ความมืดมิดปกคลุมไปทั่วสวน เปลวเพลิงโหมกระหน่ำ ปกคลุมให้บ้านทั้งหลังตกอยู่ใต้อาณัติ จิ่นเซวียนรีบวิ่งไปที่ห้องนั่งเล่นด้วยความหวาดกลัว “พี่ใหญ่ ไฟไหม้แล้ว พี่รีบหนีไปเร็ว”
จิ่นเซวียนยังหนีไปไม่ทันถึงประตูก็ถูกชายร่างสูงที่ออกมาจากห้องนอนเล็กเตะพลั่กจากด้านหลังจนล้มกระแทกพื้น
“......พี่ใหญ่ ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้?” ท่ามกลางเปลวไฟ จิ่นเซวียนมองชายตรงหน้าอย่างสิ้นหวัง ทำไมพี่ชายท้องเดียวกันอย่างเขาถึงแทงข้างหลังเธอ
“แน่นอนว่าเพื่อทรัพย์สมบัติของเธอไง ยัยโง่ ยุคนี้ครอบครัวมีค่าสักแค่ไหนกันเชียว เธอไร้เดียงสาเกินไปแล้ว” ชายหนุ่มฉวยโอกาสตอนที่เธอตะลึงงันรีบยกกระบองไฟฟ้าฟาดหัวจิ่นเซวียนดังปั่ก โคมระย้าคริสตัลขาดร่วงหล่นกระแทกศีรษะ จิ่นเซวียนตาพร่ามัว ล้มอยู่ในกองเพลิงและหมดสติไปทันที.....
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอกลับกลายเป็ใครอีกคน และยังโดนมัดกับเตียงไม้ขนาดเล็กจนขยับไม่ได้
“ท่านแม่ เด็กนั่นสลบไปหลายวันมิใช่ว่าตายแล้วหรอกหรือเ้าคะ” จิ่นเซวียนยังไม่ทันรับเื่ที่เกิดขึ้นได้ ก็โดนคนนอกประตูขัดความคิดเสียก่อน เพียงได้ยินเสียงก็รู้ว่าคนที่พูดอยู่คือแม่เลี้ยงของนาง เสี่ยวเกาซื่อ[1]
พวกนางกังวลว่าจิ่นเซวียนจะตาย แล้วบ้านซ่งมาขอสินสอดคืน
พูดแล้วน่าขันนัก ตัวเธอกับเ้าของร่างเดิมคล้ายกันมาก ไม่ใช่เพียงหน้าตา ชื่อแซ่ก็เหมือนกันอีก และยังประสบชะตากรรมเดียวกันอีกด้วย เ้าของร่างนี้อาศัยอยู่ในยุคจีนโบราณ ไม่อิงประวัติศาสตร์ใดๆ
ตอนที่เ้าของร่างเกิด เพราะคลอดยากจึงทำให้แม่ผู้ให้กำเนิดเสียชีวิต จากนั้นเสี่ยวเกาซื่อที่กลายมาเป็แม่เลี้ยงร่วมมือกับเกาซื่อรังแกนาง เมื่ออาหลานจากบ้านเดียวกันอย่างเสี่ยวเกาซื่อกับเกาซื่อกลายมาเป็แม่สามีและลูกสะใภ้ พวกนางเลยสนิทสนมกันยิ่งกว่าเดิม
ในบ้านซย่า นอกจากท่านอาเล็กซย่าชุนอวิ๋นกับท่านปู่ซย่าคุนแล้ว คนอื่นก็ไม่เคยมองนางเป็คนในครอบครัว ปีที่แล้วหลังจากที่ท่านปู่เสียชีวิตจากโรคหอบหืด เกาซื่อและคนอื่นๆ จึงเริ่มเผยนิสัยชั่วร้ายออกมารังแกนาง ครั้งนี้ พวกเขาขายนางเป็สะใภ้ของซ่งจื่อเฉิน ลูกชายสกุลซ่งในหมู่บ้านสกุลโจว เพื่อเอาค่าเลี้ยงดู แม้ซ่งจื่อเฉินจะมีทรัพย์สินและปัญญาเป็เลิศ รูปงามเหนือผู้ใด แต่เขาเป็คนพิการเดินไม่ได้ เ้าของร่างเดิมไม่อยากแต่งงานจึงะโแม่น้ำฆ่าตัวตาย.....
ปัง!เสี่ยวเกาซื่อเปิดประตูห้องเอ่อร์ฝาง[2] แล้วนางกับเกาซื่อก็เดินเข้ามา
จิ่นเซวียนแกล้งหลับก่อนที่พวกนางจะเดินมาถึงข้างเตียง เพื่อแอบฟัง
“ท่านแม่ หากเซวียนเซวียนตาย พวกเราจะบอกสกุลซ่งอย่างไรดีเ้าคะ” เสี่ยวเกาซื่อมองจิ่นเซวียน เมื่อเห็นนางไม่มีทีท่าจะฟื้นจึงยิ่งร้อนใจ สามวันจากนี้คือวันมงคลของจิ่นเซวียน หากนางไม่ฟื้น พวกนางจะไปหาเ้าสาวคนใหม่ให้สกุลซ่งจากไหน
“ฮึ มาดูกันว่าข้าจะจัดการนางอย่างไร” เกาซื่อพ่นลมหายใจอย่างเ็า หาเข็มเย็บผ้าจากโต๊ะเครื่องแป้ง ใช้มันทิ่มเพื่อปลุกจิ่นเซวียน
“ท่านแม่ ท่านแผนสูงนัก แม้เข็มเย็บผ้าจะเล็กแต่คงทิ่มปลุกคนได้ง่ายๆ เลยเ้าค่ะ” เสี่ยวเกาซื่อสบายใจเมื่อเห็นแม่สามีเกลียดลูกที่เกิดจากภรรยาคนแรก
แย่แล้ว นางโดนมัดแขนขาหากหญิงชราแทงนาง นางก็ต่อต้านไม่ได้
“เ้าของชดเชย[3] หากไม่ฟื้นข้าจะแทงเ้าให้พรุนเหมือนรังแตนเลย” มือแข็งแรงขยับไปแทงแขนขวาของจิ่นเซวียนหลายหน
ความเ็ปแผ่ซ่านไปทั่งร่างจนจิ่นเซวียนหายใจลำบาก นางกัดฟันลืมตา ะโผรุสวาท “ยายแก่ จะแทงข้าให้ตายเลยหรือ”
ดวงตางดงามของจิ่วเซวียนถูกย้อมด้วยน้ำค้างแข็งเย็นะเื นางจ้องเขม็งใบหน้าเหี่ยวย่นน่าเกลียดคล้ายจะฉีกเป็ชิ้นๆ
“นี่เ้ากล้าเถียงข้า” เกาซื่อใสายตากระหายเืคู่นั้นจนมือยกขึ้นชะงักค้าง เป็ครั้งแรกที่รู้ว่าสายตาคนน่ากลัวได้เพียงนี้
“เซวียนเซวียน ท่านย่าทำเพื่อเ้านะ สกุลซ่งเป็ตระกูลใหญ่ในหมู่บ้านสกุลโจว เ้าแต่งเข้าไปจะได้เป็สะใภ้เล็กชีวิตสุขสบาย” เสี่ยวเกาซื่อเห็นแม่สามีกำลังจะแทงจิ่นเซวียนอีกเลยรีบยื่นมือไปห้ามหญิงชรา ไม่ให้ยั่วยุจิ่นเซวียน หากเกิดเื่กับนาง พวกเราจะสูญเงินทั้งหมด
ความรู้สึกหนาวเหน็บแล่นจากฝ่าเท้าเข้าสู่ใจของจิ่นเซวียน มีท่านย่าชั่วร้ายก็แย่พอแล้วนี่ยังมีนางชาเขียว[4] อย่างแม่เลี้ยงมาคอยซ้ำเติมอีก นางจะพึ่งใครได้นอกจากตัวเอง “พวกท่านอยากให้ข้าแต่งกับซ่งจื่อเฉินก็แก้มัดให้ข้าก่อน ไม่อย่างนั้นข้าจะกัดลิ้นฆ่าตัวตายจนพวกท่านไม่ได้เงินสักตำลึงเดียว”
จิ่นเซวียนปรายตาดูิ่มองเกาซื่อ ตอนนี้นางไร้อำนาจเลยต้องยอมจำนนต่อแผนชั่ว ขอแค่รอดพ้นจากวิกฤตนี้นางถึงจะมีโอกาสหนีออกจากบ้านไร้ความอบอุ่นหลังนี้
“เด็กสารเลว ข้าขอเตือน หากหาเื่ตายอีกข้าจะไม่ปล่อยเ้าไว้แน่” เกาซือส่งเข็มเย็บผ้าให้เสี่ยวเกาซื่อแล้วเอื้อมมือดึงหูของจิ่วเซวียน
“ท่านย่า ข้าอยากตายแต่พญายมคงไม่้าข้าหรอก” จิ่นเซวียนกระตุกยิ้มเยาะ นางเข้าใจดี คนพอไร้อำนาจลาภยศก็ไม่มีใครเกรงกลัวหรือยำเกรง ในเมื่อ์ให้โอกาส นางก็จะใช้ชีวิตให้ดี รอก่อนเถอะบุญคุณต้องทดแทน หนี้แค้นต้องชำระ
เด็กชั้นต่ำไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เดิมนางรูปโฉมงดงาม พอพูดด้วยน้ำเสียงเช่นนี้เลยดูเหมือนคุณหนูนิสัยเสีย
จิ่นเซวียนมองพินิจเสี่ยวเกาซื่อ เสี่ยวเกาซื่อคิดว่าสละนางแล้วจะช่วยปูทางให้ลูกชายลูกสาวตัวเองได้ ช่างใสซื่อนัก ตราบใดที่นางยังมีชีวิตอยู่เสี่ยวเกาซื่อจะไม่มีทางสมปรารถนา
“ท่านย่า สกุลซ่งส่งคนมา ท่านพ่อให้พวกท่านไปห้องโถงเพื่อรับรองแขกเ้าค่ะ” เมื่อจิ่นเซวียนกำลังคิดหนัก ซย่าจิ่นอวิ๋นก็เดินเยื้องย่างเข้ามา นางอายุเท่าจิ่นเซวียน อ่อนวัยกว่าเพียงสามเดือน คำนวณจากอายุ เสี่ยวเกาซื่อคงเล่นชู้กับท่านพ่อก่อนท่านแม่ตาย ไม่แน่เกาซื่ออาจเป็คนฆ่าท่านแม่ด้วยซ้ำ
“ท่านพี่ บ้านซ่งให้ความสำคัญกับท่านมาก นายท่านซ่งมาดูอาการท่านด้วยตนเองเลยล่ะ” ซย่าจิ่นอวิ๋นเดินมาข้างเตียง มองจิ่นเซวียนด้วยรอยยิ้มเบิกบาน นางดีใจ เมื่อคิดว่าจิ่นเซวียนต้องแต่งให้คนพิการ ท่านแม่บอกไว้ว่าสินสอดทองหมั้นที่บ้านซ่งให้คือสินเ้าสาวของนาง ซย่าจิ่นเซวียนจะไม่ได้แม้แต่สตางค์แดงเดียว
จิ่นเซวียนย้อนคิด ในเมื่อซย่าจิ่นอวิ๋นอยากทำตัวเป็คนดี ทำไมไม่ใช้นาง หลบหนีการควบคุมของคนชั่วช้าเล่า
“อวิ๋นเอ๋อร์ เ้าช่วยแก้มัดให้ข้าเถอะ ข้าจะไม่ฆ่าตัวตาย ยอมเชื่อฟังพวกเ้าแล้วแต่งงานกับซ่งจื่อเฉิน” เสียงจิ่นเซวียนไพเราะราวสายน้ำรินไหล ยิ่งเห็นใบหน้าของจิ่นเซวียน ซย่าจิ่นอวิ๋นก็ยิ่งอิจฉาริษยา เมื่อเทียบกันหน้าตานางก็แค่หมดจดพอดูได้ นี่คืออีกเหตุผลที่ซย่าจิ่นอวิ๋นเกลียดชังจิ่นเซวียน
“พวกเ้าสองคนดูนางให้ดี ข้าจะไปดูห้องโถงใหญ่” ซย่าจิ่นอวิ๋นใ เกาซื่อวางแผนไปตรวจสอบสถานการณ์เพื่อหาโอกาสให้คนสกุลซ่งรับคนไปจึงไม่อนุญาตให้แก้มัดจิ่นเซวียน
“ท่านย่าข้าเองก็เป็หลานสาวท่าน เหตุใดทำกับข้าเช่นนี้ ข้าสัญญาจะไม่ฆ่าตัวตายแล้วยังมัดข้าไว้ ไม่กลัวบ้านซ่งมาเห็นแล้วตำหนิท่านหรือ?” จิ่นเซวียนโวยวาย นางอยู่มาสองชาติยังไม่เคยอับอายขายหน้าขนาดนี้ แม้โดนพี่ชายฆ่าแต่ก็ไม่เคยโดนจำกัดอิสระ
ซย่าจิ่นอวิ๋นคิดขึ้นมาได้ เลยดึงเกาซื่อมาด้านข้าง “ท่านย่าเ้าคะ นางหนีไม่พ้นหรอก พวกเราปล่อยนางเถอะ หากสกุลซ่งมาพบเราจะเสียหน้าได้นะเ้าคะ”
นางชาเขียวน้อยช่วยได้มากเลย เป็ธรรมดาที่พวกเขาจะห่วงหน้าตา เพราะท่านปู่เป็ซิ่วไฉ[5] เพียงคนเดียวของหมู่บ้านสกุลซย่าจึงได้รับนับหน้าถือตามาก หากมีข่าวลือแพร่ออกไปว่าบ้านซย่าซิ่วไฉขายหลานสาวกินชื่อเสียงคงป่นปี้
เกาซื่อลังเลสักพัก นางตัดสินใจให้แก้มัดจิ่นเซวียน “ข้าขอเตือน อยู่ต่อหน้าคนสกุลซ่งให้เ้าทำตัวดีๆ”
เชิงอรรถ
[1] ซื่อ หมายถึง ธรรมเนียมการเรียกสตรีที่แต่งงานของจีนจะใช้คำว่าซื่อ(แปลว่านามสกุล)ต่อท้ายนามสกุลเดิมของสตรีอย่างในตอนนี้คือเกา แต่ที่มีเสี่ยวนำหน้าเพราะมีคนจากสกุลเดียวกันแต่งเข้าสองคน จึงใช้เสี่ยวแทนตัวผู้เยาว์วัยกว่า
[2] เอ่อร์ฝาง แปลว่า ห้องหู มีชื่อเรียกอย่างนั้นเพราะทั้งสองห้องจะขนาบข้างห้องหลักมีลักษณะคล้ายหู ถูกใช้เป็ที่พักของเด็ก ลูกสาวหรือคนรับใช้และห้องเก็บของหรือทำอาหาร(แล้วแต่ขนาดบ้าน)
[3] เ้าของชดเชย หมายถึง เป็คนเปรียบเทียบเรียกลูกสาว (ความหมายเจือดูถูก) เนื่องจากโตขึ้นลูกสาวต้องแต่งเข้าบ้านสามีและบ้านเ้าสาวยังต้องเสียเงินค่าเครื่องใช้สำหรับแต่งงาน
[4] นางชาเขียว หมายถึง คำเรียกผู้หญิงเสแสร้ง
[5] ซิ่วไฉ หมายถึง ผู้ที่ผ่านการสอบเคอจวี่ระดับท้องถิ่นจะได้คุณวุฒิ ซิ่วไฉ การสอบรอบนี้จึงเรียกว่าซิ่วไฉ มีการจัดสอบปีละครั้ง