ซูจิ้งเถียนถูกนางแซ่หลี่ตวาดไปแบบนั้นก็หยุดการเคลื่อนไหวทันทีร้องไห้พลางพุ่งเข้าไปในอ้อมอกของนางแซ่หลี่ “ท่านแม่ทำอย่างไรดี ทุกคนที่อยู่ข้างนอกต่างบอกว่าข้าทารุณหลิงเอ๋อร์จนตายบัณฑิตคนนั้นยังพาคนมากั้นประตูไว้แล้ว ถ้าท่านพ่อรู้เื่นี้ ท่านพ่อต้องตีข้าตายแน่ๆ”
สิ่งที่ซูเต๋อเหยียนให้ความสำคัญที่สุดก็คือตำแหน่งและชื่อเสียง
แต่ตอนนี้กลับถูกคนด่าอยู่ที่ประตูหน้าตาของจวนอัครมหาเสนาบดีแทบจะไม่เหลือแล้ว
พึงรู้ว่าถ้าเขารู้เื่ที่เกิดขึ้นนี้แล้วจะมีท่าทีอย่างไร
นางแซ่หลี่ช่วยซูจิ้งเถียนให้ใจเย็นลงอย่างปวดใจ“เื่นี้ไม่ว่าอย่างไร เ้าต้องยืนกระต่ายขาเดียวว่าเป็เื่ที่ถูกผู้อื่นใส่ร้ายข้าจะเอาเงินบางส่วนให้สาวรับใช้ในห้องเ้าขอเพียงพวกนางปฏิเสธเื่ที่เ้าทารุณสาวรับใช้ ข่าวลือไม่นานก็หายไปเอง”
ได้ยินนางแซ่หลี่พูดแบบนี้ในที่สุดซูจิ้งเถียนก็นับว่าได้รับการปลอบใจบ้างแล้ว นางเงยศีรษะขึ้นทั้งน้ำตา“จริงหรือ?”
นางแซ่หลี่พยักหน้าแต่คิ้วที่ขมวดอยู่กลับยังไม่คลายออก
สิ่งที่เรียกว่าเงินนั้นสามารถแก้ปัญหาได้อยู่แล้วกลัวก็แต่ว่าจะไม่มีเงิน
ตอนนี้กุญแจคลังของจวนถูกซูเฟยซื่อเอาไปแล้วนางสามารถใช้ได้เพียงเงินส่วนตัวที่นางสะสมไว้สมัยก่อน
แต่เงินส่วนตัวก็ต้องมีวันที่ใช้หมดถึงเวลานั้นแล้วควรทำอย่างไร?
แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจัดการปัญหาของซูจิ้งเถียน
ขอเพียงทำให้ข่าวลือหายไปหาโอกาสให้ซูจิ้งเถียนเข้าวังได้ก็ไม่ต้องกลัวจะไม่มีเงินแล้ว
คิดถึงตรงนี้นางแซ่หลี่รีบขยิบตาให้หลินมามาคราหนึ่ง แล้วให้หลินมามาจ่ายเงินลงไป
หลังจากติดสินบนสาวรับใช้เสร็จในที่สุดซูจิ้งเถียนจึงนับว่าโล่งใจแล้ว สมองแจ่มชัดไม่น้อยด้วย “ท่านแม่หลิงเอ๋อร์หายสาบสูญไปอยู่ใน่ที่พวกเราส่งนางไปยังเรือนของซูเฟยซื่อท่านว่าเื่นี้จะเกี่ยวข้องกับซูเฟยซื่อไหมคะ?”
ถูกซูจิ้งเถียนเตือนสติแบบนี้ในใจนางแซ่หลี่อดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้นมา “เกรงว่ากระทั่งข่าวลือที่เ้าทารุณสาวรับใช้ก็เป็ซูเฟยซื่อที่ให้คนกระจายออกไป”
ซูจิ้งเถียนถลึงตาโตเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เช่นนั้น มิใช่ซูเฟยซื่อฆ่าหลิงเอ๋อร์ แล้วใส่ร้ายป้ายสีข้าหรอกหรือ? ท่านแม่เราไม่สามารถปล่อยให้นางใส่ร้ายได้ตามใจชอบ ตอนนี้มีคนมากมายมาขวางไว้ที่ประตูของจวนอัครมหาเสนาบดีถ้าเราสามารถแสดงหลักฐานออกมาได้ว่าเป็ซูเฟยซื่อฆ่าคนตาย เช่นนั้นซูเฟยซื่อก็จบเห่แล้ว”
“หลักฐานหรือ? ไหนเลยจะง่ายอย่างนั้น!”วิธีของซูเฟยซื่อเยี่ยมยอด ไหนเลยจะทิ้งหลักฐานไว้ให้พวกนางหาได้อีก
“นี่...”ซูจิ้งเถียนลำบากใจบ้างแล้ว
เวลานี้จู่ๆ หลินมามาก็วิ่งเข้ามาอย่างลุกลี้ลุกลน “นายหญิง คุณหนูสี่ ไม่ดีแล้วเ้าค่ะซูเฟยซื่อสั่งให้คนเปิดประตูใหญ่ เชิญบัณฑิตกับคนเ่าั้ไปที่สวนบุปผชาติบอกว่าจวนอัครมหาเสนาบดีเป็สถานที่ยึดถือคุณธรรม ต้องไม่บีบบังคับหรือรังแกชาวบ้านคนใดคนหนึ่งเด็ดขาดยังบอกว่าต้องช่วยบัณฑิตกับหลิงเอ๋อร์ให้ได้รับความเป็ธรรมชาวบ้านทั้งหมดต่างโห่ร้องชมนางว่าดีเ้าค่ะ”
“อะไรนะ!”นางแซ่หลี่ตบโต๊ะอย่างรุนแรง ร้องะโออกมาอย่างตื่นตระหนกทันที
ซูเฟยซื่อถึงกับให้ผู้คนเข้ามาหานางแล้วยังทำให้ทุกคนโห่ร้องชมนางว่าดี
วิธีนี้แทบจะเป็การยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัววิเศษนัก!
ไม่เพียงแต่เพิ่มพูนตำแหน่งของตนไว้ในใจของชาวบ้านแต่ยังบีบคั้นให้ซูจิ้งเถียนต้องออกไปเผชิญหน้า
ตอนนี้ทุกคนกรูกันเข้ามาในจวนแล้วหากซูจิ้งเถียนยังซ่อนตัวอยู่ในเรือน มิใช่เท่ากับทำผิดแล้วมิกล้าเผชิญหน้า
ซูจิ้งเถียนยิ่งใจนหน้าเปลี่ยนสี“ท่านแม่ ทำอย่างไรดี ซูเฟยซื่อต้องทำร้ายข้าให้ตายแน่ ไม่ได้ ข้าต้องไปคุยกับนางข้าต้องไปบอกทุกคนว่านางเป็ฆาตกรที่ทำร้ายสังหารหลิงเอ๋อร์”
“ไปเ้าจะไป แล้วเ้ามีหลักฐานหรือ? ถ้าไม่ใช่เพราะเ้ายืนยันว่าจะวางพิษเซ่าชิงไหนเลยจะยั่วยุนางจนทำให้เกิดปัญหามากมายขนาดนี้ได้?” นางแซ่หลี่ร้อนใจจนหงุดหงิดแม้แต่น้ำเสียงก็ดังขึ้นมา
เดิมซูจิ้งเถียนก็อารมณ์ไม่ค่อยดีโดนนางแซ่หลี่ต่อว่าแบบนี้ ตาก็แดงก่ำทันที “ตอนข้าบอกว่าจะวางยาพิษเซ่าชิงเห็นชัดๆ ว่าท่านก็เห็นด้วย ตอนนี้เกิดเื่ก็คิดจะไม่ยอมรับ ท่านเป็ท่านแม่ของข้าจริงไหมเื่นี้ก็ไม่ต้องให้ท่านยุ่งแล้ว ข้าจัดการเอง”
กล่าวจบนางก็หยิบแส้ที่ปกติใช้ลงโทษสาวรับใช้วิ่งไปที่สวนบุปผชาติ
ซูเฟยซื่อนังสารเลวน้อย เ้ารอข้าก่อนเถอะ วันนี้ข้าจะให้เ้าวุ่นวายใจต่อหน้าธารกำนัลสักครั้ง
นางแซ่หลี่เห็นซูจิ้งเถียนวิ่งออกไปใจนรีบเรียกคนมา “เร็ว ขวางคุณหนูสี่ไว้ อย่าปล่อยให้นางไปทำเื่อะไรอีก”
ถ้าเป็แบบนั้นคงจบลงจริงๆแล้ว
คิดมาถึงตรงนี้นางแซ่หลี่ก็รีบไล่ตามไปด้วย
ขณะนั้นซูเฟยซื่อกำลังหัวเราะอย่างงดงามในสวนบุปผชาติคอยต้อนรับบัณฑิตกับฝูงชน
นางไม่เพียงให้คนย้ายม้านั่งมายังเตรียมน้ำชาเป็พิเศษ ทำให้ทุกคนต่างชมว่านางเป็คนรอบคอบ
“จวนอัครมหาเสนาบดีซูมีบุตรสาวที่ยอดเยี่ยมและมีความสามารถคนหนึ่งนับเป็โชคดีที่ได้บำเพ็ญเพียรมาหลายชั่วอายุคนจริงๆ”
“ก็ใช่เทียบกับคุณหนูสี่ซึ่งทารุณสาวรับใช้ถือว่าดีกว่ามากนักไม่สงสัยเลยว่าทำไมอำนาจการปกครองครอบครัวของจวนอัครมหาเสนาบดีซูถึงได้มอบให้คุณหนูสามทั้งหมด”
เดิมซูจิ้งเถียนก็โกรธจนตาแดงแล้วบัดนี้ได้ยินฝูงชนวิจารณ์อีก ใจที่คิดสังหารซูเฟยซื่อก็มีมากยิ่งขึ้น
สตรีเสแสร้งคนนี้ฆ่าคนแล้วยังกล้ามาทำเป็คนดีอยู่อีก ดูก่อนเถอะว่านางจะฉีกหน้ากากของสตรีคนนี้อย่างไร
ซูจิ้งเถียนตัดสินใจได้แน่นอนแล้วรีบวิ่งเข้าใส่ซูเฟยซื่อด้วยใบหน้าบึ้งตึง “นังสารเลวน้อย ข้าปล่อยให้เ้าแกล้งข้าปล่อยให้เ้าหลอกผู้อื่น เ้าคิดว่าทำแบบนี้ แล้วข้าจะจัดการเ้าไม่ได้หรือ?”
นางยิ่งพูดยิ่งโกรธมือหนึ่งคว้าเส้นผมของซูเฟยซื่อเอาไว้ มือหนึ่งก็ฟาดแส้ไปบนร่างซูเฟยซื่อมั่วไปหมด
ซูเฟยซื่อสูดอากาศเย็นคำหนึ่งด้วยความเ็ป
นางไม่คาดว่าซูจิ้งเถียนจะกล้าดีแบบนี้ถึงกับกล้าตีนางท่ามกลางฝูงชน
ที่นางไม่กลัวเพราะมีที่พึ่งพิงจริงๆหรือเดิมทีก็ไม่เคยเห็นพี่สาวคนนี้อยู่ในสายตากันแน่
“คุณหนู”ซางจื่อกับจือฉินเห็นเช่นนี้ ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อกันซูจิ้งเถียนออกไป แต่กลับถูกแส้ของซูจิ้งเถียนฟาดกระเด็น
ซางจื่อยังดีแต่เพราะด้วยมีผู้คนอยู่มากจึงไม่สามารถใช้วิทยายุทธ์ได้
ส่วนจือฉินที่ไม่เป็วิทยายุทธ์ก็ถูกฟาดลงไปบนพื้นจนน้ำตาไหลออกมา ท่าทางดูน่าสงสาร
เมื่อซูเฟยซื่อเห็นซางจื่อกับจือฉินต่างถูกตีนางก็โกรธจัดจนอดไม่ไหว รีบบีบน้ำตาออกมาหลายหยด แกล้งทำทีน่าสังเวช “โอ๊ย เจ็บเถียนเอ๋อร์ เ้ารีบหยุดตี มันเจ็บมาก...”
“หยุดมือ? วันนี้ถ้าข้าไม่ได้ตีนังสาวรเลวน้อยเช่นเ้าให้ตายก็จะไม่มีทางหยุดเด็ดขาด!”เสียงกรีดร้องของซูเฟยซื่อเติมเต็มความภาคภูมิใจของซูจิ้งเถียนนางด่าอย่างรุนแรงไปประโยคหนึ่ง และยิ่งหวดแส้ในมือแรงขึ้น
เห็นสภาพการณ์แบบนี้ทั้งได้ยินวาจานี้อีก เหล่าฝูงชนที่เมื่อครู่ยังไม่ทันได้ตอบสนอง ตอนนี้เริ่มตอบโต้กลับมาแล้ว
ดีแท้หนอน้องสาวด่าพี่สาวเป็นังสารเลวน้อยก็แล้วไป แต่ถึงกับคิดจะตีพี่สาวให้ตาย นี่หรือคุณหนูที่จวนอัครมหาเสนาบดีเลี้ยงดูออกมา?
สภาพตระกูลนี้ทำให้พวกเขาได้เปิดหูเปิดตาแล้วจริงๆ!
ในฝูงชนคนที่มีบุคลิกค่อนข้างตรงไปตรงมาไม่สามารถทนดูได้ เอื้อมมือมาจับซูจิ้งเถียนผลที่ได้คือต่างถูกแส้ของซูจิ้งเถียนทำร้ายด้วย
“คุณหนูสามเป็คนดีไม่เพียงแต่ให้เราเข้ามาในจวนอัครมหาเสนาบดี ยังให้เราดื่มชา เราต้องช่วยนาง”
ไม่รู้ว่าใครเป็คนเริ่มะโประโยคนี้ทุกคนต่างเห็นด้วย ลุกฮือกันเข้ามา “ใช่ ทุกคนเข้าไปพร้อมกัน อย่าให้หญิงบ้าคนนี้ทำร้ายคุณหนูสามได้”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้