บทที่ 12 หอฝึกยุทธ์ศิษย์ชั้นนอก
หอฝึกยุทธ์
วันนี้การสอนวิชาได้สิ้นสุดลงแล้ว บนพื้นอิฐหินสีเขียว ศิษย์ชั้นนอกแต่ละคนต่างฝึกวิชาด้วยตนเอง เหงื่อไหลท่วมกาย รวมถึงหวังหู่ด้วย
ผลการทดสอบ บันไดสู่์ ไม่ได้วัดจากขั้นสูงสุดที่เคยไปถึง หากแต่วัดจากขั้นสุดท้ายที่ยืนอยู่ ในตอนนั้นเขาทนความเ็ปอย่างสาหัสเพื่อปีนป่ายขึ้นไป แต่สุดท้ายก็ถูกจัดให้เป็เพียงศิษย์ชั้นนอก ทั้งหมดนั่นเป็เพราะคนคนเดียว!
“มันต้องใช้เล่ห์กลบางอย่าง หลอกลวงบันไดสู่์เป็แน่!”
“สักวันหนึ่ง ข้าจะต้องเปิดเผยธาตุแท้ของมันให้ได้!”
ปัง! ปัง!
เขากระหน่ำชกกระสอบทรายเสียงดังสนั่น ราวกับว่ากระสอบทรายนั้นคือคนที่ทำให้เขาเจ็บแค้น
อย่างไรก็ทำได้เพียงระบายความโกรธด้วยวิธีนี้เท่านั้น เพราะหลี่โม่เป็ศิษย์สายตรงไปแล้ว แม้แต่หวังฮ่าว ผู้เป็ลูกพี่ลูกน้องของเขา ก็ยังไม่กล้าลงมือกับหลี่โม่
“ศิษย์น้องหวัง เ้าฝึกวิชาหมัดหกประสานได้ค่อนข้างมีฝีมือแล้วนะ เส้นชีพจรก็เปิดแล้ว คงไม่ต้องให้ข้าสอนอีกแล้วกระมัง” ผู้าุโศิษย์นอกในชุดคลุมสีน้ำเงินเลิกคิ้วกล่าว
“เสี่ยวหู่มีพร์ด้านวิชาหมัดติดตัวมาแต่เด็ก เพียงแต่ก่อนฝึกฝนไปตามมีตามเกิดกับท่านลุงของข้าเท่านั้น” หวังฮ่าวยิ้ม ทว่ามุมปากของเขากลับปรากฏแววเ็าแวบหนึ่ง
“เขาเองก็เหมือนเซียวฉิน ควรจะเป็ศิษย์ชั้นใน”
ผู้าุโส่ายหน้า พลางมองไปยังชายหนุ่มคนหนึ่งในฝูงชน ชายหนุ่มผู้นั้นมีรูปพรรณธรรมดา สวมเสื้อแขนสั้น ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นแน่วแน่ เขากำลังฝึกวิชาอย่างพิถีพิถัน ร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อไคล
“ศิษย์พี่กล่าวเช่นนั้นไม่ถูก พร์ของหู่จื่อ เทียบกับไอ้ขยะนั่นไม่ได้หรอก เคยเข้าเป็ศิษย์ชั้นในพร้อมกับข้า แต่กลับยิ่งฝึกยิ่งไร้ประโยชน์ เืลมแทบจะเสื่อมถอยไปเท่ากับตอนที่เพิ่งเปิดเส้นชีพจรแล้วกระมัง” ดวงตาของหวังฮ่าวเผยแววเย้ยหยันออกมาแวบหนึ่ง
ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน แสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านประตูใหญ่ พลันเผยให้เห็นเงาร่างหนึ่ง
เด็กหนุ่มสวมชุดคลุมลายเมฆ ยิ้มแย้มแจ่มใสและดูเป็กันเอง
“หืม?” หวังฮ่าวเลิกคิ้ว
“หลี่โม่?”
เมื่อเห็นใบหน้าคุ้นเคยนั้น หวังหู่ก็ต่อยกระสอบทรายจนขาด
เหล่าผู้คนที่กำลังฝึกวิชาอยู่ต่างก็หยุดชะงักลง สีหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง เขาไม่ใช่ศิษย์สายตรงหรือ? ไฉนถึงมาที่หอฝึกยุทธ์ศิษย์นอกได้
“ศิษย์น้องหลี่ ข้าเหอหงเฟิง...” ผู้าุโศิษย์นอกในชุดคลุมสีน้ำเงินลุกขึ้นยืน นอบน้อมตามมารยาท
หลี่โม่ไอเบาๆ แล้วกล่าวว่า “ศิษย์พี่เหอมีมารยาท ข้ามาเรียนวิชาหมัดและวิชาเท้าขั้นพื้นฐาน”
เหอหงเฟิงถึงกับงุนงง ศิษย์สายตรงวิ่งมาที่หอฝึกยุทธ์ศิษย์นอก เพื่อเรียนวิชาขั้นพื้นฐานหรือ? เ้าคงไม่ได้ล้อข้าเล่นกระมัง
“เื่นี้... เหล่าผู้าุโทราบเื่หรือไม่”
“เอ่อ ท่านอาจารย์ของข้าไปพักผ่อนแล้ว ท่านผู้าุโเซวี่ยจิงเป็คนให้ข้ามา” หลี่โม่พยักหน้า
“ท่านอาจารย์... ผู้าุโซางอู่หรือ”
เหอหงเฟิงเมื่อนึกถึงผู้าุโหญิงงามในชุดคลุมสีแดงเพลิงก็เข้าใจในทันที สมเหตุสมผลแล้ว
เหล่าผู้คนใน หอฝึกยุทธ์ต่างมีสีหน้าหลากหลาย บางคนก็ดีใจที่ได้เห็นคนอื่นเดือดร้อน บางคนก็สงสาร บางคนก็ไม่พอใจ เป็ศิษย์สายตรงผู้สูงศักดิ์ กลับต้องมาเรียนวิชาที่ศิษย์ชั้นนอกนี่แสดงว่าไม่ค่อยได้รับความสำคัญ...
ก็ถูกต้องแล้ว
ผู้าุโต่างก็มีศิษย์สายตรงของตนเอง อีกทั้ง่นี้อิ๋งปิงกำลังโดดเด่นเป็อย่างมาก หลายคนต่างก็กล่าวว่านางจะเป็เ้าสำนักชิงเยวียนในรุ่นต่อไป ผู้าุโจึงย่อมให้ความสนใจนางเป็พิเศษ
หลี่โม่กลับต้องตกไปอยู่กับอาจารย์ที่คนรังเกียจ การถูกละเลยจึงไม่ใช่เื่ที่เข้าใจยากนัก
ในฝูงชน
ชายหนุ่มที่ชื่อว่าเซียวฉินในตอนนี้กำลังเช็ดเหงื่อ ไม่ได้ซ่อนแววตาที่เต็มไปด้วยความทอดถอนใจ สถานการณ์ของเขาก็ไม่ต่างกันมากนัก
“ศิษย์สายตรง มาที่หอฝึกยุทธ์ศิษย์นอกไม่ได้หรือ”
“กฎไม่ได้ระบุไว้ว่าไม่ได้ เพียงแต่ว่าวันนี้การสอนวิชาหมัดและวิชาเท้าขั้นพื้นฐานได้สิ้นสุดลงแล้ว หากเ้ายังอยากเรียนต้องไปถามศิษย์พี่ชั้นใน ที่รับผิดชอบการสอนวิชาหมัดและวิชาเท้า” เหอหงเฟิงมีหน้าที่นำทางศิษย์ชั้นนอก ในการเปิดเส้นชีพจรและ หล่อหลอมโลหิต
“ศิษย์พี่ชั้นใน ที่สอนวิชาหมัดและวิชาเท้า...”
หลี่โม่มองตามสายตาไป ก็เห็นหวังฮ่าวกำลังนั่งจิบชาอยู่ตรงนั้น
หวังฮ่าวไม่ได้เงยหน้าขึ้น พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดูไม่เป็มิตรนัก
“หอฝึกยุทธ์ มีกฎของหอฝึกยุทธ์ ข้าจะสอน ศิษย์ชั้นนอกเพียงวันละหนึ่งชั่วยามเท่านั้น เมื่อมาสายแล้ว ใครก็ไม่อาจทำข้อยกเว้นได้”
เขาเงยหน้าขึ้นและแกล้งทำเป็ประหลาดใจ
“ศิษย์น้องหลี่โม่หรือ? ท่านไม่ใช่ศิษย์สายตรงหรอกรึ?”
“หากท่านยืนกรานจะผิดกฎ ข้าคงต้องจัดการสอนเป็กรณีพิเศษให้ท่านแล้ว”
คำพูดเช่นนี้แฝงความร้ายกาจยิ่งนัก หากยังคงเอ่ยปากว่าจะเรียน ก็เท่ากับจะทำลายกฎ จะสร้างข้อยกเว้นในการสอนซ้ำอีกครั้ง ศิษย์คนอื่นก็จะรู้สึกไม่ยุติธรรมขึ้นมาทันที
“ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์สายตรงนี่มันวิเศษนักหรือไร! มาถึงก็ควรต้องทำตามกฎด้วย!” หวังหู่กล่าวเสริมอย่างเข้าขาราวกับการจัดฉาก
แม้ว่าเขาในตอนนี้จะยังไม่ได้เข้าพิธีคารวะอาจารย์อย่างเป็ทางการ แต่ก็เกือบจะเรียกได้ว่าเป็ศิษย์ของผู้าุโฝูถูแล้ว ในแง่ของสถานะ เขาไม่เกรงกลัวหลี่โม่ที่เป็ศิษย์สายตรงที่แปลกแยกผู้นี้เลย
เหอหงเฟิงก็ไม่พูดอะไร เขามีหน้าที่ดูแลหอฝึกยุทธ์ แค่ไม่ให้เกิดความวุ่นวายก็พอ ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งของผู้อื่น
“พอแล้ว พอแล้ว พวกเ้าสองคนนี่กำลังเล่นตลกอยู่หรือ”
หลี่โม่ยกมือขึ้นให้พวกเขาทั้งคู่เงียบ แล้วหันไปทางเหอหงเฟิงกล่าวว่า
“ข้าจะยืนดูคนอื่นฝึกอยู่ข้างๆ ไม่ได้ผิดกฎอันใดใช่ไหม”
“นั่นย่อมได้อยู่แล้ว”
“ดี”
หลี่โม่พยักหน้า แล้วเดินเข้าไปในหอฝึกยุทธ์มองสำรวจไปรอบๆ
“ดูเหมือนเขาจะฝึกได้ดีนะ”
หลี่โม่สายตาจับจ้องไปที่เซียวฉิน พลันเดินตรงไปที่มุมห้องที่เขาอยู่
“ฮึ... สองคนนี้มาเจอกันจนได้” หวังฮ่าวเหลือบมองเขา มุมปากยกยิ้มอย่างมีนัย
หวังหู่เกือบจะหัวเราะออกมา
แค่ดูคนอื่นฝึกก็เรียนรู้ได้ เ้าคิดว่าตัวเองเป็ใคร? อีกทั้งจะไปเรียนกับใครก็ได้ ไฉนเลยจะต้องไปหาไอ้ขยะที่ขึ้นชื่อของ ศิษย์ชั้นนอกด้วย
“ศิษย์พี่ ท่านรังเกียจหรือไม่ หากข้าจะขอชมท่านฝึกวิชาอยู่ตรงนี้” หลี่โม่โค้งคำนับก่อน
เซียวฉินกล่าวอย่างอู้อี้ว่า “หากเ้าอยากดู ก็ดูไปเถอะ ข้าไม่รับประกันว่าเ้าจะได้เรียนรู้”
หลี่โม่ยิ้มแย้มแจ่มใส
“ศิษย์พี่เซียวฝึกของท่านไปได้เลย ไม่ต้องสนใจข้า”
สายตาของเซียวฉินเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เด็กหนุ่มผู้นี้มีฐานะศิษย์สายตรง กลับไม่ถือตัว ซ้ำยังให้เกียรติเขาที่เป็เพียงศิษย์ชั้นนอก เคยได้รับสายตาเ็ามามากมาย เขาจึงไม่ค่อยได้ััถึงความเคารพจากผู้อื่น
ในชั่วขณะนั้น เขากลับเกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจกันขึ้นมาบ้าง
“ศิษย์น้อง นี่คือหมัดหกประสาน ข้าจะเริ่มั้แ่ต้นเ้าโปรดตั้งใจดู” หลังจากเซียวฉินเอ่ยปาก เขาก็ตั้งใจชะลอความเร็วกระบวนท่าลง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้