บทที่ 34 าาสัตว์ปีศาจ!
ดวงตาของมู่หรงซินจับจ้องไปที่งูหลามั์ที่จู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำด้วยสีหน้าประหลาดใจ นางพูดว่า "นี่คืองูหลามคราม! ไม่คิดเลยว่าสัตว์ปีศาจที่ทรงพลังเช่นนี้จะซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเลสาบธรรมดาๆ นี้ได้!”
งูหลามครามเป็สัตว์ปีศาจระดับแปด มีเกล็ดสีดำบนลำตัว การป้องกันเทียบได้กับนักรบระดับแปดของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ หางขนาดใหญ่ของมันทรงพลังมาก สามารถเอาชนะผู้ที่อ่อนแอกว่าได้อย่างง่ายดายราวกับฉีกเยื่อกระดาษ
ยามนี้ งูเหลือมครามกำลังเคลื่อนตัวเข้าหาฝั่ง จากนั้นก็อ้าปากอันกว้างใหญ่ของมัน และกลืนร่างของวัวเขาขาวเข้าไป
“นี่...น่ากลัวเกินไปแล้ว รีบออกไปกันเถอะ พวกเราจัดการกับสัตว์ปีศาจระดับแปดไม่ได้หรอก” พฤติกรรมดุร้ายของงูเหลือมครามทำให้มู่หรงซินดูหวาดกลัวและถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว
แต่ดวงตาของฉู่อวิ๋นกลับหรี่ลง เขาพูดด้วยความประหลาดใจ "หืม? ทำไมถึงมีศิลาหยกห้อยอยู่ที่หัวของงูหลามั์ตัวนี้เล่า นั่น...นั่นคือหยกสีม่วง! งูหลามครามตัวนี้เป็สัตว์ปีศาจหรือ?"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น มู่หรงซินก็เปิดปากขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ใช่แล้ว!"
โดยทั่วไปแล้ว ไม่มีใครสามารถเอาชนะสัตว์ปีศาจในระดับนี้ได้ยกเว้นนักรบที่อยู่เหนือระดับแปดของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ
ในบรรดาผู้เข้าร่วมการประลองเซี่ยหยางในครั้งนี้ ฉู่เฟยมีระดับการฝึกฝนสูงสุดเพียงระดับเจ็ดของขอบเขตควบแน่นพลังปราณเท่านั้น
เหตุใดงูหลามครามระดับแปดจึงถูกปล่อยออกมาที่นี่ในฐานะแต้มสัตว์ปีศาจด้วย?
ทันใดนั้น มู่หรงซินก็ส่งเสียงออกมาและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "ข้าจำได้แล้ว! งูหลามครามตัวนี้เป็าาสัตว์ปีศาจ!"
“าาสัตว์ปีศาจหรือ?” ฉู่อวิ๋นสับสน
"ใช่ ไม่ผิดแน่!" มู่หรงซินตื่นเต้นเล็กน้อยและอธิบายว่า "ในการประลองเซี่ยหยางครั้งก่อนหน้า สัตว์ปีศาจจะถูกปล่อยออกมาให้ระดับสูงกว่าระดับการฝึกฝนสูงสุดของผู้เข้าร่วม และสัตว์ปีศาจตัวนี้ถูกเรียกว่า าาสัตว์ปีศาจ”
“ในอดีต ไม่มีใครในเมืองไป๋หยางที่สามารถไปถึงระดับเจ็ดของขอบเขตควบแน่นพลังปราณได้ก่อนอายุสิบแปด าาสัตว์ปีศาจจึงยังอยู่ที่ระดับเจ็ดเท่านั้น แต่ในปีนี้ระดับพลังยุทธ์ของฉู่เฟยได้ทำลายสถิติลง ดังนั้นจึงได้มีงูหลามครามระดับแปดนี้ขึ้นมา"
เมื่อพูดถึงเื่นี้ มู่หรงซินก็ถอนหายใจอีกครั้งและเอ่ยว่า "พูดได้ว่างูหลามครามนี้เตรียมไว้สำหรับฉู่เฟยเท่านั้น เชอะ ไม่น่ายินดีสักนิด!"
เมื่อได้ยินคำอธิบายของมู่หรงซิน ฉู่อวิ๋นก็ตกตะลึงเล็กน้อย ไม่แปลกใจเลยที่งูหลามครามจะไม่ถูกทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่
ที่แท้งูหลามครามมีไว้สำหรับผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้อื่น
“ศิลาหยกสีม่วงมีประโยชน์อันใด?” ฉู่อวิ๋นถามอีกครั้ง
มู่หรงซินเหลือบมองไปที่ฉู่อวิ๋นอย่างสงสัยและตอบว่า “หยกสีม่วงมีค่าหนึ่งหมื่นแต้ม ข้าได้ยินมาว่าหากใครได้มันไปจะมีรางวัลเพิ่มเติม”
“หากชนะการแข่งขันรอบแรกและมีแต้มศิลาหยกสีม่วงนี้ด้วย ก็จะได้รางวัลมากขึ้นใช่หรือไม่?” ดวงตาของฉู่อวิ๋นวาบสว่าง จ้องมองไปที่งูหลามครามในระยะไกล
มู่หรงซินเหลือบมองฉู่อวิ๋นและเอ่ยด้วยรอยยิ้มแสนหวาน "แน่นอนอยู่แล้ว! แต่ที่หนึ่งนั่นย่อมเป็ฉู่เฟยแน่นอน เมื่อครู่ข้าพบกับนักรบบางคนโดยบังเอิญ พวกเขาบอกว่าฉู่เฟยได้มาเกือบสองพันแต้มแล้ว”
“สองพันแต้ม?!” ฉู่อวิ๋นตกตะลึงเล็กน้อย
ฉู่เฟย สมแล้วที่เป็อัจฉริยะในรอบร้อยปีของเมืองไป๋หยาง แม้ว่านางไม่มีแผนที่ แต่ก็ยังมีแต้มนำหน้าอยู่มาก
ส่วนฉู่อวิ๋น แม้ว่าเขาจะเอาแต้มศิลาจากมู่หรงเหิง หลินหล่างและคนอื่นๆ มาได้ แต่ก็ยังคงทิ้งห่างจากฉู่เฟยอยู่ดี
น่าโมโหนัก!
ไม่ จะแพ้นางไม่ได้!
จู่ๆ สีหน้าของฉู่อวิ๋นก็เปลี่ยนไป เขาจ้องมองไปที่งูหลามครามและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก "คุณหนูมู่หรง อยากได้ศิลาหยกสีม่วงหรือไม่?"
"ข้าอยากได้อยู่แล้ว..." มู่หรงซินจ้องมองไปที่หยกสีม่วงชิ้นเล็ก แลบเลียริมฝีปาก ร่างกายสั่นสะท้านและพูดว่า "เ้า...เ้าจะทำอะไร? เ้าคิดจะสู้กับาาสัตว์ปีศาจหรือ?"
ฉู่อวิ๋นมีรอยยิ้มประดับบนริมฝีปากและพยักหน้าอย่างมั่นใจ
“เ้าบ้าไปแล้วหรือ? ถ้าเ้าอยากผ่านเข้ารอบต่อไปข้าช่วยเ้าก็ได้ ด้วยการฝึกฝนของเ้าที่ระดับสี่ของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ คงถูกงูหลามครามฟาดตายก่อนจะได้เข้าใกล้มันด้วยซ้ำ!” มู่หรงซินขึ้นเสียงเล็กน้อย ฉู่อวิ๋นหยิ่งผยองนัก นี่เขาไม่รู้จักทำอะไรตามความสามารถหรืออย่างไร?
ฉู่อวิ๋นยิ้มและพูดว่า "สัตว์ปีศาจย่อมมีจุดอ่อน เช่นเดียวกับวัวเขาขาวเมื่อครู่นี้ ตราบใดที่จับจุดอ่อนของมันได้ ผู้อ่อนแอก็สามารถเอาชนะผู้แข็งแกร่งได้"
"เ้าอยากร่วมสู้กับข้าหรือไม่?"
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ มู่หรงซินก็ใเล็กน้อย สายตามีความลังเล
แม้ว่านางและฉู่เฟยจะถูกเรียกว่า "คู่งามแห่งไป๋หยาง" ทั้งคู่มีความงามเป็ของตัวเอง แต่ก็มีช่องว่างในความแข็งแกร่งของพลังยุทธ์อยู่บ้าง
สัตว์ปีศาจระดับแปดแข็งแกร่งมากกว่าหกพันจิน เหตุใดฉู่อวิ๋นถึงไม่ยักกลัว?
เมื่อเห็นความเงียบของมู่หรงซิน ฉู่อวิ๋นก็พูดเบาๆ ว่า "เ้าไม่ไปก็ไม่เป็ไร แต่ก็ขอพูดตามตรง ตอนนี้ข้ามาถึงระดับห้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณแล้ว"
หลังจากพูดเช่นนั้น ฉู่อวิ๋นก็เพิกเฉยต่อมู่หรงซินที่ตกตะลึงและก้าวตรงไปยังงูหลามคราม
“ระดับห้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ เร็วขนาดนั้นเลย?” มู่หรงซินมองไปที่แผ่นหลังของฉู่อวิ๋นด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
นางรู้ว่าเมื่อเดือนที่แล้วระดับพลังยุทธ์ของฉู่อวิ๋นอยู่ที่ระดับสี่ของขอบเขตควบแน่นพลังปราณเท่านั้น
แต่ในเวลานั้น เขาสามารถฆ่าสัตว์ปีศาจระดับห้าได้โดยลำพัง และต่อมาร่วมกับนางสังหารสัตว์ปีศาจระดับหก หมีลายโลหิตได้
ครั้งนี้จะเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นกับสัตว์ปีศาจระดับแปดด้วยหรือไม่?
ทันใดนั้น มู่หรงซินก็เลิกคิ้ว ก้าวเรียวขาหยกขึ้น คว้าจับฉู่อวิ๋นแล้วแค่นเสียง "เชอะ! เ้าคนชั่ว ทำไมต้องมาอวดเก่งต่อหน้าข้าด้วย! เ้าคิดว่าข้าไม่กล้าขนาดนั้นเลยหรือ? คิดจะดูถูกข้าหรือ?”
เมื่อเห็นมู่หรงซินก้าวไปข้างหน้าพร้อมธนู ฉู่อวิ๋นก็ยิ้มและกล่าวชม "ย่อมไม่อยู่แล้ว คุณหนูมู่หรงมีทักษะธนูแข็งแกร่งนัก ข้ายังจำได้ชัดเจนถึงครั้งสุดท้ายที่เรายิงหมีลายโลหิตด้วยกัน"
อันที่จริง ฉู่อวิ๋นคิดไว้แล้วว่ามู่หรงซินจะต้องร่วมสู้กับเขาแน่ ผู้หญิงคนนี้ชอบเอาชนะ แต่ก็แบ่งแยกความรู้สึกรักและเกลียดชังออกชัดเจน ดังนั้นนางไม่มีทางนั่งดูเฉยๆ แน่
ทว่ามู่หรงซินกลับคิดว่าฉู่อวิ๋นตั้งใจยกเื่นี้ขึ้นมาพูด ใบหน้างดงามค่อยๆ เปลี่ยนเป็สีแดง ก่อนจะหยิกแขนของฉู่อวิ๋นอย่างแรง ทำให้เขาร้องออกมาด้วยความเ็ป รู้สึกราวกับเป็ผู้บริสุทธิ์
“ผู้หญิงนี่ไร้เหตุผลจริงๆ!”
ฉู่อวิ๋นส่ายหัวและถอนหายใจอย่างขมขื่น จากนั้นก็เดินเข้าหางูหลามครามที่นอนอยู่บนริมฝั่ง ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม
เมื่อเห็นงูหลามครามค่อยๆ ยกร่างขึ้น หางขนาดใหญ่ของมันลอยอยู่บนพื้น สายตาจ้องมองอย่างดุเดือด มองลงไปที่ทั้งคู่ และส่งเสียงออกมาอย่างต่อเนื่อง
ร่างของฉู่อวิ๋นและมู่หรงซินดูเล็กจ้อยเมื่ออยู่ต่อหน้างูหลามคราม
ตอนนี้ พวกเขาต้องร่วมมือกันเพื่อเอาชนะสัตว์ปีศาจที่แสนจะดุร้ายนี้!
"ชี่!"
ราวกับว่าััได้ถึงเจตนาฆ่า งูหลามครามเปิดปากที่เปื้อนเืของมันแล้วส่งเสียงขู่ไปที่ฉู่อวิ๋นที่ยืนเผชิญหน้าอยู่ จากนั้นก็กระตุกหางขนาดใหญ่ฟาดลงไปที่พื้น
ฉู่อวิ๋นเห็นเพียงเงาดำพร่ามัวที่พุ่งมาทางเขา พลังอันน่าสะพรึงกลัวของมันทำให้เขาไม่กล้าประมาทเลย เขาก้าวไปข้างหน้าและะโขึ้นไปในอากาศทันที
"ตึง!"
หลังจากะโขึ้นไปในอากาศ ฉู่อวิ๋นก็มองลงไปและเห็นว่าพื้นดินที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านั้นแตกร้าวละเอียดจากการฟาดหางใหญ่ั์ของงูหลามคราม ฝุ่นควันปลิวว่อนไปทั่วบริเวณ
“ช่างทรงพลังจริงๆ!”
ฉู่อวิ๋นก้มหน้าลงและหันฝ่ามือใช้คลื่นกระบี่แสงดาวหลายสิบคลื่นฟันเข้าที่ร่างของงูหลามคราม
"ควั่บ!"
คลื่นกระบี่รูปพระจันทร์เสี้ยวหลายสิบคลื่น ทั้งรวดเร็วและรุนแรงยิ่ง พุ่งออกมาจากอากาศ!
"ชี่!"
งูหลามครามมีความยืดหยุ่นสูง มันสามารถหลีกเลี่ยงคลื่นกระบี่ได้หลายคลื่นด้วยการบิดตัวหลบ คลื่นกระบี่ที่เหลือกระทบเกล็ดของมัน เหลือทิ้งไว้เพียงรอยกระบี่ตื้นๆ เท่านั้น
“การป้องกันของงูั์ตัวนี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
ฉู่อวิ๋นพูดขึ้น ทันทีที่เขาร่อนลงบนพื้น หางขนาดใหญ่ก็ปกคลุมท้องฟ้าบดบังแสงอาทิตย์ส่งการโจมตีมาอีกครั้ง ฉู่อวิ๋นขยับไปด้านข้างสองสามก้าวอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหลีกการโจมตีที่ทรงพลังและหนักหน่วงนี้
“ฟิ้ว ฟิ้ว!”
ในเวลาเดียวกัน ศรธนูห้าดอกก็ยิงออกมาจากความว่างเปล่า ลูกศรนั้นมีพลังแข็งแกร่งและโจมตีเข้าที่ร่างของงูหลามครามพอดี
"ฟิ้ว!"
ปัญจศรแม่นยำอย่างยิ่ง แต่ละดอกพุ่งเข้าที่งูหลามครามด้วยการยิงหลายๆ ครั้ง ดูคล้ายทรงพลังทว่ากลับยังไม่เพียงพอที่จะทำลายเกล็ดสีดำของมัน
“ให้ตายเถอะ! เ้างูน่ารังเกียจตัวนี้!”
ใบหน้าของมู่หรงซินโกรธจัด นางรวบรวมพลังปราณเพื่อสร้างลูกศรพลังปราณสามดอกอีกครั้ง ก่อนจะวางไว้บนคันธนูหยก
“ศรสามะเิ!”
"ฟิ้ว!"
มองเห็นลูกศรสามดอกถูกยิงพร้อมกัน ศรธนูดอกแรกขับเคลื่อนด้วยศรธนูสองดอกหลัง ความเร็วและพลังของศรธนูดอกแรกจึงเพิ่มขึ้นเป็สองเท่า! ด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ มันพุ่งตรงไปที่งูหลามครามทันที
"ตึง!"
ลูกศรพุ่งออกไปในอากาศเข้าโจมตีงูหลามครามทำให้เกิดการะเิของอากาศเสียงดังลั่น ลมแรงพัดกระจายไปทุกทิศทางอย่างน่าหวาดกลัว
หลังจากถูกโจมตี งูหลามครามก็นิ่งอยู่พักหนึ่ง เกล็ดสีดำบนตัวของมันเผยให้เห็นรอยแตกร้าวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และดูเหมือนว่าจะไม่เป็อะไรเลย
มู่หรงซินใและอุทาน "ไม่ใช่กระมัง? ข้าใช้ทักษะการยิงธนูที่ทรงพลังที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำร้ายมันได้เลย?"
"ชี่!"
งูหลามครามถูกคนสองคนโจมตีอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็โกรธจนบ้าคลั่ง มันเงยหน้าขึ้นมาขู่ฟ่อ ดวงตาเปลี่ยนเป็สีแดง และบิดตัวเป็เกลียวต่อสู้กับฉู่อวิ๋น หางขนาดใหญ่ของมันยังคงฟาดมาทางเขา
"ตึง!"
พลังของหางรุนแรงขึ้นทุกครั้งที่มันตวัดฝาด หลุมขนาดใหญ่ลึกหลายหมี่ปรากฏขึ้นบนพื้น
ฉู่อวิ๋นะโหลบซ้ำแล้วซ้ำเล่า คว้าทุกโอกาสในการโต้กลับ และเหวี่ยงคลื่นกระบี่แสงดาวนับสิบคลื่นออกไป! ในเวลาเดียวกัน มู่หรงซินก็ยังคงยิงศรธนูห้าดอกในระยะไกล!
"ควั่บ!"
ปราณกระบี่และลูกศรพุ่งเข้าโจมตีงูหลามครามอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดรอยสีขาวจำนวนมากบนเกล็ดของงู แต่มันก็ยังปลอดภัยและส่งเสียงดังได้ แต่กลับบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเริ่มต่อสู้
“ตึง ตึง ตึง!”
ชั่วครู่หนึ่ง ที่ริมทะเลสาบในขณะที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน หางใหญ่ั์วาดส่ายไปมา ปราณกระบี่มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง และศรธนูก็ปลิวว่อนไปทั่วบริเวณ!
สองคนหนึ่งงูต่อสู้กันนานกว่าสิบนาที
ทว่างูหลามครามกลับยังคงมีพลังไม่ถดถอย ในขณะที่ฉู่อวิ๋นและมู่หรงซินเริ่มรู้สึกเหนื่อยบ้างแล้ว
ร่างกายของสัตว์ปีศาจนั้นแข็งแกร่งกว่ามนุษย์มาก ไม่ต้องพูดถึงงูหลามครามที่เป็สัตว์ปีศาจระดับแปด
"ชี่!"
ทันใดนั้น งูหลามครามก็ส่งเสียงขู่อีกครั้ง ความเร็วของหางก็เร็วขึ้น เมื่อฉู่อวิ๋นเห็นว่าไม่สามารถหลบได้ เขาจึงรีบต้านมันไว้ด้วยกระบี่!
"ตึง!"
พลังของหางถูกส่งไปยังมือของฉู่อวิ๋นผ่านกระบี่เศวตรรุ้ง ทำให้กรามของเขาแตกและร่างกายกระเด็นไปข้างหลังกว่าสิบหมี่ ก่อนที่เขาจะหยุดยืนทรงตัวเอาไว้ได้
“ถ้าถูกมันโจมตีจากด้านหน้าย่อมตายแน่นนอน!” ฉู่อวิ๋นขยับข้อมือ หอบหายใจหนัก และเริ่มคิดถึงวิธีการตอบโต้
ตัวของงูหลามครามปกคลุมไปด้วยเกล็ดแข็ง ยกเว้นตาเล็กๆ นั่น นี่เป็เพียงทางออกเดียว
แต่หาก้าโจมตีดวงตาของงูหลามคราม ก็ต้องเข้าใกล้ตัวมัน ซึ่งอันตรายมาก!
หลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉู่อวิ๋นก็ะโไปทางมู่หรงซิน "ยิงตามันซะ!"
ในเวลานี้ มู่หรงซินก็กำลังหอบ นางยกมือปาดเหงื่อจากหน้าผากและพูดว่า "ไม่...ไม่ได้! มันเร็วมากและดวงตาของมันก็เล็กเกินไป ยิงไม่โดนหรอก! เ้า...เ้างูตัวนี้แข็งแกร่งเกินไป ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเราในตอนนี้ เราเอาชนะไม่ได้หรอก!”
"บ้าเอ๊ย!"
จู่ๆ ฉู่อวิ๋นก็ปล่อยหมัดกระแทกพื้น ดวงตาดูไม่เต็มใจ
ถ้าแม้แต่สัตว์ปีศาจระดับแปดที่มีดีแค่พลังก็ยังเอาชนะไม่ได้ แล้วต่อไปจะไปต่อสู้กับฉู่เฟยได้อย่างไร?
“ยอมแพ้ไม่ได้!”
ฉู่อวิ๋นอดทนต่อความเ็ป กำกระบี่เศวตรรุ้งแน่น ยืนตัวตรงแล้วรีบก้าวออกไป!
เขา้าสู้กับงูหลามครามในระยะประชิด!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้