“รีบไป!”
“รุ่ยเอ๋อร์ เ้าต้องพาเยี่ยนเอ๋อร์หลบหนีไปต้าฉิน ชีวิตของเยี่ยนเอ๋อร์คงต้องฝากฝังไว้กับเ้าแล้ว!”
“ไป! นี่เป็รับสั่งของเสด็จพ่อ รีบไปเดี๋ยวนี้!”
……
ด้านหลังตลบอบอวลไปด้วยฝุ่นหมอกควัน ข้าศึกที่แข็งแกร่งกำลังไล่ตามมา
ฮ่องเต้แห่งจักรวรรดิต้าฉินกำลังสู้รบกับศัตรูที่อยู่ไม่ไกล พระองค์ยืนหยัดต่อสู้เพียงคนเดียวกับศัตรูมากมายนับไม่ถ้วน ร่างกายาเ็สาหัส
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีอายุเพียงแค่แปดปีถูกเสด็จพี่ที่มีอายุมากกว่านางสองปีโอบกอดไว้ในอ้อมแขนอย่างเหนียวแน่น พระหัตถ์บดบังดวงตา นางจนมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ได้ยินเพียงแค่เสียงตึงเครียดจากการปะทะของอาวุธที่ดังอยู่ไม่ไกล
เสด็จพี่พยายามอุ้มนางอย่างสุดชีวิตเพื่อที่จะวิ่งไปทางทิศใต้ ไม่ช้าก็ได้ส่งมอบนางให้กับคนคนหนึ่ง “กู้หนานเฉิน ดูแลน้องสาวของข้าให้ดี! ”
“องค์รัชทายาท ท่านมิอาจเอาชีวิตไปทิ้งเปล่าๆ ได้!”
“ข้าคือองค์รัชทายาทแห่งต้าฉิน ข้าจะไม่มีวันละทิ้งหน้าที่อย่างเด็ดขาด บ้านเมืองประสบปัญหาข้าควรแบกรับไว้ ยิ่งฮ่องเต้เกิดปัญหา ข้ายิ่งต้องควรแบกรับ เ้าพาน้องสาวของข้าหลบหนีออกจากปิงไห่ไปเร็วเข้า!”
เด็กหญิงมองดูทุกสิ่งทุกอย่างบริเวณรอบๆ นางตกตะลึงไม่แม้แต่จะเคลื่อนไหว ใจนเปรียบเสมือนเป็คนโง่ไปแล้ว ั์ตาเบิกโพลงจ้องมองไปที่เสด็จพี่ที่ถือดาบสั้นพุ่งกลับเข้าสู่สนามรบ ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ
ผู้ที่อุ้มนางมุ่งหน้าสู่ทางทิศใต้ เสด็จพี่มุ่งไปทางทิศเหนือ นางนอนคว่ำหน้าอยู่บนไหล่ของเขา ไม่พูดไม่จาดูภาพเงาด้านหลังของเสด็จพี่ที่ค่อยๆ ไกลออกไป
ทันใดนั้น!
“ซ่า” เกิดเสียงดังต่อเนื่องจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก ก้องไปทั่วทั้งสนามรบ ลูกศรแหลมคมลอยมาจากด้านทิศตะวันออกเจาะทะลุร่างกายของเสด็จพี่ทันที
เด็กหญิงได้แต่ตกตะลึง ในทันทีทันใดนั้นจึงได้สติขึ้นมา ะโเรียกร้องด้วยเสียงที่บีบคั้นหัวใจ “ท่านพี่…!”
……
กูเฟยเยี่ยนเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนด้วยความรุนแรง ใบหน้าขาวซีดเผือด หัวใจเต้นถี่รัว นางยื่นมือไปััจึงพบว่าน้ำตาตัวเองไหลอีกเช่นเคย
สิบปีแล้ว นางมักจะฝันถึงเด็กผู้หญิงคนนั้น ถึงแม้ว่าทุกครั้งทุกคราผู้ที่อุ้มเด็กผู้หญิงจะแตกต่างกัน ทว่าสิ่งที่เหมือนกันคือการต่อสู้เพื่อหนีเอาชีวิตรอด
กูเฟยเยี่ยนไม่รู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นคือผู้ใด ยิ่งไม่รู้ว่าเหตุใดมักจะฝันถึงนางอยู่เสมอ
“ต้าฉิน? ปิงไห่? เสด็จพ่อ…… ท่านพี่ กู้หนานเฉิน? ” นางพึมพำกับตนเอง รู้สึกถึงความคุ้นเคยกับคำเหล่านี้เป็อย่างยิ่ง
นางพยายามที่จะหวนนึกถึงความทรงจำ ศีรษะก็บังเกิดอาการปวดขึ้นมาอย่างรุนแรง ทุกสิ่งทุกอย่างในความฝันเปรียบเสมือนกระแสน้ำที่โหมซัด ทั้งศีรษะเต็มไปด้วยความหนักอึ้งราวกับว่า้าดึงให้นางจมดิ่งลงใต้น้ำ
กูเฟยเยี่ยนทนไม่ไหว สองมือกุมศีรษะแ่า เปล่งเสียงร้องออกมาเสียงดัง
“เ้าคือผู้ใดกันแน่?”
“พวกเขาเป็ใคร?”
“แล้วข้าคือใคร?”
……
เป็เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา กูเฟยเยี่ยนมิอาจจดจำสิ่งใดได้เลย ท้ายที่สุดก็เ็ปจนหมดสติไป ครั้งหนึ่งในความฝัน ครั้งหนึ่งในความทรงจำ ครั้งหนึ่งกับความเ็ป โชคดีที่นางไม่ได้หลงลืมความฝันและยังคงจดจำชื่อเ่าั้ได้
ใน่เวลาบ่าย กูเฟยเยี่ยนตื่นขึ้นมา
นางเดินออกจากห้องพบว่าทั้งูเาเต็มไปด้วยทุ่งสมุนไพร แสงแดดอันอบอุ่นส่องกระทบูเา ภายในอากาศล้วนอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจรุงใจของสมุนไพร ป่าเขาแห่งนี้มีชื่อว่าแดน์ปิงไห่ ตัดขาดจากโลกภายนอก อุดมสมบูรณ์ไปด้วยยาสมุนไพรมากมาย
กูเฟยเยี่ยนเรียนแพทย์อยู่ที่นี่มาั้แ่ตอนที่อายุแปดปี นางอาศัยอยู่กับอาจารย์บนยอดเขา นางเป็ใครมาจากที่ไหนนางล้วนลืมเลือนไปหมดสิ้นแล้ว
ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในทุ่งสมุนไพรราวกับภาพความฝัน จากแดนไกลมาใกล้ จู่ๆ ก็มาถึงด้านหน้าของนาง ผู้ที่มาเยือนไม่ใช่คนอื่นคนไกล ท่านคืออาจารย์ของนางเอง
ท่านแต่งกายด้วยอาภรณ์สีขาว ร่างกายสูงโปร่ง รูปงาม น่าเคารพนับถือเหมือนเทพเ้า ท่านดูอายุไม่มาก แต่ความเหนื่อยหน่ายสามส่วน ความเกียจคร้านเจ็ดส่วนในดวงตาเปรียบเสมือนกับผู้ที่มีชีวิตอยู่มาแล้วนับพันปี
กูเฟยเยี่ยนไม่ทราบนามของท่านผู้นี้ ด้วยเพราะท่านชื่นชอบสวมใส่อาภรณ์สีขาว นางจึงเรียกท่านว่าอาจารย์อาภรณ์ขาว
อาจารย์อาภรณ์ขาวจดจ้องมองไปที่นาง ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “ลมบูรพาพัดพานกนางแอ่นมา วสันตฤดูหวนกลับคืน เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ของข้าอายุเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปีแล้ว”
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้พูดถึงเื่ราวของฝันร้าย ใน่สิบปีที่ผ่านมานี้ ทุกครั้งที่นางฝันก็มักจะเล่าให้ท่านอาจารย์ฟังอยู่เสมอ ท่านอาจารย์กล่าวว่าหูของท่านได้ฟังจนเบื่อหน่ายเต็มทีแล้ว เขาไม่สามารถตอบคำถามของนางได้ ท่านอาจารย์ยังกล่าวอีกด้วยว่า ฝันร้ายนั้นไม่อาจเอ่ยออกมาได้ เมื่อเอ่ยออกมาแล้วจะกลายเป็จริง หลังจากนั้นนางจึงไม่เอ่ยถึงอีกเลย
“ท่านอาจารย์ ในปีนี้ท่านจะมอบสิ่งใดให้เยี่ยนเอ๋อร์เ้าคะ?”
กูเฟยเยี่ยนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังยื่นมือออกไป ั์ตาสีดำทมิฬคู่นั้นเปล่งประกายไปด้วยร่องรอยยินดี คลับคล้ายประกายทอแสงของดวงดารา
วันนี้เป็วันคล้ายวันเกิดอายุครบสิบแปดปีของนาง และยังเป็ปีที่สิบที่นางได้มาอาศัยอยู่ ณ ทุ่งสมุนไพรแดน์ปิงไห่ ท่านอาจารย์กล่าวไว้ นางดูคล้ายกับนกนางแอ่นที่กำพร้าโดดเดี่ยว เขาจึงตั้งชื่อให้นางว่า “กูเฟยเยี่ยน” กำหนดวันคล้ายวันเกิดใน่ที่นกนางแอ่นหวนคืน นั่นก็คือวสันตฤดู
ท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวยกมือขึ้นมาอย่างสง่างาม บนอากาศก็ปรากฏหม้อภาชนะขนาดเล็ก เขายิ้มบางให้นางก่อนกล่าวว่า “เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ เ้าเติบใหญ่แล้ว ภาชนะปรุงยาหวางเป่าติง [1] ชิ้นนี้มอบให้แก่เ้า”
หวางเป่าติงภายในมีอัคคีเทพ สามารถปรุงยาได้หลายพันชนิด ภายในภาชนะซ่อนช่องว่างเอาไว้ สามารถบุกเบิกทุ่งสมุนไพรได้อีกหลายร้อยพันหมู่ [2]
นี่เรียกได้ว่าเป็สมบัติอันล้ำค่าของท่านอาจารย์!
กูเฟยเยี่ยนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ช้าก็ตื่นเต้นจนั์ตาทั้งสองข้างเปล่งประกายทอแสงวาววบ นางรีบคว้าภาชนะปรุงยามาหลบซ่อนไว้ด้านหลัง กล่าวขึ้นมาอย่างจริงจังว่า “มอบให้แล้วมอบให้เลยนะเ้าคะ ไม่เสียใจในภายหลังนะเ้าคะ! ”
อาจารย์อาภรณ์ขาวหัวเราะขึ้นมา เกิดจากความจำใจสามส่วน ตามใจเจ็ดส่วน ท่านลูบผมหน้าม้าของกูเฟยเยี่ยนอย่างแ่เบาจากนั้นก็ย้อนถามว่า “เด็กน้อย สำหรับเ้าแล้วอาจารย์เคยเสียใจภายหลังด้วยหรือ? ”
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกว่าคำพูดของท่านอาจารย์มีบางสิ่งบางอย่างที่ให้ความรู้สึกแปลกประหลาด แต่นางก็ไม่ได้คิดอะไรมาก กัดที่ปลายนิ้วตนเองเพื่อใช้เืในการทำพันธสัญญากับหวางเป่าติงอย่างมีความสุข ใน่เวลานี้ ท่านอาจารย์อาศัยจังหวะที่นางไม่ได้คาดคิดมาก่อนผลักนางจากด้านหลังตกลงไปในเหวลึกทันที
“อ๊า…”
กูเฟยเยี่ยนตกลงไป โชคดีที่นางคว้ากิ่งไม้เอาไว้ได้ นางตื่นตระหนกใอย่างหาที่สุดไม่ได้ะโร้องเสียงดัง “ท่านอาจารย์ ท่านทำอะไร? ท่านอาจารย์…”
น้ำเสียงอันไพเราะของท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวปรากฏถึงความอาลัยอาวรณ์ทว่าท่าทางยังคงสงบนิ่งดั่งเคย “เยี่ยนเอ๋อร์ เ้าจำเป็ต้องไปยังดินแดนเสวียนคง สักวันเ้าจะเข้าใจเอง! ”
กูเฟยเยี่ยนจึงตระหนักได้ทันทีว่าท่านอาจารย์ไม่ได้หยอกล้อนางเล่น นางใจนร้องออกมาเสียงดัง “ข้าไม่เข้าใจว่าท่านพูดถึงสิ่งใด ท่านอาจารย์ ช่วยข้าขึ้นไป ช่วยข้า……”
เสียงที่ตอบสนองต่อนางหาใช่เสียงของท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวไม่ แต่เป็เสียงของกิ่งไม้ที่หักดังเปราะ
“อ๊า… ท่านอาจารย์คนเลว ท่านจักต้องเสียใจในภายหลัง! ท่านจักต้องเสียใจในภายหลังอย่างแน่นอน…….”
กูเฟยเยี่ยนตกลงไปในแนวดิ่งอย่างรวดเร็วประหนึ่งว่านางตกลงไปในเหวลึกที่ไร้จุดหมายปลายทาง ความรู้สึกแบบนั้นไม่เหมือนกับร่างกายที่ตกลงไปแต่กลับเหมือนิญญาของนางที่กำลังร่วงหล่นลงไป...
--------------------------------
เชิงอรรถ
[1] หวางเป่าติง ภาชนะปรุงยาสมุนไพรสมัยโบราณ สามารถปรุงยารักษาได้หลากหลายชนิด
[2] หมู่ หน่วยการนับพื้นที่ของจีน มีค่าเท่ากับ เอเคอร์ 1 หมู่ = 666.6667 ตารางเมตร