อวิ๋นซีมองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ถึงแม้จะมีสีหน้าซีดขาว แต่ก็ยังคงความหล่อเหลาไปทีหนึ่งนางยิ้มบางๆ “แค่เื่เล็กน้อย คนที่เ้าควรต้องขอบคุณจริงๆ ก็คือพี่ใหญ่จี้ เพราะเป็เขาที่บังเอิญเห็นเ้าอยู่ในแม่น้ำจึงได้ช่วยขึ้นมา”
ตัวนางก็แค่ทำการช่วยชีวิตแบบง่ายๆ เท่านั้น เหตุที่เขารอดมาได้ นอกจากจะเป็เพราะถูกช่วยขึ้นมาได้ทันเวลาสิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ เจตจำนงอันแรงกล้าของเขาเองที่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป คนๆหนึ่งที่ถูกมัดมือมัดเท้า โชคดีที่ได้จี้หยวนพบเข้า นางก็บอกได้แค่ว่าชีวิตเขายังไม่ควรจบสิ้นง่ายๆ
“ข้าน้อยได้ขอบคุณท่านจี้แล้ว อย่างไรก็ตาม เื่ที่ฮูหยินช่วยเหลือไว้แน่นอนว่าก็ควรต้องขอบคุณเช่นกัน อีกประการ ข้าได้ยินมาว่าพวกท่านกำลังจะเดินทางไปเมืองหลวงทว่าอย่างไรก็ต้องผ่านหวายหนาน เช่นนั้น ข้าน้อยก็หวังเป็อย่างยิ่งว่าพวกท่านจะให้เกียรติไปเป็แขกที่จวนของข้าน้อยให้ข้าน้อยได้มีโอกาสตอบแทนบุญคุณที่พวกท่านช่วยชีวิต”
เมื่ออวิ๋นซีได้ยินก็ยิ้มเรียบๆ “เป็แขกหรือ อย่าเลย อย่างไรพวกเราก็ต้องผ่านหวายหนานให้พวกเราพาเ้าได้ไปส่งในตัวเมืองหวายหนานก็พอแล้ว” เมื่อพูดจบ นางก็ลงจากรถม้า หยุดยืนอยู่ด้านล่างพลางมองเขาแล้วพูดว่า“ระหว่างนี้เ้าก็ดูแลร่างกายตน พักผ่อนให้ดีเถอะ”
หนุ่มน้อยมองแผ่นหลังของอวิ๋นซี ท่าทีมีนัยยะ
จวินเหยียนมองภรรยาที่กำลังเดินมุ่งหน้ามาทางตน เขายิ้มแล้วก้าวไปด้านหน้าเพื่อโอบบ่านางจากนั้นก็เดินกลับไปยังรถม้าของพวกเขา “เพ่ยเอ๋อร์และสาวใช้คนอื่นเตรียมสำรับเช้าเรียบร้อยแล้วเ้าไปกินสักหน่อยเถิด จากนั้นเราจะได้เร่งเดินทางกันต่อ”
อวิ๋นซีพยักหน้าอืมไปคำหนึ่ง ทว่า คำว่าอืมของนางนี้แฝงแรงดึงดูดไว้อย่างมหาศาล
ถึงกระนั้นเขาก็ทำได้เพียงข่มใจไว้ เพราะถ้ารู้ก่อนว่าชีวิตตนจะทุกข์ทรมานเพียงนี้เขาย่อมไม่ยอมให้นางตั้งครรภ์เป็อันขาด น่าตายนัก สุดท้ายแล้วคนที่ลำบากก็คือตัวเขาตอนนี้อาจเรียกได้ว่าเขานับเวลาอยู่ทุกวี่วัน เฝ้าคิดอยู่แต่ว่าเมื่อไรจะถึงสามเดือนสักที
อวิ๋นซีรู้สึกได้ว่าชายผู้นี้กำลังจ้องมองนางอยู่ ทำให้นางอดหัวเราะออกมาไม่ได้ผู้ชาย หากว่าสามารถควบคุมตัวเองได้ก็ย่อมต้องเป็ชายที่ดีอย่างแน่นอน
“สามี หากว่ายากจะทานทนเพียงนั้น ให้ข้าช่วยท่านรับอนุหรือไม่? ท่านจะได้ไม่ต้องทนทรมานเช่นนี้อีกแล้ว” อวิ๋นซีวางตะเกียบลงจากนั้นก็ให้เพ่ยเอ๋อร์ยกอาหารออกไป
รอกระทั่งม่านบังตาของรถม้าปิดลง ดวงตาของจวินเหยียนที่ราวกับหมาป่าราวกับเสือคู่นั้นก็จดจ้องนางอย่างดุดัน“สตรีน้อย นี่เ้าคิดจะผลักไสข้าให้หญิงอื่นหรือ? ”
อวิ๋นซีมองสายตาที่แฝงแววข่มขู่ของเขา ท่าทางเช่นนั้นดูเหมือนว่าจะทำให้หม่อมฉันกลัวมากเลยงั้นสิแม้จะคิดอย่างนั้น แต่อันที่จริงนางกลับทำเพียงยิ้มให้แล้วตอบ “มิใช่ว่าข้าเห็นท่านต้องทนทรมานขนาดนี้อยู่ทุกวันจึงได้คิดหาหนทางช่วยท่านแก้ปัญหาหรอกหรือ”
“แก้ปัญหากับผีสิ หากเปิ่นหวางใช้สตรีอื่นมาแก้ปัญหา ภรรยาข้าก็คงได้หนีไปกับชายอื่นพอดี”เมื่อพูดจบ เขาก็จับหลังศีรษะนางไว้ จูบลงไปอย่างรุนแรงพร้อมๆ กับที่ล้อของรถม้าค่อยๆเคลื่อนตัวไป อย่างไรเสียคนทั้งสองก็ทำได้แค่อดทนไว้ด้วยเพราะความปลอดภัยของเด็กในท้องของอวิ๋นซี
“อย่าวุ่นวายอีกเลย หากหวานหว่านมาเห็นเข้า เราจะอับอายสักเพียงไร”อวิ๋นซีคิดแต่จะสลัดออกจากการเกาะกุมของเขา แต่ใครเล่าจะรู้ว่า เขาจะยิ่งกอดนางให้แน่นเข้ายิ่งกว่าเดิมขณะที่มืออีกข้างกำลังลูบไล้ไปที่ท้องของนางเบาๆ “อย่ากังวลเลย ถึงอย่างไรวันนี้หวานหว่านก็ไม่มีทางมารบกวนพวกเราแน่”หรือควรพูดว่า วันนี้จะไม่มีใครหน้าไหนมารบกวนพวกเขา
อวิ๋นซีคิดจะถาม แต่จวินเหยียนกลับพูดต่อ “อย่าขยับ ให้ข้าได้ััลูกชายของเราหน่อย”
อวิ๋นซีเงยหน้า จุมพิตคางเขา จากนั้นจึงถามเสียงเบา “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าเด็กในท้องของข้าเป็ลูกชาย?ไม่แน่ว่าคนอาจจะเป็ลูกสาวก็ได้”
“หากเขาไม่ใช่ลูกชาย เมื่อเกิดออกมา ข้าจะโยนกลับไปหานโจวให้ท่านพ่อตาคอยเลี้ยงดู”เขาแค่นเสียงเ็า เ้าเด็กในครรภ์นี่ลองกล้าไม่ใช่ลูกชายสิ เมื่อคลอดออกมา ข้าจะอัดเขาสักรอบ
บางทียามนี้เด็กน้อยในครรภ์ของอวิ๋นซีคงได้ตัวสั่นหวั่นกลัวเล็กน้อย์ นี่ตนดันมาเจอเข้ากับบิดาเช่นไรกันหนอ
อวิ๋นซีหันกายไปมองชายหนุ่ม สองมือหยิกแก้มเขาโดยแรง “โอวหยางจวินเหยียนหากท่านกล้าให้ความสำคัญกับเด็กชาย ดูแคลนเด็กหญิง ข้าจะให้ท่านไม่มีลูกชายไปชั่วชีวิต”
เมื่อจวินเหยียนได้ยินก็เหงื่อตก
“ฮูหยิน ใส่ร้ายข้าแล้ว สามีจะให้ความสำคัญกับลูกชาย ดูแคลนลูกสาวหรือไม่ ตัวเ้ายังเห็นข้อเท็จจริงของเื่นี้ไม่ชัดเจนอีกหรือ? ” เขามอบหมื่นความรักใคร่และความจริงใจให้หวานหว่านถึงขนาดที่ยอมใช้ชีวิตตนมาปกป้องนาง
“เช่นนั้นเหตุใดท่านจึงพูดว่า ถ้าเป็ลูกสาวจะโยนนางให้ไปอยู่กับบิดาข้าท่านมีใจคิดจะให้ข้าแม่ลูกต้องพลัดพรากจากกัน ใช่หรือไม่” เขานี่ก็ช่างคิดออกมาได้วันหน้าหากนางคลอดบุตรสาวออกมาจริงๆ และหากเขากล้าทำดังที่พูดจริงๆนางก็จะพาหวานหว่านและบุตรสาวตัวน้อยกลับหานโจว
นางแค่นเสียงเ็า ไม่อยากจะสนคนตรงหน้า
เมื่อเห็นท่าทางนางเช่นนี้ เขาก็ประคองใบหน้านางไว้ บรรจงจูบไปทีหนึ่ง จากนั้นจึงพูดต่อ“เหตุที่ข้าหวังให้เป็ลูกชาย นั่นก็เพราะเราสองมีลูกสาวแสนดีอยู่แล้วคนหนึ่งหากในท้องเ้าคนนี้เป็ลูกชาย วันหน้าสามีก็ไม่อยากให้เ้าต้องลำบากตั้งครรภ์ต้องประสบกับอันตรายในการคลอดลูกอีก”
อวิ๋นซีคิดไม่ถึงว่าเขาจะมีความคิดเช่นนี้ แท้จริงแล้วมิใช่ว่าคนโบราณล้วนมีความคิดว่าลูกมากหลานมากความสุขมากหรอกหรือ? เหตุใดเขาถึงอยากมีแค่หนึ่งลูกสาวหนึ่งลูกชาย?อีกทั้ง เหตุผลของเขายังเป็เพราะไม่อยากให้นางต้องลำบาก และยิ่งไม่อยากให้นางต้องเดินไปยังประตูผีอีกครั้ง
“เ้านี่ช่างโง่งม ทว่า จ้องมองข้าเช่นนี้ เพราะยิ่งดูก็ยิ่งเห็นเสน่ห์ในตัวข้าใช่หรือไม่” เขาที่เห็นภรรยาจ้องมองมาที่ตนอย่างคนโง่งม ด้วยสายตานี้เขามักจะได้เห็นบ่อยๆ และทุกครั้งที่เป็เช่นนี้ เขาก็รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ตนเกิดมามีใบหน้าเช่นนี้
อย่างน้อยๆ ใบหน้านี้ก็สามารถดึงดูดนางได้
นางแค่นเสียงเ็าพร้อมหยิกหน้าอกเขาไปทีหนึ่ง “ท่านก็ถือดีไปเถอะถึงแม้ข้าจะชอบใบหน้านี้ของท่าน รูปร่างนี้ของท่าน แต่ก็ยังห่างชั้นอยู่มากนักหากจะทำให้ข้าลุ่มหลงจนโง่งม”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้