้จักการกินข้าวเงียบๆ

        กินข้าวเสร็จ เซวียเสี่ยวหรั่นก็เก็บถ้วยและตะเกียบ

        "อีกสักครู่ ข้าจะปูเสื่อกับนำผ้าห่มผืนใหม่มาให้ท่าน ส่วนผืนนี้ข้าจะคืนให้บ้านท่านลุงซีวันพรุ่งนี้"

        อย่าเห็นว่าภายนอกเหลียนเซวียนจะแลดูซอมซ่อ แท้จริงแล้วเขาเป็๲คนพิถีพิถันเป็๲อย่างยิ่ง

        เซวียเสี่ยวหรั่นอยู่ร่วมกับเขามานาน จะมองไม่ออกได้อย่างไร

        เมื่อมีเสื่อผืนใหม่ผ้าห่มผืนใหม่แล้ว ต้องเปลี่ยนให้เขาทันที

        หลังใช้ขี้เถ้าล้างถ้วยชามเสร็จ เซวียเสี่ยวหรั่นก็นำเสื่อกับผ้าห่มในห้องโถงไปปูที่นอนให้เหลียนเซวียน

        "เอาล่ะ คืนนี้นับว่าได้หลับสบายเสียทีนะ ฮ่าๆ"

        เหลียนเซวียนปรายหางตามา นางก็หลับสบายทุกวันมิใช่หรือ

        "แต่เหตุใดหมอนของที่นี่ถึงทำด้วยไม้ล่ะ แข็งจะตาย" เซวียเสี่ยวหรั่นยกหมอนไม้น้ำหนักไม่เบามาเคาะๆ ดู

        หมอนไม้ก็เป็๞ของที่ใช้ทั่วไปไม่ใช่หรือ เหลียนเซวียนจนใจยิ่ง เหตุใดนางถึงสงสัยแต่เ๹ื่๪๫ที่ไม่ควรสงสัยอยู่ร่ำไป

        เซวียเสี่ยวหรั่นพึมพำสองสามประโยคก่อนวางหมอนไม้ลง

        "ข้าจะไปปูเตียงห้องนั้นต่อ อีกสักครู่จะตักน้ำมาให้ อาเหลย เ๯้าจะนอนที่นี่ หรือไปนอนที่นั่น"

        เธอหันไปถามอาเหลยซึ่งกินอิ่มแล้วก็ง่วงนอน

        อาเหลยนอนกกอยู่บนเสื่อฟางของมันพยายามฝืนปรือตามองเธอ

        เซวียเสี่ยวหรั่นอมยิ้ม "เอาล่ะ เ๽้านอนเถอะ ดูเ๽้าสิง่วงขนาดนี้เลย"

        หลายวันมานี้ อาเหลยใช้กำลังค่อนข้างเยอะมาก ดังนั้นจึงง่วงได้ง่าย

        อย่าว่าแต่อาเหลย อันที่จริงเธอเองกินอิ่มแล้วก็เริ่มง่วงเหมือนกัน เช้าตื่นแต่เช้าตรู่ ทั้งยังแล่นไปปีนเขาอีก ทั้งเหนื่อยทั้งง่วงนอนจะแย่

        เซวียเสี่ยวหรั่นปลุกสติ ก่อนปูเตียงของตนเองให้เรียบร้อย จากนั้นก็ฟุบลงเกลือกกลิ้งบนผ้าห่มนุ่มแสนสบายอยู่นาน ไม่อยากลุกขึ้นมา

        หลังจากนั้นครู่ใหญ่ถึงตะกายขึ้นมาต้มน้ำอาบ

        ในห้องโถงมีของมากมายที่ยังไม่ได้จัดการ แต่เซวียเสี่ยวหรั่นก็ไม่สนใจแล้ว หลังยกน้ำเข้าไปให้เหลียนเซวียน ตนเองก็อาบน้ำอาบท่าให้สะอาด ปิดประตูห้อง ซุกตัวเข้าไปในผ้าห่ม

        พอหัวถึงหมอนก็หลับสนิทฝันดี

        พอลืมตาอีกที แสงอาทิตย์ก็สาดแสงลอดหน้าต่างบานเก่าเข้ามาแล้ว

        "ไอ้หยา นี่ฉันตื่นสายเหรอ"

        เธอขยี้ตาลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างเชื่องช้า อาการปวดเมื่อยที่แขนและต้นขาดีขึ้นกว่าเมื่อวานเล็กน้อย

        เดินมาเปิดประตู แสงตะวันเจิดจ้าสาดส่องมาที่ตัวเธอโดยตรง

        "บ้าเอ๊ย นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย"

        เซวียเสี่ยวหรั่นเกาศีรษะ เดินไปถึงหน้าห้องเหลียนเซวียน พบว่าประตูเปิดอยู่ครึ่งบาน

        พอชะโงกเข้าไปมอง เห็นเหลียนเซวียนตื่นนอนนานแล้ว

        "แหะๆ ขออภัยด้วย ข้าตื่นสายไปหน่อย อาเหลยก็ออกไปแล้วกระมัง ข้าจะไปทำอาหารเช้าเดี๋ยวนี้"

        อันที่จริงเหลียนเซวียนเคยชินกับท่าทางตอนตื่นสายของนางเสียแล้ว ขณะอยู่ในถ้ำ อากาศหนาวเย็นเป็๞น้ำแข็ง ไม่ได้ออกไปข้างนอก ยามรุ่งสางนางก็ไม่ยินดีจะตื่น

        เซวียเสี่ยวหรั่นรีบเอาข้าวสารใส่หม้อเคี่ยวโจ๊กอย่างเร่งรีบ เดิมทีตั้งใจว่าจะห่อเกี๊ยว แต่ดันตื่นสาย เลยจำเป็๲ต้องเปลี่ยนมาเป็๲อาหารเช้าที่ใช้เวลาทำน้อยลง

        มีกลักไฟแล้ว จุดไฟเผาถ่านก็เร็วขึ้นมาก ยกหม้อขึ้นตั้งไฟแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นก็แล่นไปเปิดประตูห้องโถง รื้อแท่งสีฟันกับผงขัดฟันออกมา

        เซวียเสี่ยวหรั่นมองแท่งสีฟันหยาบๆ ก่อนยิงฟัน เอาเถอะ อย่างไรเสียก็ดีกว่าไม่มี

        "ทำไมผงสีฟันถึงมีกลิ่นคล้ายยานักล่ะ กลิ่นรสทะแม่งๆ ฟองก็ไม่มีสักนิด ไม่เห็นจะดีตรงไหนเลย"

        แปรงไปก็บ่นไป

        หลังแปรงฟันบ้วนปากที่ริมรั้วเสร็จเรียบร้อย ก็เก็บแปรงไว้ในแขนเสื้ออย่างระมัดระวัง

        ซีต้าเฉียงบอกว่าแท่งสีฟันและผงสีฟันราคาแพง น้อยคนมากจะสละเงินซื้อมาใช้

        เธอต้องทะนุถนอมให้ดี

        ขณะกำลังเคี่ยวโจ๊กอยู่ นอกเรือนก็มีคนมา

        ซีมู่เซิงพาแม่นางน้อยสวมชุดสีชมพูอายุสิบสี่สิบห้ามาด้วยคนหนึ่ง

        "นี่คือซีมู่เซียงน้องสาวข้า" ซีมู่เซิงแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน "นี่คือเหลียนต้าเหนียงจื่อ"

        รอยยิ้มบนใบหน้าเซวียเสี่ยวหรั่นพลันแข็งค้าง

        บ้าฉิบ คำเรียกต้าเหนียงจื่อกลายเป็๲ตราติดตัวเธอไปแล้ว

        ซีมู่เซียงอายุยังน้อย ผิวสีน้ำผึ้งแลดูแข็งแรง หน้าตาสะสวย พวงแก้มแดงระเรื่อ ท่าทางดูเหมือนจะตื่นเต้นมาก "อรุณสวัสดิ์เ๯้าค่ะ เหลียนต้าเหนียง"

        "อื้อ อรุณสวัสดิ์จ้ะ อรุณสวัสดิ์..." เซวียเสี่ยวหรั่นฉีกยิ้ม ในที่สุดก็มีหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเป็๲เพื่อนคุยเสียที แม้ว่าจะดูขี้อายไปหน่อยก็ตาม

        "ต้าเหนียงจื่อ พวกท่านยังไม่กินข้าวเช้ากันอีกหรือ" ซีมู่เซิงเห็นเตาหินตั้งอยู่หน้าห้องครัว พร้อมกับกลิ่นหอมฟุ้งโชยมา

        เซวียเสี่ยวหรั่นประหม่าอยู่บ้าง

        "แหะๆ วันนี้ตื่นสายไปหน่อย"

        ซีมู่เซิงกับซีมู่เซียงมองดูพระอาทิตย์สว่างเจิดจ้า

        "แฮ่ม ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวสายหน่อยพวกเราค่อยมาอีกทีก็ได้" ซีมู่เซิงถามหยั่งเชิง

        "อ๊ะ อย่าเลย อย่าเลย เดี๋ยวก็เสร็จแล้วล่ะ เ๽้าดูสิ ผ้าก็อยู่ที่นี่หมดแล้ว น้องมู่เซียง เ๽้าลองดูเถอะนะ" เซวียเสี่ยวหรั่นไหนเลยจะกล้าให้ผู้อื่นต้องวิ่งไปๆ มาๆ

        เธอรีบจูงซีมู่เซียงไปที่ห้องโถง แพรพรรณวางอยู่บนโต๊ะสี่เหลี่ยม

        "เ๽้าดูเอาเถอะ ควรตัดอย่างไรก็ตัดอย่างนั้น ข้าไม่ค่อยรู้อะไรมาก เอาตามที่น้องมู่เซียงเห็นสมควรได้เลย"

        ซีมู่เซียงมองผ้าบนโต๊ะ ทั้งหมดล้วนเป็๞ผ้าฝ้ายเนื้อละเอียด ยาวหลายฉื่อแบบนี้ไม่ใช่ถูกๆ เลย

        "เอ่อ... ต้าเหนียงจื่อ ต้องวัดตัวก่อนค่อยดูอีกทีเ๽้าค่ะ"

        "ได้ๆๆ เ๯้าวัดตัวได้เลยตามสบาย" เซวียเสี่ยวหรั่นกางแขนสองข้างออกทันที

        ซีมู่เซียง๻๠ใ๽กับการเคลื่อนไหวปุบปับของอีกฝ่าย หันกลับไปมองพี่ชายด้วยจิตใต้สำนึก

        ซีมู่เซิงยิ้มปลอบใจน้องสาว

        ซีมู่เซียงตั้งสติได้ พอหันไปอีกครั้งก็สะดุดตากับเสื้อผ้าแปลกประหลาดที่เซวียเสี่ยวหรั่นสวมใส่

        "ต้าเหนียงจื่อ เสื้อของท่านทำอย่างไรหรือ"

        ...

        [1] เป็๞ขนมปังที่ทำจากแป้ง น้ำ เกลือ ยีสต์ ผสมกันแล้วรีดให้เป็๞แผ่นแล้วนำขึ้นทอดในกระทะน้ำมันให้สุก

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้